Forexthai.in.th ย่อให้
- ระบบเทรด Higher Low / Lower High: ระบบเทรดสั้นตามเทรนด์ที่อาศัยโครงสร้างราคา Price Action และ อินดิเคเตอร์
- หลักการเทรดเบื้องต้น: ดูแนวโน้มโครงสร้างราคาและเส้น LWMA รอราคาย่อตัวและดูโมเมนตัม ของตลาดและเทรดตามเทรนด์ที่เกิดขึ้น
- เครื่องมือที่ใช้: เส้น LWMA, Reversal Bar และ Stochastic
- ข้อดี: ชนะตลาดที่เป็นเทรนด์, เหมาะกับมือใหม่,
- ข้อเสีย: ใช้ประสบการณ์ในการอ่านโครงสร้างตลาดและ PA, ต้องเฝ้าหน้าจอ
หลักการเทรดเบื้องต้น
ดูแนวโน้มของตลาดกราฟราคาว่าอยู่เหนือเส้นหรือใต้เส้น LWMA ประกอบกับโครงสร้างราคา หลังจากนั้นรอราคา Pullback กลับมาที่เส้น LWMA และเกิดแท่งเทียนกลับตัวหลังจากนั้นดูโมเมนตัมโดยใช้ Stochastic และเข้าเทรดตามเทรนด์ที่เกิดขึ้น
เครื่องมือที่ใช้เทรด
- เส้น LWMA 15
- Reversal Bar
- Stochastic 9 9 1
ดาวน์โหลด Template MetaTrader 4
เส้น LWMA

LWMA หรือ Linear Weighted Moving Average เป็นหนึ่งในประเภทของเส้นค่าเฉลี่ยโดยให้ความสำคัญกับการคำนวณราคาล่าสุดมากกว่าราคาในอดีต ทำให้มีความตอบสนองไวต่อราคาเป็นอย่างมาก
ข้อดีของเส้น LWMA
- เหมาะกับการเทรดสั้นมากกว่า เส้น SMA และ เส้น EMA
- ใน Tradingview สีของเส้นมีการเปลี่ยนแปลงไปตามแนวโน้มทำให้จับตลาดได้ง่าย
Reversal Bar

เป็นลักษณะของแท่งเทียนประเภทหนึ่งที่บ่งชี้ถึงการกลับตัวของราคา ซึ่งแท่งเทียนการกลับตัวนั้นมักจะถูกให้ความสำคัญเมื่อเกิดขึ้นบริเวณแนวรับแนวต้านสำคัญ บริเวณเส้นค่าเฉลี่ย จุดที่อินดิเคเตอร์แสดงโมเมนตัมเกิดการกลับตัว (Overbought , Oversold) และบริเวณที่เกิด Divergence ซึ่งแท่งเทียนกับตัวก็มีหลายรูปแบบตัวอย่างเช่น
- Engulfing
- Pinbar
- Inside Bar
Stochastic 9 9 1

เป็นอินดิเคเตอร์แสดงโมเมนตัมตัวหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยมีความตอบสนองไวซึ่งปกติแล้วจะมีค่ามาตรฐานคือ 14 3 3 แต่การปรับค่าให้เป็น 9 9 1 ทำให้มีความตอบสนองไวต่อราคามากขึ้นและเหมาะกับการเทรดในระยะสั้นอย่างไทม์เฟรม 5 นาทีนั่นเอง
เงื่อนไขการเทรดขาขึ้น
1. กราฟราคาอยู่เหนือเส้น LWMA
2. ราคาทำโครงสร้างเป็นตลาดขาขึ้น
3. ราคามีการย่อลงมาบริเวณเส้น LWMA
4. เกิดกราฟราคากลับตัว
5. Stochastic มีค่ามากกว่า 50
6. เปิดออร์เดอร์ Buy
7. ตั้ง Stop loss ไว้ที่ Swing Low ล่าสุด
8. ปิดออเดอร์เมื่อได้กำไร
เงื่อนไขการเทรดขาลง
1. กราฟราคาอยู่ใต้เส้น LWMA
2. ราคาทำโครงสร้างเป็นตลาดขาลง
3. ราคามีการวิ่งกลับมาบริเวณเส้น LWMA
4. เกิดกราฟราคากลับตัว
5. Stochastic มีค่าน้อยกว่า 50
6. เปิดออร์เดอร์ Sell
7. ตั้ง Stop loss ไว้ที่ Swing High ล่าสุด
8. ปิดออเดอร์เมื่อได้กำไร
ข้อดีและข้อเสียของระบบเทรด Higher Low / Lower High
ข้อดีของระบบเทรด

