รีวิว Markets4you จุดเด่นที่ทำให้ Market4you น่าใช้งาน

ถ้าพูดถึงโบรกเกอร์ในปี 2025 ที่กำลังมาแรงโดยเฉพาะในกลุ่มมือใหม่สายเทรดฟอเร็กซ์ “Markets4you” เป็นชื่อที่ไม่ควรมองข้ามเลยครับ เพราะนอกจากจะมีระบบที่ใช้งานง่ายและรองรับภาษาไทยแบบเต็มรูปแบบแล้ว ยังมีหลายจุดเด่นที่โบรกใหญ่ ๆ บางเจ้าก็ยังให้ไม่ได้

ไม่ว่าจะเทียบกับโบรกระดับโลกอย่าง Exness, IC Markets หรือ FBS – Markets4you ก็ยังมีจุดที่ “เฉือนชนะ” อยู่หลายด้าน โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นคนไทยที่กำลังเริ่มต้นเทรด หรืออยากได้โบรกเกอร์ที่ ใช้งานง่าย ไม่ต้องซับซ้อน และ ต้นทุนไม่แพง มาดูกันครับว่า ทำไม Markets4you ถึงน่าใช้งานกว่าที่คิด…

เปิดมานานกว่า 17 ปี ความมั่นคงไม่แพ้เจ้าดัง

Markets4you เริ่มต้นในปี 2007 ภายใต้ชื่อ Forex4you ก่อนจะรีแบรนด์ใหม่ในปี 2024 ให้ดูทันสมัยขึ้น จุดนี้ถือว่าสำคัญมาก เพราะโบรกที่อยู่มานานขนาดนี้ แปลว่าผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายรอบ ไม่ใช่สายปั่นเปิดแล้วปิดหนีแบบที่หลายคนกลัว

แอปใช้งานง่าย ภาษาไทยครบ ฟีเจอร์จบในแอปเดียว

แอป Markets4you ถูกออกแบบมาให้ “ใช้ง่ายจริง” และ “ตอบโจทย์คนไทย” แบบไม่ต้องเปิดหลายจอ ไม่ต้องงมหาวิธีกดซับซ้อน

• ฝาก-ถอนผ่านมือถือได้เลย
• มี Copy Trade ให้ใช้งาน
• มีปฏิทินข่าวและโปรโมชั่นในแอปเดียวจบ

ฝากขั้นต่ำแค่ 100 บาท เริ่มเทรดได้ทันที

ไม่ต้องใช้ทุนเป็นหมื่นเหมือนบางโบรกแถวนี้ Markets4you ให้คุณเริ่มต้นเทรดได้ด้วยเงินเพียง 100 บาท เท่านั้น! เหมาะมากสำหรับคนที่อยากลองของจริง แต่ยังไม่อยากเสี่ยงเยอะ

ระบบ Copy Trade “Share4you” ใช้งานง่ายสุดๆ

อยากเทรดแต่ไม่มีเวลา? หรือยังวิเคราะห์ไม่เก่ง? Markets4you มีระบบ Copy Trade ชื่อว่า Share4you ที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่ายแบบคลิกเดียว

• มีเทรดเดอร์ให้เลือกกว่า 200 คน
• มีระดับความเสี่ยงให้ดูชัดเจน (ต่ำ / กลาง / สูง)
• ไม่ต้องวิเคราะห์เอง แค่เลือกแล้วรัน

ต้นทุนการเทรด “ถูกจริง” โดยเฉพาะบัญชี Pro

หากคุณเป็นสายเทรดจริงจัง ต้องบอกเลยว่า “บัญชี Pro” ของ Markets4you โคตรคุ้ม เพราะมีค่าคอมแค่ $7/lot และสเปรดต่ำเฉลี่ยของคู่ EUR/USD อยู่ที่เพียง $8.34 ต่อ lot เท่านั้น ถูกกว่าโบรกดังหลายเจ้า

มีโบนัสเงินฝากที่แจกจริง สูงสุด 50%

Markets4you แจกโบนัสให้ลูกค้าใหม่แบบจุกๆ รับได้ถึง 50% จากยอดฝากแรก และหลังจากนั้นยังได้เพิ่มอีก 20% ทุกครั้งที่ฝากเงิน (รวมสูงสุดถึง $3,000)

รองรับฝาก-ถอนผ่านธนาคารไทย + คริปโต + เงินสด

Markets4you รองรับการฝากถอนหลากหลายช่องทางมาก ๆ ทั้ง ธนาคารไทย / คริปโต / เงินสด (เฉพาะในกทม.) และไม่มีค่าธรรมเนียมใด ๆ ให้ปวดหัว แถมยัง ถอนเงินได้ในวันเสาร์–อาทิตย์ด้วย!

