6.9
คะแนนรวม (จาก 10 คะแนน)
Credibility Icon
ความน่าเชื่อถือ
7.17
Service Fee Icon
ค่าบริการ
9.05
Deposit and Withdrawal Icon
การฝากถอน
6.80
Trading Quality Icon
คุณภาพการเทรด
7.70
Trading Experience Icon
ประสบการณ์การเทรด
4.34
Ease of use Icon
ความง่ายในการใช้งาน
4.00

หากคุณกำลังมองหาโบรกเกอร์ Forex ที่มีความน่าเชื่อถือสูง ค่าธรรมเนียมต่ำ และการให้บริการระดับมืออาชีพ Pepperstone คือหนึ่งในตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม ด้วยการดำเนินงานที่โปร่งใส มีใบอนุญาตจากองค์กรกำกับดูแลชั้นนำระดับโลก และฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์เทรดเดอร์ทั้งสายเทคนิคและสายลงทุนระยะยาว

ข้อมูลสำคัญของ Pepperstone

  • ก่อตั้ง: ปี 2010
  • ใบอนุญาต: SCB, CySEC, FCA, ASIC, DFSA, CMA, BaFin
  • ฝากถอนธนาคารไทย: ได้
  • ฝากถอนผ่านคริปโต: ฝากได้แต่ถอนไม่ได้
  • Copy Trading: มี
  • ฝากขั้นต่ำ: 20 USD
  • ถอนขั้นต่ำ: 20 USD
  • Leverage สูงสุด: 1:500
  • Stop Out: 50%

เปิดบัญชี Pepperstone

เปิดบัญชีง่าย ใช้เวลาเพียง 5 นาที ไม่มีค่าธรรมเนียม

เปิดบัญชีเทรด Pepperstone ขั้นตอนสมัคร เปิดบัญชี ฝาก-ถอน

จุดเด่นที่ทำให้ Pepperstone น่าใช้งาน

รวมจุดเด่นของ Pepperstone น่าใช้งาน
  • ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานชั้นนำ อย่าง FCA (UK), ASIC (Australia), BaFin (Germany), และอีกหลายประเทศทั่วโลก
  • ความน่าเชื่อถือสูง ด้วยการแยกเงินลูกค้าออกจากบัญชีบริษัท ทำให้ปลอดภัยแม้เกิดปัญหาทางการเงิน
  • ค่าธรรมเนียมต่ำกว่าโบรกส่วนใหญ่ในตลาด ทั้ง Spread และ Commission โดยเฉพาะในบัญชี Razor
  • เทรดทองคำต้นทุนต่ำมาก Spread+Commission ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยตลาด ทำให้เหมาะกับนักลงทุนทองคำระยะยาว
  • ใช้งานร่วมกับ TradingView ได้โดยตรง เหมาะกับเทรดเดอร์สายเทคนิคอลที่ต้องการเครื่องมือวิเคราะห์ขั้นสูง
  • สามารถเลือกและปรับ Leverage ได้เอง ทำให้บริหารความเสี่ยงได้ยืดหยุ่น
  • มี Swap เป็นบวกในบางคู่เงิน เช่น USDCHF และ EURUSD ช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรแบบถือยาว
  • รองรับ EA และ VPS ฟรี สำหรับผู้ที่เทรดด้วยระบบอัตโนมัติ เพียงมี Volume เทรดถึงตามเงื่อนไข
  • มีระบบ Copy Trade ที่แสดงสถิติกลยุทธ์ได้ละเอียด แม้ UI ยังพัฒนาได้อีก แต่ถือว่าเริ่มต้นได้ดี
  • บริการซัพพอร์ตรองรับภาษาไทย ทั้งทางแชท โทรศัพท์ และอีเมล สะดวกสำหรับผู้ใช้งานในไทย