- เป็นระบบที่เรียบง่ายเหมาะกับมือใหม่
- เป็นระบบที่มีจุดเข้าเทรดที่ชัดเจน
- ชนะตลาดที่เป็นเทรนด์
- นำไปทดสอบย้อนหลังได้ง่าย
- สามารถปรับ Trailing stop ได้
ข้อเสียของระบบเทรด

- แพ้ตลาด Side Way
- ต้องนั่งเฝ้าจอเพื่อรอโอกาสในการเทรด
- ต้องใช้ประสบการณ์ในการดูโครงสร้างราคาและ Price Action
- มีผลตอบแทนที่ไม่แน่นอน
คำแนะนำการใช้ระบบเทรด

- เทรดในคู่เงินที่วิ่งเป็นเทรนด์
- เทรดในช่วงเวลาที่มีปริมาณการซื้อ-ขายสูง
- ศึกษาเรื่อง Price Action เพิ่มเติมเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการเข้าเทรด
- นำระบบไปทดสอบก่อนใช้งานจริง
- ปรับค่าอินดิเคเตอร์ได้ตามความเหมาะสม
- ฝึกการบริหารความเสี่ยง
สรุป
ระบบเทรด Higher Low / Lower High คือระบบเทรดสั้นตามเทรนด์ (Trend Following) ที่ใช้การดูโครงสร้างราคาร่วมกับอินดิเคเตอร์อย่าง LWMA ก่อนที่จะรอการย่อตัวและอาศัยการดู Price Action ร่วมกับการดูโมเมนตัมจะ Stochcastic ในการคอนเฟิร์มการเข้าเทรด
ซึ่งระบบเทรดนี้มีข้อดีก็คือมีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำมีจุดการวาง Stop loss ที่ดีสามารถถือทำกำไรได้ถ้าหากตลาดเป็นเทรนด์ที่แข็งแรง การเล่นร่วมกับ Price Action ทำให้การเทรดนั้นยืนยันได้ไวขึ้นมากกว่าใช้- อินดิเคเตอร์ในการยืนยันการเข้าเทรด
อย่างไรก็ตามระบบเทรดนี้ก็ยังมีข้อเสียที่ยังต้องนำไปปรับปรุงอยู่ อย่างแรกผู้ใช้จะต้องมีประสบการณ์ในการอ่านโครงสร้างตลาดและรูปแบบของ Price Action กลับตัวอยู่ประมาณนึงเลยครับมิฉะนั้นในช่วงของการตัดสินใจที่จะเข้าเทรดอาจจะเกิดการลังเลได้ และระบบเทรดนี้ยังแพ้ตลาด Side Way และตลาดที่มีความผันผวนสูง ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงช่วงเวลาข่าว และช่วงที่มีปริมาณการซื้อ-ขายต่ำนะครับ
เพื่อที่จะปรับปรุงให้ระบบเทรดนี้พัฒนาไปอีกขั้นอย่างแรกนักเทรดที่ใช้ระบบเทรดนี้ต้องพัฒนาตัวเองในด้านประสบการณ์การอ่านโครงสร้างราคาและ Price Action เลือกช่วงเวลาการซื้อ-ขายที่มีปริมาณการซื้อขายสูง นำระบบไปทดสอบและปรับค่าอินดิเคเตอร์ให้เหมาะสมครับ
แหล่งเรียนรู้เพิ่มเติมอัพสกิลการเทรดเพื่อนำไปต่อยอดการเทรด
อ้างอิง
ทีมงาน: forexthai.in.th