Forexthai.in.th ย่อให้

  • Scalping คือกลยุทธ์การเทรดระยะสั้น เน้นทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาเพียงเล็กน้อย (5-10 pips) โดยเข้า-ออก ออเดอร์อย่างรวดเร็ว
  • ข้อดีของ Trade Scalping คือ ต้นทุนต่ำ กำไรสูง ปั้นพอร์ตได้ไว เห็นผลลัพธ์รวดเร็ว
  • คุณสมบัติของ Scalper มือโปร คือมีระบบเทรดที่เสถียร, บริหารเงินทุนเป็น, มีความอดทน, ตัดสินใจเด็ดขาดและมีกลยุทธ์แก้พอร์ตไว้รองรับ
  • แนะนำอินดิเคเตอร์ที่เหมาะกับ Scalping เช่น First Candle Breakout ของ Kenne และ JJN-Bee (สำหรับ MT4)

Trade Scalping

เทรดเดอร์แต่ละคนล้วนมีแนวทางการเทรดที่ไม่เหมือนกัน บางคนก็ชอบเทรดสั้นๆ บางคนชอบถือยาว เป็นต้น และวันนี้เราจะมารู้จักกับกลยุทธ์เทรดสั้นที่นิยมกันสุดๆ สำหรับเทรดเดอร์สายนี้ ก็คือการเทรดแบบ “Scalping” บางคนอาจจะเคยได้ยินมาบ้างแล้ว แต่บางคนก็เพิ่งจะรู้จัก งั้นอย่ารอช้าที่จะไปทำความเข้าใจกลยุทธ์ตัวนี้กันเลยดีกว่าครับ


Scalping คืออะไร?

  • Scalping หากแปลตามตัวคำศัพย์มันหมายถึงการถลกหนังออก ซึ่งจากกิริยาการถลกหนังนั้นจะต้องใช้ความรวดเร็ว ซึ่งเปรียบเหมือนการเทรดที่ใช้ความเร็วในการเข้า-ออก ออเดอร์นั่นเองครับ
  • ในวงการ Forex นั้น กลยุทธ์ Scalping นี้ เน้น “กินน้อยๆ แต่กินบ่อยๆ” เป็นกลยุทธ์เทรดสั้นที่เทรดเดอร์หลายๆ คน เลือกใช้
  • ลักษณะการเทรดของ Scalping จะเป็นประมาณนี้ครับ
    • เข้า-ออก ออเดอร์ไว ถือสถานะไม่เกิน 1 วัน บางครั้งแค่ไม่กี่นาที!
    • เน้นทำกำไรครั้งละ 5-10 pips แต่เทรดหลายครั้งต่อวัน
    • เน้นวางกับดัก Pending Order ไว้หลายๆ ตำแหน่ง เพื่อรอราคามาชนและเก็บกิน
    • กลยุทธ์นี้ เน้นใช้โบรกเกอร์ที่ค่าสเปรดต่ำ, ไม่มีคอมมิชชั่น, ระบบสเถียร เราเลือกหาได้ตามเว็บรีวิวโบรกเกอร์เลยครับ
ลักษณะการเทรดแบบ Scalping
สไตล์การเทรดและพฤติกรรมการเทรดแบบ Scalping เปรียบเทียบได้เหมือนกับนินจา ที่เน้นความรวดเร็ว, เฉียบขาดหรือวางกับดัก (Pending Order) เพื่อรอให้ราคาเข้ามาติดกับ