การเลือกโบรกเกอร์เทรดฟอเร็กซ์ไม่ใช่แค่ดูว่า “แอปใช้งานง่าย” หรือ “ฝากเงินขั้นต่ำเท่าไหร่” เท่านั้นนะครับ เพราะในโลกของการเทรดจริง ๆ ข้อมูลเชิงเทคนิค ต่างหากที่เป็นตัวตัดสินเลยว่า โบรกเกอร์นั้น “เหมาะกับคุณแค่ไหน”

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Spread, Slippage, Swap, Execution Speed, Risk Management, VPS, EA และอีกหลายจุดที่เทรดเดอร์มือใหม่มักมองข้าม แต่คนที่อยู่ในวงการมานานจะรู้ดีว่า “รายละเอียดเล็ก ๆ เหล่านี้แหละ ที่สร้างความต่างระหว่างการเทรดแบบกำไร กับการเทรดแล้วเครียด”

ในหัวข้อนี้ เราจะพาคุณไปเจาะลึกข้อมูลเชิงเทคนิคของ Markets4you ทั้งข้อดี ข้อสังเกต และเปรียบเทียบกับโบรกเกอร์อื่นในตลาด เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่า “โบรกนี้ ใช่สำหรับคุณหรือเปล่า?”

ประเภทบัญชีและค่าธรรมเนียมการเทรด

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่เทรดเดอร์ทุกคนควรพิจารณาก่อนเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ คือ “ประเภทบัญชี” ที่มีให้เลือก พร้อมกับรายละเอียดเรื่อง สเปรด, ค่าคอมมิชชัน, และ ความเหมาะสมในการใช้งาน เพราะเงื่อนไขเหล่านี้ส่งผลโดยตรงต่อ “ต้นทุนการเทรด” ของคุณ

สำหรับ Markets4you มีบัญชีหลักให้เลือก 3 แบบ ได้แก่ Classic Standard, Classic Pro, และ Cent Pro ซึ่งแต่ละแบบก็ถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์กับเทรดเดอร์แต่ละกลุ่มแตกต่างกันไป มาดูตารางสรุปกันชัด ๆ เลยครับว่า แต่ละบัญชีของ Markets4you มีความต่างกันอย่างไรบ้าง

Leverage และเงื่อนไขการใช้งาน

Leverage หรือ “อัตราทด” คือหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเปิดออเดอร์ใหญ่ได้ แม้จะมีเงินในบัญชีไม่มาก ซึ่งสำหรับ Markets4you นั้นถือว่า “ใจถึง” พอสมควร เพราะให้ Leverage สูงสุดถึง 1:4000 เลยทีเดียว

แต่แน่นอนครับว่า Leverage ที่สูงก็ต้องมาพร้อมกับเงื่อนไขเพื่อบริหารความเสี่ยง โดยเฉพาะเมื่อยอดเงินในบัญชีเพิ่มขึ้น หรือช่วงที่มีข่าวเศรษฐกิจแรง ๆ ตลาดผันผวนหนัก มาดูกันเลยครับว่า Markets4you ตั้งค่า Leverage ยังไงบ้าง และมีเงื่อนไขแบบไหนที่คุณควรรู้ก่อนเริ่มเทรด

Spread และ Slippage

ในการเทรด Forex หรือสินทรัพย์ใด ๆ ก็ตาม “ต้นทุนที่แท้จริง” ไม่ได้อยู่แค่ค่าคอมมิชชัน แต่ยังมีสิ่งที่เรียกว่า Spread และ Slippage ซึ่งหลายคนโดยเฉพาะมือใหม่อาจมองข้ามไป ทั้งที่ในความเป็นจริง มันส่งผลโดยตรงต่อกำไรขาดทุนของคุณในระยะยาว

