Forexthai.in.th ย่อให้
- แนวคิดหลักของระบบ: เทรดตาม “การทะลุกรอบ” จากราคาเปิด (Opening Price) โดยตั้ง Buy Stop / Sell Stop รอทะลุขึ้นหรือลง โดยไม่เดาทิศทางล่วงหน้า
- เงื่อนไขเข้าออเดอร์: ตั้ง Buy Stop ที่ด้านบนราคาเปิดโดย + 200 pips และ Sell Stop ที่ด้านล่าง – 200 pips
- จุดแข็งของระบบ: ไม่ต้องเดาทิศทาง ใช้ Momentum จริงจากตลาดเปิด เหมาะกับคู่เงินหรือดัชนีที่แกว่งแรงอย่าง US30
- จุดอ่อนของระบบ: มีความเสี่ยงโดน SL ในวัน Sideway ต้องมี Money Management ที่ดี
- ปัจจัยที่ทำให้ระบบได้ผลดีที่สุด: วันที่มีข่าวแรง (Non-Farm, CPI, FOMC)
ระบบเทรด Opening Price US30 ระบบนี้เรียบง่ายแต่ทรงพลัง เพราะมันใช้แค่ ราคาเปิดของวัน เป็นจุดตั้งต้นในการเทรดทั้งหมด โดยเฉพาะกับ US30 (Dow Jones) ที่เป็นสินทรัพย์เคลื่อนไหวแรงทุกวันอยู่แล้ว เทรดเดอร์คนไหนที่ไม่ชอบความยุ่งยากในการเทรด ตามไปดูรายละเอียดกันเลยครับ
ข้อมูลเบื้องต้น
ระบบนี้มองว่า “ราคาเปิดของวัน” เป็นเหมือนสมรภูมิหลัก ที่ราคาจะเลือกทิศทางหลังจากนั้นไม่ช้าก็เร็ว แล้วทำการเข้าเทรด โดยที่
- ถ้าราคา ทะลุเหนือราคาเปิด 200 pips แปลว่าตลาดมีโมเมนตัมขาขึ้นจริง (Breakout)
- ถ้าราคา หลุดต่ำกว่าราคาเปิด 200 pips แปลว่าตลาดเลือกลง (Breakdown)
- จุดนี้จะกลายเป็นโอกาสในการเข้าออเดอร์ผ่าน Buy Stop หรือ Sell Stop
US30 คืออะไร?
สินทรัพย์ในการเทรด US30 คือ ดัชนีอุตสาหกรรม Dow Jones Industrial Average (DJIA) โดยที่เกิดขึ้นจากการรวมราคาหุ้นของ 30 บริษัทขนาดใหญ่ ของสหรัฐฯ (เช่น Apple, Microsoft, Boeing, Goldman Sachs ฯลฯ) เปรียบเหมือนเป็นตัวแทนภาพรวมเศรษฐกิจอเมริกาผ่านบริษัทยักษ์ใหญ่

