Forexthai.in.th ย่อให้
- Crab Pattern คือรูปแบบหนึ่งของทฤษฎีฮาร์โมนิคในตลาด Forex ที่เกิดบ่อย มีโอกาสชนะสูง ทำกำไรดี
- ลักษณะคล้ายปูขายาว มี RR (Risk Reward Ratio) สูง Stop Loss แคบ แต่เป้ากำไรไกล
- ทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง เพราะรูปแบบการเกิด เกิดได้ทั้ง Bullish Crab และ Bearish Crab
- จุดเข้าเทรดอยู่ที่ PRZ (Potential Reversal Zone) บริเวณ 261.8-361.8% ของ BC และ 161.8% ของ XA
- เหมาะกับตลาด Forex ที่ส่วนใหญ่เป็นไซด์เวย์ มีความซับซ้อนสำหรับมือใหม่ ต้องใช้เวลาฝึกฝน
รูปแบบ Crab Pattern (แพทเทิร์นปู) เป็นหนึ่งในรูปแบบของทฤษฎี Harmonic Pattern ที่เกิดขึ้นบ่อยและมีโอกาสชนะสูง ทำกำไรได้ดีในตลาด Forex มีลักษณะคล้ายปูขายาว เมื่อไหร่ก็ตามที่พบเห็นแพทเทิร์นนี้ เทรดเดอร์หลายคนล้วนรอคอยโอกาสทำกำไร เพราะ RR (Risk Reward Ratio) ค่อนข้างสูง
สารบัญบทความ click เพื่อเลือกอ่าน !!
Crab Pattern คืออะไร
รูปแบบของกราฟที่มีลักษณะคล้ายกับปู มีขายาว ๆ เสมือนกับ “จุดกลับตัวที่ค่อนข้างยาว” นั่นหมายถึงว่า เมื่อไหร่ที่กลับตัวแล้ว ก็มีโอกาสที่จะเก็บกำไรไปอีกยาวไกลเช่นกัน ใช้ได้ดีกับตลาดที่มีโอกาสเกิดไซด์เวย์มากกว่าแนวโน้ม ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่มันเหมาะกับตลาด Forex ที่เกิด sideway อยู่ตลอดครับ
ด้วยแพทเทิร์นที่กำหนดด้วยสัดส่วนของ Fibonacci จึงมีจุดเข้าด้วย PRZ หรือจุดที่มีโอกาสกลับตัวที่ชัดเจน และมีเป้ากำไรให้เก็บตามสัดส่วน มีจุดตัดขาดทุนเมื่อกราฟไม่เป็นไปตามรูปแบบแพทเทิร์นที่ค่อนข้างแคบ
เป็นโอกาสที่จะเก็บกำไรให้ได้ RR ที่มากกว่า 2 ด้วยสไตล์ของทฤษฎี Harmonic แล้ว นับว่าคุ้มค่ากับการรอคอยแน่นอน
การรอคอยที่คุ้มค่า คือรอเวลารวย
ทำไมต้องเป็นรูปแบบปู
เพราะมันไม่ใช่แค่รูปแบบธรรมดา แต่เป็นผลงานจากทฤษฎีที่คิดค้น การสังเกต เก็บสถิติ และวิจัยอย่างหนักของเหล่านักวิเคราะห์ตลาด แพทเทิร์นต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้น Forex หรืออื่น ๆ ใดก็ตาม ล้วนเกิดจากการสังเกตของใครคนใดคนหนึ่ง จนกระทั่งเก็บสถิติ ทดสอบ ตกผลึกมาเป็นทฤษฎี และเพื่อให้มีการจดจำและเรียนรู้ได้ง่าย ผู้พัฒนาจึงได้ทำการตั้งชื่อให้คล้ายกับกราฟที่เป็นแพทเทิร์นนั่นเองครับ
