พื้นที่แห่งการเรียนรู้ “Forex” ตั้งแต่พื้นฐาน ไม่รู้อะไรเลย ไปจนถึงเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพ

มือใหม่อ่านเข้าใจได้ ใน 1 ชั่วยาม มือเก่าอ่านแล้วใช้ทบทวนสิ่งที่ยังขาดยังไม่ชำนาญ อ่านทุกครึ่งปีมีหนทางที่จะเก่งขึ้นทุกครึ่งปี พร้อมแล้ว ลับกระบี่พาดฟันกันได้เลย…

 

Step 1 : Forex เริ่มต้นปูฟื้นฐาน

  • ฟอเร็กซ์ (Forex, หรือ Fx) มาจากคำว่า Foreign Exchange
  • Forex คือ ตลาดการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา (ค่าเงิน) ของคู่สกุลเงินต่างๆ เช่น EUR/USD, USD/JPY หรือ GBP/USD เป็นต้น
  • เทรดได้ตลอด 24 ชม. (จันทร์ – ศุกร์)
  • เสาร์-อาทิตย์  ธ.ปิด เราหยุดพักผ่อน/ทำการบ้าน “work life balance”
  • โซนเอเชียได้เปรียบทางการเทรดกว่าโซนยุโรป เพราะเวลาตลาดเดินคือช่วงที่เราหยุดทำงาน (16.00-23.00 น.)

เหมือนกับการที่เราแลกเงินไปเที่ยวต่างประเทศ

  • เช่น นำเงิน 3,000 บาท ไปแลกเป็นดอลลาร์สหรัฐได้ 100 ดอลลาร์สหรัฐ (30 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ)
  • ผ่านไป 1 สัปดาห์ นำเงินดอลลาร์ไปแลกคืนเป็นเงินบาท
  • ได้เงินคืนกลับมา 3,200 บาท (32 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ)
  • จะเห็นว่า เราได้กำไร 200 บาท จากอัตราแลกเปลี่ยนที่สูงขึ้น (จาก 30 ไป 32 บาท/ดอลลาร์)
  • เนี่ยแหละครับ คือ Forex

Forex คืออะไร ฉบับเต็ม คลิ๊ก

ทั้งหมดนี้สามารถเรียนรู้ได้ใน forexthai.in.th

* Forex  เป็นการลงทุนที่สามารถยึดถือเป็นอาชีพได้ โดยใช้เวลาเรียนรู้ ทฤษฏีประมาณ 1 ปี ปฏิบัติ 3 ปี (รวม 4 ปีเหมือนเรียนมหาวิทยาลัย) เร็วช้าตามองค์ประกอบของความสำเร็จที่ไม่เท่ากันของแต่ละคน

  • Forex ยังไม่มีกฏหมายรองรับในไทย (ไม่ผิดกฎหมาย แค่ยังไม่มีเงื่อนไขทางกฎหมายรองรับ)
    • ในทางกฏหมายมีเพียงสถาบันการเงินใหญ่ๆ ที่ได้รับการอนุญาต ซื้อ/ขาย ค่าเงินได้
    • ส่วน รายย่อย ในไทยอย่างเราๆ ยังไม่มีกฏหมายรองรับ (ต่างประเทศเขาถูกกฎหมายกันนานแล้ว)
    • เมื่อเกิดรายได้จาก Forex ต้องเสียภาษีรายได้ ภ.ง.ด. 90: เงินได้ประเภทที่ 4 ได้แก่ ดอกเบี้ย เงินปันผล เงินส่วนแบ่งกำไร เงินลดทุน

สคศคำชี้แจ้งจาก สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สคศ.)

  • ” จากการศึกษาของ สศค. และธนาคารแห่งประเทศไทยเข้าใจว่า การลงทุนเพื่อ เก็งกำไรดังกล่าวไม่ได้มีการซื้อ-ขายเงินตราต่างประเทศโดยตรง แต่เป็นเพียงกระบวนการที่เกิดขึ้นในระบบคอมพิวเตอร์ที่มีแม่ข่ายอยู่ในต่างประเทศ และผลการดำเนินการจะมีการชำระบัญชีของส่วนต่างที่เป็นผลกำไรหรือขาดทุนเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายใดรองรับ

ดังนั้น

  • สรุปคือ ไม่ผิด แต่ก็ไม่ถูก 100%

 ดูหลักฐานข้อมูลจาก สคศ. (คลิ๊ก)

  • Long = ซื้อ
  • Short = ขาย
  • คาดว่า ค่าเงินจะ “ขึ้น” ให้ Long (ซื้อ)
  • คาดว่า ค่าเงินจะ “ลง” ให้ Short (ขาย)

bid ask

  • Bid คือ ราคาที่คุณขาย (Sell)
  • Ask คือ ราคาที่คุณซื้อ (Buy)
  • ส่วนต่างระหว่าง Bid กับ Ask เท่ากับค่า Spread

เหมือนกับ “ร้านทอง” ในการรับซื้อ และขายทองคำราคาทองคำ

  • Bid = ราคารับซื้อ
  • Ask = ราคาขายออก
  • Spread = ส่วนต่างระหว่าง รับซื้อ และ ขายออก

 วิธีเทรด Forex เริ่มต้น (คลิ๊ก)

หลักการมีแค่นี้ ง่ายโคตร แต่ที่โคตรยากคือ ทำไงจะรู้ว่า ตอนไหนมันจะขึ้น ตอนไหนมันจะลง …

ข้อดี

  • เก็งกำไรได้ทั้งฝั่งขาขึ้น และขาลง
  • มีหลายคู่เงินและหลายสินค้าให้เทรด จึงมีโอกาสเทรดได้เยอะ ไม่ต้องรอนาน
  • ใช้เงินลงทุนต่ำ (เริ่มต้นเพียง 100 บาท)
  • สามารถสร้างกำไรได้อย่างมหาศาล เพราะอาศัย Leverage
  • สภาพคล่องสูง จ้าวทุบลำบาก ทุบค่าเงินยากมากๆๆๆ แต่ค่าทอง XAUUSD พอทำได้ โดยทฤษฎีจึงคาดเดาได้ง่ายกว่าหุ้น
  • ค่าธรรมเนียมการซื้อขายต่ำมาก
  • จะเทรดเอง, ลอกการเทรดจากคนอื่น (Copy trade) หรือ ใช้ระบบเทรดอัตโนมัติ (EA) ก็ทำได้เช่นเดียวกัน

