Copy Trade คืออะไร? ต้องเลือกยังไงถึงจะดี?

Forexthai.in.th ย่อให้

• Copy trade คือ ระบบคัดลอกการเทรดจากเทรดเดอร์มืออาชีพแบบอัตโนมัติ เหมาะสำหรับผู้มีเวลาจำกัดหรือยังไม่มีประสบการณ์ในการเทรด Forex
• การทำงานของระบบต้องผ่านโบรกเกอร์ที่รองรับ โดยเมื่อ Master Trader เปิดออเดอร์ ระบบจะเปิดออเดอร์ให้เราตามสัดส่วนที่กำหนดโดยอัตโนมัติ
• ข้อดีคือไม่ต้องนั่งวิเคราะห์กราฟเอง สามารถเรียนรู้จากมืออาชีพ ควบคุมความเสี่ยงได้ และตรวจสอบผลงานได้ตลอด
• การเลือก Master Trader ที่ดีควรดูประวัติอย่างน้อย 2 ปี พิจารณา Drawdown เงินทุน และสไตล์การเทรดให้เหมาะกับเรา

ในยุคที่เวลาเป็นสิ่งมีค่า การเทรด Forex ให้ประสบความสำเร็จไม่ใช่เรื่องง่าย ผมเชื่อว่าหลายคนคงเคยคิดเหมือนผมว่า “อยากเทรด Forex แต่ไม่มีเวลามานั่งเฝ้าหน้าจอ” หรือ “กว่าจะเรียนรู้จนเทรดเป็นคงใช้เวลาอีกนาน” ผมเข้าใจความรู้สึกนี้ดี เพราะตลาด Forex เป็นตลาดที่ต้องใช้ทั้งความรู้ ประสบการณ์ และที่สำคัญคือ “เวลา” ในการวิเคราะห์และตัดสินใจ

หากมีเครื่องมืออะไรก็ตามที่มาช่วยให้เราประหยัดเวลาในการเทรด ผมว่ามันน่าสนใจมากๆ นี่คือเหตุผลที่ทำให้ระบบ Copytrade กลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนยุคใหม่

---

Copy trade คืออะไร?

Copytrade มีความหมายตรงตัวเลยครับ นั่นคือ “การคัดลอกการเทรด หรือการคัดลอกคำสั่งซื้อขายจากเทรดเดอร์มืออาชีพ” การ Copytrade นั้นจึงต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของบัญชี เพราะการ Copy นั้นหมายความว่า ถ้าเขาสั่ง Buy สินทรัพย์ใด ๆ ก็ตามเราก็ต้อง Buy ด้วยและเมื่อเขา Sell สินทรัพย์ใด ๆ ก็ตามเราก็จะต้อง Sell ด้วย

ดังนั้น การ Copy Trade จึงเกี่ยวข้องกับคน 2 คน คือ คนที่ให้สัญญาณ (Master Trader) กับคนที่รับสัญญาณในการเทรด เมื่อคุณเลือก “Master Trader” ที่คุณชื่นชอบและเชื่อมั่นในฝีมือ ระบบจะทำงานผ่านโบรกเกอร์ที่ให้บริการเรา หรืออาจเป็นการทำ Copytrade บน MT4 หรือ MT5 ก็สามารถทำได้

เมื่อ Master Trader ที่เราเลือกเปิดออเดอร์ ระบบก็จะเปิดออเดอร์ให้เราโดยอัตโนมัติ ตามสัดส่วนเงินลงทุนที่เรากำหนด

ทำไม Copy trade ถึงเป็นที่นิยม?