และรูปแบบของปูในตลาด ก็แตกต่างและจำได้ง่ายสำหรับผู้เรียนรู้ จึงเกิดเป็น Crab Pattern ในที่สุด
และปูตัวนี้ มันสามารถใช้เทรดทำกำไรในตลาด Forex ได้ดี เกิดขึ้นบ่อย เป็นอีกหนึ่งแพทเทิร์นที่เทรดเดอร์ควรเรียนรู้และนำไปใช้ เพื่อผลกำไรและผลลัพธ์ที่ดีในการเทรดของเทรดเดอร์เอง
ความเข้าใจเป็นสิ่งสำคัญ แต่การท่องจำก็เป็นประโยชน์
การสร้างรูปแบบ Bullish Crab
Bullish Crab รูปแบบสัญญาณที่จะกลับตัวเป็นขาขึ้นหรือสัญญาณในการเข้า Buy หลังจากการสร้างรูปแบบปูเป็นที่เรียบร้อย จะมีจุดที่มีโอกาสกลับตัวหรือที่เรียกว่าเส้น PRZ 261.8-361.8 ของ BC และ 161.8 ของ XA คือจุด D ของแพทเทิร์น
โดยแพทเทิร์นจะถูกกำหนดว่า
- เส้น AB จะพักตัว 38.2-61.8 ของ XA
- BC จะพักตัวอย่างน้อย 1 ใน 3 ของ AB และไม่เกินหัวของ A หรืออยู่ประมาณ 38.2-88.6 ของ AB
Trade Setup ด้วย Bullish Crab
การเทรดด้วย Bullish Crab หรือทฤษฎีใด ๆ ก็ตาม อาจจะไม่ถึงเป้าหมายทำกำไรได้ทั้ง 100% เช่นตัวอย่างภาพ ถึง TP1 แต่ไม่ถึง TP 2 และนี่คือสิ่งที่เทรดเดอร์จะต้องไปบริหารความเสี่ยงต่อไป เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและลดความผิดพลาดให้น้อยลง
รูปแบบของ Harmonic แม้จะมีรูปแบบที่คล้ายกันมาก แต่จะถูกบังคับด้วยสัดส่วนของแพทเทิร์น และรูปแบบที่มีการพักตัวไม่เกินหัวและขายาวนั่นก็คือ Buttetfly และ Crab ซึ่งจะแตกต่างกันที่สัดส่วน และการเทรดด้วย Bullish Crab มีดังต่อไปนี้
- Buy ที่บริเวณ PRZ 8-361.8 ของ BC และ 161.8 ของ XA (จุด D ของแพทเทิร์น)
- Stop Loss ที่ 200-261.8 ของ XA
- Target TP1 ที่ 38.2 ของ AD และ TP2 61.8 ของ AD
การสร้างรูปแบบ Bearish Crab
Bearish Crab รูปแบบสัญญาณที่จะกลับตัวเป็นขาลงหรือสัญญาณในการเข้า Sell หลักจากการสร้างรูปแบบปูเป็นที่เรียบร้อย จะมีจุดที่มีโอกาสกลับตัวหรือที่เรียกว่าเส้น PRZ 261.8-361.8 ของ BC และ 161.8 ของ XA คือจุด D ของแพทเทิร์น เช่นเดียวกับสัญญาณขาขึ้น
โดยแพทเทิร์นจะถูกกำหนดว่า
- เส้น AB จะพักตัว 38.2-61.8 ของ XA
- BC จะพักตัวอย่างน้อย 1 ใน 3 ของ AB และไม่เกินหัวของ A หรืออยู่ประมาณ 38.2-88.6 ของ AB
Trade Setup ด้วย Bearish Crab