ข้อมูลเชิงเทคนิคที่เทรดเดอร์ต้องรู้

ก่อนที่คุณจะตัดสินใจเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ไหนก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามเลยก็คือ “ข้อมูลเชิงเทคนิค” เพราะนี่แหละคือสิ่งที่จะบอกได้ว่าโบรกเกอร์นั้นเหมาะกับสไตล์การเทรดของคุณจริงหรือเปล่า ซึ่ง Pepperstone เองก็ถือว่าทำได้ดีในหลายด้านเลยครับ

ประเภทบัญชีและค่าธรรมเนียมการเทรด

สรุปประเภทบัญชีที่น่าสนใจ

Pepperstone มีบัญชีหลักให้เลือก 2 ประเภท ซึ่งเหมาะกับเทรดเดอร์ที่มีระดับความชำนาญต่างกัน

ประเภทบัญชีสเปรดเริ่มต้นค่าคอมมิชชั่นเหมาะสำหรับ

บัญชี Razor จะให้ต้นทุนรวมที่ต่ำที่สุดในตลาด โดยเฉพาะคู่ยอดนิยมอย่าง EURUSD ที่รวมค่าคอมแล้วอยู่แค่ 7.27 USD/lot เท่านั้น ขณะที่ค่าเฉลี่ยตลาดอยู่ที่ประมาณ 10.33 USD/lot ถือว่าช่วยประหยัดไปได้เยอะเลยครับ

Leverage และเงื่อนไขการใช้งาน

Pepperstone เปิดให้ใช้ Leverage ได้สูงสุดถึง 1:500 สำหรับลูกค้า Pro และ 1:200 สำหรับลูกค้าทั่วไป ซึ่งถือว่ายืดหยุ่นมาก และที่ดีคือ ผู้ใช้สามารถเปลี่ยน Leverage ได้เอง ภายในหน้าบัญชีส่วนตัว โดยไม่ต้องส่งคำร้องอะไรให้ยุ่งยาก

ระดับ Leverageเงื่อนไข
ขอดีข้อง Peppertone ในเรื่องของ Leverage และ Stop out

เงื่อนไข Spread และ Slippage

Spread โดยเฉลี่ยในบัญชี Razor สำหรับคู่ EURUSD จะอยู่ที่ 0.27 pip ซึ่งต่ำมาก ส่วน Slippage ก็อยู่ในระดับที่ “ควบคุมได้” โดยเฉพาะในช่วงตลาดนิ่งหรือไม่มีข่าว จากการทดสอบพบว่า

  • ก่อนข่าวแรง: Spread ประมาณ 10 point
  • ช่วงข่าวออก: Spread อาจพุ่งถึง 26 point
  • เวลาที่ Spread กลับมาปกติ: ภายใน 60 วินาที

นั่นแปลว่าใครที่เทรดช่วงข่าว ต้องวางแผนให้ดี แต่ถ้าเทรดทั่วไปถือว่าไม่มีปัญหาครับ

Swap และค่าธรรมเนียมถือออเดอร์ข้ามคืน

Pepperstone ให้ค่าธรรมเนียม Swap ที่ “แฟร์” และบางคู่ยังให้ผลบวกด้วยครับ เช่น

คู่เงินLong SwapShort Swap

เทรดเดอร์สายถือยาวน่าจะชอบ เพราะสามารถเลือกคู่ที่ได้ Swap บวกได้ และหลีกเลี่ยงคู่ที่เสียเยอะ เช่นทองคำ ที่ค่าถือค่อนข้างสูง

ความเร็วในการส่งคำสั่ง (Execution Speed)

การส่งคำสั่งของ Pepperstone ทำได้เร็วและเสถียร โดยเฉพาะในช่วงตลาดปกติ ไม่เจออาการรีโควตหรือออเดอร์ค้างแต่อย่างใด

