Indicator Forex ที่นักเทรดจำเป็นต้องรู้ มีไม่ต้องมากครับ เน้น ๆแต่ตัวที่เรารู้จริง รู้ลึก และชำนาญ เราเรียกกันสั้น ๆ ว่า อินดี้ ก่อนอื่นผมขอ อธิบายความหมายของเจ้า อินดิเคเตอร์นี้ก่อน..ว่า คือ อะไร .. คือ เครื่องมือชี้วัด โดยการนำเอาราคาคู่เงิน ย้อนหลังมาคำนวณ ตามรูปแบบ หริอตามสูตรต่าง ๆ ของ indicator Forex แต่ละตัว โดยเทรดเดอร์นำมาใช้ในการตัดสินใจในการเทรดว่าจะขึ้นหรือลง
Indicator Forex ที่ควรใช้ Indicator ที่ตัว Trader เองถนัดและที่สำคัญใช้อย่าเยอะเพราะจะเกิดการสับสนของสัญญาณได้ เพราะฉะนั้นการที่ใช้ Indicator ไม่ได้แปลว่าเราคือมืออาชีพ แต่นั่นอาจจะแสดงถึงการไม่แน่ใจใน Indicator ตัวใดตัวหนึ่ง โดยปรกตินั่นจะใช้อยู่ที่ราว 3 – 4 ตัวในการใช้งาน ก็ถือว่าเยอะสำหรับ การ Trade Forex นะครับ
สารบัญบทความ click เพื่อเลือกอ่าน !!
Indicator Forex มีประโยชน์ ดังนี้
1.ช่วยบอกเทรน (trend) หรือแนวโน้มหลักว่าเป็นไปในทิศทางใด
2.สามารถบอกสัญญาณซื้อหรือขายได้ พร้อมทั้งบอกจุดที่เราจะทำการปิดคำสั่งซื้อขาย ตามเงื่อนไขที่เราได้ตั้งขึ้น
3.ช่วยลดความเสี่ยงในจุดเข้าซื้อขาย เพิ่มกำไรในออร์เดอร์

indicator Forex ที่ดีที่สุดจะเป็นอินดิเคเตอร์ที่เหมาะสมกับสไตล์การเทรด ดังนั้นมันจึงไม่มีหรอกอินดี้ที่ดีที่สุดบน Forex มีแต่ตัวที่เหมาะกับสไตล์การเทรดโดยรวมและครอบคลุม แต่มีสิ่งที่ดีก็คือ มีอินดิเคเตอร์ทางเทคนิคบน Forex มีให้เลือกอยู่อย่างหลายรูปแบบ และจากประสบการณ์ของเราบวกกับใช้เวลาทดลองกับอินดิเคเตอร์ เราก็จะสามารถหาอินดิเคเตอร์ที่เหมาะสมสำหรับตัวเอง
indicator forex ยอดนิยม
อินดิเคเตอร์นั่นมีหลากหลายให้ได้เลือกกัน indicator Forex ที่วัดทั้ง ‘ราคาเปิด’, ‘สูง’, ‘ต่ำ’, ‘ราคาปิด’ และ ‘ปริมาณ’ นี่เป็นเหตุผลที่เราอยากแนะนำให้เริ่มด้วยอินดิเคเตอร์การซื้อขาย Forex ที่ง่ายก่อน ซึ่งในบทความนี้ได้รวบรวมอินดิเคเตอร์ต่างๆที่ดี และเป็นที่นิยมของบรรดาเทรดเดอร์ รวมทั้งบอกถึงข้อดีและข้อด้อยของแต่ละอินดิเคเตอร์ไว้ให้ งั้นเรามาเริ่มดูอินดิเคเตอร์ประเภทต่าง ๆ กันเลย
Indicator forex : EMA
จัดเป็นอินดี้ในกลุ่มที่เป็น ค่าเฉลี่ยของราคา หมวด Moving Average นักเทรดจะใช้ดูแนวโน้มของเทรน ทั้งวัดความแข็งแกร่งของเทรนและแนวโน้มด้วย เพื่อให้ความรู้สึกได้ถึงความโดดเด่นของเทรนที่เกิดขึ้นได้ด้วย
