รูปแบบราคา Harmonic Pattern เป็นรูปแบบ Price Action ประเภทหนึ่ง เพื่อช่วยการเทรดแบบ Swing Trade โดยอาศัยการมองกราฟราคาและใช้ร่วมกับอัตราส่วนทฤษฎีของ Fibonacci ทำนายแนวโน้มของราคาในอนาคต
รูปแบบ Harmonic มีหลายรูปแบบ รูปแบบที่นิยมใช้กันอย่างมาก ได้แก่
- รูปแบบ A-B-C-D: เป็นรูปแบบราคา Harmonic พื้นฐานที่ประกอบด้วยการแกว่งของราคา 3 ครั้ง แล้วบ่งชี้แนวโน้มที่จะว่งต่อไป
- รูปแบบ Gartley: เป็นรูปแบบการกลับตัวที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ประกอบด้วย 5 จุด ได้แก่ XA, AB, BC, CD และ XD โดยจุด XD จะเป็นจุดที่ราคากลับตัว
- รูปแบบ Butterfly: เป็นรูปแบบการกลับตัวที่มีโครงสร้างคล้ายกับรูปแบบ Gartley แต่มีอัตราส่วนที่แตกต่างกันเล็กน้อย
- รูปแบบ Crab: เป็นรูปแบบการกลับตัวที่มีโครงสร้างคล้ายกับรูปแบบ Gartley แต่มีอัตราส่วนที่แตกต่างกันอย่างมาก
- รูปแบบ Bat: เป็นรูปแบบการกลับตัวที่มีโครงสร้างคล้ายกับรูปแบบ Gartley แต่มีจุด XA อยู่ตรงกลางของแนวโน้มขาขึ้น
รูปแบบ Harmonic ทั้งหมดที่ว่ามามีข้อดีคือ สามารถให้สัญญาณการกลับตัวของราคาที่แม่นยำสูง อย่างไรก็ตาม รูปแบบเหล่านี้มันมีความซับซ้อน จึง “เหมาะสำหรับนักเทรดที่มีประสบการณ์มาในระดับหนึ่ง”มากกว่า
สารบัญบทความ click เพื่อเลือกอ่าน !!
กฎและเงื่อนไขของรูปแบบ Harmonic Pattern
รูปแบบราคา Harmonic เป็นรูปแบบการเทรดโดยอาศัยการระบุสัดส่วนการเปลี่ยนแปลงของราคา Forex ที่เป็นไปตามกฎและเงื่อนไขบางอย่าง ต่อไปนี้เป็นกฎและเงื่อนไขที่ต้องจดจำให้ได้
- จุด A และ D จะต้องเป็นจุดสูงสุดเมื่ออยู่ในรูปแบบ Bearish (รูปตัว W) และเป็นจุดต่ำสุดเมื่ออยู่ในรูปแบบ Bullish (รูปตัว M)
- ระยะการวิ่งจากจุด A ไปที่จุด B และ C ไปที่จุด D จะต้องมีขนาดใกล้เคียงกับเงื่อนไขของแต่ละรูปแบบ
- จุด B,C, และ D จะต้องอยู่บริเวณระดับสัดส่วนของตัวเลข Fibonacci retracement ของ XA ตามเงื่อนไขของแต่ละรูปแบบ
- จุด D จะเป็นจุดที่เข้าทำการ Trade
ในการมองหาระดับตามเงื่อนไข จะใช้เครื่องมือทางเทคนิคที่ชื่อ Fibonacci retracement เพื่อกำหนดตำแหน่งของจุด X, A, B, C, และ D ได้ สิ่งที่สำคัญก็คือต้องจดจำเงื่อนไขที่ว่ามานี้ให้แม่น จึงจะวิเคราะห์แนวโน้มตามรูปแบบได้แม่นยำขึ้น
Harmonic รูปแบบ A-B-C-D คืออะไร
รูปแบบ A-B-C-D คือ “การกำหนดจุดที่ราคาไปทดสอบ” เป็นรูปแบบราคา Harmonic พื้นฐานที่ประกอบด้วยการแกว่งตัวของราคา 3 ครั้ง แบ่งออกเป็นการแกว่งตัว ดังนี้