ประเภทคำสั่งความเร็วเฉลี่ย

ถือว่าอยู่ในระดับที่เร็วและไว้วางใจได้ เหมาะกับคนที่ใช้ EA หรือ Scalping ครับ… ในหัวข้อนี้ เราก็ได้เห็นกันแล้วว่า Pepperstone เป็นโบรกที่ รองรับการใช้งานเชิงเทคนิคครบครัน ไม่ว่าจะเป็น Leverage, Swap, Spread, หรือความเร็วในการส่งคำสั่ง เหมาะกับทั้งมือใหม่ และเทรดเดอร์มืออาชีพที่ต้องการต้นทุนต่ำแต่ได้คุณภาพการเทรดดีเยี่ยม

ระบบการฝาก-ถอนเงิน และค่าธรรมเนียม

เรื่อง “ฝาก-ถอน” ถือเป็นอีกหนึ่งหัวใจหลักที่คนเทรดให้ความสำคัญ และ Pepperstone ก็ทำได้ดีมากในด้านนี้ โดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้งานในไทย ที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว และเรทการแปลงสกุลเงินที่แฟร์

ช่องทางฝากถอนที่รองรับ

ประเภทช่องทางที่รองรับ

ความเร็วในการดำเนินการฝากถอน

รายการผลลัพธ์ที่พบ

หมายเหตุ: ครั้งแรกจะช้ากว่า เพราะต้องส่งหลักฐานเพิ่ม เช่น เอกสารยืนยันตัวตนและบัญชีธนาคาร

การจะเลือกใช้โบรกเกอร์มาดูข้อมูลทางเทคนิคของ perpperstone กันก่อน

ค่าธรรมเนียมฝากถอน

รายการค่าธรรมเนียม

เรทฝากถอน – ค่อนข้างแฟร์

รายการค่าเฉลี่ย

ถือว่า แฟร์และใส่ใจผู้ใช้งานในไทย อย่างแท้จริง เพราะไม่มีการ “ชาร์จเรท” แบบแอบแฝงเหมือนบางเจ้า

คำแนะนำเพิ่มเติม

  • การฝากผ่าน QR Code คือช่องทางที่แนะนำที่สุด – ทั้งเร็ว และไม่มีค่าธรรมเนียม
  • ถอนเงินครั้งแรกควรเตรียมเอกสารให้ครบ เช่น บัตรประชาชน บัญชีธนาคาร และอีเมลยืนยัน เพื่อให้ระบบอนุมัติได้เร็ว
  • ควรทำรายการในช่วงวันทำการ และเวลาทำการ เพื่อให้การดำเนินการรวดเร็วที่สุด
  • ระบบฝาก-ถอนของ Pepperstone รองรับผู้ใช้งานไทยได้ดีมาก ทั้งด้านความเร็ว ความสะดวก และไม่มีค่าธรรมเนียมซ่อนเร้น โดยเฉพาะการฝากผ่าน QR Code ที่รวดเร็วและง่ายที่สุด
Pepperstone สามารถถอนเงินได้หลายทางเลยล่ะ

ระบบป้องกันความเสี่ยง (Risk Management)

แม้ว่า Pepperstone จะไม่ได้โฆษณาระบบป้องกันความเสี่ยงแบบชัดเจนเหมือนบางโบรกเกอร์ แต่ในความเป็นจริงแล้ว โบรกนี้มีการ “วางระบบพื้นฐานเพื่อบริหารความเสี่ยง” ไว้อย่างดีมาก โดยเฉพาะในเชิงโครงสร้างและการควบคุมเงินทุนของลูกค้า

การแยกเงินของลูกค้าออกจากบัญชีบริษัท

Pepperstone ดำเนินการตามข้อกำหนดของหน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลกอย่างเคร่งครัด โดย แยกเงินของลูกค้า (Segregated Accounts) ออกจากบัญชีดำเนินธุรกิจของบริษัท ทำให้เงินของลูกค้า “ไม่ถูกนำไปใช้หมุนเวียน” หรือมีความเสี่ยงจากปัญหาทางการเงินของบริษัทเอง ข้อดี คือ แม้โบรกเกอร์จะมีปัญหาทางการเงิน แต่เงินของลูกค้าก็ยังปลอดภัย