นับได้ว่าอาจเป็นอินดิเคเตอร์ที่ดีที่สุดสำหรับ Forex มีการคำนวณความแตกต่างระหว่าง EMA ที่เร็วขึ้น และ EMA ที่ช้าลง ซึ่งเป็นแนวคิดหลักที่อยู่เบื้องหลังของอินดิเคเตอร์นี้ โดยที่อินดิเคเตอร์จะแปลงข้อมูลมาเป็นกราฟราคาสองบรรทัดเพื่อให้เราทราบแนวโน้ม
EMA 14,34 จัดได้ว่าเป็นค่าเฉลี่ย ที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายพอสมควร , EMA 50 , EMA100 , EMA200 ก็ใช้บ่อยเหมือนกัน โดยใช้เป็นตัวระบุเทรนของกราฟ เช่น แท่งเทียนอยู่ต่ำกว่า EMA100
หรือ EMA200 ถือว่าเป็นเทรนขาลง .. แล้ว เส้น EMA ใช้กี่วันดีที่สุด ไม่สามารถฟันธงหรือตอบให้เคลียร์จบตรงประเด็นได้ว่าใช้กี่วันดีที่สุด เพราะนั่นขึ้นอยู่กับข้อจำกัดของเทรดที่ต่างกัน แต่หลักการสำหรับการเลือกใช้เส้นค่าเฉลี่ยนั้น เส้นเหล่านี้จะช่วยอ่านแนวโน้มทั้งระยะสั้น กลาง ยาว ดังนั้นการแบ่งเส้นค่าเฉลี่ยเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้…
1.EMA ระยะสั้น
เส้นแนวโน้มที่นิยมใช้ 5-10 วัน ซึ่งจะช่วยบอกการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มแบบระยะสั้นมากๆ เหมาะกับคนที่มีเวลาเฝ้าหน้าจอ อย่างนักลงทุนแบบ Day Trade …ถ้าเร็วไปอาจใช้ช้าลงหน่อยเป็น 20 หรือ 25 วัน ช่วยลดความผันผวนและเห็นแนวโน้มชัดเจนขึ้น
2.EMA ระยะกลาง
เส้นแนวโน้มหลักในภาพที่กว้างขึ้น เหมาะกับคนที่ไม่มีเวลาดูจอทั้งวัน อย่างนักลงทุนแบบ Trend Follower เส้นที่นิยมที่สุด คือ 50 วัน ตามด้วย 75 และ 100 วัน
3.EMA ระยะยาว
เป็นเส้นแสดงแนวโน้มการเคลื่อนไหวรอบใหญ่หลักเดือนและปี บอกสภาวะของแนวโน้มขาขึ้นและขาลงอย่างชัดเจน เส้นที่นิยมใช้มากที่สุด คือ 200 วัน
Review Broker Forex
วิเคราะห์ วิจารย์ ข้อดี-ข้อเสีย ข้อมูลจากการเทรดด้วยบัญชีจริง โดยทีมงานหลายคน ...
Indicator Forex : Bollinger Band
จัดเป็น indicator Forex ที่คล้าย ๆ กับ Moving Average เป็น เครื่องมือที่ช่วยวัด Volatility ถ้าตลาดมี Volatility ต่ำ Bollinger Bands ก็จะถูกบีบแคบ และในทางตรงกันข้ามเมื่อตลาดมี Volatility สูง Bollinger Bands ก็จะขยายกว้างขึ้น ซึ่งเราสามารถมองเห็นเส้น Bollinger Bands ได้อย่างชัดเจน โดย Bollinger Bands จะมีเส้นด้านบนและเส้นด้านล่างเป็นหลัก ส่วนเส้นตรงกลางระหว่างเส้นบนและเส้นล่างจะเป็นเส้น 21 Moving Average (เป็นค่าเริ่มต้น)
มาดูกันว่า เจ้า indicator forex : Bollinger Bands อย่างคร่าว ๆ ก่อนนะครับ ใช้อะไรได้บ้าง
1.ใช้ในการหาแนวต้านและแนวรับของกราฟ : เส้นขอบบนทำหน้าที่เป็นแนวต้าน ส่วนเส้นที่ 2 คือเส้นขอบกลางทำหน้าที่เป็นทั้งแนวต้านและแนวรับ เส้นขอบล่าง ทำหน้าที่เป็นแนวรับ
