สารบัญบทความ click เพื่อเลือกอ่าน !!
รูปแบบ Crab (ปู)
Harmonic Pattern รูปแบบ Crab จะมีลักษณะคล้ายกับปูสมชื่อจริง ๆ เมื่อไหร่ที่ฟอร์มตัวแล้วก็มีโอกาสที่จะเก็บกำไรได้เป็นกอบเป็นกำ Harmonic Pattern รูปแบบ Crab “ใช้ได้ดีกับตลาดที่ยังไม่เป็น Trend”
การเทรดด้วยรูปแบบ Crab ในตลาด Forex จะมีจุดเข้า Trade ที่ชัดเจน และมีเป้ากำไรให้เก็บได้ค่อนข้างดี มีจุดตัดขาดทุนที่ไม่กว้างมาก เป็นโอกาสที่ดีในการทำกำไรให้ได้ RR ที่มากกว่า 2 เท่า นับว่าคุ้มค่ากับการรอคอยแน่นอน
รูปแบบ Crab จะเป็นตัวบ่งชี้ได้ทั้ง Bullish Crab และ Bearish Crab หลังจากการสร้างรูปแบบปูเป็นที่เรียบร้อย จะมีจุดที่มีโอกาสกลับตัวโดยรูปแบบ Crab จะถูกกำหนดว่า
- การพักตัวของจุด B ที่วิ่งมาจาก A จะพักตัวที่ระดับ 38.2-61.8% ของ XA
- จุด C ที่วิ่งมาจาก B จะพักตัวอย่างน้อย 1 ใน 3 ของ AB และไม่เกินหัว A หรืออยู่ประมาณ 38.2-88.6% ของ AB
- Zone ราคาการเข้าเทรดที่ดี จะอยู่ที่ระดับ 261.8-361.8% ของจุด BC และ 161.8 ของ XA นั่นก็คือจุด D นั่นเอง
วางแผนการเทรดด้วย Bullish Crab
ขอจงอย่าลืมความจริงที่ว่าทฤษฎีการเทรดใด ๆ ก็ตาม อาจจะไม่ถึงเป้าหมายในการทำกำไรได้ทั้ง 100% การเทรดด้วย Bullish Crab ก็เช่นเดียวกัน ดังนั้นการบริหารความเสี่ยงเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี และลดความผิดพลาดให้น้อยลง จึงเป็นสิ่งที่จะละเลยไม่ได้ ควรวางแผนการเทรดอย่างรอบคอบที่สุดด้วย
การวางแผนการเทรดด้วย Bullish Crab จะถูกบังคับด้วยสัดส่วนของแพทเทิร์น และรูปแบบที่มีการพักตัวไม่เกินหัวและขายาว แผนการเทรดจะมีดังต่อไปนี้
- Buy ที่บริเวณ 261.8-361.8 ของ BC และ 161.8 ของ XA (จุด D ของแพทเทิร์น)
- Stop Loss ที่ 200-261.8 ของ XA
- เป้าหมาย TP1 ที่ 61.8 ของ CD
- เป้าหมายTP2 127.2 ของ CD
วางแผนการเทรดด้วย Bearish Crab
Harmonic Pattern รูปแบบ Bearish Crab เมื่อเกิดรูปแบบขึ้นมา โอกาสที่จะทำกำไรในจำนวนที่มาก ๆ มีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูง นั่นคือหลักของความน่าจะเป็น การวางเป้าหมายกำไรที่มีโอกาสมากที่สุดนั่นก็คือ TP1 ในขณะเดียวกัน TP2 ก็มีโอกาสไม่น้อยเช่นเดียวกัน แผนการเทรดด้วย Bearish Crab จะมีดังนี้
- Sell ที่บริเวณ 261.8-361.8 ของ BC และ 161.8 ของ XA (จุด D ของแพทเทิร์น)
- Stop Loss ที่ 200-261.8 ของ XA
- เป้าหมาย TP1 ที่ 61.8 ของ CD