ข้อเสีย

  • ความเสี่ยงสูง (โอกาสทำกำไรสูง โอกาสการขาดทุนก็สูงตาม)
  • เกิดความโลภได้ง่าย ดังนั้นสำคัญจริงๆคือ Money Management (MM) 
  • มูลค่าการซื้อขายในตลาด Forex เฉลี่ยแล้วมีขนาดใหญ่กว่าตลาดหุ้น ประมาณ 200 เท่า !
  • ตลาด Forex เปิด 24 ชม. | ตลาดหุ้น เปิดเพียง 8 ชม.
  • ค่าธรรมการเทรด Forex ต่ำกว่าการเทรดหุ้นมาก
  • Forex ไม่มีปันผล (มีค่า Swap) | หุ้น มีปันผล
  • Forex มี Leverage ทำให้ใช้เงินลงทุนต่ำกว่า | หุ้น ไม่มี
  • Forex สามารถทำกำไรได้ทั้งฝั่งขึ้น และลง | หุ้นได้แค่ ฝั่งขึ้น เท่านั้น
  • สินค้า Forex น้อยกว่าหุ้น ทำให้โฟกัสได้ง่าย
  • Forex เหมาะกับการเทรดในระยะสั้นหรือปานกลางมากกว่า | หุ้น เหมาะกับการเทรดในระยะยาวมากกว่า
  • ข่าวเศรษฐกิจจะมีผลต่อ Forex (ง่ายต่อการเข้าถึงข่าวมากกว่า) | ข่าวบริษัทจะมีผลต่อราคาหุ้น (ข่าวลวง การสร้างภาพมีมากกว่า)
มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน Forex
  • การเทรด Forex เหมาะกับทุกคนที่สนใจในการสร้างรายได้
    • ไม่จำกัดอายุ เพศ อาชีพ
    • เรียนรู้ทำความเข้าใจหลักการได้ง่าย ที่ยากคือความชำนาญและประสบการณ์
    • จึงเหมาะกับคนที่เอาจริงเอาจัง รอบคอบ และมีแรงบันดาลใจสูง
  • จะเทรดเป็น งานประจำ (Full time trader) หรือ อาชีพเสริม (Part time trader) ก็ได้
  • คนที่ต้องการ Passive Income
  • คนที่ต้องการวางแผนการเกษียณก่อนกำหนด
    • Forex ถือเป็นการลงทุนในสินทรัพย์ชั่วคราว
    • มีความมั่นคงทางกำไรจากการการศึกษาและการฝึกฝน
    • เมื่อมีระบบเทรดและ MM ที่ดีแล้ว ใช้เวลาในการทำงานส่วนนี้น้อยมาก 1-2 ชม./วันก็ทำได้
  • ขึ้นอยู่กับความสามารถ/ความพยายาม/การฝึกฝึนอย่างถูกวิธี ของแต่ละคน
  • บางคนสามารถทำกำไรจากเงินต้นเพียง 10,000 บาท ให้กลายเป็น 1,000,000 บาท ภายในไม่กี่เดือน
  • และ…หลายคนทำให้เงิน 1,000,000 บาท กลายเป็น 1,000 บาท ภายในไม่กี่เดือน เช่นกัน

ความต่างของคนสองคนนี้คือ “การศึกษาและการฝึกฝนล้วนๆ ไม่มีโชคช่วย” เทพธิดาแห่งความโชคดี จะอวยพรให้เฉพาะคนที่มุ่งมั่นอย่างชาญฉลาดเท่านั้น…

  • ต้องอาศัยประสบการณ์ในการเรียนรู้ การเทรด Forex ไม่ใช่เพียงแค่ “ศาสตร์” แต่เป็น “ศิลป์” ด้วย
    • การยิงธนูให้แม่นยำก็ต้องหมั่นซ้อม การเทรดให้ได้กำไรก็ต้องหมั่นเทรดอย่างต่อเนื่อง ใจเย็น สุขุม ไม่รีบร้อน
    • ดังนั้นช่วงแรกของการเทรดห้าม ! ตั้ง Mindset ว่าจะรีบรวย
    • ให้ตั้งว่า “จงอยู่รอด” ให้ได้เสียก่อน
  • ไม่มีทางลัดนะครับ ต้องฝึกฝนจนชำนาญ ถึงจะสำเร็จ

เทรด FOREX แบบง่ายๆ ทำเงิน 110,000 ใน 1 ชั่วโมง

15 วิธีเล่น forex ให้รวย

  • เลือกโบรกเกอร์ที่ดี : ถ้าไม่ดีจงอย่าใช้ > 10 อันดับโบรกเกอร์ Forex ที่ดีที่สุด
  • ไม่เทรดเกินตัว : ไม่เปิดออเดอร์มากเกินไป (NO overtrade)
  • มีวินัยในการเทรด : ทำตามแผน ถึงเป้าหมายให้ออก (Take profit) ถึง Stop loss ให้ตัดขาดทุน
  • อย่าเสียดาย !! : ถ้านั่นคือเงื่อนไขหรือระบบเทรดที่คุณคิดมาดีแล้ว ย้ำ!! ถึงเป้าหมายให้ออก ถึง Stop loss ให้ตัดขาดทุน อย่าเสียดาย !! อย่าลังเล
  • รักษาเงินต้นให้ดี : เงินทุนคือเครื่องมือในการเทรดของ Trader เหมือนนักกอล์ฟ ที่ต้องใช้ไม้กอล์ฟในการตี

ก่อนที่จะหวังรวย จงรักษาเงินต้นให้ดีก่อน ขาดเงินต้นก็รวยไม่ได้ เงินต้นแม้เพียงน้อย แต่รักษามันไว้ตลอดก็มีโอกาสทำกำไรในอนาคต…

  • อย่าคิดว่า Forex ง่าย !! : ทุกอย่างต้องอาศัยการเรียนรู้ และ เก็บประสบการณ์

*** การเทรด Forex ไม่ใช่แชร์ลูกโซ่ ระวังมิจฉาชีพมาหลอกให้ข้อมูลผิดๆ โดยใช้ Forex เป็นเครื่องมือในการหลอกลวงประชาชน

  • ทาง forexthai.in.th ไม่สนับสนุนการระดุมทุนใดๆ ทั้งสิ้น
  • ไม่มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่าย
  • และไม่รับโฆษณาจากทางโบรกเกอร์ Forex ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม เพื่อให้เราสามารถใส่ข้อ เท็จ-จริง ได้อย่างไม่เกรงใจโบรกเกอร์หน้าไหน
  • การเริ่มต้นเทรด Forex ก็เหมือนกับการเรียนรู้ทุกสิ่งบนโลก
  • การที่จะเก่งได้ต้องการเรียนรู้ พัฒนา และฝึกฝนเพื่อลับคมประสบการณ์
  • ทุกคนที่ศึกษาอย่างจริงจัง ก็สามารถทำกำไรอย่างยั่งยืนได้

ไม่มีรวยเร็ว แรง มั่นคง โดยอาศัยเวลาไม่ถึงปี !! อย่าฟังโคชขี้โม้ นักการตลาด หรือ อายุน้อยร้อยล้านใดๆ ….

กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว ถ้าของเขาดีจริงเขาจะมาสอนทำไมให้เมื่อยตุ้ม เทรดเองกำไรเองง่ายกว่า…ท่องไว้…

Top Forex Brokers

 XM

IMAGE DESCRIPTION

ThinkMarkets

IMAGE DESCRIPTION

Exness

IMAGE DESCRIPTION

Pepperstone

IMAGE DESCRIPTION

GMI Markets

IMAGE DESCRIPTION

Step 2 : โบรกเกอร์ Forex

  • โบรกเกอร์จะทำหน้าที่รับส่งคำสั่งออเดอร์ของเราไปยังตลาด Forex เพื่อทำการซื้อขาย
  • ซึ่งเราไม่สามารถรับส่งคำสั่งเองได้ ต้องอาศัยโบรกเกอร์
  • เพราะเรื่องมันใหญ่ และซับซ้อนกว่า มีกฎระเบียบข้อบังคับ ตลอดจนเทคโนโลยีและวิธีการดำเนินการมากกว่าที่เราจะทำเองได้ (Power technology และเงินทุนเราไม่ถึง)
Broker Forex
  • โบรกเกอร์ Forex เปรียบเสมือนตัวกลาง ระหว่าง เทรดเดอร์ กับ ตลาด Forex
  • คอยให้บริการส่งคำสั่ง ซื้อ/ขาย ของเรา
  • กำไร ขาดทุน ในการเทรดของเรา ไม่เกี่ยวกับโบรกเกอร์ (ถ้าโบรกเกอร์นั้นไม่มีระบบรับแทงเองนะ)
  • โบรกเกอร์จะจะมีรายได้จากการเก็บค่าธรรมเนียมในการซื้อขายจากเรา
  • โบรกเกอร์ Forex ก็เหมือน “พ่อค้าคนกลาง” นั่นเอง

โบรกเกอร์ Forex จะมีอยู่ 3 ประเภท

  1. Dealing Desk (DD) หรือ Broker B-Book
  2. Non-Dealing Desk (NDD) หรือ Broker A-Book
  3. Hybrid

Dealing Desk (DD)

  • เรียกอีกอย่างว่า Broker B-Book
  • ไม่ได้นำออเดอร์ลูกค้าเข้าตลาดจริง
  • ส่งสัญญาณการซื้อ-ขายให้กับโบรกเกอร์หรือบริษัทที่โบรกเกอร์ร่วม Co อยู่ (Liquid Provider) แต่ก็อาศัยอ้างอิงราคาจากตลาดจริง
  • นั่นคือ ทำการจับออเดอร์ลูกค้าด้วยกันเอง เช่น คนนึง Long ก็หาลูกค้าคนนึง Short มาจับคู่กัน
  • บางโบรกเกอร์หนักขนาด
    • เทรดสถานะตรงข้ามกับลูกค้า
    • รับออเดอร์ลูกค้าตรงๆเลย (พนันว่าลูกค้าจะเทรดเสีย)
    • โบรกเกอร์นี้มีรายได้จากการที่ลูกค้าเสีย จากสถิติ 90-95% ของเทรดเดอร์หน้าใหม่จะเสียให้ตลาดเสมอ

Non-DealingDesk (NDD)

  • เรียกอีกอย่างว่า Broker A-Book
  • นำออเดอร์ของลูกค้าเข้าตลาดจริง 100%
  • ส่งสัญญาณไว กราฟจะเป็นแบบเดียวกับตลาด ไม่สามารถลากไส้กราฟมากิน Stoploss ได้

Hybrid

  • แบบผสม A+B hybrid book : จะแยกตามแต่ละบัญชี ซึ่งสามารถสอบถามโดยตรงกับโบรก โดยมาก
    1. บัญชี A-Book: จะมีชื่อกำกับในชื่อบัญชีว่า “ECN Electronic Communication Network)
    2. บัญชี B-Book: จะมีชื่ออื่นๆ
    3. บางบัญชีจะเป็นแบบผสมในบัญชีเดียวกัน: คือมือใหม่ ! >เทรดเสียโบรกรับแทงเอง > พอเราเทรดเก่งโบรกจับสถิติได้ ก็ส่งสัญญาณเข้าตลาดจริง

 ประเภทของโบรกเกอร์ (อ่านเพิ่มเติม)

* โบรกเกอร์ไหนๆ ก็มีสิทธิ์ทำในสิ่งที่ไม่แฟร์กับเรา หรือ โกงเราได้ ทางที่ดีที่สุดคือ เลือกโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตระดับความเชื่อมั่นสูง (High Trust license) ก่อน เพราะถ้ามีใบอนุญาต ไม่ว่าจะเป็น A-Book, B-Book หรือ Hybrid Book ก็มีโอกาสโกงเราน้อยลงมาก เพราะมีหน่วยงานควบคุมอยู่

  • ควรเลือกโบรกเกอร์ Forex ที่ไม่เอาเปรียบเรา

โบรกเกอร์ที่ดีต้องประกอบไปด้วย

  • มีหน่วยงานกำกับดูแลที่เป็นมาตรฐาน ระดับสากล (High Trust license)
  • มีระยะเวลาการดำเนินธุรกิจการนาน (เกิน 10 ปี)
  • มีความโปร่งใส ตรวจสอบข้อมูลสำคัญได้ง่าย อะไรที่ลูกค้าควรรู้มีเขียนไว้ในเว็บทั้งหมด
  • มีเรทฝากถอนที่ดี + มีช่องทางการฝากขถอนผ่านธนาคารไทย + ฝากถอนรวดเร็ว
  • มีค่าบริการรวม: Spread + Commssion + Swap ที่ต่ำ
  • มีระบบ server และระบบส่งสัญญาณการซื้อ-ขาย ที่รวดเร็ว มีเสถียรภาพ
  • เป็นมืออาชีพด้านการให้บริการและแก้ปัญหา (ควรเป็นโบรกเกอร์ที่มีผู้ให้บริการเป็นคนไทย)
  • มีความหลากหลายของประเภทบัญชีเทรด ตามสไตล์ของเทรดเดอร์
    • เทรดสั้น > spread แคบ
    • เทรดยาว > free swap
    • มือใหม่ ยังไม่มีระบบเทรด > speck รวมๆ เพื่อให้ยืดหยุ่นใช้ได้ทุก ระบบเทรด
  • มีเครื่องมือการเทรด (Platform) ที่ครบครัน
  • มีสินค้าการเทรดที่หลากหลาย
all brokers forex

