Forexthai.in.th ย่อให้
- Price Action คือ เทคนิคในการวิเคราะห์ตลาดที่เน้นการอ่านราคา และรูปแบบการเคลื่อนไหวของราคา
- การดู Price action เป็นการดูพฤติกรรมการเคลื่อนไหวของราคาจาก “กราฟเปล่า”
- หน้าตาของ Price action พื้นฐาน ได้แก่ Up bar, Inside bar, Outside bar, และ Pin bar เป็นต้น
เทรดเดอร์หลายคนที่เริ่มเข้ามาเทรดในตลาด Forex ได้สักพัก มักจะเริ่มได้ยินเหล่าเทรดเดอร์ด้วยกัน เริ่มพูดถึงการเทรดแบบดู Price action หรือพฤติกรรมการเคลื่อนไหวของราคา ซึ่งบางคนอาจยังไม่เข้าใจว่า Price action คืออะไร?
Price action คืออะไร
ถ้าพูดกันอย่างง่ายที่สุดเลย การดู Price action คือ การดูกราฟเปล่านั่นเอง ไม่ใช้ Indicators หรือเส้นค่าเฉลี่ยอะไรทั้งสิ้น เป็นการดูพฤติกรรมการเคลื่อนไหวของราคาจากกราฟเปล่าๆ ทั้งในรูปแบบของ Candlestick chart และ Bar chart
ซึ่งมีเทรดเดอร์ในตลาด Forex หลายท่านที่ประสบความสำเร็จ โดยใช้วิธีนี้ในการเทรด เพราะพวกเขาเชื่อว่า “พวก Indicators หรือเส้นค่าเฉลี่ยต่างๆ ล้วนมาจากการคำนวณของราคาเก่า ทั้ง Open High low และ Close ที่ปรากฎอยู่บนกราฟแล้วทั้งสิ้น” พวกเขาเหล่านั้นจึงไปโฟกัสการดูพฤติกรรมของราคาแทน
บทความนี้จะเป็นการแนะนำ การใช้ Price action ทั้งลักษณะและวิธีการวิเคราะห์ต่าง ๆ
หน้าตาของ Price action ที่เกิดขึ้นบ่อย
-
Up bar:
หรือที่เรียกว่า “Bullish bar” เป็นแท่งเทียน “ที่ทำ High สูงขึ้น และ Low สูงขึ้น กว่าแท่งก่อนหน้า” แสดงถึงแนวโน้มขาขึ้น ฝั่งซื้อมีกำลังมากกว่าฝั่งขาย
โดยปกติแท่งเทียนจะเป็นสีเขียว (ราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด) แต่บางครั้งแท่งเทียนสามารถเป็นสีแดงได้เช่นกัน (ราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด) เพราะถ้าแท่งเทียนยังคงลักษณะที่ทำ High สูงขึ้นและ Low สูงขึ้นกว่าแท่งก่อนหน้า ก็ยังคงเรียกว่า Up bar
-
Down bar:
หรือที่เรียกว่า “Bearish bar” ตรงกันข้ามกับ Up bar คือ เป็นแท่งเทียน “ที่ทำ High ต่ำลง และ Low ต่ำลง กว่าแท่งก่อนหน้า” แสดงถึงแนวโน้มขาลง ฝั่งขายมีกำลังมากกว่าฝั่งซื้อ
โดยปกติ แท่งเทียนจะเป็นสีแดง (ราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด) แต่บางครั้งแท่งเทียนสามารถเป็นสีเขียวได้เช่นกัน (ราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด) เพราะถ้าแท่งเทียนยังคงลักษณะที่ทำ High ต่ำลง และ Low ต่ำลง กว่าแท่งก่อนหน้า ก็ยังคงเรียกว่า Down bar
-
Inside bar:
บางครั้งเรียกกันว่า “Narrow range bar” โดย Inside bar จะมีลักษณะ “High ต่ำกว่าแท่งก่อนหน้า และ Low สูงกว่าแท่งเทียนหน้า” รูปแบบเป็นการบีบตัวแคบลงของราคา แสดงถึงการที่ราคายังไม่สามารถเลือกทิศทางได้ และถ้าราคาทะลุไปยังทิศทางใดทิศทางหนึ่งก็แสดงว่าตลาดได้เลือกทิศทางที่จะไปเรียบร้อยแล้ว
-
Outside bar:
บางครั้งเรียกกันว่า “Mother bar, Wide range หรือ Engulfing bar” เป็นลักษณะที่ “แท่งเทียนทำ High สูงกว่าแท่งก่อนหน้า และ Low ต่ำกว่าแท่งเทียนหน้าเช่นกัน” ตำแหน่งของราคานั้นก็แสดงถึงแรงซื้อหรือแรงขายของฝั่งที่มีกำลังมากกว่า
อีกนัยความหมายนึงของรูปแบบนี้ คือ ถ้าแท่งเทียนล่าสุดคลุมแท่งเทียนก่อนหน้าทั้งหมด หรือ ราคาปิด (Close) และเปิด (Open) คลุมแท่งเทียนราคาปิด/เปิดก่อนหน้าทั้งหมด
-
- “ปิดบวก” แสดงถึง “ฝั่งซื้อมีกำลังมากกว่า”
- แต่ถ้า “ราคาปิดลบ” คลุมแท่งก่อนหน้าทั้งหมด แสดงถึง “ฝั่งขายมีกำลังมากกว่า”
-
Pin bar:
ลักษณะ “ไส้เทียน ยาวๆ ออกฝั่งใดฝั่งหนึ่ง และราคาอยู่ตรงข้ามกับฝั่งนั้น”
-
- ถ้าเป็นไส้เทียนยาวๆ ออกด้านล่าง และราคาปิดอยู่บริเวณด้านบน เป็นลักษณะของ “Bullish pin bar” แสดงว่าระหว่างวันเกิดแรงขาย แต่สุดท้ายก็มีแรงซื้อกลับเข้ามา
- ในทางตรงกันข้าม ถ้าเป็นลักษณะไส้เทียนยาวๆ ขึ้นด้านบน และราคาปิดอยู่บริเวณด้านล่างของแท่ง เป็นลักษณะของ “Bearish pin bar” แสดงถึงระหว่างวันแรงซื้อพยายามดันราคาขึ้นไป แต่สุดท้ายก็เกิดแรงขายที่รุนแรงกว่าดันราคากลับลงมา
เดี๋ยวเรามาดูวิธีการใช้ Price action ในการเทรดในบทความ Price action ใน Forex ตอนที่ 2 แต่จะเราขอเกริ่น ๆ ก่อนนะครับว่าตอนที่ 2 จะแอบบอกชื่อ indicators ที่ดึงความรู้เรื่อง Price action มาทำกำไรกัน เช่น
ทีมงาน: forexthai.in.th
