ทำไมต้องมีระบบเทรด?

ระบบเทรด Forex เป็นการเทรดอย่างมีแบบแผน เปรียบเสมือนการมีแผนที่ในการเดินทาง การมีระบบที่ชัดเจนจะช่วยให้คุณเทรดได้อย่างมั่นใจ รู้ว่าควรทำอะไร เมื่อไหร่ และอย่างไร

เราได้รวบรวมระบบเทรดที่หลากหลาย ให้คุณเลือกใช้ตามสไตล์การเทรดที่ถนัด แต่ละระบบมีจุดเด่นและข้อดีแตกต่างกันไป ทุกระบบผ่านการทดสอบและใช้งานจริงมาแล้ว

สารบัญรายชื่อระบบเทรด

ระบบ Trend Following 24 ระบบ

ระบบ Counter-trend 3 ระบบ

ระบบ Range Trading 6 ระบบ

ระบบ Breakout 7 ระบบ

ระบบ Price Action 8 ระบบ

ระบบเทรดอื่นๆ 17 ระบบ

ระบบเทรดที่เหมาะกับมือใหม่

ระบบเทรดทอง

ระบบเทรดทั้งหมด

ระบบเทรด Trend Following

4 EMA

อ่านเพิ่มเติม
  • ระบบเทรดที่ใช้เส้น EMA 4 เส้น (EMA 8/12/24/72)
  • เหมาะกับ TF 1 ชั่วโมงขึ้นไป และตลาดที่มีเทรนด์ชัดเจน
  • แนะนำให้ใช้กับคู่เงิน EUR/USD, USD/CHF, AUD/USD, USD/JPY
อ่านเพิ่มเติม

A very simple system

อ่านเพิ่มเติม
  • ใช้เครื่องมือเพียง 2 ตัวคือ EMA และ CCI ในการหาแนวโน้มและหาจุดเข้า-ออก
  • แนะนำให้ดูจาก H4 แล้วลงมาดูจังหวะเข้าใน TF เล็กลง (5-15 นาที) โดยให้แนวโน้มสอดคล้องกัน
อ่านเพิ่มเติม

Bill Combo

อ่านเพิ่มเติม
  • ระบบเทรดแบบ Trend Following
  • ใช้อินดิเคเตอร์ 3 ตัว คือ Awesome Oscillator, Gator Oscillator ร่วมกับ MACD
  • ใช้ในไทม์เฟรม 4H ขึ้นไป เหมาะกับคนที่ชอบเทรดน้อย ๆ
อ่านเพิ่มเติม

Candle Rejection

อ่านเพิ่มเติม
  • ใช้ EMA ในการดูเทรนด์และหาจุดเข้าเทรด โดยเข้าเทรดเมื่อเกิดแท่งเทียน Rejection
  • เป็นระบบเทรดตามเทรนด์ที่มีจุดเข้าชัดเจนและสามารถสะสมออเดอร์ได้
  • แพ้ตลาด Sideway และต้องปรับค่า EMA ตามแต่ละคู่เงิน
อ่านเพิ่มเติม

CHOROS System

อ่านเพิ่มเติม
  • ใช้การวิเคราะห์ด้วยเส้นค่าเฉลี่ยหลายเส้น ทั้ง SMA และ EMA
  • มีการตั้งค่าเฉพาะสำหรับแต่ละ Timeframe เพื่อยืนยันแนวโน้มและจุดกลับตัว
  • เน้นความยืดหยุ่นในการปรับแต่ง ให้เหมาะกับสไตล์การเทรด
อ่านเพิ่มเติม

EMA 5/8 Crossover

อ่านเพิ่มเติม
  • ระบบเทรดยาวบน TF Daily
  • ใช้ Trailing Stop ในการทำกำไร เหมาะกับเทรดเดอร์ทุกระดับ ไม่ต้องเฝ้าหน้าจอ (ตั้งแจ้งเตือนได้)
  • คู่เงินที่เหมาะ NZD/JPY, GBP/JPY, GBP/USD
อ่านเพิ่มเติม

EMA Channel

อ่านเพิ่มเติม
  • เป็นระบบเทรดในกรอบ Daily ที่ใช้ EMA Channel เพื่อสร้างกรอบการเคลื่อนไหวของราคา
  • เข้าเทรดเมื่อแท่งเทียนที่มีราคาเปิดนอก Channel สามารถปิดเข้ามาใน Channel ได้ โดยตั้ง Stop loss ไว้ที่จุดต่ำสุด/สูงสุดของแท่งเทียนที่เข้า
  • เน้นการถือยาวจนกว่าจะเกิดการเปลี่ยนเทรนด์ จึงต้องระวังเรื่องค่า Swap
อ่านเพิ่มเติม