แนะนำให้เปิดบัญชีเทรด Forex กับโบรกเกอร์ต่อไปนี้

ซึ่ง 3 โบรกเกอร์นี้ ทางเราคัดสรรมาให้เป็นอย่างดี ทำการตรวจสอบอย่างละเอียด และมีการทดลองจริง ฝากจริง ถอนจริง เทรดจริงมาแล้ว เป็น 3 โบรกเกอร์ที่มีคุณภาพอย่างมาก และที่สำคัญเหมาะกับคนไทย

เว็บไซต์แนะนำโบรกเกอร์อื่นๆ

โบรกเกอร์ FOREX ดีที่สุด โบรกไหนดี โบรกไหนแย่

โบรกเกอร์ FOREX ดีที่สุด สำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย

ระวัง !

  • แต่แนะนำว่า ให้ตรวจสอบข้อมูล ความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์นั้นให้เป็นอย่างดี
  • เพราะในอดีตที่ผ่านมา มีหลายโบรกเกอร์ที่เข้ามาหลอกลวงประชาชน

รายชื่อโบรกเกอร์หลอกลวง ล่าสุด

แนะนำประเภทบัญชี GMI

  • ECN (Free swap) : ฝากเริ่มต้น 100 $

แนะนำประเภทบัญชี Exness

  • มือใหม่ Standard : ฝากเริ่มต้น 1 $
  • มืออาชีพ Pro : ฝากเริ่มต้น 1,000 $

แนะนำประเภทบัญชี XM

  • มือใหม่ Standard : ได้ฟรีโบนัส 30$ ฝากเริ่มต้น 5$
  • มืออาชีพ Ultra Low : ค่า Spread ถูกมาก ฝากเริ่มต้น 50$

Tip : โบรกเกอร์ส่วนมากมักจะแบ่งประเภทบัญชีตามคำสั่งออเดอร์เป็น 2 แบบคือ

  • Instant Execution :
  • Market Execution :
Instant Execution (การดำเนินการทันที) Market Execution (การดำเนินการด้วยราคาตลาด)
อาจมี Requote ไม่มี Requote
การดำเนินการขึ้นอยู่กับราคาที่มีในตลาด คำสั่งซื้อขายได้รับการดำเนินการแน่นอน
สามารถควบคุมความผันผวนและ slippage มีความเสี่ยงมากกว่าเนื่องจากความผันผวนและ slippage (อันตรายต่อพอร์ตในช่วงข่าวแรง หรือช่วงตลาดเช้า Volume ต่ำ > เหมาะกับระบบเทรดที่ไม่ได้เทรดช่วงนี้)
  • ขั้นตอนการเปิดบัญชีส่วนมากจะค่อนข้างง่าย
  • เทรดเดอร์มักติดปัญหาในขั้นตอนการยืนยันตัวตน

เอกสารที่ต้องเตรียมในการยืนยันตัวตน

  • บัตรประชาชน
  • เอกสารยืนยันที่อยู่ (1 ฉบับ) เช่น บิลค่าน้ำค่าไฟ, บิลค่าโทรศัพท์, บิลค่าอินเตอร์เน็ต, ใบเสร็จบัตรเครดิต เป็นต้น
  • เอกสารหน้า Book Bank: ปัจจุบันหลายโบรกให้แนบ เนื่องจาก License ควบคุมเรื่องการฟอกเงิน ซึ่งถ้าเรียกดูแปลว่า “ฝากบัญชีไหนต้องถอนบัญชีนั้น”

เพียงเตรียมเอกสารให้ถูกต้อง ก็สามารถยืนยันตัวตนได้คู่มือการเปิดบัญชี

  • สำหรับคนไทย แนะนำให้ใช้ช่องทางการฝากถอนเงินผ่านธนาคารในประเทศ
  • โบรกเกอร์ส่วนมากมักจะใช้วิธีการฝากเงินโดย
    • Internet banking
    • Mobile banking (QR Code) แนะนำ
  • ซึ่งเทรดเดอร์ควรมี 2 ช่องทางนี้ (อย่างใดอย่างหนึ่ง) เพื่อความสะดวกในการฝากเงิน
  • ส่วนเรื่องการถอน ไม่ยาก เพียงทำตามขั้นตอนถอนเงิน >ระบุธนาคารและเลขบัญชีธนาคารที่ต้องการถอน ก็สามารถถอนเงินได้แล้ว

โบรกเกอร์ที่ดีควรมีเรทฝากถอนที่ดี และมีความรวดเร็วในการฝากถอน

  • การเลือกโบรกเกอร์เป็นสิ่งสำคัญมากในการเริ่มต้นเทรด “เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง”
  • ควรเลือกโบรกเกอร์ที่ดี จะได้ไม่ต้องมาปวดหัวทีหลัง
  • ได้เอาเวลาไปโฟกัสเรื่องเทรดอย่างเดียว

โบรกเกอร์ที่ไม่โอเค เผลอใช้บริการแล้ว เปลี่ยนเลยครับ ดีกว่าให้มารบกวนใจในภายหลัง

    • อย่างโบรกเกอร์ที่คิด Rate ฝากถอนแพง ถ้าสมมุติเราเทรดได้กำไร 10 เท่า แปลว่าเราจะขาดทุนในส่วนจ่าย เรทฝาก-ถอนให้โบรกเกอร์นั้น 10 เท่าด้วย
    • ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เสียเปรียบ ถ้าเราคิดจะชนะอย่างยั่งยืน

เราตั้งใจทำงานอย่างหนัก เพื่อมอบความรู้ Forex ที่ดีที่สุดให้กับคุณ

Step 3 : เครื่องมือเทรด Forex

ExnessXM

xm MT4

(เปิดบัญชี XM คลิ๊ก)

ข้อดีของการ “เทรดผ่าน PC”