ปัจจัยต่อราคาของ US30
ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อราคาของ US30 มีดังนี้
- ผลประกอบการบริษัท (Earnings Reports):
หุ้นในดัชนี Dow 30 บริษัท ถ้ามีผลประกอบการดี ดัชนี US30 ก็จะปรับตัวขึ้น ถ้าแย่จะกดดันให้ US30 ปรับตัวลง
- ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ
ตัวเลขแรงงาน (Non-Farm Payrolls) ดัชนี CPI (เงินเฟ้อ) GDP, PMI, Retail Sales ฯลฯ ข้อมูลเหล่านี้สะท้อน “สุขภาพ” เศรษฐกิจโดยตรง ส่งผลต่อ US30 แบบรวดเร็ว
- นโยบายการเงินของ Fed (ดอกเบี้ย & QE/QT):
ถ้า Fed ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย หุ้นจะปรับตัวลง US30 ก็จะอ่อนตัวด้วย ถ้า Fed ผ่อนคลาย (ลดดอกเบี้ย / QE) หุ้นจะขึ้นแรง US30 ก็จะบวกแรงด้วยเช่นกัน
- สถานการณ์โลก & Geopolitics:
สงคราม, ความขัดแย้งทางการค้า (เช่น US-China), การเมืองสหรัฐฯ เหตุการณ์ใหญ่ระดับโลกเหล่านี้ กระทบ US30 ได้โดยตรง
- ตลาดพันธบัตร & Bond Yield:
ถ้าผลตอบแทนพันธบัตร (10 ปี) พุ่งขึ้นแรง แล้วนักลงทุนย้ายเงินออกจากหุ้น US30 จะอ่อนตัว แล้วถ้า Yield ลดลง หุ้นกลับมาน่าสนใจ US30 ก็จะได้แรงหนุนตามไปด้วย
- จิตวิทยาตลาด & Risk Sentiment:
ความเชื่อมั่นและความกลัวมีผลเช่นกัน ตลาดในช่วง “Risk-on” เมื่อนักลงทุนซื้อหุ้น US30 จะบวก ส่วนตลาดในช่วง “Risk-off” เงินไหลออกจากตลาดหุ้น US30 จะติดลบ
นิสัยของ US30 ที่ต้องรู้
- ตลาดมีความผันผวนสูง: US30 จะวิ่งแรงในแต่ละวัน บางวันแกว่งเกิน 1000 pips ได้ง่าย ชอบ Breakout: เมื่อทะลุ High/Low สำคัญ มักไปต่อแรง
- Fake Move เก่ง: มักมีหลอกขึ้นหลอกลงในช่วงข่าวหรือก่อนเลือกทิศทาง
- ชอบเล่นกับข่าว: ข่าวเศรษฐกิจใหญ่มีผลต่อทิศทางแทบจะทันที

ข้อดีของระบบนี้
- ไม่ต้องเดาเทรนด์ตั้งแต่แรก รอให้ตลาดเลือกทางเอง
- ใช้แค่ราคาเปิดเป็นแกนกลาง ไม่ต้องดูอินดิเคเตอร์
- เหมาะกับคนที่ชอบเล่น Breakout จังหวะเปิดตลาด NY หรือข่าวแรง ๆ
- มีการบริหารความเสี่ยงที่ชัดเจน เสมอภาคทุกวัน SL 100 pips, โอกาสทำกำไรสูงกว่า 1:2 ได้ง่าย
ตารางเวลา Best Time to Trade US30
เวลาที่ดีและที่ควรหลีกเลี่ยงสำหรับการเทรด US30 ตามเวลาของไทย คือช่วงเวลาดังต่อไปนี้
- 07:00-09:00: ช่วงเปิดตลาดเอเชีย การเคลื่อนไหวจะเบา ๆ แบบ Sideway ควรเทรดแค่เล็กน้อย
- 13:00-15:00: ตลาดยุโรปเริ่มตื่นตัว ช่วงนี้เริ่มมี Volatility จากฝั่งยุโรป แต่ยังไม่แรงมาก เทรดแบบ Scalp สั้น ๆ ได้
- 15:30-17:00: ตลาดยุโรปเปิดเต็มตัว แรงซื้อขายเริ่มหนาแน่น มีโอกาสทั้งขึ้นหรือลง แต่เป็นเพียงการ Breakout เล็ก ๆ
- 20:30-22:00: ตลาดนิวยอร์กเปิด (Prime Time) ความผันผวนจะสูงที่สุด Big Players เข้าตลาด จะเกิด Breakout ที่ดี เป็นช่วงเวลาที่เหมาะแก่การเทรดที่สุด
- 22:00-23:30: ตลาดเริ่มเลือกทิศทางจริง ๆ หากเช้าเทรดช่วงไซด์เวย์ตอนนี้ มักจะมีการ Break จริง
- หลัง 23:30: ตลาดเริ่มเบาลง แรงซื้อขายเริ่มหาย บางวันอาจสวิงกลับตัว ให้เทรดเฉพาะกรณี เช่น มีข่าวใหญ่เท่านั้น

