Forexthai.in.th ย่อให้
- การเทรด Forex มี 2 ประเภทหลักตามเวลาถือครอง คือ ระยะสั้น (Short-term) ที่เน้นทำกำไรภายในวันหรือไม่กี่วัน และระยะยาว (Long-term) ที่ถือครองหลายสัปดาห์ถึงหลายเดือน
- ถ้าแบ่งตามวิธีวิเคราะห์จะได้ 3 แบบ คือ Technical Analysis, Fundamental Analysis และ Automated Trading (ใช้ระบบอัตโนมัติ)
- Scalping คือ การเก็บกำไรเล็กๆ ในเวลาไม่กี่วินาทีถึงนาที ส่วน Day Trading เทรดจบภายในวันเดียว
- Swing Trading เป็นที่นิยมมาก เน้นถือครองไม่กี่วันถึงสัปดาห์ ขณะที่ Position Trading ถือยาวตั้งแต่หลายสัปดาห์ถึงหลายปี
- สำคัญที่สุดคือต้องเลือกประเภทให้เหมาะกับตัวเอง พิจารณาจากประสบการณ์ เวลาที่มี และความเสี่ยงที่รับได้
ขอแสดงความยินดีด้วย สำหรับใครที่ได้ติดตามอ่านและเดินทางร่วมกันมาจนถึง Level Start Up นี้ นั่นหมายความว่าคุณพร้อมแล้วสำหรับการลงมือเทรดจริง ๆ บนตลาด Forex ในบทเรียน Level Start Up ต่อไปนี้ คุณจะได้เรียนรู้เชิงลึกในเทคนิคและวิธีการทำกำไร ที่จะสามารถนำไปใช้กับ การเทรด Forex ได้ด้วยตัวเองนะครับ
“มันดีมากที่คุณจะเรียนรู้จากข้อผิดพลาด แต่จะดียิ่งกว่าถ้าคุณเรียนรู้จากข้อผิดพลาดของคนอื่น”
-Warren Buffett-
ในบทเรียน Level Start Up นี้ จะแบ่งบทเรียนออกเป็น 2 ด่าน ซึ่งแต่ละด่านจะพาไปค้นหาไอเทมอาวุธเทพ ๆ เพื่อติดตั้งในเทคนิคการเทรดส่วนตัว ซึ่งในบทเรียนการเทรด FOREX จาก LEVEL 1 ที่ไม่รู้อะไรเลย ไปสู่การเป็น TOP TRADER ที่สามารถเทรดเป็นมืออาชีพเพื่อทำเงินได้อย่างมั่นคงนี้ มีไอเทมอาวุธพิเศษมากมายให้เลือกติดตั้ง ไปเริ่มกันเลยดีกว่า
LEVEL START UP ด่านที่ 1
ในด่านที่ 1 ของ Level Start Up นี้ มีสิ่งที่ต้องรู้ก่อนการเทรดตามลำดับความสำคัญ ที่ต้องเรียนรู้ให้เข้าใจก่อน นั่นคือ “ประเภทการเทรด” และ “ประเภทของกราฟราคา Forex ซึ่งทั้งสองประเภทนี้คือองค์ประกอบสำคัญในการเทรดเป็นอย่างมาก
อีกทั้งยังมี Indicators ที่บอกได้เลยว่ามันคือ “Item” ระดับเทพ ซึ่งมีหลายตัวที่จะได้เรียนรู้ในด่านนี้ คำว่า Item นี้ ก็จะหมายความถึงความรู้หรือเทคนิค ที่จะเป็นอาวุธเสริม ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้การ Trade ของท่านได้นะครับ ไปเรียนรู้กันเลยครับ

ประเภทของการเทรด Forex
ประเภทของ การเทรด Forex สามารถเรียกได้หลายอย่าง โดยจะแบ่งออกเป็นตามประเภทของการถือตั๋ว ตามเทคนิคการเทรด หรือตามลักษณะการจัดการกับออเดอร์ ดังต่อไปนี้
แบ่งตามระยะเวลาการถือครอง Oder
ในรูปแบบแบ่งตามระยะเวลาการถือนี้ นิยมแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ตามระยะเวลาในการถือครองสถานะหรือถือ Order ที่เปิดเอาไว้โดยที่ยังไม่ปิดนั่นเอง คือ
- การเทรดระยะสั้น (Short-term trading): เป็นการเทรดที่เน้นทำกำไรในระยะสั้นๆ ภายในวันเดียว (Day trading) หรือไม่กี่วัน (Swing trading) มักใช้การวิเคราะห์กราฟเทคนิคเป็นหลัก
- การเทรดระยะยาว (Long-term trading): เป็นการเทรดที่เน้นทำกำไรในระยะยาว หลายสัปดาห์หรือหลายเดือน อาจใช้การวิเคราะห์พื้นฐานเป็นหลัก

แบ่งตามรูปแบบการวิเคราะห์
การเทรด forex ยังสามารถแบ่งออกได้เป็นประเภทย่อย ๆ ตามรูปแบบของการวิเคราะห์ที่ใช้ในการเทรดด้วย ได้แก่
- การเทรดด้วยการวิเคราะห์กราฟเทคนิค (Technical analysis): เป็นการเทรดที่อาศัยการวิเคราะห์กราฟราคาและเครื่องมือทางเทคนิคต่าง ๆ เพื่อหาสัญญาณการซื้อขาย
- การเทรดด้วยการวิเคราะห์พื้นฐาน (Fundamental analysis): เป็นการเทรดที่อาศัยการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจและการเมือง เพื่อหาแนวโน้มของเศรษฐกิจและค่าเงิน
- การเทรดด้วยระบบอัตโนมัติ (Automated trading): เป็นการเทรดที่อาศัยระบบคอมพิวเตอร์หรือซอฟต์แวร์ในการซื้อขายโดยอัตโนมัติ โดยอาศัยสัญญาณการซื้อขายจากการวิเคราะห์กราฟเทคนิคหรือพื้นฐาน

แบ่งตามลักษณะการทำกำไร
ชื่อเรียกประเภทของการเทรด Forex ยังมีการเรียกตามลักษณะการทำกำไรอีกด้วย ที่นิยมใช้กันทั่วไป ที่มักได้เห็นได้ยินในตลาดบ่อย ๆ ได้แก่
- Scalping: เป็นการเทรดระยะสั้นที่เน้นทำกำไรจากการแกว่งตัวของราคาเพียงเล็กน้อย มักใช้ระยะเวลาในการเทรดเพียงไม่กี่วินาทีหรือนาที
- Day trading: เป็นการเทรดระยะสั้นที่เน้นทำกำไรภายในวันเดียว มักใช้ระยะเวลาในการเทรดตั้งแต่ไม่กี่นาที ไปจนถึงไม่กี่ชั่วโมง
- Swing trading: เป็นการเทรดระยะสั้นที่เน้นทำกำไรในระยะไม่กี่วันหรือสัปดาห์ มักใช้ระยะเวลาในการเทรดตั้งแต่ไม่กี่วัน ไปจนถึงหลายสัปดาห์
- Position trading: เป็นการเทรดระยะยาวที่เน้นทำกำไรในระยะหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน มักใช้ระยะเวลาในการเทรดตั้งแต่หลายสัปดาห์ ไปจนถึงหลายปี
อยากขอให้ทำความเข้าว่านักเทรด forex ควรเลือกประเภทของการเทรดที่เหมาะสมกับตนเอง โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ ระยะเวลาในการเทรด และระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

ทีมงาน Forexthai.in.th