Forexthai.in.th ย่อให้
- แนวคิด 3M (Method, Money Management และ Mindset) เป็นหัวใจสำคัญของการเทรด Forex
- Method คือวิธีการเทรดที่เหมาะกับตัวเรา
- Money Management สำคัญมาก! ช่วยรักษาเงินทุนและปิดช่องโหว่ของ Method ที่ไม่สมบูรณ์
- Mindset คือการควบคุมอารมณ์ในตลาดที่เต็มไปด้วยความโลภและความกลัว
มือใหม่หลายคนอาจจะถามว่า การเทรดให้สำเร็จจะต้องเรียนรู้หรือว่าใช้อะไรบ้างในการเทรด ในวันนี้ผมก็จะพูดถึง “องค์ประกอบของการเทรดให้สำเร็จ” ซึ่งเป็นที่ยอมรับและใช้ในการเรียนรู้การเทรดอย่างแพร่หลายมายาวนานมาก นั่นก็คือ “องค์ประกอบ 3M” แล้วองค์ประกอบ 3 M คืออะไร มีอะไรบ้าง แล้วจะต้องไปเรียนรู้จากไหน เรามาดูกันในบทความนี้
สำหรับ 3M ถือว่าเป็นหลักการพื้นฐานในการเทรดเลยก็ว่าได้ ที่ว่าจะประสบความสำเร็จในการเทรดได้นั้นต้องประกอบด้วย 3M คือ
- M1 – Method (วิธีการเทรด)
- M2 – Money management (การจัดการความเสี่ยง)
- M3 – Mindset (จิตวิทยา)
ซึ่งเสา 3 ต้นนี้ถือเป็นเสาหลักที่คอยค้ำจุนพาให้เทรดเดอร์ไปสู่เป้าหมาย หากขาดเสาต้นใดต้นหนึ่งไป การเทรดก็จะพัง ไม่สามารถไปต่อได้ โดยในที่นี้จะมาพูดถึงความสำคัญของเสาแต่ละต้น และทำไมเทรดเดอร์นั้นขาดเสาเหล่านี้ไม่ได้เลย
บทความแนะนำสำหรับผู้เริ่มเทรด Forex
M1 – Method (วิธีการเทรด)
ทุกคนต้องมีวิธีการเทรดเป็นของตัวเอง โดยวิธีการเทรดใน Forex นั้นมีค่อนข้างหลากหลายทั้ง Trend following, Mean reversion, Scalping, Breakout และอีกมากมาย ซึ่งไม่ซีเรียสว่าเราจะนำอันนั้นมาใช้ เพราะทุกวิธีการนั้นมีข้อดีที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่ว่าเทรดเดอร์ถูกจริตกับวิธีการไหนมากกว่าแค่นั้น
Method หรือ วิธีการนั้น มันคือระบบวิธีการเข้าเทรด เช่น การใช้ indicator การไม่ใช้ Indicator หรือการใช้กลไกการเทรดในการเข้าเทรด เช่น กลไกของการเทรดแบบ Martingale หรือการเทรดแบบ Grid สิ่งเหล่านี้ก็ถูกรวมไว้ใน Method ด้วยทั้งสิ้น
-
- มันคือวิธีการที่จะทำให้เราเทรดด้วยความแม่นยำมากขึ้น
- มันคือ วิธีการที่จะลดความเสี่ยง หรือตัดปัจจัยที่เราไม่ทราบออกไป
- มันรวมทั้งการวิเคราะห์พื้นฐานและการวิเคราะห์ทางเทคนิคในการเทรด
ซึ่งสิ่งเหล่านี้รวบรวมไว้และเรียกว่า Method ดังนั้นสำหรับคนที่จะฝึกก็ต้องฝึกใช้เครื่องมือ Indicator ศึกษากลไกการเทรด วิธีการ และหาความรู้เรื่องเทคนิคการเทรดให้ได้มากที่สุด