จากประสบการณ์ในวงการ Forex ผมพบว่าสิ่งที่ทำให้ Copytrade ได้รับความนิยมอย่างมาก คือความสะดวกและการเข้าถึงได้ง่าย คุณไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานการเทรดมาก่อน ไม่ต้องเสียเวลาศึกษาการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ซับซ้อน และที่สำคัญคือคุณสามารถทำงานประจำไปพร้อมๆ กับการลงทุนได้

ข้อดีของ Copy trade:

• ประหยัดเวลาสุด ๆ – ไม่ต้องนั่งวิเคราะห์กราฟเอง ระบบทำงานให้อัตโนมัติ
• เรียนรู้จากมืออาชีพ – ได้เห็นวิธีการเทรดจริงของเทรดเดอร์มืออาชีพ
• ควบคุมความเสี่ยงได้ – กำหนดวงเงินและหยุดการคัดลอกเมื่อไหร่ก็ได้
• โปร่งใสตรวจสอบได้ – ดูประวัติและสถิติการเทรดของ Master ได้ตลอด

แนวทางการเลือก Copy trade

1. ตรวจสอบประวัติก่อนเสมอ

การเลือก Master Trader ก็เหมือนกับการเลือกครูสอนเทรดครับ เราต้องดูประวัติและผลงานให้ดี โดยปกติแล้วเราสามารถดูข้อมูลเหล่านี้ได้จากเว็บไซต์ของโบรกเกอร์หรือ myfxbook

สิ่งที่ต้องพิจารณาคือ:

• ประวัติการทำกำไร-ขาดทุน
• ระยะเวลาในการเทรด (ควรมีประวัติอย่างน้อย 2 ปี เพราะว่า 1 ปีนั้นก็ยังไม่มีข้อมูลมากพอสำหรับการรับประกันได้ว่าเขาจะประสบความสำเร็จจริง ๆ)
• จุดขาดทุนสูงสุด (Maximum Drawdown)
• ความสม่ำเสมอในการทำกำไร

2. เลือกวงเงินให้ใกล้เคียงกัน

เคล็ดลับสำคัญอีกอย่างคือการเลือก Master ที่มีสไตล์การเทรดและขนาดเงินทุนที่ใกล้เคียงกับเรา ไม่ใช่แค่ดูแค่ผลตอบแทนอย่างเดียว เพราะ Master ที่เทรดด้วยเงินล้านกับเราที่มีทุนหลักพัน อาจจะมีการจัดการความเสี่ยงที่แตกต่างกันมาก

3. ดูความเสี่ยงและผลตอบแทน

จากประสบการณ์ผม ความเสี่ยงสำคัญกว่าผลตอบแทนครับ ไม่ควรจะเกิน 20% ต่อปี ขณะที่ผลตอบแทนจะเท่าไหร่ก็ได้ เน้นดูความสม่ำเสมอของผลตอบแทน (แต่ก็ควรจะเกิน 20% ต่อปี) และระวัง Master ที่ใช้ Martingale หรือเพิ่ม lot size เมื่อขาดทุน

4. ศึกษาวิธีการเทรด

สิ่งสำคัญที่หลายคนมองข้ามคือการศึกษาสไตล์การเทรดของ Master ว่าเข้ากับเราหรือไม่ ต้องดูว่า การเทรดต้องมีลักษณะอย่างไรก็ได้ที่จะไม่ล้างพอร์ต เช่น

• มีการใช้ Stop Loss หรือไม่
• เทรดในช่วงเวลาไหนบ้าง
• ใช้กลยุทธ์แบบไหน (Scalping, Day Trade, Swing Trade)
• มีการบริหารความเสี่ยงอย่างไร

เว็บไซต์และแพลตฟอร์มที่ให้บริการ Copytrade

1. โบรกเกอร์ชั้นนำที่ให้บริการ Copytrade

ไม่ใช่ว่าทุกโบรกนั้นจะมีการสนับสนุนในเรื่องที่กล่าวมานี้ มีแต่เพียงบางโบรกเกอร์เท่านั้นนะครับที่สนับสนุน และซัพพอร์ตการทำ Copytrade ดังนั้นหากคุณคิดจะเล่นกลยุทธ์ข้อนี้ จงเลือกโบรกให้ดี