มีระบบ Stop Out เพื่อควบคุมขาดทุน

Pepperstone กำหนดระดับ Stop Out ชัดเจน

  • บัญชีลูกค้าทั่วไป (Retail): Stop Out ที่ 50%
  • บัญชี Pro: Stop Out ที่ 20%

ระบบนี้จะช่วย “ปิดออเดอร์โดยอัตโนมัติ” เมื่อมาร์จิ้นของคุณลดลงต่ำกว่าระดับที่ปลอดภัย เป็นการป้องกันพอร์ตจากการล้างพอร์ตอย่างรุนแรง

สามารถปรับ Leverage ได้เอง

นี่เป็นฟีเจอร์ที่หลายโบรกไม่มี แต่ Pepperstone อนุญาตให้เทรดเดอร์สามารถปรับ Leverage เองผ่านหน้า Dashboard ซึ่งช่วยให้คุณ “ควบคุมความเสี่ยงได้ตามสไตล์ของตัวเอง”

ตัวอย่างเช่น: ถ้าคุณเป็นสายเทรดระยะยาวและอยากลดความเสี่ยง ก็สามารถลด Leverage ลงได้เอง ไม่ต้องส่งคำขอให้ทีมซัพพอร์ต

ไม่มีระบบ Negative Balance (ไม่ติดลบ)

Pepperstone ป้องกันไม่ให้บัญชีติดลบ ซึ่งหมายความว่า ถ้าเกิดการขาดทุนรุนแรงจากเหตุการณ์ตลาดผันผวน (เช่นข่าวแรงหรือ Flash Crash) บัญชีของคุณจะไม่ติดลบเหมือนสมัยก่อน ระบบจะปิดออเดอร์อัตโนมัติ และคุณจะไม่เป็นหนี้โบรกเกอร์

ใบอนุญาตจากหลายประเทศ = มีมาตรฐานกำกับความเสี่ยง

โบรกเกอร์ที่ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานอย่าง FCA, ASIC, BaFin, CySEC ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานความเสี่ยงที่เข้มงวด เช่น

  • ต้องมีเงินทุนสำรองขั้นต่ำ
  • ต้องรายงานธุรกรรมและบัญชีให้หน่วยงานตรวจสอบ
  • ต้องมีระบบบริหารความเสี่ยงที่โปร่งใส

สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ว่า Pepperstone ไม่ได้เล่นแร่แปรธาตุหรือปั่นราคา แบบที่โบรกเถื่อนบางแห่งทำ

แม้จะไม่มีระบบป้องกันความเสี่ยงแบบฟีเจอร์หวือหวา แต่ Pepperstone ก็มีการวางโครงสร้างที่แข็งแรงมากในด้าน Risk Management ตั้งแต่ระดับ Leverage, Stop Out, ไปจนถึงการแยกเงินของลูกค้าและมาตรฐานกำกับดูแลจากหลายประเทศ

การใช้ VPS และ EA ใน Pepperstone

ระบบ EA และ VPS ฟรี (สำหรับนักเทรดอัตโนมัติ)

สำหรับเทรดเดอร์ที่ใช้ Expert Advisor (EA) หรือบอทเทรดอัตโนมัติ การมี VPS (Virtual Private Server) ที่เสถียรและอยู่ใกล้เซิร์ฟเวอร์ของโบรกเกอร์ ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้คำสั่งเทรดรวดเร็ว ไม่มีดีเลย์ และลดโอกาสเกิดปัญหาจากอินเทอร์เน็ตหลุดหรือไฟดับที่บ้าน ซึ่งในจุดนี้ Pepperstone ตอบโจทย์ครบถ้วน และมีเงื่อนไขการใช้งานที่ค่อนข้างแฟร์เลยครับ

VPS ฟรีสำหรับลูกค้าที่เทรดถึงเกณฑ์

Pepperstone ให้บริการ VPS ฟรีผ่านพันธมิตรกับบริษัทผู้ให้บริการ VPS ที่มีเซิร์ฟเวอร์ใกล้ศูนย์ข้อมูลหลักของโบรกเกอร์ โดยมีเงื่อนไขง่ายๆ ดังนี้