ทำไม Scalping จึงเป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจ

  • ต้นทุนต่ำ กำไรพุ่ง : Scalping จะเน้นทำกำไรแบบระยะสั้น ส่วนมากประมาณ 5-20 pips และใช้ Lot size ต่ำด้วย การเทรดแต่ละครั้งจึงทำให้ต้นทุนโดยรวมต่ำมาก แถมผลลัพธ์ตอนสุดท้ายบางครั้งก็โกยกำไรได้คุ้มสุดๆ
  • ปั้นพอร์ตได้ไว : การเทรดบ่อยๆ ทุกๆ วัน เราจะเห็นตัวเลขเงินในพอร์ตขยับอยู่เสมอ มีโอกาสทำให้พอร์ตโตได้เร็ว แต่ต้องขึ้นอยู่กับแผนการเทรดที่เฉียบขาดด้วย
  • เห็นผลลัพธ์วันต่อวัน : กลยุทธ์ Scalping เทรดเดอร์สามารถวิเคราะห์ผลลัพธ์ว่าดีพอหรือยังต้องปรับปรุงแก้ไขได้บ่อยๆ ถ้าหากผลลัพธ์โดยรวมยังไม่เข้าเป้าก็ปรับเปลี่ยนได้ตลอด
ความน่าสนใจของกลยุทธ์แบบ Scalping
เหตุผลหลักๆ ที่กลยุทธ์แบบ Scalping น่าสนใจสำหรับเทรดเดอร์หลายๆ คน เพราะว่าความรวดเร็วในการทำกำไรและระยะเวลาในการปั้นพอร์ต ที่ค่อนข้างทำได้ไวแต่ก็มีความเสี่ยงพอสมควรหากกลยุทธ์เทรดของเรามีผลลัพธ์ที่ไม่ดี

คุณสมบัติของเทรดเดอร์ที่จะเทรด Scalping

การจะเทรดสไตล์ Scalping นั้นใช่ว่าทุกจะทำได้ง่ายๆ แต่ก็ไม่ได้ยากเกินไปขนาดนั้นครับ ผมเลยมีคุณสมบัติเบื้องต้นให้ผู้อ่านได้มาเช็คตัวเองครับว่าเหมาะกับการเทรด Scalping หรือไม่

1.ระบบเทรดที่สเถียร

  • เทรดแบบ Scalping ไม่ใช่การเดาสุ่มมั่วๆ เหมือนเล่นการพนันนะครับ เทรดเดอร์ต้องมีระบบการเทรดที่มั่นคง มีสเถียรภาพ ผ่านการทดสอบ Backtest และพิสูจน์แล้วว่าทำกำไรได้จริงในระยะยาว
  • ระบบการเทรดที่ว่าก็แผนการเทรดนั่นแหละครับ เราใช้เครื่องอะไรบ้างในการวิเคราะห์? เราวางจุดเข้า-ออกออเดอร์ยังไง? รวมถึง Indicator, Price Action หรือ Pattern ต่างๆ ต้องเลือกใช้ให้เหมาะสม

2.Money Management และ RRR

  • เจาะลึกจากข้อที่ 1 มาอีกนิดนึงครับ ในระบบการเทรดนั้นเราต้องมี Money Management ที่ดีด้วยครับ เพราะ Scalping เราต้องเทรดบ่อยการบริหารจัดการเงิน การบริหารความเสี่ยงต้องเป๊ะครับ
  • เสริมอีกนิดคือเรื่องการใช้ Risk Reward Ratio หรือ RRR ก็ต้องมีเช่นกันครับ เพราะเน้นเทรดระยะสั้น การวาง TP และ SL ต้องชัดเจน วัดกันให้รู้ผลไปเลย

3.ความอดทน

  • เทรดแบบ Scalping คือการเก็บกินกำไรแบบสั้นๆ ก็จริง แต่ใช่ว่าจะเข้าออเดอร์มั่วๆ เมื่อไหน่ก็ได้นะครับ เทรดเดอร์ต้องอดทนรอจังหวะที่เหมาะสมในแต่ละครั้งด้วย ซึ่งหากระบบเทรดของเรามีสเถียรภาพ เราจะรู้เองว่าถึงจังหวะที่ต้องเข้าออเดอร์เมื่อไหร่
  • รวมถึงเทรดเดอร์ต้องใช้วินัยค่อนข้างเยอะในการเทรดสไตล์นี้ครับ เพราะตลาดมักจะมีช่องว่างให้เราออกนอกลู่ทางจากแผนที่วางไว้ เพราะชอบคิดว่าเทรดสั้นๆ ไม่เป็นไรแต่มันอันตรายกว่าที่คิดถ้าเราคุมอารมณ์ไม่อยู่นะครับ