ปัจจุบันมีโบรกเกอร์หลายเจ้าที่ให้บริการ Copytrade คุณภาพดี เช่น:

ลำดับ	โบรกเกอร์	อ่านรีวิวโบรกเกอร์
1	Exness	รีวิว Exness
2	XM	รีวิว XM
3	GMI	รีวิว GMI
4	Tickmill	รีวิว Tickmill
5	IC-market	รีวิว IC-market
6	Pepperstone	รีวิว Pepperstone
7	FXCM	รีวิว FXCM

2. Myfxbook

ถึงแม้ว่าในปัจจุบัน Myfxbook ได้มีการนำฟีเจอร์ autotrade ออกไปแล้ว แต่เว็บไซต์นี้ก็ยังนิยมในการแชร์และตรวจสอบผลงานการเทรดอยู่ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่สนใจ Copytrade เพราะเราสามารถดูประวัติการเทรดของ Master Trader ตรวจสอบความสม่ำเสมอในการทำกำไร ดูวิเคราะห์การจัดการความเสี่ยงของแต่ละ Master เพื่อนำไปประเมินความเหมาะสมก่อนตัดสินใจ Copy

ข้อมูลที่สามารถตรวจสอบได้

• กราฟผลตอบแทนย้อนหลัง
• สถิติ Drawdown และการจัดการความเสี่ยง
• อัตราการชนะ (Win Rate) และ Risk/Reward Ratio
• รูปแบบการเทรดและช่วงเวลาที่ทำการเทรด

3. MQL Communities

ที่ MQL Communities เป็น Community ขนาดใหญ่สุดสำหรับนักเทรด มีเทรดเดอร์หลายประเภท ตั้งแต่นักพัฒนาม, เทรดเดอร์มือใหม่ ยันมือเก๋ามาก ๆ ผมก็อยู่ในนี้ด้วยเหมือนกัน จะมีนักเทรดต่างประเทศมาคอยแสดงความคิดเห็นกันบ่อย ๆ ซึ่งเราสามารถเลือก Copy จากคนที่ให้สัญญาณบริการในการเทรด จากที่นี่ด้วยเหมือนกัน

โปรแกรม Copy ของ MQL5 ส่วนใหญ่จะเชื่อมได้จากโบรกเกอร์ที่ใช้ MT5 ซึ่งเสียค่า copy ดังตัวอย่างในภาพข้างบน การ Copy ของ MT5 นั้นง่ายและมีข้อมูลบริการมากมาย พร้อมทั้งรองรับโบรกเกอร์จำนวนมากซึ่งเป็นข้อดี

อย่างไรก็ตาม ต้องเริ่มต้นจากการเลือกโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ มีใบอนุญาตถูกต้อง ตรวจสอบและวิเคราะห์ผลงานของ Master และทดลองใช้งานด้วยบัญชี Demo ก่อนลงทุนจริงเสมอจ้า

เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง Copy trade และ PAMM

หัวข้อ	Copy trade	PAMM Account
การควบคุมเงินทุน	มีอิสระในการควบคุมเงินทุน 100% ฝาก-ถอนได้ตลอดเวลา ปรับเปลี่ยนเงินทุนได้ตามต้องการ	อยู่ภายใต้การจัดการของ Money Manager มักมีล็อคระยะเวลาการถอนเงิน ต้องแจ้งล่วงหน้าในการปรับเปลี่ยนวงเงิน
ความยืดหยุ่น	เลือก Copy ได้หลาย Master พร้อมกัน ปรับขนาด Lot size ได้อิสระ เลือก Copy เฉพาะบางคู่เงินได้ หยุด Copy ได้ทันทีที่ต้องการ	ผูกกับ Manager เพียงรายเดียว ไม่สามารถปรับแต่งการเทรดได้ ต้องรับทุกการเทรดของ Manager ต้องรอครบรอบในการยกเลิก
ความโปร่งใส	เห็นการเทรดแบบ Real-time ทราบราคาเข้า-ออกทันที ตรวจสอบพอร์ตได้ตลอดเวลา รู้สถานะทุกออเดอร์	รายงานผลเป็นรอบ อาจไม่เห็นรายละเอียดการเทรด ทราบผลรวมเป็นช่วง ไม่เห็นการตัดสินใจแบบ Real-time
ค่าธรรมเนียม	Performance Fee ตามผลกำไร	Performance Fee สูงกว่า มีค่าบริหารจัดการรายปี ค่าธรรมเนียมการถอนก่อนกำหนด
การจัดการความเสี่ยง	ตั้ง Stop Loss เพิ่มเติมได้ จำกัด Maximum Drawdown เลือกคู่เงินที่จะ Copy ได้ ปรับลดความเสี่ยงได้ทันที	ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ Manager ไม่สามารถกำหนดเงื่อนไขเพิ่มได้ ต้องยอมรับความเสี่ยงตามที่กำหนด
ความเหมาะสม	นักลงทุนที่ต้องการความยืดหยุ่น เทรดเดอร์ที่ต้องการเรียนรู้ เหมาะกับทุกระยะเวลาลงทุน	นักลงทุนระยะยาว ต้องการผลตอบแทนแบบกองทุน มีเงินลงทุนค่อนข้างมาก
ข้อดี	ควบคุมและยืดหยุ่นสูง โปร่งใสตรวจสอบได้ เริ่มต้นด้วยเงินลงทุนน้อยได้ เรียนรู้จากการ Copy ได้	ไม่ต้องติดตามบ่อย มีทีมผู้เชี่ยวชาญจัดการ เหมาะกับการลงทุนขนาดใหญ่ มีโครงสร้างการจัดการที่ชัดเจน
ข้อเสีย	ต้องติดตามสม่ำเสมอ มีความเสี่ยงค่อนข้างสูง	ขาดความยืดหยุ่น ค่าธรรมเนียมสูงกว่า มีข้อผูกมัดเรื่องระยะเวลา และถอนเงินยาก

สรุปประเด็นสำคัญ

1. Copytrade เหมาะกับผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นและควบคุมการลงทุนเอง แม้จะต้องติดตามใกล้ชิดกว่า แต่ก็มีอิสระในการปรับเปลี่ยนและเรียนรู้ได้มากกว่า
2. PAMM Account เหมาะกับนักลงทุนที่มีเงินทุนมากและต้องการลงทุนระยะยาว โดยไม่ต้องการติดตามการเทรดใกล้ชิด แลกกับการเสียค่าธรรมเนียมที่สูงกว่าและมีข้อจำกัดมากกว่า

สรุป

สรุปแล้วการเลือก Copy trade ก็ถือเป็นอีกแนวทางหนึ่งในการทำกำไรจากการเทรด forex โดยที่มีความเสี่ยงคือ หากบุคคลที่เราทำการ Copytrade นั้นเกิดการเทรดที่ผิดพลาด นั่นหมายความว่า เราก็จะได้รับความผิดพลาดไปด้วยเช่นเดียวกัน

ดังนั้น โปรดระวังอย่าให้เกิด Copytrade กับคนเทรดที่ไม่ดีครับ ซึ่งสิ่งหนึ่งที่เราต้องศึกษาเกี่ยวกับการ Copy Trade คือ เครื่องมือในการ Copy และตัวชี้วัดผลงานของเทรดเดอร์ ว่าเทรดเดอร์แต่ละคนมีจุดดีจุดด้อยอย่างไรในการเทรด และเราจะสามารถใช้จุดเด่นในสถานการณ์ไหน เราจะสามารถเป็นนัก Copy ที่ดีได้โดยที่ไม่ต้องลงทุนลงแรงมากนัก และให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ากับการลงทุนมากกว่าครับ

ทีมงาน: forexthai.in.th

แสดงข้อคิดเห็น ให้กำลังใจ

comments