EMA Pullback

อ่านเพิ่มเติม
  • ระบบเทรดสั้นในไทม์เฟรม 1 นาที โดยใช้ EMA 2 เส้น ร่วมกับ MACD แล้วรอราคาย่อตัว (Pullback)
  • เหมาะกับตลาดที่มีเทรนด์ชัดและ Volume สูง (ช่วงนิวยอร์ก)
  • แพ้ตลาด Sideway และต้องระวังเรื่อง Spread
อ่านเพิ่มเติม

EOD (End of Day)

อ่านเพิ่มเติม
  • ระบบเทรดยาวใน TF Daily
  • ใช้ CCI (40) และ Stochastic (5,3,-2) เพื่อหาจุดเข้าเทรดตามเทรนด์ โดยดูการย่อตัวของราคาเป็นหลัก
  • RR 1:1.5 ไม่ต้องเฝ้าจอ ตั้งแจ้งเตือนได้ (ระวังเรื่อง Swap)
อ่านเพิ่มเติม

Magic 100

อ่านเพิ่มเติม
  • ระบบเทรดที่ใช้ EMA100 ในการจับจังหวะ “ดึงกลับ” ของราคา
  • มีจุดเข้า-ออก และจุด Stop Loss ที่ชัดเจน เหมาะกับมือใหม่เพราะใช้เครื่องมือน้อย
  • ทำกำไรได้ดีในตลาดที่มีเทรนด์ (ระวังสัญญาณหลอกเนื่องจากราคาอาจไม่ดึงกลับทุกครั้ง)
อ่านเพิ่มเติม

MA Crossover Pullback

อ่านเพิ่มเติม
  • ใช้การตัดกันของ EMA 8 และ EMA 21 เพื่อดูเทรนด์ และเข้าเทรดตามการดึงกลับของราคาที่เส้น EMA 8 (บน TF 4H)
  • เข้าเทรดเมื่อเห็น Inside Bar หรือ Two-bar Reversal บริเวณที่ราคาดึงกลับมาที่ EMA 8
  • ทำกำไรได้ดีในตลาดที่มีเทรนด์ชัดเจนและมีความเสี่ยงต่ำ
อ่านเพิ่มเติม

MA Crossover + Trend Line

อ่านเพิ่มเติม
  • เป็นระบบที่ใช้การตัดกันของ MA 2 เส้น ร่วมกับการใช้เส้นแนวโน้มเพื่อยืนยัน
  • ใช้กรอบเวลา H1 (1 ชั่วโมง) และมีการกำหนด RR ที่ชัดเจนคือ 1:3 โดยใช้ Stop loss 1%
  • เน้นการเทรดตามเทรนด์โดยใช้การวิเคราะห์ Higher Low (ขาขึ้น) และ Lower High (ขาลง) จากเส้นแนวโน้ม
อ่านเพิ่มเติม

MACD 4 Hour

อ่านเพิ่มเติม
  • เป็นระบบ Follow Trend บน Timeframe H4 โดยใช้ MACD ร่วมกับ MA 2 เส้น
  • เหมาะกับคู่เงินที่มีเทรนด์ชัดเจน อย่าง EURUSD
  • RR อย่างน้อย 1:1.5 (แนะนำ 1:2) และหลีกเลี่ยงช่วง Sideway
อ่านเพิ่มเติม

MTF EMA Crossover

อ่านเพิ่มเติม
  • ใช้การวิเคราะห์ Multi-Timeframe
  • ดูทิศทางเทรนด์จาก EMA 5/12 และ RSI บนไทม์เฟรม 30m และหาจุดเข้าเทรดบน 5m
  • เป็นระบบที่มีความเสี่ยงต่ำ แม่นยำ (ระวังการโดน Stop Hunt เพราะใช้ Fixed SL)
อ่านเพิ่มเติม

Noise free system

อ่านเพิ่มเติม
  • เป็นระบบที่ใช้แท่งเทียน Heikin Ashi และ Heikin Ashi Exit เพื่อลดสัญญาณรบกวนและช่วยให้มองเห็นเทรนด์ได้ชัดเจนขึ้น
  • เข้าเทรดเมื่อแท่งเทียน Heikin Ashi เปลี่ยนสี และมีลักษณะเป็นแท่งเต็ม
  • ออกจากการเทรดเมื่อ Heikin Ashi Exit ส่งสัญญาณ
อ่านเพิ่มเติม

Regress เทรนด์ (REG Trading System)

อ่านเพิ่มเติม
  • ใช้ Regression Channel ร่วมกับ RSI ในการหาจังหวะเทรดตามเทรนด์
  • เน้นเทรดระยะสั้นบนกราฟ 1H กับคู่เงิน เช่น EURUSD
  • ระวังการ Repaint ของ Channel ซึ่งมีการปรับตัวตามราคา
อ่านเพิ่มเติม

