Forexthai.in.th ย่อให้
- Pro7 EA trading analysis 28+GOLD: จัดว่าเป็น EA ที่ใช้กลยุทธ์การซื้อขายแบบ Breakout
- มี 3 โหมดให้เลือก: คือ แบบคลาสสิค, แบบ Sell Range, และแบบ Buy Range ซึ่งทุกแบบจะใช้คำสั่งซื้อขายแบบ pending order
- Indicator ที่ใช้: Pro7_EA นั้น จะมีอินดิเคเตอร์ที่ใช้อยู่คือ Moving Average, Bollinger Bands, และ RSI
- เงื่อนไขในการเข้าเทรด: ขึ้นอยู่กับโหมดที่เลือกใช้ โดยมีส่วนที่คล้าย ๆ กันก็คือ ราคาทะลุ Bollinger Bands และ RSI ต้องต่ำกว่า 30 (oversold) หรือสูงกว่า 70 (overbought)
- จุดอ่อนของระบบเทรด: พึ่งพาเครื่องมือบ่งชี้มากเกินไป ซึ่งอาจเกิดสัญญาณหลอกและเกิด Slippage จนส่งผลเสียต่อผลกำไรของการเทรดได้
Pro7_EA เป็น Expert Advisor (EA) หรือที่เรียกกันว่าโปรแกรมเทรดอัตโนมัติ ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยนักเทรดในการวิเคราะห์และตัดสินใจการซื้อขาย Forex โดยใช้กลยุทธ์การซื้อขายแบบ Breakout
บทความนี้จะขอพาไปทำความเข้าใจกับการใช้ EA ช่วยเทรด เพื่อเปิดมุมมองดูว่าการใช้ EA ช่วยเทรด มันยุ่งยากซับซ้อนหรือมันง่ายอย่างไรบ้าง เผื่อมีนักเทรดบางท่านอาจจะต้องการสร้าง EA ของตัวเองขึ้นมาสักตัวบ้าง ไปดูแนวทางกันเลยครับ
สารบัญบทความ click เพื่อเลือกอ่าน !!
ข้อมูลเบื้องต้น
Pro7_EA เป็น Expert Advisor (EA) เป็นโปรแกรมช่วยเทรดแบบอัตโนมัติ ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยนักเทรดในการวิเคราะห์และตัดสินใจในการซื้อขาย Forex โดยใช้กลยุทธ์การซื้อขายแบบ Breakout เป็นหลัก ซึ่งคุณสมบัติหลักของ Pro7_EA มีดังนี้
โหมดการเทรด:
จะมี 3 แบบ คือ
- คลาสสิก: ใช้คำสั่งซื้อขายแบบ pending order โดยมีเส้นเข้าเพียงเส้นเดียว
- Sell Range: ใช้คำสั่งขายแบบ pending order มีเส้นเข้าหลายเส้น
- Buy Range: ใช้คำสั่งซื้อแบบ pending order มีเส้นเข้าหลายเส้น
การปรับแต่ง:
- ผู้ใช้สามารถปรับแต่งพารามิเตอร์การเทรด เช่น ขนาด lot size, take profit, stop loss, และอื่น ๆ ได้สำหรับในแต่ละโหมด
ระบบจัดการความเสี่ยง:
- โปรแกรมมีระบบจัดการความเสี่ยงในตัวเพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการเทรด ปรับแต่งระดับความเสี่ยงได้
Pro7_EA จะวิเคราะห์ราคาตลาดโดยใช้เครื่องมือบ่งชี้ เมื่อราคาตลาดเคลื่อนที่ออกจาก Bollinger Bands หรือเมื่อ RSI แสดงสัญญาณ oversold หรือ overbought โปรแกรมจะส่งคำสั่งซื้อขายแบบ pending order เป็นหลัก
