Bill William ชายผู้ให้กำเนิด Indicator ประเภท Oscillator หลายตัว ไม่ว่าจะเป็น A/D, Alligator. Awesome, Fractal หรือแม้แต่ Gator Oscillator (GO) เองก็ตาม… โดย GO สามารถใช้เพื่อบอกเราว่าตลาดกำลังเป็น trend หรือ เป็นเพียง Sideway เท่านั้น และสิ่งเหล่านี้ก็เป็นหนึ่งสิ่งที่สามารถช่วยเราตัดสินใจ หรือ หาจังหวะเข้า order ได้พอสมควรครับ การถือกำเนิดของ Gator Oscillator อย่างที่เราได้กล่าวข้างต้นว่า GO ถือกำเนิดจากชายที่ชื่อว่า Bill William ซึ่งก็มีอายุอานามเยอะพอสมควรแล้วล่ะ โดยปกติแล้ว GO จะไม่ได้ใช้วิเคราะห์กราฟด้วยตัวของมันเองเพียงตัวเดียว แต่มักจะใช้ GO ควบคู่ไปกับ Alligator indicator ครับ Alligator indicator ก็จะมีการทำงานที่ง่าย ๆ โดยอิงพื้นฐานจาก Simple Moving … [อ่านต่อ คลิก]
Category Archives: Indicators
อินดี้ หรือเครื่องมือทางสถิติที่ใช่ชี้วัดในการเทรด forex ประโยชน์ และเทคนิคการใช้งาน Indicator
Volume Profile คือ Indicator หนึ่งที่สามารถแสดงปริมาณซื้อ-ขาย (Volume) ในแนวนอน ซึ่งทำให้สะดวกในการมองภาพรวมว่ามีปริมาณซื้อขายในตลาดกันอยู่ระดับไหน โดยเราสามารถนำ Volume หลายนี้มาพินิจพิจารณาวิเคราะห์เป็น แนวรับ แนวต้าน ที่มีนัยสำคัญของเราได้ครับ ความเป็นมาของ เท่าที่เราได้หาข้อมูลมา เรายังไม่ทราบแน่ชัดครับว่า ใครเป็นผู้พัฒนา Indicator หรือ หลักการคิดแบบนี้มา แต่เท่าที่ทราบคือเขาพัฒนามาจาก Volume ทั่วไป และเริ่มใช้ในแพลตฟอร์ม Ninja Trader และ Trading view ก่อนที่จะเข้ามาใช้ใน Meta trader ครับ ดังนั้นทางที่ดีหากเราจะเริ่มทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Volume Profile (VP) เราน่าจะต้องเริ่มจากการศึกษา Volume กันก่อน.. Volume คือ ปริมาณของการซื้อขาย ซึ่งถ้ายิ่งมากแสดงให้เห็นถึง ณ ช่วงนั้นมีการซื้อขายกันมาก อุปมาดั่งคนเดินตลาดครับ คือ ถ้าคนเดินมากก็มีโอกาสศื้อขายมาก และถ้ามีคนเดินน้อยก็มีโอกาสซื้อขายน้อย ปกติแล้วเมื่อเราดู Volume ใน Indicator … [อ่านต่อ คลิก]
Pivot Point (PP) คือ ระดับราคาที่เทรดเดอร์มืออาชีพใช้เพื่อประเมินว่าราคาเป็นขาขึ้นหรือขาลง โดยมักจะมีวิธีคำนวณที่หลากหลายรูป แต่ส่วนมากเรานิยมใช้ระดับราคา High, Low, Close ของวันก่อนหน้าที่เราจะเทรดมาคำนวณครับ นอกจากนี้ Pivot Points ยังเป็น indicator ประเภทหนึ่งที่ใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค ซึ่งเป็นพื้นฐานในการกำหนดแนวโน้มของตลาดอีกด้วย ความเป็นมาของ Pivot Point เดิมทีแล้ว PP ถือกำเนิดมานานนับหลายทศวรรษแล้ว ตั้งแต่สมัยที่ยังไม่มีกระดานหุ้นออนไลน์เสียอีก โดยต้นกำหนดของมันมาจากเทรดเดอร์รุ่นเก่า (Floor Trader) ที่มักจะซื้อขายหุ้นกัน ซึ่งพวกเขามักจะดูราคาสูง (High), ต่ำ (Low), และราคาปิด (Close) ของวันก่อนหน้าที่เขาจะเริ่มเทรดมาคำนวณ PP เพื่อหาจุดเขาซื้อขายที่เหมาะสมครับ นอกจากนี้ PP มักจะถูกใช้เพื่อหาแนวรับ แนวต้าน สำหรับการเทรดภายในวันได้อีกด้วย โดยแนวรับแนวต้านดังกล่าวจะถูกคำนวณบนพื้นฐานของราคาสูง, ต่ำ, ปิด ของวันก่อน ๆ ตามที่ได้เล่ามาครับ เรามาเข้าสูตรการคำนวณกันเถอะ “แม้ว่า Indicator จะแสดงจุดกลับตัวของแนวโน้มที่เป็นไปได้ แต่ก็ไม่แนะนำให้ใช้โดยไม่เชื่อมโยงกับระบบการซื้อขายหลัก” … [อ่านต่อ คลิก]
ก่อนที่เราจะทำความรู้จักกับ Fractal Adaptive Moving Average (FRAMA) นั้น เราจะขอเกริ่นรากเหง้าของ indicator ตัวนี้ก่อนครับ ซึ่งมันก็คือ Moving Average (MA) นั่นเองล่ะ… MA คือ indicator ที่ใช้ค่าเฉลี่ยการเคลื่อนที่ของราคาในการวิเคราะห์ โดยสามารถใช้ราคาเปิด-ปิด หรือ ราคาสูง-ต่ำ ของกราฟแท่งเทียนย้อนหลังตามระยะเวลาที่เรากำหนด ทำให้เส้นที่ออกมาสามารถคาดการณ์แนวโน้มที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคตครับ ความเป็นมาของ FRAMA เทรดเดอร์หลายท่านอาจจะยังไม่ค่อยรู้จักกับ indy ตัวนี้เท่าไหร่นัก แต่แท้จริงแล้ว FRAMA ได้ถูกพัฒนามาจาก MA ได้ระยะใหญ่ ๆ แล้ว โดยผู้พัฒนาชื่อว่าคุณ John Ehlers ครับ ซึ่งเขาได้กล่าวว่า การพัฒนา indy ตัวนี้มีสามารถมองเห็นความเปลี่ยนแปลงของราคาได้อย่างแม่นยำขึ้น และการเคลื่อนไหวของราคาเข้าใกล้ความจริงมากขึ้น ส่งผลให้เราสามารถรู้แนวโน้มของตลาดได้แม้จะอยู่ในช่วงที่ราคายังคงทรงตัวอยู่โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ.. สิ่งที่ทำให้ FRAMA มีประสิทธิภาพเช่นนี้ คือ การใช้มิติแฟร็กทัลของราคาตลาด (Fractal dimension of market … [อ่านต่อ คลิก]
อินดิเคเตอร์ Williams AD หรือ Williams Accumulation/Distribution Indicator เป็นเครื่องมือชี้วัดการซื้อขายในตลาด ที่วัดความเสี่ยงและความแข็งแกร่งของตลาด โดยจะรวมผลรวมของค่าสะสมที่เป็นบวก (ผู้ซื้อ) และค่ากระจายที่เป็นลบ (ผู้ขาย) เพื่อหาค่าความเชื่อมั่น และความแข็งแกร่งของตลาด ผู้พัฒนาอินดิเคเตอร์ Williams AD ผู้พัฒนาอินดิเคเตอร์ Williams AD คือ Larry Williams ซึ่งเป็นนักลงทุนและผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนในตลาดหุ้น