  • จอใหญ่ ทำให้เห็นมุมมองของกราฟ ตลอดจนสามารถใช้เครื่องมือช่วยเทรดต่างๆได้ดีกว่า การหาสัญญาณเข้าเทรดง่ายกว่า
  • ใช้เครื่องมือช่วยเทรดได้เต็มประสิทธิภาพมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นการตีเส้น, การใช้ Indicator ต่างๆ, การดูข่าวประกอบ, หรือใช้ EA เทรด
  • เพิ่มหน้าจอได้หลายจอ หลายคู่เงิน, การเปรียบเทียบ Time frame ได้สะดวกกว่า

ข้อเสียของการ “เทรดผ่าน PC”

  • พกพาไม่ได้สะดวก: สำหรับ Notebook หรือ Tablet แต่ PC ตั้งโต๊ะ นี่ไม่สามารถเคลือนย้ายได้เลย
  • จำกัดสถานที่และเวลา: เฉพาะเมื่อพร้อม > ถ้าเป็นมือถือ แม้แต่เข้าห้องน้ำ นั่งรถอยู่ก็สามารถเทรดได้

ข้อดีของการ “เทรดผ่านมือถือ”

  • สะดวก: สามารถเทรดได้ทุกที่ที่มีสัญญาณเน็ต

ข้อเสียของการ “เทรดบนมือถือ”

  • การมองแนวโน้มราคา ทำได้ยากกว่าเทรดผ่าน PC มาก เนื่องจาก ความเสียเปรียบทางด้าน
    • การเห็นมุมมองของกราฟ (จอเล็กมาก)
    • การเปรียบเทียบระหว่าง Time frame
    • การหาสัญญาณเข้าเทรด
    • การดูข่าวประกอบ
    • การวิเคราะห์ Indicator ที่ใช้ร่วมในการเทรด

จะไม่ชัดเจนเท่า PC >  (เว้นแต่คุณจะเก่งเทคนิคเทรดกราฟเปล่าเอามากๆ)

  • เทรดมือถือเป็นสัญญาณของความรีบเร่งเทรด หรือความไม่พร้อมในการเทรด เช่น เดินทาง ติดงาน ฯลฯ ในแง่จิตวิทยาการเทรด ถือเป็นการนำตัวเองไปสู่จุดที่เสียเปรียบ
  • คนที่ล้างพอร์ต หรือเทรดผิดทางจำนวนไม่น้อยมีสาเหตุจากการเทรดผ่านมือถือ

https://www.youtube.com/watch?v=nt6OW2IP-2Aจุดอ่อนคือ การเทรดผ่านเว็บ จะผ่านเว็บบราวเซอร์ ทำให้เมื่อเทียบกับการเทรดผ่าน Platform MT4 จะมีความหน่วงๆมากกว่า เทรดไม่ลื่นไหล ออกคำสั่งได้ช้ากว่าเล็กน้อย อันตรายต่อการเทรดช่วงข่าวมากกว่า โดยเฉพาะถ้าคอมหรือเน็ตคุณไม่แรง

อินดิเคเตอร์ (Indicator) คือ เครื่องมือทางสถิติ ชี้วัดถึงข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับราคาที่ใช้ในการเทรด Forex สามารถนำไปคาดการณ์ทิศทางราคาในอนาคตได้ เช่น เส้นค่าเฉลี่ย, RSI, MACD, Stochastic เป็นต้น

Indicator คือ อะไร ?

Indicator Forex ที่ต้องรู้

Indicator (อินดี้) ที่ใช้ จะใช้แตกต่างกันไปตามเทคนิคการเทรด หรือ “ระบบเทรด” ปกติจะใช้ไม่เกินสามตัวที่เหมาะสมจริงๆ การใช้อินดี้มากเกินไป แทนที่จะดี กลับทำให้งงมากกว่า

  • Expert Adviors หรือ EA
  • เป็นการสร้าง Bot ในการช่วยเทรดแบบอัตโนมัติ
  • สามารถรันบน MT4/MT5
  • ไม่ต้องเฝ้าจอ ปล่อยให้ EA รันเทรดเอง

Expert Advisors (EA) คืออะไร forex

 อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ EA

  • จุดอ่อนของ EA คือ มีน้อยตัวมากที่สามารถรองรับตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปในช่วงต่างๆได้เป็นเวลาปีๆ หรือหลายปี
  • และยังผูกติดกับการตั้งค่า EA ที่ต้อง Smart พอ แปลว่า  EA ก็มีสิทธิ์ล้างพอร์ตได้ ผู้ใช้ก็ต้องรู้จักมันให้ดีมากๆ สามารถใช้มันได้เต็มประสิทธิภาพ
  • แต่ก็นับเป็นวิธีการที่เร่งความสำเร็จในการเทรดให้เร็วขึ้น
  • ผู้ใช้ EA ควรเทรดเป็นแล้วระดับหนึ่ง ไม่ใช่ไม่เป็นเลย

วิธีการสร้าง EA สามารถทำได้หลายวิธี คือ

  1. เขียนขึ้นมาเอง: (เขียนบน MetaEditor ด้วยภาษา MQL ที่อยู่ใน MT4 และ MT5)
  2. จ้างเขียน:
    • ต้องยอมรับเรื่อง คนเขียนจะรู้ระบบการเทรดของเรา
    • ถ้าคนเขียนไม่เคยเทรด หรือยังเทรดไม่เชี่ยวชาญ อาจเจอปัญหาล่าช้า ทำงานไม่ได้ดังใจ หรือทิ้งงาน
  3. ร่วมมือกับค่ายเขียน EA: แล้วแบ่งผลประโยชน์ร่วมกัน
    • ขจัดปัญหาทิ้งงาน
    • มีการอัพเดทออย่างต่อเนื่อง อันนี้สำคัญเพราะ EA ดีๆต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่องทั้งตัว EA และระบบเทรดคู่ EA (การตั้งค่า) อย่างต่อเนื่อง ไม่ต่ำกว่า 2 ปี
  4. ใช้โปรแกรมช่วยเขียน: เช่น Fxdreema,  FXPRO Quant,
    • ง่ายสะดวก ไม่ต้องเสียเวลาในการเรียนเขียน Code
    • ยังต้องศึกษาการเขียนผ่านโปรแกรมดังกล่าว คนเขียนโค๊ดเป็นแล้ว อาจไม่เลือกวิธีนี้
  5. ซื้อ EA จากที่ต่างๆ: (ต้องดูให้ดี)