- เป้าหมาย TP2 127.2 ของ CD
การเทรดในตลาด Forex ด้วยรูปแบบ Crab Pattern เป็นหนึ่งในรูปแบบการทำกำไรด้วยทฤษฎีฮาร์โมนิค ซึ่งเป็นเคล็ดวิชาการทำมาหากินในตลาด เป็นทฤษฎีที่มีจุดเข้าจุดออกและตัดขาดทุนที่ชัดเจน สิ่งที่สำคัญก็คือเรียนรู้และฝึกฝนให้ชำนาญ แล้วนำไปใช้ จะสามารถทำกำไรจากตลาด Forex นี้ ได้อย่างแน่นอน
รูปแบบ Bat (ค้างคาว)
รูปแบบ Bat หรือรูปแบบค้างคาว เป็นอีกหนึ่งในในทฤษฎี Harmonic Pattern ที่ได้รับความนิยมเพราะมีความแม่นยำสูง เป็นรูปแบบที่มีโอกาสถูกต้องสูง เป็นรูปแบบที่มีอัตราชนะที่ไม่น้อยเลยทีเดียว เพียงแต่นี่คือข้อมูลที่มีการบอกต่อกันมาตามทฤษฎีเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม รูปแบบ Bat ตามทฤษฎี Harmonic ก็ยังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลกตลอดมา “เพราะเป็นรูปแบบที่มาจากวิธีการที่นักลงทุนรายใหญ่ นำเอามาใช้ในตลาด Forex เพื่อการล่า Stop Loss จากรายย่อย”
รูปแบบ Bat จะมีทั้งสัญญาณในการเข้า Buy และ Sell เมื่อจบรูปแบบค้างคาวอย่างสมบูรณ์แล้ว ตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้
- จุด B จะพักตัวอยู่ที่ 38.2-50.0 ของ XA
- จุด C จะพักตัวอย่างน้อย 1 ใน 3 ของ AB และไม่เกินหัวของ A หรืออยู่ประมาณ 38.2-88.6 ของ AB
- Zone ราคาเข้าเทรดที่ดี จะอยู่ที่ 161.8-261.8 ของ AB หรือ 88.6 ของ XA (ตำแหน่ง D)
วางแผนการเทรดด้วย Bullish Bat
แม้ Harmonic Pattern รูปแบบ Bullish Bat จะมีความแม่นยำแค่ไหน แต่นักเทรดที่ดีก็จำเป็นจะต้องมีการวางแผนการเทรดที่ดีด้วย เพราะในความเป็นจริงแล้ว ตลาด Forex ไม่มีอะไรแน่นอนแบบ 100% ทุกอย่างมีความผันผวนเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ดังนั้นแผนการเทรดด้วย Bullish Bat ที่ดี มีดังนี้
- จุดเข้า Buy ที่ดีจะอยู่ที่ 181.8-261.8 ของ AB และ 88.6 ของ XA นั่นคือตำแหน่ง D
- Stop Loss อยู่ใต้ X เลยไปประมาณ 5-10 pip
- เป้าหมาย TP1 ตั้งเอาไว้ที่ 38.2 ของ CD
- เป้าหมาย TP2 ตั้งเลยขึ้นไปที่ 61.8 ของ CD
วางแผนการเทรดด้วย Bearish Bat
การวางแผนการเทรดด้วย Bearish Bat เพื่อการเข้าออเดอร์ที่วางไว้ตามระบบ จะสามารถช่วยให้เก็บกำไรได้ตามระบบเช่นกัน การเข้าให้ถูกที่ก็จะช่วยให้เก็บกำไรให้ถูกทางเช่นเดียวกัน หากไม่ทำตามแผนการนั้น อาจจะโดนลากไปไกล จากที่ควรได้บวกอาจกลายเป็นติดลบได้ แผนการเทรดด้วย Bearish Bat จึงมีดังนี้