แต่อย่างไรก็ดี วิธีการในโลกการเทรดนั้นมีทั้ง “ถูกต้อง” และ “ไม่ถูกต้อง” ซึ่งตรงนี้เทรดเดอร์ต้องระมัดระวังอย่างมาก อย่าไปใช้วิธีการที่ไม่ถูกต้อง ในวงการนี้เต็มไปด้วยของจริงและของปลอมปะปนกัน ยังมีพวกกูรูปลอมๆ มากมายที่ชอบมาโม้ว่ามีเครื่องมือเทพ สามารถทำให้รวยได้ไวๆ ซึ่งเราอย่าใช้ความโลภไปตกเป็นเหยื่อพวกนี้นะครับ…
คำถามคือเราจะแยกแยะได้อย่างไรก็วิธีการไหนถูกต้อง วิธีการไหนไม่ถูกต้อง
ซึ่งอยากจะแนะนำง่ายๆคือ ถ้าวิธีการไหนมันซับซ้อนเกินไป มันดูคลุมเครือ ให้เปลี่ยนไปหาวิธีการใหม่ดีกว่า อย่าไปฝืนใช้มัน
M2 – Money management (การจัดการความเสี่ยง)
จากประสบการณ์ในการเทรดตลอด 5 ปีที่ผ่านมาต้องบอกว่าเสาหลักต้นนี้นั้น โคตรรรรรรรสำคัญ! เทรดเดอร์มือใหม่หลายท่านละเลิกเสาต้นนี้ ซึ่งอย่าลืมนะครับว่า “การเทรดนั้นต้องอาศัยเงินทุน” ถ้าเงินทุนเราหมด อาชีพการเทรดเราก็จบ เหมือนกับนักฟุตบอลที่ไม่มีลูกบอลมาเตะ
สิ่งสำคัญของเทรดเดอร์คือ รักษาเงินลงทุนให้ได้
Money Management ก็คือ การจัดการการเงิน ซึ่งทำให้เราสามารถรอดและกำไรใน Forex ได้ อย่างที่ได้บอกไปในกระบวนการของ Method ว่าไม่มีวิธีการใดที่จะทำให้การเทรดนั้นกำไร แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าการเทรดนั้นไม่ได้มีทางที่จะทำกำไรได้ เพราะว่า Method หรือวิธีการเข้าเทรดนั้นไม่แม่นยำ และไม่ได้ถูกต้องเสมอไปทุกครั้ง
สิ่งที่เราทำได้ คือ “ใช้การจัดการการเงินในการปิดช่องโหว่” ของความผิดพลาดในวิธีการ มันจึงเป็นส่วนเสริมสำคัญของกันและกัน
M3 – Mindset (จิตวิทยา)
การที่เราจะประคองการเทรดให้อยู่ในมาตรฐานปกติของเราอยู่สม่ำเสมอนั้นต้อง “อาศัย Mindset ของจิตวิทยาที่ดี” เพราะในตลาดนั้นเต็มไปด้วยอารมณ์มากมายทั้ง โลภ กลัว กังวล เครียด
ซึ่งถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่เทรดเดอร์นำอารมณ์เข้ามาเทรด มันจะนำไปสู่หายนะของเทรดเดอร์ทุกคน ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีในหมู่เทรดเดอร์มืออาชีพ ดังนั้นอาชีพเทรดเดอร์ต้องอาศัย Mindset ที่เหมาะสม เข้าใจกลยุทธ์ที่เราใช้ เข้าใจด้านมืดของตลาด จึงจะสามารถอยู่รอดในตลาดแห่งนี้ได้
หลังจาก Money Management หลายคนอาจจะคิดว่า เพียงแค่มีแค่ Method กับ Money Managment มันจะจบ มันไม่ได้ง่ายอย่างนั้นหรอกครับ จริงอยู่ที่ Method นั้นเสริมและสอดรับกับ Money Management มันคอยปิดช่องโหว่ซึ่งกันและกันและสมบูรณ์แบบดีแล้ว อันนั้นไม่เถียงครับ