4.การตัดสินใจ

  • เทรดเดอร์ควรจะมีทักษะการตัดสินใจที่แน่นอนเพราะความลังเลมักจะเป็นตัวทำลายกลยุทธ์นี้ เพราะ Scalping จำเป็นต้องคิดเร็วทำเร็วแต่มีแบบแผนชัดเจน
  • และแน่นอนบางครั้งเราก็อาจจะตัดสินใจผิดพลาดได้ อีกหนึ่งคุณสมบัติที่ต้องพกมาด้วยคือ”การแก้เกมแต่ต้องแก้ด้วยเหตุผลไม่มช่อารมณ์ เช่น การวาง SL การหาจังหวะเข้าซื้อด้วยล็อตที่เหมาะสมเพื่อทำกำไรเพิ่ม เป็นต้น
คุณสมบัติของเทรดเดอร์ที่จะเทรด Scalping
เทรดเดอร์คนไหนที่ต้องการเทรดแบบ Scalping ลองเช็คคุณสมบัติตามรูปภาพนี้ง่ายๆ หากคุณมีครบทุกข้อ การเทรด Scalping ก็เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณแน่นอน!

Indicator ตัวไหนเหมาะกับการเทรด Scalping ?

เรามาดูกันหน่อยว่า Indicator ตัวไหนบ้างที่เหมาะกับการใช้เทรดแบบ Scalping ซึ่งทางทีมงานจะหยิบยกตัวอย่างมาเฉพาะที่เห็นว่าสนใจจริงๆ เท่านั้น เพราะอันที่จริงอินดิเคเตอร์ทุกตัวสามารถประยุกต์ใช้ได้ทุกสถานการณ์ครับ

First Candle BreakOut

  • อินดิเคเตอร์ First Candle BreakOut ของ Kenne การระบุโอกาสในการซื้อขาย โดยพิจารณาจากแท่งเทียนแรกของกรอบเวลา เช่น แท่งเทียนแรกของวัน แท่งเทียนแรกของชั่วโมง ซึ่งเหมาะกับ Scalping มาก
  • หลักการใช้งานเบื้องต้นของอินดิเคเตอร์ตัวนี้คือ
    • อินดิเคเตอร์จะวาดกล่องสี่เหลี่ยม(สีแดงจาง) ครอบคลุมแท่งเทียนแรกของกรอบเวลา
    • หากราคาทะลุขึ้นเหนือกล่อง แสดงว่ามีแนวโน้มเป็นขาขึ้นระยะสั้นๆ ตามกรอบ เราสามารถตั้ง Buy Stop เหนือกล่องได้
    • หากราคาทะลุลงต่ำกว่ากล่อง จะเป็นสัญญาณขาย เราสามารถตั้ง Sell Stop ล่างกล่องได้
  • เน้นเก็บกินระยะสั้น 5-10 pips และใช้ Lot Size ที่เหมาะสมกับเงินทุนนะครับ
First Candle Breakout
ตัวอย่างอินดิเคเตอร์ First Candle Breakout ของ Kenne ที่เหมาะกับการเทรดแบบ Scalping โดยความแม่นยำของอินดิเคเตอร์ตัวนี้ แนะนำว่าใช้วันละครั้งดีที่สุด