โดยเขาได้พัฒนาเครื่องมือดังกล่าวขึ้นมา เพื่อช่วยในการวิเคราะห์แนวโน้มของตลาด และการตัดสินใจในการซื้อขาย เทรดเดอร์หลายคน เทรดได้แต่ปิดทำกำไรไม่ได้ อินดิเคเตอร์ Williams AD ทำงานอย่างไร อินดิเคเตอร์ Williams AD เป็นตัวชี้วัดที่ใช้วัดแรงขายและแรงซื้อ โดยจะคำนวณจากการรวมผลรวมของค่า Accumulation และ Distribution ของสินทรัพย์ ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถวิเคราะห์แนวโน้มของตลาดได้ โดยสามารถใช้ Williams AD ในการตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของแรงซื้อและแรงขาย โดยทั่วไปแล้ว การใช้ Williams AD จะมีขั้นตอนดังนี้ ระยะสะสม หรือแรงซื้อที่เพิ่มมากขึ้น … [อ่านต่อ คลิก]
อินดิเคเตอร์ OsMA หรือ Moving Average of Oscillator เป็นเครื่องมือประเภทออสซิลเลเตอร์ ถูกพัฒนามาจากเส้น Moving Average ซึ่งการแสดงผลจะเป็นรูปแบบของ Histogram คล้ายกับ MACD และสามารถใช้งานได้หลากหลาย ซึ่งอินดิเคเตอร์ OsMA ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยในการวิเคราะห์แนวโน้มและความแข็งแกร่งของตลาด และยังสามารถให้สัญญาณเทรดได้อย่างแม่นยำ เป็นที่นิยมอย่างมากจากเทรดเดอร์ทั่วโลก คิดและทำให้เหมือนกับเทรดเดอร์ส่วนใหญ่ในตลาด อินดิเคเตอร์ OsMA คืออะไร เป็นเครื่องมือที่ถูกสร้างมาจาก Moving Average โดยใช้ความแตกต่างของเส้น Moving Average ที่มีค่าเฉลี่ยแตกต่างกัน 3 ช่วงเวลา นั่นคือค่า 12,26,9 ซึ่งเป็นค่าเดียวกันกับอินดิเคเตอร์ MACD อาจจะเรียกได้ว่า เป็นอินดิเคเตอร์รุ่นปรับปรุงของ MACD เลยก็ว่าได้ การแสดงผลเป็นรูปแบบ Histogram ซึ่งมีวิธีการงานคล้าย ๆ กับอินดิเคเตอร์ออสซิลเลเตอร์ทั่วไป เท่ากับว่าเป็นเครื่องมือที่ใช้งานง่ายคล้ายคลึงกับอินดิเคเตอร์ที่เทรดเดอร์หลาย ๆ คนรู้จัก แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือเป็นรุ่นพัฒนาต่อยอด แน่นอนว่าอาจจะมีอะไรที่ดีกว่า หรือไม่นั้น เชิญเทรดเดอร์มาพิสูจน์ไปพร้อม … [อ่านต่อ คลิก]
อินดิเคเตอร์ Mass Index (MI) เป็นเครื่องมือวัดความผันผวน ใช้ระบุการกลับตัว ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่มีความแม่นยำ และการทำงานที่เสถียร์ สัญญาณเกิดเมื่อไหร่ กลับตัวแทบจะทุกที เข้าใจก่อนว่า อินดิเคเตอร์ Mass Index ทำงานอย่างไร อินดิเคเตอร์ Mass Index เป็นรูปแบบกราฟเส้น โดยจะให้ระดับความสำคัญอยู่ที่ 26.50 Vertical scale และ 27.00 Vertical scale