รายการรายละเอียด

รองรับการใช้งาน EA เต็มรูปแบบ

ไม่ว่าคุณจะใช้ MT4, MT5 หรือ cTrader – Pepperstone รองรับการใช้งาน EA เต็มรูปแบบ โดยไม่มีการแทรกแซงคำสั่งจากโบรกเกอร์ (เพราะเป็นระบบ A-Book / No Dealing Desk)

คุณสมบัติที่เทรดเดอร์สาย EA จะชอบ

  • ความเร็วในการส่งคำสั่งต่ำ (Latency ต่ำ)
  • ไม่มี Requote
  • ใช้งาน VPS ได้ใกล้ศูนย์ข้อมูล
  • ไม่มีการบังคับ Stop Level สูงเกินไป (สามารถตั้ง TP/SL ได้ใกล้ราคา)

VPS = เสถียร เทรดได้ 24 ชั่วโมง

การใช้ VPS กับ Pepperstone เหมาะอย่างยิ่งสำหรับ:

  • เทรดเดอร์ที่ เปิด EA รันทั้งวันทั้งคืน
  • คนที่ต้องการ ลดความเสี่ยงจากไฟดับ/เน็ตหลุด
  • คนที่ต้องการลด Latency ให้การส่งคำสั่งไวขึ้น

Pepperstone รองรับการใช้งาน EA และ VPS อย่างเต็มระบบ ใครที่ใช้บอทเทรดหรือเป็นเทรดเดอร์สายอัตโนมัติ บอกเลยว่าโบรกนี้มี “เครื่องมือพร้อม – เงื่อนไขแฟร์ – ไม่กั๊กเซิร์ฟเวอร์” อย่างที่คุณต้องการ

ระบบ Copytrade ของ Pepperstone เป็นยังไง

สำหรับเทรดเดอร์ที่ยังไม่มีเวลาวางกลยุทธ์ หรือเพิ่งเริ่มต้นและยังไม่มั่นใจในการวิเคราะห์เอง ระบบ Copy Trade ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจมาก เพราะช่วยให้คุณสามารถ “ก็อปปี้การเทรดจากมือโปร” ได้แบบเรียลไทม์โดยอัตโนมัติ

Pepperstone เองก็มีแพลตฟอร์ม Copytrade ให้ใช้งานเช่นกัน ซึ่งแม้จะยังไม่ใช่ระบบที่สมบูรณ์แบบที่สุดในตลาด แต่ก็ถือว่า “พัฒนาไปในทางที่ดี” และใช้งานได้จริงครับ

pepperstone สามารถทำ copytrade ได้ด้วยนะครับ ซึ่งทำได้เลยผ่านมือถือ

ใช้งานผ่านแอป “CopyTrading by Pepperstone”

ระบบ Copy Trade ของ Pepperstone ให้บริการผ่านแอปพลิเคชันที่ชื่อว่า “CopyTrading by Pepperstone” ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งบน iOS และ Android…. อินเทอร์เฟซดูทันสมัย ใช้งานง่ายระดับหนึ่ง แต่ต้องอาศัยการเรียนรู้เบื้องต้นนิดหน่อย

ฟีเจอร์หลักของระบบ Copy Trade

รายการรายละเอียด

ข้อดีของระบบ Copytrade Pepperstone

  • UI ดูสวยงาม เข้าใจง่าย (ดีกว่าหลายโบรกที่ซับซ้อน)
  • มีข้อมูลแสดงผลลัพธ์ย้อนหลังของแต่ละกลยุทธ์
  • มีการจัดอันดับความเสี่ยงของแต่ละพอร์ตให้เห็นชัดเจน
  • เหมาะกับคนที่อยากเริ่มต้นลงทุนแบบไม่ต้องเทรดเอง