กลยุทธ์ที่ใช้ตามช่วงเวลา
Scalp สั้น (10-30 pips)
- ใช้ตอนตลาดยุโรปเปิดใหม่ ๆ
- เน้น Rebound หรือ Fade Move สั้น ๆ
Breakout Strategy
- เปิดใช้เต็มที่ตอน 20:30-22:00 น. (ตลาดนิวยอร์กเปิด)
- เหมาะกับระบบ Opening Price US30 ที่สุดเลย
Trend Following (Ride Big Trend)
- ถ้า Breakout แล้ววิ่งต่อ ให้เปิดไม้ตามน้ำ
- จัดการกำไรด้วย Trailing Stop 50 pips หรือ Partial TP
Avoid (ไม่เทรด)
- หลัง 23:30 น. หรือช่วงตลาดนิ่งหรือข่าวเงียบ (เว้นแต่ว่า Non-Farm, FOMC, CPI)
แผนการเทรด
- เปิดระบบ “Opening Price US30” ทุกวันตอน 20:30 น.
- เน้นให้จบเกมไม่เกิน 22:30 น. ได้กำไรก็ออก โดน SL ก็พอ อย่าฝืน
- วันไหนข่าวแรง วิ่งทีเป็นพัน pips อย่าลืมขยับ TP2 ไกลขึ้น และเล่นกับ Trailing Stop ให้เป็น
- สินทรัพย์ US30 ตัวนี้ มี ADR รายวันอย่างน้อย 400 pips
- ในโตเกียวและลอนดอนโดยปกติจะมีโอกาสทำกำไรได้ประมาณ 100 ถึง 250 pips ในช่วงเวลาดังกล่าว

Flow Chart
ต่อไปนี้คือ Flow Chart ของระบบ Opening Price US30 แบบเข้าใจง่าย ๆ พร้อมทริกเด็ดแบบมืออาชีพที่นำไปใช้จริงในสนามเทรดได้นะครับ
- เริ่มต้นวันใหม่ (เวลาเปิดตลาดที่คุณสนใจ เช่น 7:00, 15:30, 20:30 ตามเวลาไทย) ให้บันทึกราคาเปิด (Opening Price) ของ US30
- ตั้ง Pending Order โดย
-
- Buy Stop = Opening + 200 pips
- Sell Stop = Opening – 200 pips
- Stop Loss = 100 pips จากจุดเข้า
- รอให้ราคาวิ่งไปแตะจุดเข้า (Buy หรือ Sell)
- จัดการกำไร
-
- TP1 = +50 pips (ปิดครึ่งไม้หรือทั้งหมดบางส่วน)
- TP2 = +100 / 150 / 200 pips (แล้วแต่เลือก)
- เปิด Trailing Stop 50 pips บน TP2
- รอจนถึง TP2 หรือโดน Trailing Stop
- จบวัน ปิดออเดอร์ทั้งหมด ไม่ถือข้ามคืน

ทริกพิเศษ
เวลาเปิดกราฟสำคัญมาก
- ช่วง NY เปิดตลาด (20:30-22:00 น. ไทย) ความผันผวนสูงสุด
- เน้นเล่น Opening ของวัน ก่อนตลาด NY เป็นหลัก
เช็กข่าวใหญ่ด้วย
- ถ้ามีข่าว Non-Farm, CPI, FOMC จะได้ผลดีมาก (แต่ต้องระวังโดนลากหลอกก่อนเข้า)
- ถ้าวันไหนไม่มีแรงขับ (Volume เบา) ควรจะลด lot size หรือไม่เข้าเลย
กรอบ 200 pips คือ “Noise Filter”
- ระบบออกแบบ 200 pips ให้มันกรอง “Noise” ที่เกิดตอนตลาดเปิด
- เพราะ US30 มันแกว่ง 50-150 pips บ่อยมากในกรอบเล็ก ๆ
เทคนิค Break-Even หลัง TP1
- ถ้า TP1 โดน (ได้ +50 pips) ควรจะยก SL ไปที่ BE (+1 pip)
- ป้องกันกรณีราคากลับตัวเฉียบพลัน
ไม่เก็บไม้ค้างคืน
- ระบบนี้เหมาะกับ Day Trade
- ถ้าหลัง 22:30 น. ไทย แล้วยังไม่โดน TP2 ควรจะปิดไม้ (ไม่เสี่ยงค้าง)
เงื่อนไขการเทรด