เครื่องมือที่ใช้
สำหรับเครื่องมือบ่งชี้หรือ Indicator ที่ใช้บนโปรแกรมช่วยเทรดอย่าง Pro7_EA นั้น จะมีตัวบ่งชี้ที่ใช้ 3 ตัว ดังนี้
- Moving Average: ใช้วิเคราะห์ทิศทางแนวโน้มของราคา
- Bollinger Bands: ใช้กำหนดช่วงราคาที่ “Sideway” ของตลาด
- Relative Strength Index (RSI): ใช้วัด Momentum ของราคา
รายละเอียดของคุณสมบัติ Indicator แต่ละตัวที่ว่ามานี้ จะไม่ขอนำมาแสดงอย่างละเอียดในบทความนี้ เพราะเชื่อว่าเทรดเดอร์หลายท่านคงจะเคยใช้งานและรู้วิธีการใช้ดีอยู่แล้วนะครับ
ตัวอย่างการใช้งาน Pro7_EA
สมมติว่าผู้ใช้เลือกโหมดคลาสสิก และตั้งค่า take profit ไว้ที่ 100 pips และ stop loss ไว้ที่ 50 pips โปรแกรม EA จะทำงานดังนี้
- เมื่อราคาตลาดเคลื่อนที่ออกจาก Bollinger Bands ด้านบน โปรแกรมจะส่งคำสั่งซื้อแบบ pending order
- หากราคาตลาดเคลื่อนที่ไปถึงระดับ take profit โปรแกรมจะปิดคำสั่งซื้อและผู้ใช้จะได้รับกำไร 100 pips
- หากราคาตลาดเคลื่อนที่ไปถึงระดับ stop loss โปรแกรมจะปิดคำสั่งซื้อและผู้ใช้จะสูญเสีย 50 pips
หมายเหตุ:
ข้อมูลนี้เป็นเพียงภาพรวมของ Pro7_EA เท่านั้น ผู้ใช้ควรศึกษาคู่มือการใช้งานอย่างละเอียดก่อนใช้งานโปรแกรม
เงื่อนไขการเข้าเทรด
Pro7_EA เป็น Expert Advisor ที่ใช้กลยุทธ์การซื้อขายแบบ Breakout เป็นหลัก ซึ่งเงื่อนไขการเข้าเทรดของ Pro7_EA จะขึ้นอยู่กับโหมดการเทรดที่เลือกไว้ในแต่ละโหมด ดังนี้
โหมดคลาสสิก
เงื่อนไขในการเข้าเทรดของโหมดคลาสสิค จะเป็นอย่างนี้
- ราคาตลาด: ราคาตลาดต้องเคลื่อนที่ออกจาก Bollinger Bands ด้านบนหรือด้านล่าง
- RSI: ของคู่สกุลเงินที่เทรดต้องต่ำกว่า 30 (oversold) หรือสูงกว่า 70 (overbought)
ตัวอย่าง:
สมมติว่าผู้ใช้เลือกโหมดคลาสสิก และตั้งค่า take profit ไว้ที่ 100 pips และ stop loss ไว้ที่ 50 pips จะแยกออกเป็น 2 แบบ ดังนี้
- กรณีราคาตลาดเคลื่อนที่ออกจาก Bollinger Bands ด้านบน:
- ราคาตลาดต้องเคลื่อนที่ขึ้นเหนือเส้น Bollinger Bands ด้านบน
- RSI ของคู่สกุลเงินที่เทรดต้องต่ำกว่า 30 (oversold)
- โปรแกรมจะส่งคำสั่งซื้อแบบ pending order
- หากราคาตลาดเคลื่อนที่ไปถึงระดับ take profit โปรแกรมจะปิดคำสั่งซื้อและผู้ใช้จะได้รับกำไร 100 pips
- หากราคาตลาดเคลื่อนที่ไปถึงระดับ stop loss โปรแกรมจะปิดคำสั่งซื้อและผู้ใช้จะสูญเสีย 50 pips
- กรณีราคาตลาดเคลื่อนที่ออกจาก Bollinger Bands ด้านล่าง:
-
- ราคาตลาดต้องเคลื่อนที่ลงต่ำกว่าเส้น Bollinger Bands ด้านล่าง