เมื่อไหร่ก็ตามที่กราฟอินดิเคเตอร์มาถึงระดับ Vertical scale จะมีการเปลี่ยนแนวโน้มในไม่ช้า โดยให้สังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นคืออินดิเคเตอร์ Mass Index ขึ้นมาถึง 27.00 และลงมาต่ำว่า 26.50 จะเกิดการกลับตัวของราคา ใช้หลักการณ์เดียวกันทั้งแนวโน้มขาขึ้นและขาลง เครื่องมือมีไว้ใช้ ไม่ได้มีไว้ให้มโน จงใช้งานตามความเป็นจริง ใครเป็นผู้พัฒนาอินดิเคเตอร์ Mass Index ผู้พัฒนาอินดิเคเตอร์ Mass Index คือ Donald Dorsey … [อ่านต่อ คลิก]
อินดิเคเตอร์ Market Facilitation Index หรือ BW MFI เครื่องมือชี้วัดความผันผวน ถูกสร้างถึงเพื่อเพื่อดูคุณภาพของการเคลื่อนที่ของราคาและความสัมพันธ์กับปริมาณการซื้อขาย เป็นอินดิเคเตอร์ที่มีการแบ่งสีเพื่อความเข้าใจง่าย ชัดเจนต่อการใช้งาน และที่สำคัญบอกความหมายเป็นนัยยะที่แตกต่างกัน การทำงานของอินดิเคเตอร์ Market Facilitation Index อินดิเคเตอร์ประเภท Volume ส่วนใหญ่ มักจะมีหน้าตาคล้าย ๆ กัน แต่สิ่งที่แตกต่างสำหรับอินดิเคเตอร์ Market Facilitation Index คือจะมีการแบ่งสี และให้ความหมายที่แตกต่างกัน โดยมีวิธีการใช้งานและวิเคราะห์ ดังต่อไปนี้ สีเขียว (Green): แท่งเทียนสีเขียวแสดงว่าตลาดอยู่ในสภาวะสมดุล คือ ราคาขึ้นพร้อมกับปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น สีแดง (Red): แท่งเทียนสีแดงแสดงว่าตลาดอยู่ในสภาวะไม่สมดุล คือ ราคาขึ้นพร้อมกับปริมาณการซื้อขายลดลง สีน้ำเงิน (Blue): แท่งเทียนสีน้ำเงินแสดงว่าตลาดอยู่ในสภาวะแข็งแกร่ง คือ ราคาขึ้นพร้อมกับปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 1.5 เท่า สีน้ำเงินอ่อน (Light Blue): แท่งเทียนสีน้ำเงินอ่อนแสดงว่าตลาดอยู่ในสภาวะอ่อนแอ คือ ราคาขึ้นพร้อมกับปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นน้อยกว่า … [อ่านต่อ คลิก]
Price and Volume Trend หรือ PVT คือ อินดิเคเตอร์ใน MT5 ตัวชี้วัดให้เห็นถึงราคาปริมาณและแนวโน้ม คล้ายกับ On Balance Volume (OBV) ใช้ชี้วัดการเก็บสะสมปริมาณ ขณะที่ OBV ชี้วัดการเพิ่มหรือสะสมปริมาณทั้งหมดแบบรายวัน ส่วน PVT จะเพิ่มหรือลดปริมาณเพียงบางส่วนของปริมาณรายวัน โดยปริมาณที่จะเพิ่มขึ้นหรือลดลง จาก PVT จะใช้ค่าความสัมพันธ์ของราคาในปัจจุบันเปรียบเทียบกับราคาปิดของวันก่อนหน้า ราคาคือสิ่งที่ต้องการ ปริมาณคือสิ่งที่ต้องรู้ Price and Volume Trend มีวิธีใช้อย่างไร ก่อนอื่น เทรดเดอร์จะต้องเข้าใจก่อนว่า การเคลื่อนไหวของ PVT คือปริมาณ หรือหน่วยทรัพย์สินที่มีการซื้อขายในตลาด โดยปกติแล้วราคาและปริมาณจะต้องสัมพันธ์กัน เส้น PVT ขาขึ้นบอกถึงความเชื่อมั่นเชิงบวก หรือมีปริมาณในฝั่งซื้อหรือ Buy เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในทางกลับกัน เส้น PVT ลดลง บอกถึงความเชื่อมั่นเชิงลบ หรือมีปริมาณในฝั่งขายหรือ Sell มากขึ้นบอกถึงแนวโน้มในขาลง … [อ่านต่อ คลิก]
อินดิเคเตอร์ Rate Of Change หรือ ROC คือ หนึ่งในเครื่องมือประเภทโมเมนตัม ที่จะคำนวณการเปลี่ยนแปลงของราคาเป็นเปอร์เซ็นต์ ตามช่วงเวลาที่กำหนด ใช้วัดโมเมนตัม ความแข็งแกร่งของแนวโน้ม โอกาสกลับตัวที่จะเกิดขึ้น นับว่าเป็นเครื่องมือเดียวสารพัดประโยชน์ก็ว่าได้ ROC มีการทำงานอย่างไร เส้น 0 คือเส้นกลางของเครื่องมือ เมื่อไหร่ก็ตามที่เส้นตัดขึ้นไปอยู่เหนือ 0 แสดงว่ามีแรง Buy และกราฟมีโอกาสขึ้นมากกว่าลง และเมื่อเส้นขัดลงต่ำกว่า 0 แสดงว่ามีแรง Sell และกราฟมีโอกาสลงมากกว่าขึ้น เป็นค่าเฉลี่ยย้อนหลังค่าที่ให้มาคือ 12 ความขัดแย้งของราคา กราฟทำจุดสูงสุดขึ้นไปเรื่อย ๆ ในระหว่างเดียวกัน ROC ทำจุดสูงสุดต่ำลง หรือกราฟทำจุดต่ำลง ในระหว่างเดียวกัน ROC ยกจุดต่ำขึ้น เป็นสัญญาณ Divergence มีโอกาสที่จะกลับตัวหรือพักตัวนั่นเอง Overbought และ Oversold หรือสภาวะซื้อมากเกินไปและซื้อขายมากเกินไป เมื่อใดก็ตามที่เกินสัญญาณเหล่านี้ จะมีการกลับตัวของราคาเสมอ ความเข้าใจ สำคัญกว่าการท่องจำ สูตรคำนวณ … [อ่านต่อ คลิก]
Standard Deviation หรือ StdDev คือ อินดิเคเตอร์ประเภทแนวโน้ม ใช้วัดความผันผวนของราคา โดยใช้หลักส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ในตลาด Forex ความผันผวนจะบ่งชี้ถึงความเสี่ยงในการเทรด แต่อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์มีการนำไปปรับใช้หลากหลายกรณี นับเป็นอินดิเคเตอร์ตัวหนึ่ง ที่มีความสำคัญไม่น้อยเลย Standard Deviation (StdDev) มีการทำงานอย่างไร อินดิเคเตอร์วัดความผันผวน StdDev คือ ตัวบอกความเบี่ยงเบนของราคาค่าเฉลี่ย ที่มากจาก Moving Averaging จะสั่งเกตุเห็นได้ว่า เมื่อราคาอยู่ห่างจากเส้นค่าเฉลี่ย ค่าความผันผวนก็เกิดขึ้น และเมื่อไหร่ที่ค่าความผันผวนต่ำ ราคาก็จะไม่ห่างจากเส้นค่าเฉลี่ย ตีความหมายได้ว่า ถ้าเส้น StdDev ต่ำ ตลาดอาจะกำลังอยู่ในช่วงไซด์เวย์ หรือเคลื่อนที่มีทิศทางไปเรื่อย ๆ มีความผันผวนน้อย แต่ถ้าเส้นพุ่งขึ้นสูงนั่นแสดงว่า ตลาดกำลังมีความผันผวน หรือกำลังเลือกทิศทาง ทำแนวโน้มทิศทางใดทิศทางหนึ่งอย่างรุนแรงนั่นเอง หมีกับกระทิงสู้กัน ไม่นานจะรู้ว่าแรงใดที่สามารถควบคุมตลาด Standard Deviation มีวิธีใช้อย่างไร ใช้วัดความผันผวนของราคา ค่าความผัวผวนต่ำ แสดงให้เห็นถึงราคาที่ค่อย ๆ เคลื่อนที่ไม่หวือหวา … [อ่านต่อ คลิก]