Strat’s PASR Long Term

อ่านเพิ่มเติม
  • ใช้ Parabolic SAR ร่วมกับแนวรับแนวต้าน ในการหาจุดเข้าเทรดและบริหารความเสี่ยง
  • เป็นระบบที่เข้าใจง่าย ใช้ได้กับทุกคู่เงินและทุกไทม์เฟรม
  • ควรมีความรู้เรื่อง Price Action เพื่อยืนยันสัญญาณ
อ่านเพิ่มเติม

Supernova GBP/JPY TF 5m

อ่านเพิ่มเติม
  • เป็นระบบเทรดระยะสั้นในกรอบ M5 ที่ใช้กับ GBP/JPY โดยใช้อินดิเคเตอร์ 4 ตัว (T3 MA, DMI, QQE Alerts, Momentum) ร่วมกับแท่งเทียน Heikin Ashi
  • เข้าเทรดเมื่อทุกตัวชี้วัดส่งสัญญาณสอดคล้องกัน
  • ใช้ Trailing Stop ในการปิดกำไร โดยแบ่งเป็น 3 เป้าหมาย (20, 30, 35 pips)
อ่านเพิ่มเติม

Symphonie Trader System

อ่านเพิ่มเติม
  • เป็นระบบเทรดที่ใช้ตัวชี้วัด 4 ตัวทำงานร่วมกัน (Emotion, Trend, Sentiment และ Extreme) เพื่อยืนยันจุดเข้า-ออก
  • เข้าเทรดเมื่ออินดิเคเตอร์ทั้ง 4 ตัวส่งสัญญาณตรงกัน โดยมีการตั้ง Stop loss ที่จุด Swing และ Take profit ตามแนวรับ/แนวต้าน
  • เหมาะกับเทรดใน H1 ขึ้นไป (ไม่เหมาะกับตลาดผันผวนเพราะอาจเกิดสัญญาณหลอกได้)
อ่านเพิ่มเติม

TFM-RGB V.2

อ่านเพิ่มเติม
  • เป็นระบบที่ใช้เส้นสี 2 เส้น (แดง,น้ำเงิน) ในการหาจุดเข้าเทรด
  • ใช้ Dynamic Lot Size ในการจัดการเงินทุน
  • เหมาะกับการเทรดตามเทรนด์ระยะยาว RR 1:1.5 หรือ 1:2
อ่านเพิ่มเติม

TOP HIT ระบบเทรด EMA

อ่านเพิ่มเติม
  • รวมระบบเทรดที่ใช้ EMA ในการสร้าง ใช้บน TF 15m ขึ้นไป
  • ใช้ร่วมกับอินดิเคเตอร์อื่นๆ เช่น ADX, Parabolic SAR หรือใช้ EMA หลายเส้นร่วมกัน
  • ทุกระบบมีเงื่อนไขการเข้าเทรดที่ชัดเจน และใช้ได้กับทุกคู่เงิน
อ่านเพิ่มเติม

Williams% R, SAR X-over 15m candles

อ่านเพิ่มเติม
  • ระบบเทรดสั้นแบบ Trend Following บน TF 15 นาที
  • ใช้ Indicator เพียง 2 ตัวที่มีมาใน MT4/MT5 คือ Williams% R เพื่อดู Momentum และ Parabolic SAR เพื่อยืนยันแนวโน้ม
  • ไม่ต้องเฝ้าหน้าจอ สำหรับการทำกำไรต่อเนื่องในตลาดเทรนด์
อ่านเพิ่มเติม

ระบบเทรด Parabolic SAR

อ่านเพิ่มเติม
  • ใช้จุดไข่ปลา Parabolic SAR ร่วมกับ 3 Indicator (Awesome Oscillator, Accelerator Oscillator และ Stochastics) เพื่อยืนยันสัญญาณ
  • เป็นระบบเทรดระยะยาว ใช้กับไทม์เฟรม 1 วัน
  • ใช้ Stop Loss ตาม High/Low ของแท่งเทียน และมีการแบ่งปิดออเดอร์
อ่านเพิ่มเติม

ระบบเทรด 4H ไม่มี SL และ Leverage เน้นเก็บสั้น ๆ

อ่านเพิ่มเติม
  • เป็นระบบที่เทรดตามแนวโน้มในกรอบ H4 โดยใช้เพียง EMA 5 เป็นตัวชี้วัดหลัก
  • ไม่มีการตั้ง Stop Loss แต่ตั้ง Take Profit สั้นๆ ที่ 15-20 pips และจำกัดความเสี่ยงด้วยการใช้ล็อตขนาดเล็ก ไม่ใช้ Leverage
  • เหมาะกับ EUR/USD และควรเทรดเฉพาะฝั่งที่มีค่า Swap เป็นบวกเท่านั้น
อ่านเพิ่มเติม