ข้อจำกัดที่ควรรู้

  • ต้องเปิดบัญชีใหม่เฉพาะสำหรับ Copytrade (ใช้บัญชีเดิมไม่ได้)
  • ระบบยัง “ค้นหากลยุทธ์” ได้จำกัด (ยังไม่มีฟิลเตอร์ตามประเภทกลยุทธ์)
  • เนื้อหาเกี่ยวกับ Copytrade บนหน้าเว็บหลัก “หาไม่เจอ” ต้องค้นจาก Google
  • เชื่อมต่อได้เฉพาะในแอป ยังไม่มี Web Platform ที่เป็นมิตรกับ Desktop

วิธีเริ่มต้นใช้งาน Copytrade

  1. สมัครบัญชีใหม่ผ่านแอป “CopyTrading by Pepperstone”
  2. เลือกกลยุทธ์ที่ต้องการ Copy
  3. ตั้งค่าขนาด Lot ที่ต้องการก็อปปี้
  4. เริ่มเทรดตามได้ทันทีแบบอัตโนมัติ

ดูรายละเอียดการใช้งานเพิ่มเติมได้ที่: pepperstone.com/th-th/trading-platforms/social-trading

Copytrade ของ Pepperstone เหมาะสำหรับคนที่อยากลงทุนแต่ไม่อยากเทรดเอง มีข้อมูลกลยุทธ์ให้ดูพอสมควร แต่อาจยังไม่เหมาะกับมือใหม่สุด ๆ เพราะมีขั้นตอนการเปิดบัญชีแยกและระบบค้นหาที่ยังจำกัด

แล้ว Pepperstone มีดีอะไรอีกบ้าง

แม้ว่าเราจะพูดถึงเรื่องสเปรด ค่าคอม ระบบ Copytrade และการใช้งาน VPS ไปแล้ว แต่ความพิเศษของ Pepperstone ยังมีอีกหลายจุดที่ทำให้เทรดเดอร์จำนวนมากตัดสินใจเลือกใช้งานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่อง “ความน่าเชื่อถือ” และ “ต้นทุนแฝงต่ำ” ซึ่งเป็นจุดแข็งแบบชัดเจนครับ

ความน่าเชื่อถือระดับโลก

  • ได้รับใบอนุญาตจาก หน่วยงานกำกับดูแลระดับท็อป เช่น FCA (อังกฤษ), ASIC (ออสเตรเลีย), BaFin (เยอรมนี), CySEC (ไซปรัส), DFSA (ดูไบ), SCB (บาฮามาส), CMA (เคนยา)
  • มี สำนักงานใหญ่ในประเทศที่น่าเชื่อถือ อย่างออสเตรเลีย
  • เป็น สมาชิก The Financial Commission ซึ่งให้สิทธิ์ผู้ใช้งานสามารถเรียกร้องค่าชดเชยได้สูงสุดถึง €20,000 หากเกิดปัญหา
  • ได้รับคะแนนรีวิวดีจากเว็บไซต์ใหญ่อย่าง:
    • Trustpilot: 4.4/5 (จากผู้รีวิว 2,600+ คน)
    • ForexPeaceArmy: 3.48/5 (จากผู้ใช้งานจริง 380+ คน)

จุดนี้ทำให้ Pepperstone เหมาะกับคนที่มองหาโบรกที่ไม่ “หายตัว” หรือ “เงียบหาย” เวลาเกิดปัญหา

เรทฝากถอนเป็นธรรม ไม่มีค่าธรรมเนียมแฝง

  • ฝากถอน ฟรี ไม่มีค่าธรรมเนียม
  • ใช้ QR Code ฝากผ่านธนาคารไทยได้ทันที
  • เรทฝาก-ถอนต่างกันน้อยมาก (ประมาณ 0.05%) ถือว่าแฟร์สุด ๆ
  • รองรับการ ฝากผ่านคริปโต (USDT, BTC, ETH, USDC) ซึ่งหลายโบรกยังไม่มี