สำหรับโบรกเกอร์ Markets4you นั้น แม้จะไม่ใช่เจ้าที่มี “ชื่อเสียงระดับโลก” แต่ในแง่ของ ต้นทุนการเทรด โดยเฉพาะค่า Spread ถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียวครับ แต่ก็ยังมีข้อสังเกตที่คุณควรทราบก่อนใช้งานจริง

“เพราะต้นทุนแฝงคือสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม”

บางบัญชีต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด

Spread ของ Markets4you ขึ้นอยู่กับประเภทบัญชีที่คุณเลือก โดยแบ่งออกเป็น 3 บัญชีหลัก ซึ่งมีลักษณะต่างกันดังนี้:

• บัญชี Classic Pro
  • สเปรดเฉลี่ยต่ำมาก เช่น คู่ EUR/USD มีต้นทุนรวมเพียง $8.34 ต่อ 1 lot
  • เหมาะกับเทรดเดอร์ที่เน้นต้นทุนต่ำ ควบคุมความเสี่ยงได้ดี
  • รวมค่าคอมมิชชันแล้ว ยังถือว่า “ถูกกว่าโบรกเกอร์ใหญ่” หลายเจ้า เช่น IC Markets หรือ Pepperstone
• บัญชี Classic Standard
  • ไม่มีค่าคอมมิชชัน แต่สเปรดจะแพงกว่าบัญชี Pro
  • EUR/USD อยู่ที่ ประมาณ $9.6 ต่อ 1 lot และบางคู่เงินอาจสูงถึง $15–$20
  • เหมาะกับมือใหม่ที่อยากเริ่มต้นโดยไม่ต้องคิดค่าคอมให้วุ่นวาย
• บัญชี Cent Pro
  • สเปรดสูงที่สุด เพราะออกแบบมาให้เหมาะกับผู้ที่ต้องการทดสอบระบบด้วยเงินจริงในขนาดเล็ก
  • ไม่แนะนำสำหรับการเทรดจริงจังหรือเทรดสั้น

จุดเล็ก ๆ ที่ส่งผลต่อความแม่นยำในการเทรด

Slippage เกิดขึ้นเมื่อราคาที่คุณกดเปิดหรือปิดออเดอร์ไม่ตรงกับราคาที่ระบบประมวลผลได้จริง ซึ่งอาจเกิดจากความผันผวนของตลาด หรือการหน่วงของระบบแพลตฟอร์มเทรด จากการทดสอบใช้งานจริงของ Markets4you พบว่า

• มีการ ดีเลย์ในการเปิด-ปิดออเดอร์เล็กน้อย โดยเฉลี่ยประมาณ 5 วินาที
• ในช่วงที่ไม่มีข่าวแรง ก็ยังพบ Slippage บ้างเล็กน้อย และบางครั้งเกิดการปฏิเสธคำสั่งซื้อขายโดยไม่มีสาเหตุชัดเจน
• ช่วงเวลาที่มีข่าวแรง (ข่าวเศรษฐกิจ เช่น Non-Farm Payroll, CPI)
  • ความเร็วในการเปิดออเดอร์ก่อนข่าว: 54 มิลลิวินาที
  • ความเร็วขณะข่าวออก: 66 มิลลิวินาที
  • Spread ขยายสูงสุด: 28 จุด
  • ระบบใช้เวลาประมาณ 42 วินาที ในการกลับมาสู่ Spread ปกติ

สิ่งเหล่านี้อาจยังไม่เหมาะกับเทรดเดอร์ที่ต้องการ “ความแม่นยำระดับสูง” เช่นพวก Scalper หรือสายเทรดข่าว เพราะความหน่วงระดับนี้อาจทำให้แผนการเทรดไม่เป็นไปตามที่คาดไว้

Swap และค่าธรรมเนียมถือออเดอร์ข้ามคืน

Swap หรือที่หลายคนเรียกกันว่า ค่าธรรมเนียมถือครองออเดอร์ข้ามคืน คือค่าใช้จ่าย (หรือรายได้) ที่เกิดขึ้นเมื่อเราเปิดคำสั่งซื้อขายทิ้งไว้ข้ามวัน โดยจะถูกคิดทุกวันเวลา 04:00 น. ตามเวลาเซิร์ฟเวอร์ของโบรกเกอร์ (ขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์ม)