ระบบเทรด Counter-trend (สวนเทรนด์)

Fake Out

อ่านเพิ่มเติม
  • เป็นระบบเทรดที่ใช้แนวรับแนวต้านร่วมกับการอ่านแท่งเทียน
  • โดยเทรดเมื่อเกิด False Breakout (Bull Trap/Bear Trap) ที่แนวรับแนวต้านสำคัญ
  • เสี่ยงต่ำ เทรดได้ทุกสภาวะตลาดและป้องกัน Stop Hunt ได้ดี
อ่านเพิ่มเติม

M1 Countertrend Scalping

อ่านเพิ่มเติม
  • ระบบเทรดบน M1 ที่ใช้ EMA และ RSI เพื่อจับจังหวะการย่อตัว
  • เน้นสวนเทรนด์ระยะสั้น ทำกำไรจากการย่อตัวของราคา (เสี่ยงสูง ต้องตั้ง SL/TP และหลีกเลี่ยงช่วงข่าว)
  • เน้นเทรดกับคู่เงินสภาพคล่องสูงเช่น EUR/USD, GBP/USD
อ่านเพิ่มเติม

Momentum MACD + Stoch

อ่านเพิ่มเติม
  • เป็นระบบเทรดระยะสั้นในกรอบ M5 เน้นจับจุดกลับตัวของราคาตั้งแต่ต้นเทรนด์
  • ใช้การยืนยันหลายชั้นจาก MACD, Stochastic และ EMA 2 เส้น 
  • ไม่ได้ใช้ RR ในการควบคุมความเสี่ยง แต่ใช้การตั้ง SL ตามแท่งเทียนและปิดกำไรเมื่อ EMA 2 เส้นตัดกัน
อ่านเพิ่มเติม

ระบบเทรด Range Trading (เทรดในกรอบ)

Bollinger Band RSI เทรดสั้น TF Daily

อ่านเพิ่มเติม
  • ระบบเทรดใน Daily ที่ใช้ Bollinger Bands และ RSI(8) ร่วมกับ SMA เพื่อหาจุดเข้าเทรด โดยดูการตัดกันของเส้น RSI กับ SMA
  • ใช้ Trailing Stop ในการจัดการกำไร
  • มื่อได้ 40 pips จะย้าย SL มาที่จุดคุ้มทุน และหลังจากนั้นใช้ Trailing Stop 25 pips
อ่านเพิ่มเติม

Pivot Trading

อ่านเพิ่มเติม
  • ใช้ Pivot Point (PP) เพื่อหาแนวรับและแนวต้าน ใช้ Fibonacci 61-100% ร่วมด้วย และควรดูข่าวเศรษฐกิจประกอบ
  • เป็นระบบที่เข้าใจง่าย ใช้ได้กับเกือบทุกคู่เงิน
  • สัญญาณไม่แม่นยำ 100% และไม่เหมาะกับตลาดเทรนด์
อ่านเพิ่มเติม

Range Trading

อ่านเพิ่มเติม
  • ใช้ 3 อินดิเคเตอร์ร่วมกัน คือ Envelope, RSI และ Stochastic เพื่อหาจุดเข้าเทรด
  • เหมาะกับตลาด sideway ใช้งานง่าย มีสัญญาณชัดเจน
  • เหมาะกับคู่เงิน CADCHF บนไทม์เฟรม H1
อ่านเพิ่มเติม

Trading the Cable swings via averages

อ่านเพิ่มเติม
  • ออกแบบมาเพื่อจับจังหวะแกว่งตัวของ GBP/USD โดยใช้ EMA ร่วมกับ RSI, Stochastic หรือ Bollinger Bands
  • สามารถปรับแต่งได้ตามสไตล์การเทรด
  • ระวังสัญญาณหลอกและความล่าช้าของอินดิเคเตอร์
อ่านเพิ่มเติม

US Market Trading System

อ่านเพิ่มเติม
  • ระบบที่ออกแบบมาสำหรับตลาด USD โดยเฉพาะ โดยใช้ความผันผวนของ USD เป็นโอกาสในการทำกำไร
  • ใช้ Channels และ ATR เป็นหลัก
  • Dynamic Stop Loss ด้วย ATR (2-3 เท่า ปรับตามความผันผวน)
อ่านเพิ่มเติม

Zigzag Pivot Point

อ่านเพิ่มเติม
  • ระบบเทรดจุดกลับตัวในไทม์เฟรม 1H ขึ้นไป
  • ใช้ Pivot Point หาแนวรับ-แนวต้าน ร่วมกับอินดิเคเตอร์ EMA, Zigzag และ Turbo JRSX เพื่อยืนยันการเข้าเทรด
  • เหมาะกับตลาด Sideway และต้องเฝ้าหน้าจอ
อ่านเพิ่มเติม