JJN-Bee

  • JJN-Bee เป็นอินดิเคเตอร์ที่ออกแบบมาสำหรับ MetaTrader 4 (MT4) เท่านั้นครับ จากที่หาดูใน Trading View ยังไม่พบ ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ฟรีจาก MQL5 ได้เลยครับหรือเข้าลิงค์นี้ได้เลยครับ
  • เจ้าตัว JJN-Bee จะวิเคราะห์และแสดงสัญญาณการซื้อขายพร้อมทั้งระดับ Take Profit และ Stop Loss โดยอัตโนมัติเลยครับ สาย Scalping นี่เหมาะสุดๆ
  • การใช้งานเบื้องต้นกประมาณนี้เลยครับ
    • เมื่อ JJN-Bee แสดงสัญญาณการซื้อขาย (ลูกศรขึ้น = Buy, ลูกศรลง = Sell) ระดับ Take Profit (จุดสีเขียว) และ Stop Loss (จุดสีแดง) อย่างชัดเจน
    • จากตัวอย่างในรูป JJN-Bee แสดงสัญญาณ Buy เราก็เข้าตามเลยครับ แต่ขอบอกก่อนนะครับว่า Win Rate ไม่ใช่ 100% เป็นเพียงสัญญาณที่ทางอินดี้แนะนำเท่านั้น เราต้องมีแผนสำรองเผื่อเจอสัญญาณหลอกได้นะครับ
    • โดยเราสามารถปรับแต่งค่าพารามิเตอร์ต่างๆ เช่น กรอบเวลา (Timeframe) ได้อย่างอิสระ
อินดิเคเตอร์ JJN-Bee
ตัวอย่างภาพอินดิเคเตอร์ JJN-Bee จาก MQL5 ที่เปิดให้ดาวน์โลหใช้ฟรี ซึ่งเหมาะกับเทรดเดอร์ Scalping มาก โดยเทรดตามสัญญาณที่อินดิเคเตอร์แจ้งไว้ได้เลย แต่ทั้งนี้ ความแม่นยำไม่ได้การันตี 100% เทรดเดอร์ควรมีแผนสำรองรับมือหากกราฟไปผิดทาง

วิดีโอเกี่ยวกับ Scalping

 สอนกลยุทธ์ Scalping สำหรับเทรด Forex, หุ้น, และคริปโต เครดิต By TradingLab Focus นาทีที่ 1:30-6:53

เนื่องจากบทความนี้เนื้อเกี่ยวกับ Scalping เป็นหลัก ทางทีมงานเลยไปหาวิดีโอ สอนกลยุทธ์ Scalping สำหรับเทรด Forex, หุ้น, และคริปโต เผื่อว่ากลยุทธ์นี้จะเป็นทางเลือกการเทรดให้แก่เทรดเดอร์ทุกๆ คนครับ

  • Focus นาทีที่ 1:30 กฎข้อที่ 1: เทรดตามแนวโน้ม โดยใช้ EMA 200
  • Focus นาทีที่ 2:33 กฎข้อที่ 2: ใช้ RSI Divergence
  • Focus นาทีที่ 3:50 กฎข้อที่ 3: มองหา Engulfing Candle
  • Focus นาทีที่ 5:15 ตัวอย่างการเทรด

สรุป

เป็นยังไงบ้างครับกับการเทรดแบบ Scalping สไตล์นี้อาจจะถูกใจใครหลายๆ คน โดยเฉพาะคนที่ชอบความเร็ว ไม่ชอบรอนานๆ น่าจะเหมาะกับ Scalping สุดๆ ลองหาโบรกเกอร์ Forex ที่ไว้ใจได้สักเจ้าแล้วลุยกันยาวๆ ขอย้ำอีกทีว่าอินดิเคเตอร์ที่เราได้แนะนำไปนั้นเป็นเพียงคำแนะนำจากทีมงานเราเท่านั้นครับ เทรดเดอร์สามารถมองหาตัวเลือกอื่นๆ ตามที่ถนัดได้เลย เป้าหมายหลักคือการทำกำไรได้ครับ

หวังว่าบทความนี้จะเป็นความรู้ใหม่หรือความรู้ที่เอาไว้ทบทวน สำหรับใครที่สนใจเทรดในรูปแบบ Scalping นะครับ

ทีมงาน: forexthai.in.th

แสดงข้อคิดเห็น ให้กำลังใจ

comments