- RSI ของคู่สกุลเงินที่เทรดต้องสูงกว่า 70 (overbought)
- โปรแกรมจะส่งคำสั่งขายแบบ pending order
- หากราคาตลาดเคลื่อนที่ไปถึงระดับ take profit โปรแกรมจะปิดคำสั่งขายและผู้ใช้จะได้รับกำไร 100 pips
- หากราคาตลาดเคลื่อนที่ไปถึงระดับ stop loss โปรแกรมจะปิดคำสั่งขายและผู้ใช้จะสูญเสีย 50 pips
โหมด Sell Range
เงื่อนไขในการเข้าเทรดของโหมด Sell Range จะเป็นอย่างนี้
- ราคาตลาด: ราคาตลาดต้องเคลื่อนที่ลงต่ำกว่าเส้น Sell Range ที่กำหนดไว้
- RSI: RSI ของคู่สกุลเงินที่เทรดต้องสูงกว่า 70 (overbought)
ตัวอย่าง:
สมมติว่าผู้ใช้เลือกโหมด Sell Range และตั้งค่า Sell Range ไว้ที่ 100 pips
กรณีราคาตลาดเคลื่อนที่ลงต่ำกว่าเส้น Sell Range 100 pips:
- ราคาตลาดต้องเคลื่อนที่ลงต่ำกว่าเส้น Sell Range 100 pips
- RSI ของคู่สกุลเงินที่เทรดต้องสูงกว่า 70 (overbought)
- โปรแกรมจะส่งคำสั่งขายแบบ pending order หลายเส้น (จำนวนเส้นขึ้นอยู่กับการตั้งค่า)
- หากราคาตลาดเคลื่อนที่ไปถึงระดับ take profit โปรแกรมจะปิดคำสั่งขายหนึ่งเส้นและผู้ใช้จะได้รับกำไร 100 pips
- หากราคาตลาดเคลื่อนที่ไปถึงระดับ stop loss โปรแกรมจะปิดคำสั่งขายทั้งหมดและผู้ใช้จะสูญเสีย
โหมด Buy Range
เงื่อนไขในการเข้าเทรดของโหมด Buy Range จะเป็นอย่างนี้
- ราคาตลาด: ราคาตลาดต้องเคลื่อนที่ขึ้นเหนือเส้น Buy Range ที่กำหนดไว้
- RSI: RSI ของคู่สกุลเงินที่เทรดต้องต่ำกว่า 30 (oversold)
ตัวอย่าง:
สมมติว่าผู้ใช้เลือกโหมด Buy Range และตั้งค่า Buy Range ไว้ที่ 100 pips
กรณีราคาตลาดเคลื่อนที่ขึ้นเหนือเส้น Buy Range 100 pips:
- ราคาตลาดต้องเคลื่อนที่ขึ้นเหนือเส้น Buy Range 100 pips
- RSI ของคู่สกุลเงินที่เทรดต้องต่ำกว่า 30 (oversold)
- โปรแกรมจะส่งคำสั่งซื้อแบบ pending order หลายเส้น (จำนวนเส้นขึ้นอยู่กับการตั้งค่า)
- หากราคาตลาดเคลื่อนที่ไปถึงระดับ take profit โปรแกรมจะปิดคำสั่งซื้อหนึ่งเส้นและผู้ใช้จะได้รับกำไร 100 pips
จุดอ่อนของระบบ
จุดอ่อนของระบบ Pro7_EA ที่ควรทำความเข้าใจก็คือ เป็นสิ่งที่เหมือนเช่นเดียวกันกับโปรแกรมเทรดอื่น ๆ Pro7_EA ก็มีจุดอ่อนของระบบที่ควรทำความเข้าใจ ดังนี้
- การพึ่งพาเครื่องมือบ่งชี้: Pro7_EA พึ่งพาเครื่องมือบ่งชี้ เช่น Moving Average, Bollinger Bands และ RSI ในการวิเคราะห์ตลาด เครื่องมือบ่งชี้เหล่านี้อาจให้สัญญาณเท็จได้