* การสร้าง EA นอกจากจะต้องมีทีมพัฒนาแล้ว ต้องมีทีม Data since ที่ทดสอบระบบ ทั้ง Back Test & Forward Test 

การทำ ฺBacktest

  • เราสามารถทดสอบ EA ของเราว่า มีประสิทธิภาพเป็นอย่างไร ด้วยการทำการ Backtest ย้อนหลัง
  • สามารถเช็คผลตอบแทนย้อนหลังในอดีตภายใต้เงื่อนไขเวลา และ setting อื่นๆของเงื่อนไขการเทรดของ EA ได้
  • ว่าถ้ารัน EA ของเรา กับคู่สกุลเงินที่จะลงทุน ในอดีต + การตั้งค่าในรูปแบบต่างๆกันผลตอบแทนที่ได้จะเป็นอย่างไร > เพื่อหารูปแบบการเทรดที่ดีที่สุด
    • ปลอดภัยสูงสุด
    • กำไรสูงสุดภายใต้เงื่อนไข สมดุลของความปลอดภัย

ใน MT4: เมื่อโหลด EA มาแล้ว ให้เปิด View / Strategy Testerใน MT5: เมื่อโหลด EA มาแล้ว ให้คลิ๊กขวาบน EA แล้วกดปุ่ม Testbacktest eaตัวอย่าง Report ในการ Backtestตัวอย่าง report backtest

 การ Backtest ระบบเทรด

การทำ ฺForward Test

  • คือทดสอบระบบด้วยการเทรดจริง โดยใช้กราฟแบบ RealTime ทั้งเงินจริงหรือเงิน Demo (เงินจริงชัดเจนที่สุด)
  • เพื่อใช้ดูเสถียรภาพ, หา Bug, การกินพลังงานของเครื่อง, ผลของของบัญชีประเภทต่างๆ, ผลของ VPS ที่ใช้, ผลของ slippage กับ spread ฯลฯ
  • * Forward Test คือของจริง !! EA มากกว่า 80% ได้ผลดีใน Backtest แต่ล้มเหลวใน Forward Test

ตลาดซื้อขาย EA ที่ใหญ่ที่สุดคือ MQL5

ea market

  • ควรเลือกซื้อ EA ที่เหมาะสม ทั้งราคา และ กลยุทธ์
  • พิจารณาถึงความน่าเชื่อถือ
  • มีบางตัวที่ Free สามารถทดลองใช้ก่อนได้
  • EA ที่มีผู้ใช้งานจำนวนมากมาแชร์การตั้งค่า หรือมีห้องกลุ่มผู้ใช้งาน ย่อมได้เปรียบ
    • EA ที่ตั้งค่าสูตรโรงงาน อาจได้ผลไม่ดีเท่า สูตรที่มีการปรับอย่างเข้าใจของผู้ใช้งานจริง

1.ไปที่เมนู File จากนั้นคลิ๊ก ‘Open Data Folder’1.1 EA2. เปิดโฟลเดอร์ ‘MQL5’ หรือ ‘MQL4’2 ea3. เปิดโฟลเดอร์ ‘Experts’3 ea4. นำไฟล์ EA (ที่ประกอบด้วย ‘.ex5’ และ ‘.mq5’) มาวางในโฟลเดอร์นี้4 ea5. เมื่อเปิดโปรแกรม MT5 ขึ้นมา จะปรากฏตัว EA ที่เราลง5 ea6. ให้กด ตัว EA ที่เราจะรันค้างไว้ แล้วเอาลงไปวางในกราฟจากนั้นกด ‘AutoTrading’ ให้เป็น สีเขียวสีเขียว = EA รันอยู่สีแดง = EA ไม่ได้รันea 6.1

  • เลือกโปรแกรมเทรดที่ถนัด
  • แนะนำ MT4 หรือ MT5
  • เนื่องจากใช้งานง่าย มีความคล่องตัวสูง เป็นที่นิยม (เมื่อมีปัญหาจะถามคนอื่นได้ง่าย)

Step 4 : การซื้อขาย, วิเคราะห์ Forex

  • คาดการณ์ราคาขึ้น > เปิด Long (Buy)
  • คาดการณ์ราคาลง > เปิด Short (Sell)
  • ถ้าถูกทาง = กำไร แต่ถ้าผิดทาง = ขาดทุน
  • ดังนั้นเราต้องคาดการณ์ทิศทางการแกว่งตัวของราคาให้ได้ เพื่อสร้างกำไรในการเทรด
ทำกำไร forex
  • หลักการดูเหมือนง่าย แพ้-ชนะ 50/50 แต่เอาเข้าจริงคนกว่า 85% โดยรวมแพ้ใน 2 ปีแรก
    • เนื่องจากจากเงื่อนไขทางด้าน Winrate + Risk/Reward + จำนวน lot ที่ออก + อารมณ์
    • มักออกมาในแบบ ชนะมาตลอด ยังไม่ได้ถอนเงินใช้อยู่ๆก็ล้างพอร์ต เสียทั้งเวลาและเงิน ที่ได้มาคือความรู้ที่ว่า

“ไม่น่ารีบเลย … รู้งี้ถอนเงินมาใช้ หรือศึกษาให้ดีก่อนใส่เงินจำนวนมากดีกว่า”

  • 3 องค์ประกอบในการอยู่เทรดแบบยั่งยืน
  • 1) วิธีการเทรด : มีกลยุทธ์การเทรดที่กำไร (สำคัญมาก ต้องศึกษา ต้องฝึกฝน ไม่มีทางได้มาเพราะโชคช่วย)
  • 2) การบริหารความเสี่ยง : ควบคุมหน้าตัก (เงินทุน) ให้ดี (ถ้าไม่มี เก่งแค่ไหนก็แพ้หมดตูดสักวัน)
  • 3) จิตวิทยา : มีวินัยในการเทรด ไว้คุม 2 ข้อข้างบน เป็นตัววัดความสำเร็จอย่างยั่งยืนในระยะยาว

อยู่รอดในตลาด forex

  • กราฟบน Forex สะท้อนให้เห็นถึง “แรงซื้อ และ “แรงขาย”
  • สามารถนำมาคาดการณ์ทิศทางในอนาคตได้