เทรดทองคำได้คุ้มกว่าเจ้าอื่น

  • บัญชี Razor มีต้นทุนเฉลี่ยในการเทรดทอง (XAUUSD) แค่ 14.2 USD/lot
  • ค่าเฉลี่ยตลาดอยู่ที่ 18.4 USD/lot – เท่ากับประหยัดต้นทุนไปเกือบ 25%
  • Swap ข้ามคืนบางช่วงเป็นบวก และดีกว่าค่าเฉลี่ยของโบรกอื่น

เชื่อมต่อกับ TradingView ได้

  • เทรดได้โดยตรงจาก แพลตฟอร์ม TradingView
  • ไม่ต้องเปิด MT4/MT5 ให้ยุ่งยาก
  • เทรดเดอร์สายเทคนิคอลจะชอบ เพราะสามารถวิเคราะห์กราฟละเอียด แล้วส่งออเดอร์จาก TradingView ทันที

เปลี่ยน Leverage ได้เอง

  • ผู้ใช้งานสามารถเข้าไปเปลี่ยน Leverage ได้จากหน้าบัญชี ไม่ต้องรอเจ้าหน้าที่
  • เหมาะกับคนที่ต้องการบริหารความเสี่ยงแบบยืดหยุ่น
  • เปลี่ยนได้ทันที โดยไม่กระทบพอร์ตหรือคำสั่งที่เปิดอยู่

มีทีม Support ภาษาไทย

  • ติดต่อได้ผ่าน Live Chat, โทรศัพท์ (เบอร์ไทย), และอีเมล
  • เจ้าหน้าที่ตอบไวและเป็นมิตร (แต่บางคำถามเชิงลึกอาจต้องรอติดต่อกลับ)

จุดแข็งของ Pepperstone ไม่ได้มีแค่ “ค่าธรรมเนียมต่ำ” แต่ยังรวมถึงความน่าเชื่อถือในระดับสากล ความโปร่งใส ระบบฝากถอนที่แฟร์ และฟีเจอร์เทรดระดับมืออาชีพอย่าง TradingView และ VPS ที่ใช้งานได้จริง ถ้าคุณต้องการโบรกที่ครบจบในที่เดียว – Pepperstone คือหนึ่งในตัวเลือกที่แข็งแกร่งมาก

ข้อเสียของ Pepperstone ที่คุณควรรู้ก่อนใช้งาน

แม้จะเป็นโบรกที่ได้รับความนิยมและมีรีวิวดีจากผู้ใช้งานทั่วโลก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า Pepperstone จะ “ไม่มีข้อเสียเลย” เพราะจากการรีวิวและการทดสอบใช้งานจริง พบว่ามีหลายประเด็นที่คุณควรพิจารณาก่อนเปิดบัญชีครับ

การยืนยันตัวตนใช้เวลานานกว่าค่าเฉลี่ย

  • จากการทดสอบ พบว่า Pepperstone ใช้เวลายืนยันตัวตนนานถึง ประมาณ 6 วัน
  • เมื่อเทียบกับโบรกอื่นที่ใช้เวลาแค่ 1-3 วัน ถือว่านานพอสมควร
  • เหมาะกับคนที่ “ไม่รีบ” เทรด แต่ถ้าต้องการเปิดบัญชีไวๆ อาจไม่ตอบโจทย์

หน้าเว็บใช้งานยากสำหรับมือใหม่

  • ถึงแม้จะมีเวอร์ชันภาษาไทย แต่การจัดวางเมนูต่างๆ ยังไม่เป็นมิตรกับผู้ใช้ใหม่
  • ข้อมูลบางอย่างหาไม่เจอในหน้าเว็บ เช่น รายละเอียด Copy Trade หรือค่าธรรมเนียมแบบเจาะลึก ต้องไปค้น Google แทน

ปัญหากราฟผิดปกติบางครั้ง

  • มีรีวิวจากผู้ใช้บางรายบนเว็บ ForexPeaceArmy ว่า กราฟของบางสินทรัพย์เช่น GER40 เคยผิดปกติ ทำให้ Stop Loss โดนผิดเหตุผล
  • บางช่วงเวลาที่มีการ Rollover หรือข่าวแรง อาจเกิด “สเปรดพุ่ง” แบบไม่ปกติ
  • ถึงแม้ทางโบรกจะชี้แจง และคืนเงินในบางกรณี แต่ก็ถือเป็นจุดที่ต้องระวัง