ระบบเทรด Breakout

4H Box Breakout

อ่านเพิ่มเติม
  • เป็นระบบที่เทรดใน H4 โดยวาดกรอบจาก High-Low ของ 4 ชั่วโมงแรก 
  • ใช้ EMA 30, 150, 200, 365 เป็นแนวรับ/แนวต้าน เข้าเทรดเมื่อราคาทะลุกรอบ Box Range โดยใช้คำสั่ง Buy/Sell Stop +1-3 pips จากจุด Break 
  • กรอง False Breakout โดยรอให้แท่งปิดพ้นกรอบ และหลีกเลี่ยงการเทรดในช่วงข่าวสำคัญ
อ่านเพิ่มเติม

CCI Momentum Breakout

อ่านเพิ่มเติม
  • ดูการ Breakout ของค่า CCI ในโซน Overbought และ Oversold ร่วมกับเส้น EMA 200
  • มีการแบ่งปิดกำไร โดยใช้ RR 1:1 และ 1:2 ควรใช้ H1 ขึ้นไป
  • ต้องเฝ้าหน้าจอ แต่ระบบมีความยืดหยุ่นสูง
อ่านเพิ่มเติม

Machine Scalping

อ่านเพิ่มเติม
  • เน้นเทรดในช่วง Kill Zone (ยุโรป-อเมริกาเปิด) และ NY Open
  • ใช้แนวรับ-ต้านเป็นจุดสำคัญในการ breakout และใช้ volume และ ATR ในการยืนยัน
  • เน้นเทรดใน TF เล็ก (M1-M5)
อ่านเพิ่มเติม

Pro7 EA trading analysis 28+GOLD

อ่านเพิ่มเติม
  • เป็นระบบเทรด EA ที่ใช้การ Breakout เป็นหลักในการเข้าเทรด
  • ใช้อินดิเคเตอร์ Moving Average, Bollinger Bands และ RSI
  • มีระบบจัดการความเสี่ยงในตัว และสามารถตั้งค่าได้ตามต้องการ
อ่านเพิ่มเติม

The DIBS Method

อ่านเพิ่มเติม
  • ใช้รูปแบบแท่งเทียน Inside Bar ในการวิเคราะห์ โดยเน้นจากการ Breakout
  • ใช้ TF Daily เป็นหลัก (เทรดช่วง 9-10 ชั่วโมงแรกหลังตลาดเปิด)
  • ตั้ง SL โดยใช้ High/Low ของแท่ง และ TP ตามขนาดของรูปแบบ Inside Bar
อ่านเพิ่มเติม

ระบบเทรด 5m RR 1:4 ด้วย Triangle Pattern

อ่านเพิ่มเติม
  • เป็นระบบที่วิเคราะห์รูปแบบ Triangle ในกรอบ 15m หรือ 1H เพื่อหาจุดเข้าเทรดในกรอบ 5m
  • เทรดเมื่อเกิดการ Break Out จากรูปแบบ Triangle โดยใช้ RR 1:4 (SL 5 pips, TP 20 pips) และใช้กับคู่เงินหลักเท่านั้น
  • เน้นเทรดตามทิศทางเทรนด์หลัก
อ่านเพิ่มเติม

ระบบเทรดจุดกลับตัวด้วย 1-2-3 Pattern

อ่านเพิ่มเติม
  • เป็นระบบที่ใช้รูปแบบ 1-2-3 Pattern (พวก Head & Shoulders, Double/Triple Top/Bottom) ร่วมกับ RSI Divergence เพื่อหาจุดกลับตัว
  • เน้นการรอให้เกิดสัญญาณยืนยันครบทั้งหมดก่อนเข้าเทรด
  • ออกแบบมาสำหรับ EUR/USD ในกรอบ M5 แต่สามารถปรับใช้กับคู่เงินและไทม์เฟรมอื่นได้
อ่านเพิ่มเติม

ระบบเทรดรับ/แนวต้าน + Fibo

อ่านเพิ่มเติม
  • เป็นระบบที่ใช้การวิเคราะห์หลายไทม์เฟรม โดยตีแนวรับแนวต้านร่วมกับการอ่านแท่งเทียนกลับตัว
  • ใช้แนวรับ/แนวต้านถัดไปเป็น TP และใช้จุดต่ำ/สูงสุดของแท่งเทียนเป็น SL
  • RR สูง แต่สัญญาณเทรดน้อย (เหมาะกับคนใจเย็น)
อ่านเพิ่มเติม