แท่งเทียน

  • บนกราฟจะประกอบด้วยแท่งเทียนแต่ละแท่งเรียงต่อกัน
  • 1 แท่งเทียนจะแทน 1 หน่วย (แล้วแต่จะเลือกดู Time Fram (TF) ไหน เช่น ถ้าเลือก TF Day (D1) 1 แท่งแปลว่า 1 วัน)
  • 1 แท่งเทียนประกอบด้วย 4 ข้อมูล คือ Open, High, Low และ Close
  • แท่งเทียนสีเขียว = ราคาปิด > ราคาเปิด (ราคาขึ้น)
  • แท่งเทียนสีแดง = ราคาปิด < ราคาเปิด (ราคาลง)

บนมือถือ MT4/MT5 จะใช้สีดำ เป็นแท่งเทียนที่ปิดบวก (ปิด > เปิด)และใช้สีขาว เป็นแท่งเทียนที่ปิดลบ (ปิด < เปิด)แท่งเทียน

  • High = ราคาสูงสุด
  • Low = ราคาต่ำสุด
  • Open = ราคาเปิด
  • Close = ราคาปิด

แท่งเทียนใน mt4 mt5

การวิเคราะห์มี 3 รูปแบบหลัก คือ

  • วิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) : ดูกราฟ ใช้ Indicator หรือ Chart pattern
  • วิเคราะห์ปัจจัยพื้น (Fundamental Analysis) : ดูปัจจัยพื้นฐาน หรือดัชนีชี้วัดต่างๆทางเศรษฐกิจ ภาพรวมใหญ่ๆ มีผลระยะยาว เช่น การเมือง สงคราม GDP การเกิดและการจัดการโรคระบาด เป็นต้น
  • วิเคราะห์ข่าว :  ดูข่าวเศรษฐกิจแล้ววิเคราะห์แนวโน้มจากข่าว ซึ่งจะทำให้เกิดเทรน 15 นาที – 1 วัน หรือมากกว่านั้น แล้วแต่สภาพความแรงของข่าว

* ไม่จำเป็นต้องรู้ทั้ง 3 รูปแบบนี้ ขอเพียงเก่งรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ก็สามารถสร้างกำไรในการเทรด Forex ได้แล้วแต่หากใครที่รู้ทั้ง 3 รูปแบบ ก็จะยิ่งเสริมประสิทธิภาพการเทรดให้สูงขึ้น

  • การวิเคราะห์ทางเทคนิค คือการดูกราฟ
  • คาดการณ์ทิศทางในอนาคตจากพฤติกรรมของราคาในอดีต
  • ทั้งการดู รูปแบบแท่งเทียน และ Indicator

 การวิเคราะห์การเทรดด้วย Technical Analysis

กราฟทางเทคนิค
รูปเสดงตัวอย่างการวิเคราะห์ทางเทคนิค โดยใช้ Indicator ต่างๆช่วย ทำนายทิศทางของกราฟ
  • ข้อมูลและข่าวสารต่างๆที่มีผลต่อทิศทางของค่าเงิน
  • อาทิ ตัวเลข GDP,เงินเฟ้อ, Non-farm, ตัวเลขการจ้างงาน และอื่นๆ
  • ปัจจัยทางการเมือง : การปรับขึ้นลงของอัตราดอกเบี้ย, เสถียรภาพการเมือง และ นโยบายของรัฐ

 การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน คือ อะไร ?

  • ทั้งการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจ, การเมือง, สงคราม เหล่านี้เราสามารถนำมาคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาในอนาคตได้

Tip : เว็บไซต์ที่เทรดเดอร์หลายคนใช้ติดตามการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจ คือ forexfactory.com

 วิธีใช้ข่าวจาก forexfactory.com

forexfactory
ตารางข่าวจาก Forexfactory ซึ่งเทรดเดอร์สายข่าว นิยมใช้เทรดในช่วงมีข่าวเพราะกราฟจะผันผวน และหาจังหวะทำกำไรได้
  • คู่สกุลเงินหลักที่เทรดกันส่วนมาก มีอยู่ 7 คู่สกุลเงิน
  • 1. EURUSD : ยูโร / ดอลลาร์สหรัฐ
  • 2. USDJPY : ดอลลาร์สหรัฐ / เยน (ญี่ปุ่น)
  • 3. GBPUSD : ปอนด์ (อังกฤษ) / ดอลลาร์สหรัฐ
  • 4. AUDUSD : ดอลลาร์ออสเตรเลีย / ดอลลาร์สหรัฐ
  • 5. USDCAD : ดอลลาร์สหรัฐ / ดอลลาร์แคนาดา
  • 6. USDCHF : ดอลลาร์สหรัฐ / สวิสฟรังค์ (สวิตเซอร์แลนด์)
  • 7. NZDUSD : ดอลลาร์นิวซีแลน / ดอลลาร์สหรัฐ

 Major Currency Pairs (คู่เงินหลัก) คือ อะไร ?

Indicator เป็นเครื่องมือการวิเคราะห์ทางเทคนิค ที่ใช้ประกอบการตัดสินใจในการเทรด Forex การใช้งาน Indicator เป็นมากกว่าการนำ Indicator เข้าไปใส่ในกราฟแล้วทำการเทรดตามสัญญาณที่ให้

แต่การใช้ Indicator นั้นต้องรู้จักสังเกตุรายละเอียดมากมาย พร้อมทั้งฝึกฝนอยู่เสมอจนชำนาญ สิ่งที่ต้องศึกษาได้แก่

  • ที่มาและหลักการของ Indicator นั้นๆ (ถ้ารู้ลึกซึ้งจะใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ)
  • การใช้งาน และการติดตั้ง Indicator ใน MT4-5 
  • การใช้งาน Indicator ร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ
เลือกเรียนรู้ Indicator แต่ละชนิด คลิ๊ก
  • ระบบเทรด >  “เทรดเป็นระบบ” ก็เหมือนมวยมืออาชีพ ย่อมชนะมวยวัด
  • เป็นการสร้างกลยุทธ์การเทรดขึ้นมา จากการตกผลึกองค์ความรู้ในการเทรดต่างๆ จนเหมาะสมกับตัวเอง
  • อาจใช้ Price action หรือ Indicator ต่างๆ
  • ระบบเทรด เปรียบเสมือนมีแผนที่ในการเดินทาง
  • ช่วยให้การเทรดของเรามีประสิทธิภาพอย่างมาก
  • จะตัดเรื่องอารมณ์ในการเทรดออกไป
  • องค์ประกอบที่สำคัญในการเอาชนะตลาด
  • มีความแหลมคมใน จุดเข้า จุดออก (เป้าหมาย / ตัดขาดทุน) และ Size ในการเทรด
  • ระบบเทรดที่ดี ควรผ่านการทดสอบมาก่อน
  • ระบบเทรดอัตโนมัติ = EA