2.ใช้ในการหาแนวโน้มของกราฟราคา : แนวโน้มขาลง , แนวโน้มขาขึ้น
แนวโน้มขาลง
ลักษณะของแนวโน้มขาลง ราคาจะอยู่บริเวณเส้นขอบล่างและไม่ค่อยจะขึ้นไปทะลุเส้นขอบกลางไปได้ หรืออาจจะขึ้นไปทะลุเส้นขอบกลางไปได้แต่ก็อาจจะกลับมาที่เส้นขอบล่าง
แนวโน้มขาขึ้น
ลักษณะของแนวโน้มขาขึ้น ราคาจะอยู่บริเวณเส้นขอบบนและไม่ค่อยจะตกลงมาทะลุเส้นขอบกลางไปได้ หรืออาจจะตกลงมาทะลุเส้นขอบกลางไปได้แต่ก็อาจจะกลับมาที่เส้นขอบบน
- Bollinger Bands นั้นเราสามารถใช้เป็นสัญญาณเตือนเมื่อตลาดเข้าสู่สถานะ Overbought : (Bollinger Bands จะแคบ) และ Oversold (Bollinger Bands จะกว้าง)
การใช้ Bollinger Bands คู่กับ Indicator Forex อื่น
Bollinger Bands นั้นสามารถใช้ร่วมกับ Indicators ตัวอื่น ๆ เช่น Relative Strength Index (RSI) และ MACD เพราะฉะนั้นก่อนที่จะนำ Indicators 2 ตัวข้างต้นมาใช้ร่วมกับ Bollinger Bands แนะนำว่าให้ทำ Back-test เสียก่อนนะครับ ซึ่งถ้าทำ Back-test แล้วจะเห็นว่ามีเสถียรภาพในการใช้งานพอสมควร
Indicator Forex : Stochastic
เป็น indicator Forex ชนิด Oscillator (ซึ่งคำนี้มันก็แปลว่า การแกว่งไปแกว่งมานั่นเอง) นั่นอาจเป็นชื่อที่ใช้เรียกในแง่ของลักษณะที่เกิดขึ้นในวิธีของอินดิเคเตอร์แบบอื่นที่มีแนวโน้มแบบแกว่งไปแกว่งมาได้ ซึ่ง Stochastic Oscillator จะคล้ายกับอินดิเคเตอร์อื่น ๆ ที่ช่วยในการระบุพื้นที่ที่มีการซื้อเกิน (overbought) หรือ ขายเกิน (oversold) ผ่านการวัดโมเมนตัม
โดยการวัดค่าของ Stochastic จะอยู่ในช่วง 0 – 100 จะแบ่งได้ 2โซนดังภาพคือโซน 0-20 และ โซน 80-100 นี่คือค่ามาตรฐานที่ให้มา
1.โซน 0-20 เรียกว่าโซนขายมาก (Over Sold)
2.โซน 80-100 เรียกว่าโซนซื้อมาก (Over Bought)
ใช้งานได้ดีในภาวะที่ตลาดเป็น Side Way ลักษณะของ Sto นั้นจะมีความเร็วพอกับราคาทำให้เรามองกราฟได้ง่าย ๆ ว่าช่วงไหนที่ราคามีการซื้อเยอะ หรือช่วงไหนที่ราคามีการเทขายเยอะในตลาด สำคัญครับ => Stochastic Oscillator ไม่เหมาะกับตลาดที่เป็นเทรน
สำหรับในสภาพที่กราฟ Sideway จะกลับตัวที่โซน 10-25 และ 75-90 ใน EUR/USD ช่วง Sideway ใช้ได้ดีใน TF 5 นาที ถ้าใช้ Stochastic เทรดในช่วง Sideway ให้เตรียมรองอีกสัก 2-3 ไม้ เผื่อโดนลาก
Super STO ( Super overbought/super oversold ) Super STO จะอยู่ในโซน 0-10 และ 90-100 สามารถใช้ได้กับ Trend ถ้าเข้า Super STO จะแสดงว่า ยังไปต่อได้อีก..