เงื่อนไขการเข้า Buy Stop
- ตั้ง Buy Stop ที่ Opening Price + 200 pips
- SL = 100 pips ใต้จุดเข้า
- TP1 = +50 pips
- TP2 = +100 / 150 / 200 pips
- เปิด Trailing Stop 50 pips หลังเข้า TP2

เงื่อนไขเข้า Sell Stop
- ตั้ง Sell Stop ที่ Opening Price – 200 pips
- SL = 100 pips เหนือจุดเข้า
- TP1 = +50 pips
- TP2 = +100 / 150 / 200 pips
- เปิด Trailing Stop 50 pips หลังเข้า TP2
จุดอ่อนของระบบ
จุดอ่อนของระบบ Opening Price US30 ที่ควรรู้แบบตรงไปตรงมา มีดังนี้
- วันไหนไซด์เวย์ โอกาสโดน SL จะสูง: ถ้าวันไหน US30 วิ่งแบบไม่มีทิศ (Sideway ในกรอบแคบ) ราคาอาจจะไปชน Buy Stop หรือ Sell Stop แต่ไม่มีแรงวิ่งต่อ มักจะโดน SL 100 pips ง่าย ๆ
- ไม่เหมาะกับสภาพตลาดผันผวนไร้ทิศ (News Whipsaw): ช่วงที่ข่าวประกาศตัวเลขคลุมเครือ (ไม่ดีไม่แย่) ราคาจะแกว่งมั่ว เกิด Whipsaw เมื่อเปิดไม้แล้ว อาจโดนปั่นกราฟไปมาก่อนโดน SL
- ต้องการ Money Management ที่ดีมาก: เพราะเป็นระบบที่โดน SL ได้ง่ายในวันนิ่ง ๆ ถ้าไม่วางแผนเรื่อง Risk\:Reward และขนาดไม้ดี ๆ อาจหมดแรงใจเร็ว
- ไม่มี Filter แนวโน้มใหญ่: ระบบนี้เปิดไม้ตามราคาเปิดอย่างเดียว ถ้าไม่ดูแนวโน้มใหญ่ (เช่น H4 หรือ D1) ประกอบ โอกาสเจอ Fake Signal สูงขึ้น เช่น เปิด Buy แต่กราฟ Day กำลังขาลงหนักอยู่ โดนลากง่าย

สรุป
ระบบเทรด Opening Price US30 ใช้การตั้งคำสั่ง Buy Stop และ Sell Stop ที่ระดับ 200 pips เหนือหรือต่ำกว่าราคาเปิด ระบบนี้เน้นการเทรดตามแรงโมเมนตัมจากตลาดเปิด เหมาะกับช่วงเวลาตลาดนิวยอร์กที่มีความผันผวนสูง แต่มีจุดอ่อนในวันที่ตลาดไซด์เวย์ ทำให้เสี่ยงโดน SL ได้ง่าย จึงต้องมีการบริหารความเสี่ยงและเลือกวันเทรดอย่างรอบคอบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด
สำหรับเทรดเดอร์ที่มีความประสงค์จะนำระบบเทรดตัวนี้ ไปปรับใช้กับสินทรัพย์ตัวอื่น ๆ ในตลาด Forex ก็สามารถที่จะทำได้เช่นกัน เอาตามที่ชอบได้เลยครับ
ทีมงาน: forexthai.in.th