การเทรดด้วยฮาร์โมนิค รูปแบบ Bearish Crab อาจจะไม่สามารถทำกำไรหรือราคาวิ่งไปถึงเป้าได้ทุกครั้งไป แต่เมื่อเกิดรูปแบบขึ้นมา ย่อมมีโอกาสที่จะไปได้มากกว่า นั่นคือหลักของความน่าจะเป็น การวางเป้ากำไรที่มีโอกาสมากที่สุดนั่นก็คือ TP1 แน่นอนว่า PT2 มีโอกาสเช่นกันแต่น้อยกว่า แต่เมื่อเทียบกับสัดส่วนของจุดตัดขาดทุน ก็น่าลุ้นอยู่ดี
รูปแบบของ Harmonic แม้จะมีความคล้ายคลังกันของแพทเทิร์นและจดจำได้ยาก นอกจากจะจดจำด้วยรูปแบบของสัตว์ต่าง ๆ แล้ว อีกนัยยะหนึ่งนั่นก็คือ จดจำหัวและหาง โดยรูปแบบจะมีการเคลื่อนที่ไม่เกินหัว และเคลื่อนที่หางยาวเกินจุดเริ่มต้น
- Sell ที่บริเวณ PRZ 8-361.8 ของ BC และ 161.8 ของ XA คือจุด D ของแพทเทิร์น
- Stop Loss ที่ 200-261.8 ของ XA
- Target TP1 ที่ 38.2 ของ AD และ TP2 61.8 ของ AD
ภาษาของภาพ แม้จะออกเสียไม่เหมือนกัน แต่ความหมายคือสิ่งเดียวกัน
ประโยชน์และข้อควรระวังในการเทรดด้วย Crab
ประโยชน์ของการเทรดด้วย Crab Pattern
- แน่นอนว่าประโยชน์ของการเทรดด้วย Crab นั่นก็คือ RR (Risk Reward Ratio) สูง เพราะสิ่งนี้เป็นจุดเด่นและจุดแข็งของ Harmonic Pattern
- Stop Loss แคบ จึงทำให้เทรดเดอร์รับความเสี่ยงที่ต่ำ แต่หวังผลกำไรสูง
- เกิดขึ้นได้บ่อยในตลาด Forex เพราะตลาดส่วนใหญ่เป็นไซด์เวย์
ข้อควรระวัง Crab Pattern
- การเทรดด้วย Harmonic Pattern ต้องใช้การจดจำรูปแบบ ชื่อ และสัดส่วนเพื่อใช้ในการเทรด และอาจจะมีความยุ่งยากและซับซ้อนสำหรับคนที่เริ่มเทรดในตลาดใหม่ ๆ
- ขึ้นชื่อว่าแพทเทิร์น นั่นคือรูปแบบที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ และไม่มีแพทเทิร์นใดที่เกิดขึ้น 100% ดังนั้นแม้ว่าจะแพ้หรือโดนกิน Stop Loss ขอให้เชื่อมั่นในรูปแบบ ว่าไม่ใช่จะเสียให้กับตลาดทุกครั้งไป
- บางแพทเทิร์นแม้จะแพ้ไปแล้ว ก็จะยังเกิดรูปแบบบางอย่างซ้อนอยู่เสมอ
สรุป
การเทรดด้วยปู ที่ไม่ได้อยู่ในทุ่งนา แต่อยู่ในตลาด Forex ด้วย Crab Pattern หนึ่งในรูปแบบทำเงินด้วยทฤษฎีฮาร์โมนิค เคล็ดวิชาทำมาหากินในตลาด ทฤษฎีที่มีจุดเข้าจุดออกและตัดขาดทุนชัดเจน เทรดเดอร์ไม่ต้องมากังวลหาแนวรับแนวต้านที่เลื่อนลอย ของเพียงจดจำรูปแบบและสัดส่วน
ก็สามารถเทรดได้ด้วยทฤษฎีที่มีการวิจัยมานักต่อนัก ที่สำคัญกำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้ เพียงเรียนรู้ ฝึกฝน และนำไปใช้ ทำกำไรจากตลาดนี้ได้อย่างแน่นอน
ไม่สำคัญว่าจะเก็บกำไรได้มากแค่ไหน แต่สำคัญว่าทำซ้ำได้หรือไม่
ทีมงาน: forexthai.in.th