อินดิเคเตอร์ Price Channel เป็นเครื่องมือชี้วัด ที่มีรูปร่างคล้ายหนอน หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับอินดิเคเตอร์ตัวหนึ่งเช่น Bollinger Bands แต่ที่มาและความสามารถแตกต่างกัน โดยอินดิเคเตอร์ตัวนี้จะมีกรอบบน กรอบล่าง และเส้นกลางระหว่างกรอบแลดูคล้ายตัวหนอน แต่มันเป็นกรอบของราคาเคลื่อนที่ ที่เทรดเดอร์สามารถใช้เทรดทำกำไรได้ อินดิเคเตอร์ Price Channel คืออะไรและทำงานอย่างไร Price Channel กรอบราคาเคลื่อนที่ ที่อาศัยราคาสูงสุดและราคาต่ำสุด ตามระยะเวลาที่กำหนด ตัวอย่างใน MT5 ระยะเวลาที่ให้มานั่นก็คือ 22 วัน หรือ 22 แท่งย้อนหลัง กรอบบน จะเป็นกรอบราคาสูงสุดของ 22 แท่งย้อนหลัง และกรอบล่าง จะเป็นราคาต่ำสุดของ 22 แท่งย้อนหลัง และเส้นกลางจะเป็นค่าเฉลี่ยของราคากลาง 22 แท่งย้อนหลัง โดยจะสร้างกรอบและเคลื่อนที่ตามราคาในปัจจุบัน โดยเทรดเดอร์อาศัยกรอบดังกล่าวนี้ เป็นแนวรับแนวต้านจุดเข้าทำกำไร หรือจุดปิดทำกำไรได้เช่นเดียวกัน แนวรับแนวต้าน คือพื้นที่ ที่คนรอซื้อและรอขาย วิธีใช้งาน Price Channel เนื่องจากเป็นราคาสูงสุดและราคาต่ำสุด … [อ่านต่อ คลิก]
Triple Exponential Moving Average หรือ TEMA คือ อีกหนึ่งอินดิเคเตอร์ประเภทเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ ได้รับการพัฒนาต่อยอดมาจากเส้น Exponential Moving Average หรือเส้น EMA มีจุดมุ่งหมายคือลดความความผันผวน ให้สัญญาณที่มีความราบรื่น และเพิ่มความไวในการระบุแนวโน้ม ข้อแตกต่างของ TEMA กับอินดิเคเตอร์อื่น ๆ เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่โดยทั่ว ๆ ไป จะมีความผันผวนตามช่วงเวลาที่เลือกใช้ และบ่อยครั้งทำให้เกิดสัญญาณหลอก แต่อินดิเคเตอร์ TEMA ใช้ข้อมูลจากเส้น EMA นำมาคำนวณถึง 3 ชั้น และในสูตรยังมีการตัดค่าหรือสัญญาณบางอย่างออก เพื่อกรองสัญญาณ จึงทำให้ TEMA มีความราบรื่นหรือมีความเสถียร์ ไวต่อการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ใช่เพียงความผันผวน สัญญาณมั่นคงสามารถชื่อถือได้ และมีวิธีการใช้งานที่เรียบง่ายคล้ายกับเส้นค่าเฉลี่ยอื่น ๆ นับเป็นผลดีกับเทรดเดอร์ในทุก ๆ ด้าน ความไวเป็นเรื่องของปีศาจ แต่จังหวะในการเทรด เป็นเรื่องของเทรดเดอร์ ใครเป็นผู้พัฒนา มีการเผยแพร่เมื่อไร ในปี 1994 นิตยสาร … [อ่านต่อ คลิก]
