Tickmill เป็นอีกโบรกเกอร์ Forex ที่ได้เข้าทำตลาดในไทยหลายปีแล้ว ถือว่าเป็นโบรกเกอร์ใหม่ เพราะตั้งขึ้นมาในปี 2014 (อายุยังไม่ถึง 10 ปี) มีสำนักงานในลอนดอนประเทศอังกฤษ และ Sychelles มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว มีจุดเด่นคือ ค่าบริการรวม (spread + commission) ที่ถูกมาก โดยเฉพาะบัญชี Pro ความเสถียรของ server สูง เทรดเร็วแม้ในช่วงข่าวแรง และเจอปัญหา slippage น้อย

ด้านความน่าเชื่อถือ ซึ่งดูจากใบอนุญาต (License) การดำเนินการให้เทรดสินค้า Forex และ CFDs จาก Cyprus Securities and Exchange Commission (CySEC) จากไซปรัส, Financial Conduct Authority (FCA) จากอังกฤษ, Financial Services Authority (FSA) จากเซเชลส์, Labuan Financial Services Authority (Labuan FSA) ของ Labuan มาเลเซีย (Tickmill Asia Ltd) และ Financial Sector Conduct Authority (FSCA) ของแอฟริกาใต้ (Tickmill South Africa (Pty) Ltd)

รูปแบบการให้บริการเทรดเป็นแบบ No Dealing Desk (NDD) ที่จะส่งคำสั่งเทรดของลูกค้าไปที่ liquidity providers (ผู้ให้บริการสภาพคล่อง) และยังมีการแยกทุนลูกค้าเก็บใน segregated accounts กับธนาคารชั้นนำ พร้อมกับเงื่อนไข Negative Balance Protection จึงมั่นใจว่าเงินทุนของคุณจะไม่หายไปไหนหรือติดตามไม่ได้
หน้าเว็บมี 14 ภาษารวมทั้งภาษาไทยด้วย ฝาก-ถอนค่อนข้างเร็ว สามารถฝาก-ถอนผ่านธนาคารไทยออนไลน์ได้
โบรกเกอร์ Tickmill คืออะไร
แบรนด์ Tickmill มีเจ้าของและดำเนินการโดย 5 บริษัทย่อยด้วยกันคือ
- Tickmill Ltd (Seychelles)
- Tickmill Europe Ltd (EU)
- Tickmill UK Ltd (United Kingdom)
- Tickmill Asia Ltd
- Tickmill South Africa (Pty) Ltd
บทความแนะนำสำหรับผู้เริ่มเทรด Forex 
โดยรูปแบบของการให้บริการจะเป็นโบรกเกอร์แบบ Non-Delaing Desk ให้บริการเทรด Forex, Indices, Oil, Metals และ Bonds ผ่าน 3 ประเภทบัญชีดังนี้
- บัญชีแบบ Classicไม่มีค่าคอมมิชชั่น ต้นทุนการเทรดรวมอยู่ที่สเปรด เริ่มที่ 6 pips เลเวอเรจให้มากถึง 1:500 ฝากขั้นต่ำ 100 ดอลลาร์
- บัญชีแบบ Proเป็นบัญชีแบบมีค่าคอมมิชชั่น 2 ดอลลาร์ต่อข้างเปิด-ปิด (เท่ากับ 4 ดอลต่อ 1 ล็อตมาตรฐาน 100,000) และสเปรดเริ่มที่ 0 pips เลเวอเรจให้มากถึง 1:500 ฝากขั้นต่ำ 100 ดอลลาร์
- บัญชีแบบ VIPมีการคิดค่าคอมมิชชั่นที่ 1 ดอลลาร์ต่อข้าง (เท่ากับ 2 ดอลลาร์ต่อ 1 ล็อตมาตรฐาน) เลเวอเรจให้มากถึง 1:500 และสเปรดเริ่มที่ 0 pips แต่ฝากขั้นต่ำหนักหน่อย คือ 50,000 $ จะเหมาะมากสำหรับเทรดกองทุนหรือคนที่เทรดทุนหนา