- การไม่ปรับตัวตามสภาวะตลาด: Pro7_EA ทำงานตามกลยุทธ์การซื้อขายแบบ Breakout ที่ตายตัว อาจไม่สามารถปรับตัวตามสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงได้ทัน
- ความเสี่ยงจากการ Slippage: การ Slippage คือส่วนต่างระหว่างราคาที่ผู้ใช้ตั้งไว้กับราคาที่ตลาดทำการซื้อขายจริง Slippage อาจส่งผลเสียต่อผลกำไรของการเทรดได้
- ความเสี่ยงทางเทคนิค: โปรแกรมเทรดทุกประเภทมีความเสี่ยงทางเทคนิค โปรแกรมอาจทำงานผิดพลาดหรือหยุดทำงานได้
แนวคิดของ “prozor7”
ผู้ที่นำเสนอโปรแกรมช่วยเทรดอย่าง Pro7_EA ให้รู้จักในสังคมนักเทรด เขาใช้ชื่อว่า “prozor7” ซึ่งติดตามอ่าน Forum ของเขาได้ใน Forexfactory.com ในหมวดหมู่ของระบบเทรด เราจะมาทำความเข้าใจแนวคิดและวิธีการสร้าง Pro7_EA ของเขา เพื่อนำมาเป็นแนวทางในการสร้าง EA ในรูปแบบของเราเองบ้าง ไปดูแนวคิดของเขาเลย
กฎ 5 ข้อในการเทรด Forex
Prozor7 มีกฎในการซื้อขาย Forex ที่เป็นแนวทางของตัวเองอยู่ 5 ข้อด้วยกัน ดังนี้
- ง่าย
- เป็นระบบ
- อย่าสันนิษฐาน
- การคิดวิเคราะห์
- อย่าตื่นตระหนก
เคล็ดลับ 5 ข้อในการเทรด Forex
Prozor7 มีเคล็ดลับในการซื้อขาย Forex ที่เป็นแนวทางของตัวเองอยู่ 5 ข้อด้วยกัน ดังนี้
- การซื้อขายขึ้นอยู่กับจังหวะเวลา
- อดทนกับการซื้อขายเชิงบวก
- อดทนกับการซื้อขายเชิงลบ
- เทรดเดอร์แต่ละคนต้องรู้ว่าเมื่อใดจึงจะเพียงพอในการชนะหรือแพ้
- คุณเต็มใจที่จะเสียเงินไปกี่ Pips หรือจำนวนเงินเท่าไหร่
การใช้ Pro7_EA เทรด Forex
Pro7 PA trading analysis 28+GOLD มีตัวเลือกสำหรับการส่งคำสั่งให้ทำการเทรด 4 ตัวเลือก ดังนี้
- Classic Pending Orders: คำสั่งรอดำเนินการแบบคลาสสิก ป้อนระดับราคาเดียวโดยไม่ต้องป้อนเวลา (ราคารอดำเนินการเพื่อป้อน – ซื้อหรือขาย)
- Range Sell Pending Orders: คำสั่งรอดำเนินการแบบขายเป็นช่วง ป้อนช่วงจากไม่มีผู้ป้อน (ราคารอดำเนินการเพื่อป้อนขาย + Pips เริ่มต้นสำหรับช่วงที่รอดำเนินการ)
- Range Buy Pending Orders: คำสั่งรอดำเนินการแบบซื้อเป็นช่วง ป้อนช่วงจากไม่มีผู้ป้อน (ราคารอดำเนินการเพื่อป้อนซื้อ – Pips เริ่มต้นสำหรับช่วงที่รอดำเนินการ)
- Color options: ตัวเลือกสี สำหรับข้อความเส้นประและปุ่ม
เมนูคำสั่งของ Pro7 EA
Pro7 EA มีเมนูคำสั่งเพื่อใช้งาน EA โดยมีปุ่ม 3 ปุ่ม พร้อมตัวเลือกสี ดังนี้
- OFF – ON: ปุ่มสวิตช์ ปิด – เปิด โปรแกรม
- R S: ปุ่มสวิตช์คำสั่งช่วงราคาขาย
- R B: ปุ่มสวิตช์คำสั่งช่วงราคาซื้อ
พร้อมกันนั้นก็จะมีเมนู Color options ตัวเลือกสีสำหรับเส้น, ปุ่ม และเส้นประ ให้ปรับแต่งตามความชอบได้ด้วย