 แจกระบบเทรด

  • ทำการเทรดตามระบบ และเก็บข้อมูลผ่าน MyFxbook
  • ดูสถิติผลตอบแทนย้อนหลัง อย่างน้อย 1 ปี
  • ปีที่ 2 ในการทดสอบเพื่อสร้างความเฉียบคมของระบบเทรด
  • หากอดีตกำไร ถือว่าระบบนั้นอยู่ในเกณฑ์ดี
  • แต่หากอดีตขาดทุน มีโอกาสที่อนาคตจะขาดทุนสูง

สิ่งที่ต้องดูเพิ่มเติม

  • Expected Payoff : ผลตอบแทนคาดหวัง ต่อ 1 การเทรด
  • Winrate : อัตราการชนะ
  • Max. Drawdown : การขาดทุนสูงสุดที่เกิดขึ้น
  • Profit factor : ผลรวมกำไร / ผลรวมขาดทุน
  • Total trades : จำนวนเทรดทั้งหมด
  • Consecutive Win/Loss : การแพ้/ชนะ ติดต่อกัน

รีวิวโบรกเกอร์

Forexthai.in.th เรามุ่งหวังเพื่อให้ Treader ได้เลือกใช้โบรกเกอร์ที่ดีที่สุด ให้คุณเทรดได้อย่างสบายใจ เพื่อให้มีจิตใจโฟกัสกับการเทรดได้อย่างเต็มที่



30 คำศัพท์ Forex ที่จำเป็นต้องรู้ก่อนเทรด

สอนเทรด Forex ฟรี

เรียนรู้การเทรด Forex ตั้งแต่พื้นฐานจนถึงระดับมืออาชีพ โดยโค้ชที่มีประสบการณ์เทรดในตลาด Forex มากกว่า 10 ปี ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือมีประสบการณ์แล้ว คอร์สนี้จะช่วยให้คุณเริ่มต้นเรียนรู้ “หลักคิด” ในการเทรดได้อย่างมั่นใจ

LEVEL1: เรียนรู้เรื่องพื้นฐานการเทรด Forex

พื้นฐานการเทรด forex บทที่ 1 คือ การเริ่มนับจาก 0 ที่ไม่รู้อะไรมาก่อน ไม่รู้อะไรเลยในที่นี้ หมายถึงไม่รู้เลย ไม่ว่าอะไรที่เกี่ยวกับการเทรด Forex แม้แต่คำว่า “FOREX” ก็เพิ่งจะเคยได้ยินเป็นครั้งแรก เอากันถึงระดับนั้นกันเลยนะครับ

ประเภทของการเทรด Forex และเทคนิคเลือกสไตล์ที่ใช่

ในบทเรียน Level นี้ จะแบ่งบทเรียนออกเป็น 2 ด่าน ซึ่งแต่ละด่านจะพาไปค้นหาไอเทมอาวุธเทพ ๆ เพื่อติดตั้งในเทคนิคการเทรดส่วนตัว คุณจะได้เรียนรู้เชิงลึกในเทคนิคและวิธีการทำกำไร ที่จะสามารถนำไปใช้กับ การเทรด Forex ได้ด้วยตัวเอง

Chart Pattern รูปแบบกราฟที่สำคัญ

เข้าสู่ด่านที่ 2 เราจะยกระดับการวิเคราะห์แนวโน้มของราคาขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง นั่นก็คือจะเน้นไปที่การวิเคราะห์หาแนวโน้มโดยใช้ "รูปแบบ Chart Pattern เป็นตัวบ่งชี้" เราจะเรียนรู้ถึงการมองหาทิศทางของราคา Forex ด้วยการใช้กราฟเปล่า ๆ ในการวิเคราะห์เป็นหลัก

Cross Currency Pair Comparison การเทียบค่าเงินข้ามคู่

LEVEL สุดท้ายนี้ จะเป็นการเรียนรู้เรื่องปัจจัยที่จะช่วยให้เทรด Forex ประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืนและมั่นคง เพราะในบทเรียนนี้เป็นการรวบรวมข้อมูลในภาพใหญ่ของเทรดเดอร์มืออาชีพ ที่ประสบความสำเร็จแล้วมานำเสนอบอกต่อกัน เพื่อเป็นแนวทางที่ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้นในการเทรด Forex (ไม่ต้องเสี่ยงเดาสุ่มเอง)

แจกระบบเทรด

แจกระบบเทรด Forex ฟรี! ไม่มีกั๊ก ทีมงาน Forexthai ได้คัดระบบเทรดเด็ดๆ เพื่อให้คุณเทรดได้อย่างมั่นใจ ช่วยสร้างวินัยในการเทรด ดาวน์โหลดฟรี พร้อมวิดีโอสอนใช้งานแบบละเอียด เลือกใช้ตามสไตล์การเทรดที่ถนัดได้เลย!

ความรู้แนะนำ

Nakrob Seareechon
บรรณาธิการ/Web master

  • หัวหน้ากองบรรณาธิการและเว็บมาสเตอร์ forexthai.in.th
  • จบปริญญาโทเศรษฐศาสตร์การเงิน เชี่ยวชาญการวิเคราะห์เทคนิคและปัจจัยพื้นฐาน
  • มีประสบการณ์เทรด Forex ตั้งแต่ปี 2014 เคยรับราชการตำรวจ 15 ปี ก่อนผันตัวมาทำงานด้านการลงทุนเต็มตัวในปี 2019
  • ปัจจุบันมุ่งพัฒนาระบบเทรดอัตโนมัติควบคู่กับการเทรดด้วยตนเอง มีความสนใจด้านเทคโนโลยี ศิลปะ และการพัฒนาเว็บไซต์
อ่านประวัติเพิ่มเติม

Krisorn Himmapan
Content Writer

  • Krisorn Himmapan หัวหน้านักเขียนประจำ และทำ SEO ให้แก่เว็บไซต์ forexthai.in.th
  • ประสบการณ์ในวงการ Forex กว่า 12 ปี (เริ่มเทรดเมื่อ ปี 2007 ปี)
  • อดีตพนักงานบริษัทที่ใฝ่หา “ความสำเร็จ” จึงลาออกจากงานประจำเข้าสู่วงการ Forex
  • ปัจจุบันเทรด Forex เป็นอาชีพหลัก โดยกลยุทธ์หลักจะเน้นรันเทรนระยะยาว
อ่านประวัติเพิ่มเติม