รูปแบบบัญชีก็จะชัดเจนสำหรับการต้นทุนการเทรด ก่อนนี้ตอนที่โบรกเกอร์ Tickmill นี้เปิดใหม่ๆ จำได้ว่า สำหรับบัญชีเทรด Classic และ Pro ให้เริ่มฝากทุนขั้นต่ำแค่ 25 ดอลลาร์เอง (เทคนิคการตลาด บางโบรกก็เน้นแจกโบนัส) แต่เดี๋ยวนี้เพิ่มมาเป็น 100 ดอลลาร์แล้ว
สามารถเทรดทุกสินค้าแบบเดียวกันหมดทุกประเภทบัญชี และส่วนของสื่อความรู้มีการปรับปรุงเพิ่มมากขึ้นมาก ไม่ว่าจะเป็น Webinars (สัมมนาออนไลน์), E-books, อินโฟกราฟิก, วีดีโอสำหรับการเรียนรู้, อธิบายคำศัพท์ที่สำคัญ (แบบสั้นๆ), วิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน, วิเคราะห์ด้านเทคนิค, บทความ Forex, มุมมองตลาด, และยังมีเครื่องมืออีกมากมาย เช่น Autochartist (Tool สำหรับการวิเคราะห์ technical analysis แบบอัตโนมัติ สำหรับ Metatrader เอาไว้ช่วยดูแนวโน้มกราฟ คือไว้ดู signal), และมีบริการ Copy Trading ด้วย

ข้อดีของโบรกเกอร์ Tickmill
- มีใบอนุญาตดำเนินการถึง 5 ใบอนุญาต ได้แก่ FCA, FSA, CySEC, Labuan FSA, และ FSCA

- เทรดลื่นไหล เปิด-ปิด-ลากเส้น order ได้เร็วแม้เทรดช่วงข่าว ทั้งบัญชี CLASSIC และ PRO
- เงื่อนไขการเทรด ถือว่าต่ำไม่เป็นรองโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์อื่นๆ เช่น บัญชี Pro ค่าคอมมิชชั่นอยู่ที่ 4 ดอลลาร์ต่อล็อต ถือได้ว่าถูกกว่าหลายๆโบรกเกอร์ ที่ส่วนมากอยู่ที่ 6-7 ดอลลาร์ขึ้นไป ซึ่งรวมกับค่า spread แล้วค่าบริการรวมถือว่าถูกมาก แต่ก็มีไปแอบกินค่า swap แทน (swap เท่ากับ บัญชี Classic การกินค่า swap นี้ถือว่าปานกลางไปทางสูง) จึงเหมาะกับคนที่ชอบเทรดสั้นมากกว่า เทรดยาวอาจต้องมองหาโบรกอื่น
- สามารถฝากถอนผ่านธนาคารไทยออนไลน์ได้ และไม่มีค่าธรรมเนียมสำหรับฝากและถอน ความเร็วในการฝาก-เกือบทันที ความเร็วในการถอนประมาณ 2-3 ชั่วโมง Rate ฝากถอน ต่ำประมาณ 0.5-0.6%
- มีโปรโมชั่นสำหรับเทรดเดอร์ที่อยากทดลอง ด้วย Welcome Bonus 30$ ไม่ต้องฝากเงิน สามารถเปิดบัญชีแล้วทดลองเงื่อนไขการเทรดได้เลย (ปัจจุบัน 2022 โปรโมชั่นนี้ไม่มีแล้ว แต่หน้าเว็บยังไม่ลบ แปลว่ามีโอกาสเปิดใช้ในอนาคต)
- มีหน้าเว็บและ Support 14 ภาษารวมทั้งภาษาไทยด้วย, Support ตอบเคลียร์ สามารถแก้ปัญหาได้ดี
- มีสื่อความรู้มาก และมีการวิเคราะห์ด้านข้อมูลพื้นฐานและทางเทคนิคด้วย
- มีเครื่องมือช่วยในการเทรดอย่าง Autochartists ให้ใช้ฟรี อยู่ในหน้า User Account

ข้อเสียของโบรกเกอร์ Tickmill
- เมื่อเทียบกับหลายๆ โบรกเกอร์ ยังถือว่าเป็นโบรกเกอร์ใหม่อยู่เพราะเพิ่งตั้งมาในปี 2014 ยังไม่ถึง 10 ปี (โดยตัวเลข 10 ปีนั้น บ่งบอกว่า มีรากฐานทางการเงิน การบริหาร ฐานลูกค้าที่มั่นคงมากพอที่จะไม่ปิดโบรกหนีอย่างแน่นอน เพราะโบรกเกอร์ Forex มีอัตราการเปิดตัวและปิดตัวที่สูงมาก ถ้าไม่ผ่านเกิน 3 ปี นี่ยิ่งต้องระวังมาก)
- การฝากขั้นต่ำ 100 ดอลลาร์อาจมากไป เพราะก่อนนี้ทางโบรกเกอร์ Tickmill เคยให้เริ่มต้นฝากขั้นต่ำแค่ 25 ดอลลาร์ สำหรับบัญชีเทรดรายย่อยไม่ว่าจะเป็นบัญชีเทรดแบบ Classic หรือ Pro แม้ว่าจะมี Welcome Bonus $30 มาให้ลูกค้าที่เปิดบัญชีใหม่มาชดเชยก็ตาม
- Live Chat ไม่มีบริการในวันหยุด (ซึ่งจริงๆแล้ว ลูกค้าจำนวนไม่น้อย มักจะทำธุรกรรมต่างๆ เช่น เปิดบัญชี โอนเงิน-ถอนเงิน หรือบริหารบัญชีในวันหยุด)

ความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์ Tickmill
แม้ว่า Tickmill เพิ่งตั้งมาไม่นานในปี 2014 ถือว่าเป็นโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์รายใหม่ แต่ไม่ได้หมายถึงไม่มีความน่าเชื่อถือ ดูอย่างเรื่องของการกำกับดูแล และอนุญาตดำเนินการที่ Tickmill ได้มาอย่างต่อเนื่อง ถึง 5 license ไม่ว่าจะเป็นของ FCA, FSA, CySEC, Labuan FSA, และ FSCA ที่บอกถึงการใส่ใจในแง่ความรู้สึกปลอดภัยของลูกค้า และบ่งบอกถึงการเติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยการขยายฐานลูกค้าไปแต่ละพื้นที่ด้วย
โดยเฉพาะ FCA หรือ Finanacial Conduct Authorit ของอังกฤษที่เห็นว่าเป็นหน่วยงานที่เข้มงวดในการออกใบอนุญาตมาก เรื่องของทุนของลูกค้าทาง Tickmill แยกทุนไว้กับ Barcklays Bank และยังมีการประกันทุนลูกค้าตามกฎของ FCA ด้วย และยังได้รับรางวัลที่บอกถึงการยอมรับในตลาดอย่างต่อเนื่อง และ ได้รับคะแนนรีวิว โดย Trustpilot = 4.0 ซึ่งถือว่าสูง

การจดทะเบียนองค์กรควบคุมของโบรกเกอร์ Tickmill
- Cyprus Securities and Exchange Commission (CySEC) #278/15 (Tickmill Europe Ltd)
- Financial Services Authority (FSA) (Tickmill Ltd Seychelles)
- Financial Conduct Authority (FCA) ของอังกฤษ (Tickmill UK Ltd)
- Labuan Financial Services Authority (Labuan FSA) ของ Labuan มาเลเซีย (Tickmill Asia Ltd)
- Financial Sector Conduct Authority (FSCA) ของแอฟริกาใต้ (Tickmill South Africa (Pty) Ltd)
ค่าบริการการซื้อขายกับ Tickmill (สเปรด คอมมิชชั่น)
การคิดต้นทุนการเทรด Tickmill เอง ก็มีรูปแบบไม่ต่างจากที่โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์อื่นๆ คือ
- เป็นการรวมต้นทุนอยู่ที่สเปรดที่เดียว
- หรือแยกออกมาเป็นค่าคอมมิชชั่น แล้วบวกกับสเปรดต่างหากสำหรับการเปิดเทรด
- และต้นทุนสำหรับถือออเดอร์ที่เปิดเทรดข้ามคืนหรือ SWAP ถ้าไม่ใช่บัญชีแบบที่เป็น SWAP Free (บัญชีอิสลามของ Tickmill : ไม่มีค่าธรรมเนียมในสามคืนแรก ค่าธรรมเนียมจะเรียกเก็บในคืนที่ 4 เวลา 00:00 และเก็บทุกคืนจนกระทั่งสถานะการเทรดถูกปิด ซึ่งจริงๆแล้วก็ยังถือว่าไม่ใช่ บัญชี SWAP Free ที่แท้จริง)
สรุปค่าบริการในบัญชีต่างๆของ โบรกเกอร์ Tickmill
- บัญชี Classic :ทุนเทรดอยู่ที่สเปรด (ไม่คิดค่าคอมมิชชั่น) คู่เงินหลักๆ เริ่มที่ 6 pips เช่น ถ้าเทรดล็อตมาตรฐาน เปิด 1.00 ล็อตหรือเทรด 1,000 ดอลลาร์ ถ้าเปิดก็เริ่มติดลบที่ 16 ดอลลาร์ทันที (วิธีการง่ายสุดในการดูต้นทุนเทรดแต่ละครั้งคือเปิดแล้วติดลบเท่าไร โดยส่วนมากก็จะอิงจากล็อตมาตรฐานหรือ 1.00 อย่าดูที่ pips เพราะเขาใช้เป็นเพียงค่าเริ่มต้นที่ต่ำที่สุดที่คิด)
- บัญชี Pro : ค่าคอมมิชชั่น 4 ดออลาร์/ล็อต เช่น เมื่อเปิดเทรด 00 หรือ 1,000 ดอลลาร์ ติดลบทันที 4 ดอลลาร์ขึ้น (ที่บอกว่าขึ้นเพราะบวกจากส่วนต่างสเปรดด้วย ที่เริ่มจาก 0.0 pips เป็นส่วนมาก บัญชีที่มีค่าคอมมิชชั่น สเปรดก็จะน้อยลง)
- บัญชี VIP : ฝากขั้นต่ำต้อง 50,000 ดอลลาร์ขึ้น (พวกเงินหนาหรือกองทุนต่างๆ) ค่าคอมจะถูกลงอีกเริ่มที่ 2 ดอลลาร์/ล็อต เมื่อเทียบต้นทุนการเทรดบัญชีเทรดแบบ Pro เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดถ้าทุนสูง !!
Swap ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ ปานกลางไปในทางสูง เพราะ swap ควรจะมีทั้งบวกและลบ แต่คู่เงินหลักที่นิยมเทรดใน Tickmill จะลบเกือบทั้งหมด
* ดังนั้นจากข้อมูลที่เทรดจริงมาทุกบัญชี ทั้งในแง่ความเร็วในการเทรดที่พอๆกัน จึงมาชนะที่ค่าบริการรวม ถ้าไม่รวมบัญชี VIP บัญชี Pro ถือว่ากินขาดครับ ค่าบริการรวมถูกกว่ามาก