ระบบเทรดรายวัน 95 Pips

อ่านเพิ่มเติม
  • เป็นระบบเทรดที่ดูราคาสูงสุด/ต่ำสุดในช่วง 00.00-05.00 น. ของ USD/JPY และใช้คำสั่ง Buy/Sell Stop ในการเข้าเทรด
  • ใช้การเปิด 3 คำสั่งพร้อมกัน มี TP ที่แตกต่างกัน (15, 30, 50 pips) เพื่อให้ได้กำไรรวม 95 pips 
  • เป็นระบบเทรดรายวัน ไม่มีการถือข้ามคืน 
อ่านเพิ่มเติม

ระบบเทรด Price Action

3 Bars Swing

อ่านเพิ่มเติม
  • ระบบเทรดจุดกลับตัวที่ใช้แท่งเทียน 3 แท่งในการหาจุดเข้าเทรด
  • เหมาะกับ TF H4-D1 และ Sideway (ไม่ต้องใช้ Indicator เพิ่ม)
  • เน้นจุดเข้าที่ได้เปรียบ เหมาะกับคู่เงินที่มีเทรนด์ชัดเจน เช่น EURUSD, NZDUSD
อ่านเพิ่มเติม

Highest Open / Lowest Open

อ่านเพิ่มเติม
  • ใช้ราคาเปิดเป็นหลักในการตัดสินใจ เช่น Buy เมื่อราคาเปิดสูงกว่าวันก่อน (Highest Open)
  • วิเคราะห์โดยใช้ 2 ไทม์เฟรม คือ H1 เพื่อหาโซนเข้าเทรด และ M15 เพื่อหาจุดเข้าที่ดี
  • เข้าใจง่าย เหมาะกับการเทรดทุกคู่เงิน
อ่านเพิ่มเติม

High Probability Trading

อ่านเพิ่มเติม
  • เน้นความแม่นยำในการเทรดสูง โดยใช้ Equidistance Channel และ RSI เป็นเครื่องมือหลัก
  • RR สูง แต่จำนวนการเทรดน้อย เพราะรอเฉพาะจังหวะที่เหมาะสมเท่านั้น
อ่านเพิ่มเติม

MTF Engulf/Engulf Fail

อ่านเพิ่มเติม
  • ใช้การวิเคราะห์แท่งเทียนกลืนกิน (Engulfing) ในหลาย TF พร้อมกัน โดยเริ่มจาก W1 ลงมาถึง H1 เพื่อหาทิศทางที่ชัดเจน
  • เข้าเทรดเมื่อเกิด Engulfing (ที่เกิดซ้ำในหลาย TF)
  • ตั้ง Stop Loss ใต้/เหนือแท่ง Engulfing
อ่านเพิ่มเติม

Order Block Theory

อ่านเพิ่มเติม
  • ระบบที่วิเคราะห์โซนที่มีการซื้อขายหนาแน่น (Order Block) เพื่อคาดการณ์จุดกลับตัวของราคา
  • ใช้เครื่องมือหลักคือ RSI, OBV และ Ichimoku Cloud
  • แม่นยำและยืดหยุ่นสูง ปรับใช้ได้กับหลายสินทรัพย์
อ่านเพิ่มเติม

PVSRA (Price, Volume, S&R Analysis)

อ่านเพิ่มเติม
  • วิเคราะห์องค์ประกอบ 3 ส่วนร่วมกัน คือ Price, Volume และ Support/Resistance เน้นการวิเคราะห์พฤติกรรมของกลุ่มผู้เล่น
  • เงื่อนไขเข้าเทรดหลัก คือ ราคาต้องทำจุดสูง/ต่ำใหม่, Volume ต้องเพิ่มขึ้น และราคาต้องทะลุแนวรับ/แนวต้านสำคัญ
อ่านเพิ่มเติม

Trading is as simple วิธีเทรดง่าย ๆ ด้วยพื้นฐาน 3 สิ่ง

อ่านเพิ่มเติม
  • หลักการใช้ข้อมูลแค่ 3 อย่างคือ ราคาเปิด สูง และต่ำ ในการวิเคราะห์ก่อนเทรด
  • เป็นระบบดูการกลับตัวของราคาที่แนวรับแนวต้าน และหาจังหวะเข้าเทรดตามเทรนด์
  • การจัดการความเสี่ยง: มีการกำหนดจุด Stop Loss และ Take Profit ที่ชัดเจนและใช้ UkutaLabs ช่วยวิเคราะห์
อ่านเพิ่มเติม

Trading is as simple as ABCD

อ่านเพิ่มเติม
  • ใช้รูปแบบราคา ABCD เป็นหลักในการหาจุดเข้าเทรด โดย C จะเป็นจุดย้อนตัวที่มักจะอยู่ที่ระดับ Fibonacci (38.2%, 50%, 61.8%) ของระยะ AB
  • ใช้ 100LWMA เพื่อดูทิศทางเทรนด์และแนวรับ/ต้าน ร่วมกับ CCI ที่ใช้ยืนยันจุดกลับตัว
  • ต้องรอให้เครื่องมือทั้ง 3 ส่งสัญญาณสอดคล้องกันจึงเข้าเทรด
อ่านเพิ่มเติม