Triple Exponential Average หรือ TRIX คือ อินดิเคเตอร์ที่ใช้เพียงตัวเดียวก็สามารถทำกำไรได้จริงหรือ TRIX เป็นอินดิเคเตอร์ที่ให้สัญญาณเทรดที่หลากหลายภายในตัวเดียว เพราะผ่านกระบวนการคัดกรองสัญญาณมาถึง 3 ขั้นตอน TRIX คือ อะไร TRIX คือ อินดิเคเตอร์ประเภทออสซิลเลเตอร์โมเมนตัม ที่แสดงอัตราการเปลี่ยนแปลงเป็นเปอร์เซ็นต์ โดยมีการปรับให้เรียบหรือสมูธถึง 3 เท่าของค่าเฉลี่ย Exponential Moving Average (EMA) ที่ใช้ในการคำนวณ เพื่อลดหรือกรองสัญญาณหลอกและความแม่นยำในการเทรด นอกจากนี้ TRIX คือ อินดิเคเตอร์ที่ใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการยืนยันแนวโน้ม โมเมนตัม สภาวะซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไป (Oversold & Overbought) หรือการนำไปปรับใช้หาจุดเข้า Buy หรือ Sell ก็ทำได้ดีและมีความเสถียร์เช่นกัน ไม่มีใครวางแผนที่จะล้มเหลว คนล้มเหลวส่วนใหญ่ ไม่ได้วางแผน ใครคือผู้พัฒนา TRIX TRIX ได้รับการพัฒนาจาก Jack Hutson ในปี … [อ่านต่อ คลิก]
Ultimate Oscillator (UO) เป็นอินดิเคเตอร์ (Indicator) ประเภทโมเมตัมออสซิลเลเตอร์ ที่พัฒนามาจากเทรดเดอร์ผู้เชี่ยวชาญ เจ้าของอินดิเคเตอร์ยอดนิยมอีกหลายตัว โดยออกมาแก้ปัญหาออสซิลเลเตอร์ระยะสั้นมักจะออกสัญญาณซื้อขายมากจนเกินไป และออสซิลเลเตอร์ระยะยาวมักจะให้สัญญญาณที่ช้านจนเกินไป เป็นปัญหาอย่างยิ่งในการเทรด โดย UO จะใช้กรอบเวลาทั้ง 3 ช่วง มาคำนวณเพื่อหาสัญญาณที่แท้จริง และลดสัญญาณหลอกให้น้อยที่สุด แนวคิดที่เชื่อถือได้ จะต้องเป็นแนวคิดที่ผ่านการทดสอบ ไม่ใช่มโนเพียงอย่างเดียว Ultimate Oscillator คืออะไร UO เป็นอินดิเคเตอร์ยอดนิยม เทรดเดอร์บางคนบอกว่าเป็นอินดิเคเตอร์ที่ดีที่สุด ก็นับว่าไม่เกินจริง เพราะไม่ใช่ใครก็สามารถพัฒนาอินดิเคเตอร์ดี ๆ ขึ้นมาสักตัวได้ ล้วนเกิดขึ้นมาจากแนวคิดของใครบางคน และทดสอบจนกระทั่งมันสามารถเอาชนะตลาดได้จริง จึงพัฒนาขึ้นมาเป็นเครื่องมือ และเผยแพร่ให้ผู้คนที่สนใจ ใครเป็นผู้พัฒนา UO Larry Williams เป็นผู้พัฒนา UO โดยการนำค่าในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อค้นหาความผิดปกติจากการซื้อขาย โดยค่าในสามช่วงเวลาที่แตกต่างกัน ค่าเดิมที่ให้มาคือ 7,14 และ 28 โดยให้แนวคิดที่ว่า การใช้ค่าที่แตกต่างกันในแต่ล่ะช่วงเวลา จะได้ค่าที่มีความเสถียร์หากเกิดสัญญาณเท็จหรือผิดพลาด UO … [อ่านต่อ คลิก]