Forexthai.in.th ย่อให้
- Shark Pattern เป็นหนึ่งในทฤษฎี Harmonic ใช้สัดส่วน Fibonacci ในการวิเคราะห์
- แพทเทิร์นนี้พิเศษตรงที่สามารถต่อยอดไปเป็นรูปแบบ 5-0 ทำให้มีโอกาสทำกำไรได้ถึงสองต่อ
- วิธีการเทรดแบ่งเป็น Bullish และ Bearish Shark โดยมีจุดเข้า Stop Loss และ Take Profit ที่ชัดเจน
- การเทรดด้วย Shark Pattern ต้องอาศัยความอดทน รอจังหวะที่เหมาะสม และมีการจัดการความเสี่ยงที่ดี เหมือนการว่ายน้ำในทะเลที่มีฉลาม
รูปแบบ Shark Pattern จากทฤษฎี Harmonic Pattern เป็นแพทเทิร์นที่มีการดีดกลับของราคาเลยหัว และหางยาวเลยจุดเริ่มต้นหรือไม่เลยก็ได้ ซึ่งมีการกำหนดสัดส่วน Fibonacci ไว้ตามทฤษฎี และที่พิเศษกว่าแพทเทิร์นอื่น ๆ ก็คือ เป็นแพทเทิร์นที่ยังสามารถต่อยอดไปหา รูปแบบ 5-0 นั่นหมายความว่าทำกำไรได้ถึงสองต่อ
ฉลามร้ายในตลาด Forex ที่สามารถทำเงินในตลาดได้อย่างร้ายกาจ มีวิธีการเทรดหรือรูปแบบที่สับซ้อนสักหน่อย แต่ควรค่าแก่การเรียนรู้ไว้ใช้งานอย่างแน่นอน
เรียนรู้ ฝึกฝน และพัฒนา คือสิ่งที่ต้องยึดถือ
Shark Pattern คืออะไร
รูปแบบ Shark หรือ ฉลาม ราคาที่มีความคล้ายกับฉลามในท้องทะเล แต่อยู่ในรูปแบบกราฟ เป็นหนึ่งในรูปแบบของทฤษฎี Harmonic ลักษณะดีดตัวเลยหัว และหางยาวเลยฐานหรือจะไม่เลยก็ได้ ยังคงคอนเซ็ปต์ “เสี่ยงต่ำทำกำไรสูง” ตามแบบฉบับของทฤษฎีฮาร์โมนิค
และที่สำคัญ รูปแบบฉลามนี้ ยังมีวิธีทำกำไรต่อเนื่องด้วยแพทเทิร์นเดิม ต่อยอดไปด้วยรูปแบบ 5-0 นั่นหมายความว่า มีโอกาสทำกำไรทั้งขึ้นทั้งลง ด้วยสัดส่วนที่แตกต่างกัน
ซึ่งรูปแบบของ Harmonic ก็จะถูกกำหนดด้วยสัดส่วนของ Fibonacci เพื่อการทำซ้ำในรูปแบบเดิม ไม่ว่าจะเป็นจุดเข้า จุดทำกำไร หรือจุดตัดขาดทุน ไม่ว่าจะเทรดกี่ครั้ง ๆ ก็จะมีรูปแบบและสัดส่วนที่เหมือนกัน เป็นไปตามทฤษฎีแบบไม่ต้องมโน
จะเป็นเท่าหรือเหาฉลาม คุณเลือกเอง
ทำไมจะต้องเทรดด้วย Shark หรือ ฉลาม
จะว่าไปแล้ว แพทเทิร์นฉลามนี้ ตามทฤษฎีให้ความแม่นยำไว้ที่ 65% ถือว่าต่ำว่าทุก ๆ แพทเทิร์นของทฤษฎี Harmonic แต่ย่อมดีกว่าการที่เทรดเดอร์เทรดไปมั่ว ๆ โดยไม่มีสถิติยอมรับ แน่นอนว่าย่อมสามารถเชื่อถือได้ เพราะทฤษฎีนี้ยังมีงานวิจัยรับรองอยู่มากมาย
และอีกประการหนึ่ง นอกจากจะเทรดด้วยฉลามแล้ว ยังต่อยอดไปเทรดด้วยแพทเทิร์น 5-0 ที่จะกล่าวถึงในบทต่อไป เพื่อให้เทรดเดอร์สามารถทำกำไรได้ทั่งสองแพทเทิร์น ตามทฤษฎีที่มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
แม้ในตลาดจริง สัดส่วนอาจจะไม่เป็นไปตามทฤษฎี แต่นั่นเห็นสาเหตุที่จะต้องฝึกฝนให้ชำนิชำนาญ ก่อนการนำไปใช้เทรดจริง
การสร้างรูปแบบ Bullish Shark

การสร้างรูปแบบของ Bullish Shark จะแตกต่างจากรูปแบบอื่น ๆ โดยปกติแล้วจะเริ่มต้นที่จุด X แล้วไป ABCD แต่รูปแบบ Shark จะเริ่มต้นด้วย O ก่อนที่จะไป XABC และจุด PRZ ก็คือจุด C นั่นเอง
โครงสร้างแพทเทิร์น XA จะพักตัว 1 ใน 3 ของ OX และ AB จะอยู่ที่ 113-161.8% ของ XA จะมีจุกกลับตัวหรือ PRZ อยู่ที่ 161.8-223.6% ของ AB และ 88.6-113% ของ 0X คือจุด C
Trade Setup ด้วย Bullish Shark