ระบบเทรดอื่น ๆ

Alien's System

อ่านเพิ่มเติม
  • ใช้ RSIOMA เป็น indicator หลัก เพื่อลดสัญญาณรบกวนและเพิ่มความแม่นยำในการวิเคราะห์
  • เน้นการเทรดตามแนวโน้ม มีความยืดหยุ่นสูง (ปรับแต่งค่าได้)
  • มีข้อจำกัดคือสัญญาณช้า
อ่านเพิ่มเติม

Babon - Day trading/scalping ด้วย leverage สูง

อ่านเพิ่มเติม
  • เทมเพลตเฉพาะ 3 ระดับ: ใช้ Babon-H1 ดูภาพรวม, Babon-A เข้าเทรด, Babon-B ดูจุดออก โดยแต่ละเทมเพลตมี Indicator พิเศษที่ทำงานร่วมกัน
  • ใช้ Indicator 4 ตัว คือ TDI, Heiken Ashi, Ichimoku และ TMA ทำงานร่วมกัน
  • เน้นเทรดในไทม์เฟรม 1 นาที ด้วย Leverage สูง ไม่เทรดช่วงข่าวและวันหยุดสำคัญ
อ่านเพิ่มเติม

Bringin sexy back – stochastics

อ่านเพิ่มเติม
  • พัฒนามาจาก slingshot system โดยใช้ Stochastic เป็นหลัก
  • เหมาะสำหรับการเทรดสั้นใน Timeframe M5 หรือ M15 และเน้นการ Scalping เพื่อทำกำไรหลายครั้งต่อวัน
  • สามารถปรับค่า %K, %D ให้เหมาะกับสไตล์การเทรดได้
อ่านเพิ่มเติม

Extreme TMA System

อ่านเพิ่มเติม
  • เป็นระบบที่ใช้หลายตัวชี้วัดร่วมกัน (ADX, RSI, Heiken Ashi, SMA, CCI) เพื่อวิเคราะห์ความแข็งแรงของเทรนด์และจุดเข้า-ออก ในกรอบ H1
  • เน้นการรอให้ตัวชี้วัดทุกตัวส่งสัญญาณสอดคล้องกัน จึงเข้าซื้อ-ขาย
  • มีจุดอ่อนเรื่อง Overfitting และต้องการวินัยสูงในการรอสัญญาณครบทุกเงื่อนไข
อ่านเพิ่มเติม

Forex Easy Scalping System

อ่านเพิ่มเติม
  • ระบบเทรดสั้นที่ใช้อินดิเคเตอร์ 3 ตัว คือ EMA, Bollinger Bands และ Stochastic ในการหาจุดเข้า-ออก
  • ไม่ต้องปรับแต่ง ง่ายต่อการเริ่มต้น แต่มีความเสี่ยงสูง
  • ต้องเฝ้าหน้าจอตลอด เหมาะกับตลาดที่มีสภาพคล่องสูง
อ่านเพิ่มเติม

Fractal Swing

อ่านเพิ่มเติม
  • ใช้ Fractal indicator เป็นสัญญาณหลัก ร่วมกับ Stochastic เป็นตัวกรอง บน Timeframe H1
  • เก็บออเดอร์เมื่อเกิด Fractal ใหม่ในทิศทางตรงข้าม
  • เหมาะกับคู่เงินหลัก อย่าง EURUSD, GBPUSD
อ่านเพิ่มเติม

MA Stochastic 15 M

อ่านเพิ่มเติม
  • เป็นระบบ Day Trading ที่ใช้การ Crossover ระหว่าง 2 Indicator คือ Moving Average และ Stochastic
  • เน้นเทรดบน TF15 นาที RR 1:2 หรือ เมื่อ MA เปลี่ยนทิศ
  • เป็นการ Swing Trade ในกรอบเวลาสั้น และต้องเฝ้ากราฟ
อ่านเพิ่มเติม

Martingale แบบ Manual

อ่านเพิ่มเติม
  • ใช้ Bollinger Bands หลายเส้น ในการหาจุดเข้า
  • เพิ่ม Lot Size แบบ 1.5 เท่า (1 > 1.5 > 2.25 > 3.37) แทนการเบิ้ลทุกครั้ง เพื่อลดความเสี่ยง และปรับระยะ BB ตามสภาพตลาด
  • สามารถตั้งออเดอร์ล่วงหน้าได้
อ่านเพิ่มเติม