- จุดเข้า Sell ที่ดีจะอยู่ที่ 161.8-261.8 ของ AB และ 88.6 ของ XA นั่นคือตำแหน่ง D
- Stop Loss อยู่เหนือ X เลยไปประมาณ 5-10 pip
- เป้าหมาย TP1 ตั้งเอาไว้ที่ 38.2 ของ CD
- เป้าหมาย TP2 วางเอาไว้ให้ต่ำลงไปที่ 61.8 ของ CD
ในกราฟ Forex จะมีรูปแบบ Bat Pattern เกิดขึ้นบ่อยในทุกคู่สกุลเงิน จึงถือว่าเป็นหนึ่งในยอดนิยมของทฤษฎีฮาร์โมนิค เพราะมีความแม่นยำสูง ทำกำไรได้ดีและกำลังได้รับความสนใจจากเทรดเดอร์ทั่วโลก จึงควรค่าแก่การเรียนรู้และจดจำ เพราะนี่คือโอกาสที่จะเข้าเทรดในสัดส่วนที่ความเสี่ยงต่ำ แต่คาดหวังกำไรที่สูงได้
รูปแบบ Butterfly (ผีเสื้อ)
รูปแบบ Butterfly เป็นหนึ่งในรูปแบบทฤษฎี Harmonic Pattern ที่มีลักษณะคล้ายกับผีเสื้อหางยาว แต่ไม่ยาวเท่ากับค้างคาว และพักตัวไม่เลยยอดของ A ตามทฤษฎีแล้วรูปแบบ Butterfly เป็นอีกหนึ่งรูปแบบ “ที่ให้ความแม่นยำไว้สูงกว่า 70%” น่าสนใจไม่น้อยเลยใช่ไหม
ตามธรรมชาติแล้วฮาโมนิครูปแบบ Butterfly จะเกิดขึ้นในช่วงที่ราคา Forex พักตัวหรือตลาดเป็นไซด์เวย์เสียมากกว่า จึงเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะใช้เทรดในตลาดช่วงที่แนวโน้มไร้ทิศทางอย่างชัดเจน
สำหรับเงื่อนไขสัญญาณเข้า Buy ด้วย Bullish Butterfly และสัญญาณเข้า Sell ด้วย Bearish Butterfly นั้น จะมีข้อกำหนดให้เป็นไปตามเงื่อนไขของรูปแบบ Butterfly ดังนี้
- จุด B จะพักตัวที่ 78.6 ของ XA
- จุด C จะพักตัวอย่างน้อย 1 ใน 3 ของ AB และไม่เกินหัว A หรืออยู่ประมาณ 38.2-88.6 ของ AB
- จุดที่มีโอกาสกลับตัวคือ 161.8-261.8 ของ BC และ 127 ของ XA นั่นคือตำแหน่ง D
วางแผนการเทรดด้วย Bullish Butterfly
สัญญาณเข้า Buy ด้วย Bullish Butterfly เมื่อมีสัญญาณการกลับตัวเปลี่ยนแนวโน้มจากลงเป็นขาขึ้น หรือเป็นการพักตัวในแนวโน้มขาขึ้นเกิดรูปแบบแล้วขึ้นต่อ Bullish Butterfly ก็สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ โดยการฟอร์มตัวสร้างรูปแบบ แผนการเทรดจะมีสัดส่วนดังต่อไปนี้
- จุดเข้า Buy ที่ดีคือ 161.8-261.8 ของ BC และ 127 ของ XA
- Stop Loss ตั้งเอาไว้เหนือจุดสูงสุดของ XA
- เป้าหมาย TP1 ตั้งเอาไว้ที่ 61.8 ของ CD
- เป้าหมาย TP2 ตั้งที่ 127.2 ของ CD
วางแผนการเทรดด้วย Bearish Butterfly