การใช้งานโปรแกรมเทรด Pro7 EA
วิธีการใช้งาน Pro7 EA ในการช่วยเทรด Forex มีวิธีการส่งคำสั่งและการทำงานของ EA ดังต่อไปนี้
การส่งคำสั่ง Classic Pending Orders:
เป็นการส่งคำสั่งรอดำเนินการแบบคลาสสิก เป็นคำสั่งแบบระดับราคาเดียว (การตั้งค่า EA แบบดั้งเดิม) มีวิธีส่งคำสั่งดังนี้
- ผู้ใช้งานป้อนข้อมูล “Trade Lot Size” ขนาดล็อตการซื้อขาย – ขั้นต่ำ 0.01
- ผู้ใช้งานป้อนข้อมูล “Number of minutes between trades” จำนวนนาทีระหว่างการซื้อขาย
- ผู้ใช้งานป้อนข้อมูล “Max Slippage” ค่าสลิปเพจสูงสุด
- ผู้ใช้งานป้อนข้อมูล “Max Spread” สเปรดสูงสุด
- ผู้ใช้งานป้อนข้อมูล “Magic Number” เป็นค่าตัวเลขที่ใช้เพื่อระบุคำสั่งซื้อขายที่สร้างโดยโปรแกรม
- ผู้ใช้งานป้อนข้อมูล “Comment” เป็นคำสั่งรายละเอียดการซื้อขายโดยรวม
- ผู้ใช้งานป้อนข้อมูล “Pending price to enter – SELL or BUY” ราคารอดำเนินการเพื่อเข้าขายหรือซื้อ
- ผู้ใช้งานป้อนข้อมูล “Number of attempts EA will sell at price” จำนวนครั้งที่ EA จะขายในราคาที่ต้องการ
- ผู้ใช้งานป้อนข้อมูล “Take profit in pips” ทำกำไรเป็น Pips หากป้อนเลข 0 หมายถึงไม่มี TP
- ผู้ใช้งานป้อนข้อมูล “Stop loss in pips” จุดตัดขาดทุนเป็น Pips หากป้อนเลข 0 หมายถึงไม่มี SL
- ผู้ใช้งานป้อนข้อมูล “Break even if profit above this” จุดคุ้มทุนหากกำไรสูงกว่านี้ หากป้อนเลข 0 หมายถึงไม่มี BE
การทำงานของ Classic Pending Orders
เมื่อผู้ใช้คลิกปุ่ม OFF – ON จะเป็นการเริ่มต้นคำสั่งให้ ปิดใช้งาน – เปิดใช้งาน EA จะเริ่มต้นวาดเส้นเข้าออเดอร์เส้นเดียว (สีแดงสำหรับขายและสีเขียวสำหรับซื้อ) โดยขั้นตอนการทำงานจะมีดังนี้
- EA จะรอให้ผู้ใช้เปิดใช้งาน Activate EA โดยคลิกปุ่ม OFF ปุ่มจะเปลี่ยนสีเป็นสีเขียวและข้อความเป็น ON
- EA จะมองหา “CLASIC mode” เฉพาะในกรณีที่ผู้ใช้ไม่ได้เปิดใช้งานปุ่ม “R S” หรือ “R B”
- EA จะรอให้ราคากระทบกับอินพุตของผู้ใช้ “Pending price to enter” ราคาที่รอการป้อน
- EA จะเปิดคำสั่งที่ไม่มีการกำหนดโดย “Number of attempts” จำนวนครั้งที่พยายาม ในระดับราคาเดียว
- EA จะรอจนกว่าจะถึงเวลาที่กำหนดโดย “Number of minutes between trades” จำนวนนาทีระหว่างการซื้อขาย สำหรับการซื้อขายครั้งต่อไป
- EA จะดูแลการซื้อขายที่เปิดอยู่สำหรับอินพุต TP, SL และ BE ของผู้ใช้ และปิดการซื้อขายทั้งหมดใน TP, SL และ BE เมื่อราคากระทบกับตัวเลขดังกล่าว ยกเว้นหากเป็นเลข 0 หมายถึงไม่มี TP, SL และ BE