ไม่มี Free Swap สำหรับบัญชีอิสลาม

  • สำหรับผู้เทรดที่ต้องการบัญชี ไม่มี Swap (ตามหลักศาสนาอิสลาม) Pepperstone ยังไม่รองรับ
  • ทำให้ไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการเทรดแบบ Halal

คริปโตมีน้อย และค่าธรรมเนียมสูง

  • ถึงแม้จะมี BTC, ETH ให้เทรด แต่ก็มีเหรียญให้เลือก “น้อยกว่าหลายเจ้า” ที่เน้นคริปโตเป็นหลัก
  • ค่าธรรมเนียมในการเทรดคริปโต “สูงกว่าสินทรัพย์อื่น” และไม่มี Swap เป็นบวก
  • ถอนไม่ได้ผ่านคริปโต มีแต่ฝากได้เท่านั้น

ระบบ Copy Trade ยังใช้งานยาก

  • ต้องเปิดบัญชีใหม่เฉพาะสำหรับ Copy Trade (ไม่สามารถใช้บัญชีหลักได้)
  • ระบบยังมีข้อจำกัด เช่น ค้นหากลยุทธ์ไม่ได้จากเงื่อนไขความเสี่ยง หรือสไตล์เทรด
  • เหมาะกับคนที่มีประสบการณ์แล้วเล็กน้อย ไม่เหมาะกับมือใหม่ที่อยากเทรดตามแบบง่ายๆ

แอปเทรดยังไม่เสถียร

  • แอป “Pepperstone Trading” ที่ทางโบรกพัฒนาเองยัง มีปัญหาโหลดข้อมูลไม่ขึ้น
  • ความเร็วในการใช้งานยังช้าเมื่อเทียบกับ MT4/MT5 หรือ cTrader
  • ยังไม่แนะนำให้ใช้แอปของโบรกเอง ในตอนนี้

ซัพพอร์ตตอบดี…แต่ไม่เคลียร์ในคำถามเชิงลึก

  • หากสอบถามคำถามทั่วไป เช่น วิธีฝากเงิน การเปิดบัญชี เจ้าหน้าที่ตอบเร็วและดี
  • แต่ถ้าเป็นคำถามเชิงเทคนิค เช่นเรื่อง Arbitrage, Hedging, Leverage เฉพาะกลุ่ม มักจะ “ไม่ตอบให้ชัดเจน”
  • บางครั้งจะขอ “โทรกลับ” แทนการตอบผ่านแชท ซึ่งสุดท้ายก็ตอบไม่ตรงประเด็น

ข้อสรุปจากผู้เชี่ยวชาญว่า Pepperstone น่าใช้งานไหม?

คะแนนรีวิวรวม

6.9 จาก 10

Pepperstone เป็นโบรกเกอร์ที่โดดเด่นเรื่องความน่าเชื่อถือสูง ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานระดับโลกอย่าง FCA, ASIC และ BaFin จุดแข็งคือค่าธรรมเนียมต่ำ สเปรดแคบ โดยเฉพาะบัญชี Razor ที่เหมาะกับสายเทรดจริงจัง เทรดทองคุ้มที่สุดในตลาด และรองรับ TradingView, EA, VPS ครบถ้วน

ข้อเสียคือระบบยืนยันตัวตนค่อนข้างช้า แอปเทรดยังไม่เสถียร และไม่เหมาะกับสายคริปโต หากคุณเป็นเทรดเดอร์ที่เน้นต้นทุนต่ำ + ความมั่นคงระยะยาว Pepperstone คือหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดในปี 2025

แสดงข้อคิดเห็น ให้กำลังใจ

comments

สารบัญบทความ click เพื่อเลือกอ่าน !!

สารบัญบทความ