สัญญาณการเข้า Sell ด้วย Bearish Butterfly จะเกิดขึ้นเมื่อมีการสร้างรูปแบบ Harmonic Pattern ที่ชัดเจน เพื่อยืนยันการเปลี่ยนแนวโน้มจากขาขึ้นเป็นขาลง หรือแม้แต่จะเป็นช่วงการพักตัวในแนวโน้มขาลงอยู่แล้วก็ตาม ก็สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน การวางแผนการเทรดจะต้องทำดังต่อไปนี้
- จุดเข้า Sell ที่ดีคือ 161.8-161.8 ของ BC และ 127 ของ XA
- Stop Loss ตั้งเอาไว้เหนือจุดสูงสุดของ XA
- เป้าหมาย TP1 ตั้งเอาไว้ที่ 61.8 ของ CD
- เป้าหมาย TP2 ตั้งที่ 127.2 ของ CD
ในประสบการณ์ที่ผ่านมาบนตลาด Forex มีงานวิจัยหลายฉบับที่บ่งชี้ว่าเทรดเดอร์ควรทำกำไรด้วยแพทเทิร์นที่อิงกับแนวคิดของนักลงทุนรายใหญ่ รูปแบบ Butterfly Pattern ก็เป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่ควรถูกนำมาใช้
สรุปขั้นตอนของการเทรดด้วย Harmonic Pattern
ในตลาด Forex จะมีรูปแบบของราคาที่เข้ากันกับเงื่อนไขของ Harmonic Pattern อยู่บ่อยมาก นักเทรดที่มองเห็นและจับจังหวะได้ ก็จะมีโอกาสในการทำกำไรอย่างดี โดยสรุปแล้วขั้นตอนของการเทรดโดยใช้รูปแบบราคา Harmonic จะมีดังนี้
1. ระบุแนวโน้มของราคา
ก่อนอื่นนักเทรดต้องระบุแนวโน้มของราคาก่อนว่าราคากำลังเป็นขาขึ้นหรือขาลง โดยสามารถใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่น ๆ เช่น เส้นแนวโน้ม (Trendline) หรือตัวบ่งชี้ทางเทคนิค (Technical Indicator) เพื่อช่วยในการระบุแนวโน้ม
2. ค้นหารูปแบบ Harmonic
เมื่อระบุแนวโน้มของราคาได้แล้ว นักเทรดจึงเริ่มมองหารูปแบบ Harmonic โดยรูปแบบ Harmonic แต่ละประเภทจะมีกฎและเงื่อนไขที่แตกต่างกัน นักเทรดควรศึกษากฎและเงื่อนไขของรูปแบบ Harmonic แต่ละประเภทให้ดีก่อนนำไปใช้
3. กำหนดจุดเข้าเทรด
เมื่อพบรูปแบบ Harmonic แล้ว นักเทรดต้องกำหนดจุดเข้าเทรด โดยจุดเข้าเทรดที่เหมาะสมคือ เมื่อราคาทะลุผ่านจุดกลับตัว (Reversal Point) ของรูปแบบ Harmonic (หรือจุด D ของแต่ละรูปแบบนั่นเอง)
4. กำหนดเป้าหมายและจุด Stop Loss
หลังจากกำหนดจุดเข้าเทรดแล้ว นักเทรดต้องกำหนดเป้าหมายและจุด Stop Loss โดยเป้าหมายสามารถประมาณการได้จากอัตราส่วน Fibonacci ของรูปแบบ Harmonic ส่วนจุด Stop Loss ควรตั้งไว้ต่ำกว่าจุดกลับตัว (Reversal Point) ของรูปแบบ Harmonic สักเล็กน้อย
รูปแบบราคาแบบ Harmonic แม้จะถูกยอมรับว่ามีความแม่นยำสูง แต่ก็ไม่สามารถรับประกันความแม่นยำได้ 100% ดังนั้น นักเทรดควรใช้รูปแบบ Harmonic ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาด้วย
ทีมงาน Forexthai.in.th