สำหรับ Markets4you การคิด Swap จะขึ้นอยู่กับ “ประเภทบัญชี” และ “คู่เงิน” ที่คุณเทรด โดยเฉพาะในกลุ่มโลหะมีค่าและคริปโต ที่มักมีค่าธรรมเนียมค่อนข้างสูง แต่บางสินทรัพย์ก็ให้ Swap เป็น “บวก” ซึ่งน่าสนใจมากสำหรับสายเทรดยาว

ความเร็วในการส่งคำสั่ง (Execution Speed)

สำหรับเทรดเดอร์แล้ว “ความเร็วในการเปิดและปิดคำสั่ง” หรือที่เรียกว่า Execution Speed ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก โดยเฉพาะสายเทรดเร็วอย่าง Scalper หรือเทรดข่าว (News Trading) ที่ต้องการความแม่นยำระดับมิลลิวินาที

ในกรณีของ Markets4you จากการทดสอบจริงพบว่ามีความเร็วในการส่งคำสั่งอยู่ในระดับ “ปานกลางถึงดี” แต่ก็ยังมี ดีเลย์บ้างในบางจังหวะ โดยเฉพาะช่วงที่ตลาดผันผวนหรือมีข่าวแรง ซึ่งถือว่าเข้าใจได้ในโบรกที่ยังไม่ใช่ระดับ Tier-1

รายละเอียดจากการทดสอบ

• ช่วงที่ไม่มีข่าว ตลาดนิ่ง ระบบสามารถเปิดออเดอร์ได้ไวระดับ ต่ำกว่า 2 วินาที ซึ่งถือว่าเร็วพอสมควรเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์ระดับกลางทั่วไป
• ในช่วงที่มีข่าวแรง เช่น Non-Farm Payroll หรือ CPI สหรัฐฯ ความเร็วในการเปิดคำสั่งอาจตกลงไปอยู่ที่ประมาณ 4 วินาที
• มีการพบเจอ “คำสั่งไม่ติด” หรือ “ต้องกดย้ำ” ในบางจังหวะ โดยเฉพาะเมื่อมีผู้ใช้งานจำนวนมาก
• ช่วงมีข่าวแรง Spread อาจขยายสูงสุดถึง 28 จุด และใช้เวลาประมาณ 42 วินาที กว่าจะกลับมาเป็นปกติ

ระบบการฝาก-ถอนเงิน และค่าธรรมเนียม

อีกหนึ่งจุดเด่นของ Markets4you ที่ทำให้ผู้ใช้งานในไทยรู้สึกประทับใจ คือระบบ ฝาก–ถอนที่รวดเร็วและไม่ยุ่งยาก โดยเฉพาะคนที่ไม่ชอบการยืนยันหลายขั้นตอน หรือรอเงินเข้าเป็นวัน โบรกนี้จัดว่า “ใช้งานได้ง่ายมาก” โดยรองรับทั้งธนาคารไทย คริปโต และช่องทางอื่น ๆ แบบไม่มีค่าธรรมเนียมไม่เพียงเท่านั้น ยังสามารถทำรายการได้แม้ในวันเสาร์–อาทิตย์ ซึ่งหาได้ยากในหลายโบรกเกอร์!

รายละเอียดเพิ่มเติมที่ควรรู้

• ฝากขั้นต่ำเพียง 100 บาท (สำหรับ QR Code และธนาคารไทย)
• ถอนขั้นต่ำ 500 บาท และสูงสุด 500,000 บาท/ครั้ง ผ่านธนาคารไทย
• ฝากด้วย คริปโตได้หลากหลาย รองรับ USDT ทั้ง TRC20 และ ERC20
• ฝาก/ถอน รองรับวันเสาร์-อาทิตย์ ทุกช่องทาง (ยกเว้นเงินสดที่ต้องนัดล่วงหน้า)
• ถอนผ่าน Skrill / Neteller / Volet ยังไม่เปิดใช้งาน