- EA จะทำซ้ำรายการตราบใดที่ยังเปิดใช้งานอยู่
การส่งคำสั่ง Range Sell / Range Buy Pending Orders
การส่งคำสั่งให้ Pro7 EA ทำงานในแบบ Range Sell และ Range Buy Pending Orders มีวิธีการส่งคำสั่ง ดังนี้
- ผู้ใช้ใส่คำสั่ง “Trade Lot Size” – 0.01 minimum
- ผู้ใช้ใส่คำสั่ง “Max Slippage”
- ผู้ใช้ใส่คำสั่ง “Max Spread”
- ผู้ใช้ใส่คำสั่ง “Magic Number”
- ผู้ใช้ใส่คำสั่ง “Pending price to enter – SELL”
- ผู้ใช้ใส่คำสั่ง “Default pips for pending range” Pip เริ่มต้นสำหรับช่วงราคาที่รออยู่
- ผู้ใช้ใส่คำสั่ง “Number of attempts EA will sell at price” (หากมีมากกว่า 2)
- ผู้ใช้ใส่คำสั่ง “Take profit in pips” – 0 หมายถึง NO TP
- ผู้ใช้ใส่คำสั่ง “Stop loss in pips” – 0 หมายถึง NO SL
- ผู้ใช้ใส่คำสั่ง “Break even if profit above this” – 0 หมายถึง NO BE
- ผู้ใช้ใส่คำสั่ง “Comment Sell”
การทำงานของ Range Sell / Range Buy Pending Orders
เมื่อผู้ใช้คลิกปุ่ม OFF – ON และเปิดใช้งาน EA โปรแกรมจะเริ่มต้นทำงานด้วยวิธีนี้
- EA จะค้นหา “Range Sell mode” เฉพาะเมื่อผู้ใช้เปิดใช้งานปุ่ม “R S” เท่านั้น ปุ่มจะเปลี่ยนสีเป็นสีเขียว
- EA จะรอให้ผู้ใช้เปิดใช้งาน EA โดยคลิกปุ่ม OFF ปุ่มจะเปลี่ยนสีเป็นสีเขียวและข้อความเป็น ON
- EA จะรอให้ราคาแตะค่าที่ผู้ใช้ป้อน “Pending price to enter” ราคาที่รอดำเนินการ
- EA จะเปิดไม่มีคำสั่งที่กำหนดโดย “Number of attempts” จำนวนครั้งที่พยายาม เส้นช่วงเมื่อราคาแตะเส้นที่วาด
- EA หลังจากเปิดการซื้อขายแล้วจะค้นหา TP, SL และ BE ตามอินพุตของผู้ใช้ และปิดการซื้อขายทั้งหมดใน TP, SL และ BE เมื่อราคาแตะตัวเลขนั้น – 0 หมายถึงไม่มี TP, SL และ BE
- EA จะทำซ้ำรายการตามคำสั่งเดิมตราบใดที่เปิดใช้งานอยู่
จากวิธีการใช้งาน Pro7 EA ในการช่วยเทรด Forex ที่นำมาแสดงนี้ ผู้ใช้ควรทดสอบข้อบกพร่องและทำความเข้าใจกับคำสั่งต่าง ๆ ที่มี เพื่อที่จะใช้ EA ในการช่วยเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ขอให้โชคดี
อ้างอิง
ประเภทไฟล์: ex4 Pro7_EA.ex4 70 KB | ดาวน์โหลด 438 ครั้ง
https://www.forexfactory.com/attachment/file/3641623?d=1590006321
ประเภทไฟล์: mq4 Pro7_EA.mq4 44 KB | ดาวน์โหลด 466 ครั้ง
https://www.forexfactory.com/attachment/file/3641624?d=1590006328
ทีมงาน: forexthai.in.th