Indicator Forex : MACD
จัดได้ว่าเป็น อินดี้ตัวต้น ๆ ตัว TOP ที่นักเทรดใช้งานกันเลย.. ย่อมาจาก Moving Average Convergence Divergence ตัวนี้ทำงานแบบ วิ่งในกรอบ สถานะ Over Bought , Over sold และร่วมกับ เส้น Moving Average
ปกติแล้วเส้น MACD จะคำนวณโดยนำ EMA 26 วัน ลบกับ EMA12 วัน และจากนั้น EMA 9 วันของ MACD จะถูกพล็อตจุดเป็นเส้นสัญญาณแนวโน้ม เมื่อเส้น MACD ตัดตัวต่ำกว่าเส้นสัญญาณก็จะเป็นสัญญาณขาย
เมื่อมันข้ามเหนือเส้นสัญญาณมันเป็นสัญญาณซื้อ สามารถตั้งค่าพารามิเตอร์ทั้งสาม (26, 12 และ 9) ตามที่ต้องการ เช่นเดียวกับค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ การดำเนินของอินดิเคเตอร์จะช่วยให้การค้นหาการตั้งค่าที่เหมาะสมที่สุด
เราสามารถนำไปใช้งานเพื่อทำกำไรได้ใน 3 รูปแบบด้วยกัน ประกอบไปด้วย
- ทำการซื้อขายเมื่อแท่ง MACD Histogram ตัดที่เส้น 0.0 หรือหลักง่ายๆ คือให้มองว่าเส้น 0.0 คือผิวน้ำ และแท่ง MACD Histogram เป็นภูเขา เราจะสังเกตุดังนี้คือหาก MACD Histogram กำลังขึ้นเป็นลักษณะอยู่เหนือน้ำเราจะทำการ Buy แต่ในทางกลับกัน คือถ้า MACD Histogram กำลังลงสู่ใต้น้ำ เราจะทำการ Sell
- รอให้เส้น Signal Line (เส้นสีแดง) และ Moving Average (เส้นสีน้ำเงิน) ตัดกันได้สักพักหนึ่ง จึงทำการซื้อขาย เราจะไม่ทำการซื้อขายทันทีที่ทั้งสองเส้นตัดกัน โดยหลักการดูก็คือ ณ จุดตัด ถ้าเส้น Signal Line มีทิศทางลงให้ทำการ Buy แต่ในทางกลับกันคือ ถ้ามีทิศทางขึ้นให้ทำการ Sell
Indicator Forex : Relative Strength Index (RSI)
RSI จัดว่าเป็น indicator ประเภท Momentum oscillator ยอดนิยมตัวหนึ่งเลย โดยหลักการแล้วมันเอาไว้ใช้เพื่อวัดความเร็วและขนาดของการเคลื่อนไหวของราคา ซึ่ง indicator ตัวนี้ได้รับพัฒนาจากคุณ J.Wellws Wilder Jr.
RSI จะตีเส้นเอาไว้ที่ 0 ถึง 100 เพื่อระบุจุดกลับตัวของราคา โดยปกติทั่วไปแล้วจะคั้งค่าการคำนวณจากกำไร/ขาดทุนโดยเฉลี่ยของค่าเงินในช่วงเวลาที่กำหนด (ที่ของตัวเลข 14 ตอนที่เปิด indicator นั่นแหละ)
วิธีการใช้ RSI ทั่วไปมักนิยมตั้งค่าเพดานบนเอาไว้ที่ 70 และ เพดานล่างเอาไว้ที่ 30 เพื่อบอกภาวะการซื้อมากเกินไป (overbuy) และการขายมากเกินไป (oversell) ตามลำดับ… หากเส้นราคาวิ่งเกินเพดานไปแล้วบ่งบอกได้ว่ากำลังจะมีการกลับตัวของกราฟในไม่ช้า
ปัจจุบัน RSI นิยมใช้ควบคู่กับอีกหลาย ๆ indicators เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเทรด ไม่ว่าจะเป็น MACD, CCI, EMA เป็นต้น
สรุป
ทั้งหมดนี้คือการแนะนำให้รู้จักกับ Indicator forex เพื่อใช้ในการวิเคราะห์และลงทุน ด้วยการใช้โปรแกรม MT4 รวมทั้งการใช้เพื่อวิเคราะห์วางแผนลงทุนเบื้องต้น ซึ่งเทรดเดอร์สามารถทดลงใช้และปรับประยุกต์ตามความต้องการ..
ปัจจุบันเทรดเดอร์หลาย ๆ ท่านก็หันมาสนใจการสร้าง EA Forex กันมากขึ้น เพราะมันสามารถทำงานให้เราได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่บ่น ไม่เหนื่อย และที่สำคัญพวกเขามักนำ indicator เหล่านี้แหละครับมาสร้าง EA Forex อย่างง่าย
บทความแนะนำสำหรับผู้เริ่มเทรด Forex 
ทีมงาน: forexthai.in.th