- จุด Buy PRZ ที่ 161.8-223.6% ของ AB และ 88.6-113% ของ 0X
- Stop Loss 127% ของ OX
- Target TP1 38.2% ของ BC และ TP2 61.8% ของ BC
การสร้างรูปแบบ Bearish Shark

รูปแบบของ Bearish Shark จะคล้ายกับตลาดกระทิง แต่อยู่ในคนละทิศทาง ซึ่งแตกต่างจากรูปแบบอื่น ๆ ซึ่งโดยปกติแล้วจะเริ่มต้นที่จุด X แล้วไป ABCD แต่รูปแบบ Shark จะเริ่มต้นด้วย O ก่อนที่จะไป XABC และจุด PRZ ก็คือจุด C เช่นกัน
สาเหตุที่เริ่มจาก O แล้วจบด้วย C เพราะจะมีรูปแบบต่อเนื่องดังที่ได้กล่าวมาแล้วนั่นก็คือ 5-0 ที่จะมีจุดเข้าหรือ PRZ จบที่จุด D เหมือนกับทุก ๆ แพทเทิร์นนั่นเอง
โครงสร้างแพทเทิร์น XA จะพักตัว 1 ใน 3 ของ OX และ AB จะอยู่ที่ 113-161.8% ของ XA จะมีจุกกลับตัวหรือ PRZ อยู่ที่ไหน 161.8-223.6% ของ AB และ 88.6-113% ของ 0X คือจุด C
Trade Setup ด้วย Bearish Shark

- จุด Sell PRZ ที่ 161.8-223.6% ของ AB และ 88.6-113% ของ 0X
- Stop Loss 127% ของ OX
- Target TP1 38.2% ของ BC และ TP2 61.8% ของ BC
ประโยชน์และข้อควรระวังเมื่อเทรดด้วยฉลาม
- มั่นใจในรูปแบบได้เลยว่า เป็นแพทเทิร์นตามทฤษฎี มีงานวิจัยรองรับ แน่นอนว่าย่อมใช้ได้ดีกว่าการนำเหตุผลในการเทรดมาประกอบกัน โดยที่ยังไม่มีการทดสอบ
- เป็นที่นิยมของเทรดเดอร์ทั่วโลก แม้ทฤษฎีจะมีมานานแล้ว แต่ยังถูกหยิบยกและนำมาใช้จนถึงปัจจุบัน
- เมื่อเข้าเทรดตามระบบ ย่อมมีผลลัพธ์ตามระบบ แม้ไม่ได้การันตีว่าจะสามารถทำกำไรได้ 100% แต่ แต่ย่อมดีกว่าการเทรดที่ไร้แบบแผนหรือทิศทางที่ชัดเจน
ข้อควรระวังของ Shark Pattern
- การเรียนรู้ และนำไปใช้เป็นสิ่งสำคัญ อย่าเรียนรู้แค่เพียงผิวเผิน แต่ให้นำไปฝึกใช้และทดสอบด้วยตัวเอง เพราะการเทรดในชีวิตจริง มันมีอะไรให้เรียนรู้ได้มากกว่าทฤษฎี เสมือนเรียนว่ายน้ำผ่านหนังสือ เรียนไปร้อยปีก็ว่ายจริงไม่ได้
- เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ผิดพลาด และเรียนรู้จากข้อผิดพลาดได้จากการฝึกฝน คล้ายกับแนวรับแนวต้าน ผู้ที่ชำนาญย่อมตีได้แม่นยำกว่า ดังนั้นทฤษฎีอาจจะต้องการทำความเข้าใจและจดจำบางสิ่งที่จำเป็น นำไปใช้ให้ถูกที่ เชื่อว่าจะมีผลลัพธ์อย่างแน่นอน
เคล็ดลับคือสิ่งที่เรายังไม่ค้นพบ เมื่อพบแล้วต้องทำให้มันเป็นทักษะ จึงจะไม่เสียของ
สรุป
เทรดด้วย Shark Pattern เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือทำเงินด้วยทฤษฎี Harmonic ที่เทรดเดอร์ในตลาด Forex นิยม แต่ยังมีมือใหม่ที่ยังศึกษาและทำความเข้าใจอยู่ เพียงเรียนรู้และค่อย ๆ ฝึกฝน ไม่ว่าจะเป็นการมองกราฟ ใช้เครื่องมือ Fibonacci และจดจำสัดส่วน
เชื่อว่าไม่ช้าก็เร็ว จะสามารถเทรดได้ทำกำไรได้ด้วยแพทเทิร์นฉลาม เก็บกำไรได้เป็นอย่างดีแน่นอน แต่กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในเจ็ดวัน ทุกอย่างล้วนต้องใช้เวลาในการฝึกฝน
เพียงไม่ล้มเลิก ความสำเร็จย่อมอยู่ไม่ไกล
กรุงโรม กำแพงเมืองจีน ไม่ได้สร้างเสร็จในเจ็ดวัน ความสำเร็จย่อมต้องใช้เวลา
ทีมงาน: forexthai.in.th