บทสรุป รีวิว Tickmill
โบรกเกอร์ Tickmill เป็นโบรกเกอร์ Forex อีกรายที่น่าสนใจ จากข้อดีเรื่องความลื่นไหลในการเทรด มีหน้าเว็บภาษาไทยที่แปลมาแบบอ่านเข้าใจง่าย การฝาก-ถอนอยู่ในเกณฑ์เร็ว ฝาก-ถอนผ่านธนาคารออนไลน์ได้เลย แพลตฟอร์มการเทรดใช้ Metatrader 4-5, MetaTrader WebTrader, และ MetaTrader สำหรับ Mac ที่เป็นมาตรฐาน เทรดผ่านได้ทั้ง เด้สท็อป, เว็บไซต์, Andriod, iOS, หรือ Mac ที่เป็นมาตรฐานของ Metatrader อยู่แล้ว
มีสื่อข้อมูลสำหรับให้ความรู้มากมาย หลากหลายรูปแบบ รวมทั้งพวกวิเคราะห์ข่าวพื้นฐาน หรือทาง technical analsysis และมี Tool ให้สัญญาณช่วยเทรดอย่าง Autochartist ให้ฟรีด้วย (กรณี Autochartist หลายๆ โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ชั้นนำ ก็มีทำแบบเดียวกัน ส่วนตัวผมชอบครับ ทำให้การเทรดง่ายขึ้น)

Review Broker Forex
วิเคราะห์ วิจารย์ ข้อดี-ข้อเสีย ข้อมูลจากการเทรดด้วยบัญชีจริง โดยทีมงานหลายคน ...
เงื่อนไขการเทรดสำหรับเทรดเดอร์ ถือว่าดี โดยบัญชี Pro และ VIP ซึ่งเป็นบัญชีแบบมีค่าคอมมิชชั่น ถือว่าถูกกว่าหลายๆโบรกเกอร์ โดยตกอยู่ที่ 4 ดอลลาร์สำหรับบัญชี Pro และ 2 ดอลลาร์ สำหรับบัญชี VIP ในขณะที่โบรกเกอร์อื่นๆ ด้วยเงื่อนไขการเทรดที่คล้ายกัน ต้นทุนจะตกอยู่ที่ 6-7 ดอลลาร์ขึ้นไป * บัญชีเทรดที่แนะนำ เพราะคุ่มค่าที่สุดคือ บัญชี Pro
เรื่องของ liquidity providers ไม่ได้เปิดเผยข้อมูลมากที่หน้าเว็บ แต่ที่เห็นคือ Tickmill Prime นั่นคือสิ่งที่ทาง Tickmill ลงทุนมากด้าน liqidity จึงไม่แปลกที่ทางโบรกเกอร์จะยืนยันว่าการดำเนินการคำสั่งรวดเร็ว slippage น้อย ถือได้ว่าเป็นโบรกเกอร์ที่น่าสนใจอีกโบรกเกอร์หนึ่ง

เว็บไซต์อ้างอิง
ทีมงาน: forexthai.in.th
Pingback: 9 โบรกเกอร์ Forex ที่มีโบนัสต้อนรับ ที่ดีที่สุด 2024 - เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ Forex