PVSRA Scalping

อ่านเพิ่มเติม
  • ระบบเทรดสั้นที่เน้นทำกำไรเล็กๆ แต่บ่อยครั้ง ไม่ถือข้ามคืน
  • ใช้ Volume, Moving Average และ Indicators เพื่อวิเคราะห์การเข้า-ออก
  • ต้องเฝ้าจอตลอด และต้องคำนึงถึงค่า Spread
อ่านเพิ่มเติม

Roadmap – A Way to Read Markets

อ่านเพิ่มเติม
  • ระบบที่ให้แผนการเทรดมากกว่าสัญญาณซื้อ-ขาย
  • ใช้ indicators พื้นฐาน (SMA200, EMA8, RSI12/19, ADR) เพื่อวิเคราะห์ทิศทางตลาด
  • มีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับใช้ได้ทั้งเทรดสั้นและยาว
อ่านเพิ่มเติม

Stochastic Band

อ่านเพิ่มเติม
  • เป็นระบบเทรดสั้น บน Timeframe ไม่เกิน 1 ชั่วโมง
  • ใช้ Indicator 2 ตัว คือ Stochastic เพื่อดูจังหวะเข้าเทรด และ Bollinger Band เพื่อวัดความผันผวนของตลาด
  • มีเงื่อนไขเข้าเทรดชัดเจน ใช้ Risk per Trade ไม่เกิน 1-2%
อ่านเพิ่มเติม

The Equilibrium

อ่านเพิ่มเติม
  • วิเคราะห์จุดสมดุลของตลาด ผ่านการใช้เครื่องมือทางเทคนิคร่วมกัน เช่น แนวรับ-แนวต้าน และ Moving Average
  • มีการจัดการความเสี่ยงที่ดี ใช้ได้ทุกคู่เงิน
  • ระวังสัญญาณหลอก จากการใช้ Indicator หลายตัว
อ่านเพิ่มเติม

The Paradox System 2023

อ่านเพิ่มเติม
  • ใช้ Indicator 3 ตัวหลัก ได้แก่ MA, RSI, และ Bollinger Bands
  • เรียบง่าย เน้นหาโอกาสเทรดที่มีความน่าจะเป็นสูง
  • อาจมีสัญญาณหลอกในช่วงตลาดผันผวน
อ่านเพิ่มเติม

THV System, final edition

อ่านเพิ่มเติม
  • เป็นระบบที่ผสมผสานการวิเคราะห์ Trend, Harmonic และ Value เข้ากับทฤษฎีคลื่นเอลเลียต
  • ใช้ Indicator หลักคือ THV Trix, THV MTF TrixHisto และ Ichimoku Kinko Hyo
  • เน้นเทรดระยะสั้น (M1-H4) กับคู่เงินหลัก
อ่านเพิ่มเติม

Trading Made Simple (TMS)

อ่านเพิ่มเติม
  • ใช้ TDI ที่รวมการวิเคราะห์แนวโน้ม โมเมนตัม และความผันผวนไว้ด้วยกัน ร่วมกับ Heikin Ashi
  • เป็นระบบเทรดระยะสั้น ใช้งานไม่ซับซ้อน
  • ระวังสัญญาณหลอก และควรรอให้แท่งเทียนปิดก่อนเข้าเทรด
อ่านเพิ่มเติม

ระบบเทรดความแข็งค่าและอ่อนค่าของเงิน

อ่านเพิ่มเติม
  • ใช้ปัจจัยพื้นฐานเรื่องความแข็งค่าและอ่อนค่าของเงินในระยะกลาง-ยาว โดยเปรียบเทียบ USD และ JPY กับค่าเงินอื่นๆ
  • มีโอกาสทำกำไรสูงในตลาดระยะยาว แต่ไม่มีจุดเข้า-ออกตายตัว
  • ต้องพิจารณาหลายคู่เงินและใช้ความเข้าใจปัจจัยพื้นฐานสูง
อ่านเพิ่มเติม

ระบบเทรดสั้น Bollinger Band (BB)

อ่านเพิ่มเติม
  • ระบบเทรดจุดกลับตัวระยะสั้นบน TF 1-5 นาที
  • ใช้ Indicator 3 ตัว คือ EMA เพื่อดูเทรนด์, Bollinger Band เพื่อหาจุดกลับตัว และ Stochastic RSI เพื่อยืนยันสัญญาณ
  • สามารถเทรดได้ทั้งในตลาด Trend และ Sideway
อ่านเพิ่มเติม

 Review Broker Forex

วิเคราะห์ วิจารย์ ข้อดี-ข้อเสีย ข้อมูลจากการเทรดด้วยบัญชีจริง โดยทีมงานหลายคน ...

แสดงข้อคิดเห็น ให้กำลังใจ

comments