แต่อย่างไรก็ตาม คนเรามีความกลัวและความโลภ บางครั้งด้วยความที่เทรดผิดติด ๆ กันบ่อย ทำให้เรากลัวที่จะส่งออเดอร์ถัดไปเลยลดขนาดลง ปรากฏพอเราลดขนาดลงปุ๊บ เราดันเทรดถูกทางและได้กำไรเสียอย่างนั้น ทำให้การเทรดได้กำไรในขนาดที่ถูกลดลงนั้น ไม่ Cover กับขาดทุนที่เสียไปขนาดใหญ่ นี่แหละครับเรียกว่า Mind คือ “การเรียนรู้ที่จะจัดการสภาพจิตใจของตัวเองให้เหมาะสมและถูกต้อง”
มันไม่ได้ง่ายเลยครับสำหรับมือใหม่ และมันเป็นการฝีกที่ต้องอาศัยเวลาเอามาก ๆ หลายคนเข้ามาในตลาด Forex แล้วใจเร็วด่วนได้ อยากจะสำเร็จเร็ว ๆ มาตายกองรวมกันตรงนี้หมดนั่นแหละครับ
ฉะนั้น Mind จึงเป็นองค์ประกอบที่ 3 ที่ทำให้องค์ประกอบของการเทรดที่สำเร็จครบทั้ง 3 ขา
นึกภาพให้ออกก็เหมือนการทำเตาไฟ จะต้องมี 3 ขา มีแค่ 2 ขามันก็ล้มหน่ะสิเออ!!
การประยุกต์ใช้ 3M ในการเทรด Forex ให้ประสบความสำเร็จ
หลังจากที่เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับองค์ประกอบ 3M แล้ว คำถามต่อไปคือเราจะนำมันไปใช้ในการเทรด Forex ยังไงให้ประสบความสำเร็จ? ต้องบอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ได้ยากเกินความสามารถของใครหลายคนครับ
สิ่งสำคัญคือการนำทั้ง 3M มาใช้ร่วมกัน เริ่มจากการพัฒนา Method ที่เหมาะกับสไตล์การเทรดของเรา ไม่ว่าจะเป็นการใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis), การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis) หรือจะถนัดใช้ทั้ง 2 แบบ แล้วนำ Money Management มาช่วยจัดการความเสี่ยง ในการกำหนด Stop Loss และ Take Profit ที่มันสมเหตุสมผล
สุดท้ายคือการฝึกฝน Mindset รู้จักควบคุมอารมณ์ ไม่โลภตอนได้กำไรและไม่ท้อแท้ตอนขาดทุน การฝึกฝนทั้ง 3M นี้ต้องใช้เวลาและความอดทน แต่เชื่อเถอะครับว่ามันคุ้มค่าและจะทำให้อยู่รอดในตลาดได้จริง
สรุป
โดยสรุป วิธีการใช้กลยุทธ์การซื้อขายแบบ 3M (Momentum, Money Management, Mindset) ในการเทรด Forex เน้นการวิเคราะห์และการใช้งาน Indicator ชื่อดังอย่าง Stochastic Oscillator และ Relative Strength Index (RSI) เพื่อช่วยวิเคราะห์แนวโน้มของตลาดและตัดสินใจการซื้อขายในตลาด Forex
โดยคำแนะนำในบทความนี้ได้อธิบายและแนะนำให้ผู้อ่านเรียนรู้เกี่ยวกับกลยุทธ์การซื้อขายแบบ 3M รวมไปถึงวิธีการประยุกต์ใช้ตัวชี้วัดอินดิเคเตอร์ต่าง ๆ ในการวิเคราะห์ตลาด Forex เพื่อช่วยในการตัดสินใจการซื้อขายในตลาด Forex อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นระบบครับ
Block "editor-web-master" not found
ทีมงาน: forexthai.in.th