- ราคาที่วิ่งจากจุด A ไปถึงจุด B
- ราคาที่วิ่งจากจุด B ไปถึงจุด C
- ราคาที่วิ่งจากจุด C ไปถึงจุด D
โดยที่ระยะทางการวิ่งของราคาจากจุด A ไปยัง B และ C ไปยัง D จะมีขนาดใกล้เคียงกัน ส่วนการวิ่งจากจุด B ไปยัง C จะเป็นการพักตัวของราคาระยะหนึ่งเท่านั้น
การมองหา Harmonic รูปแบบ A-B-C-D
โดยทั่วไปแล้วรูปแบบ A-B-C-D ก็คือการสวิงของราคาที่เคลื่อนที่ตามปกติ สิ่งที่จะต้องมองหาก็คือ
- จุดแรกที่จะต้องมองหาก็คือจุด A เมื่อราคาวิ่งไปที่จุด B นี่จะเป็นขาแรกที่เกิดขึ้น
- จากนั้นราคาจะทำการพักตัวในระยะสั้น ๆ โดยเคลื่อนที่จากจุด B ย้อนกลับไปพักตัวที่จุด C
- การพักตัวที่จุด C นั้น จะวัดระดับได้ที่ช่วง 0.618-0.786 ด้วย Fibonacci จากจุด A มาจุด B
- หลังจากนั้นราคาจะวิ่งไปเพื่อสร้างจุด D โดยระยะจะอยู่ที่ระดับ 1.27-1.618 ของขา BC ด้วยการลาก Fibonacci จาก B ไป C
ถ้าหากระยะการพักตัวไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่ว่ามานี้ ก็จะไม่ใช่รูปแบบ A-B-C-D แน่นอน อาจจะเป็น Pattern อื่น ๆ ก็ได้
การเทรดด้วยรูปแบบ A-B-C-D ในแนวโน้มขาขึ้น
เมื่อเราเห็นรูปแบบราคากำลังวิ่งในแนวโน้มขาลงปกติ High ล่าสุดนั้นอาจจะเป็น จุด A เมื่อกราฟเคลื่อนที่ลงมาสักระยะแล้วดีดกลับขึ้นไปด้วยระยะ 0.618-0.786 ของขา AB และกลับตัวย้อนลงมาอีกครั้ง จักหวะนี้ให้ทำการคาดการณ์จุด D และวางแผนการเข้าเทรด ถ้าเข้าเงื่อนไขของ Harmonic รูปแบบ A-B-C-D จะเป็นจุดเข้า Buy ตามระบบ
การเทรดด้วย Harmonic รูปแบบ A-B-C-D จะมีจุดเข้าด้วย Zone ระดับราคาที่ดี จะมีจุด Stop Loss ตามสัดส่วนของ Fibonacci และจะมีจุดออกทำกำไรตามสัดส่วนด้วยเช่นกัน ด้วยระบบเช่นนี้จึงทำให้ “สามารถเก็บ RR ได้ค่อนข้างสูงมากทีเดียว” ตามขั้นตอนดังนี้
- Buy เมื่อราคามาอยู่ที่ Zone ระดับราคาที่ดี นั่นก็คือ 1.27-1.618 ของ BC
- วัดระยะจาก AB และนำมาวางไว้ที่ C เพื่อหา D
- Stop Loss คือ 200% ของ BC
- เป้าหมาย TP1 คือ Retracement ของ CD อยู่ที่ 38.2%
- เป้าหมาย TP2 คือ Retracement ของ CD อยู่ที่ 61.8%
การเทรดด้วยรูปแบบ A-B-C-D ในแนวโน้มขาลง
เมื่อเราเห็นรูปแบบราคากำลังวิ่งในแนวโน้มขาขึ้นปกติ Low ล่าสุดนั้นอาจจะเป็น จุด A เมื่อกราฟวิ่งขึ้นไปสักระยะแล้วย่อตัวลงด้วยระยะ 0.618-0.786 ของขา AB และดีดกลับขึ้นไปอีกครั้ง จักหวะนี้ให้ทำการคาดการณ์จุด D และวางแผนการเข้าเทรด ถ้าเข้าเงื่อนไขของ Harmonic รูปแบบ A-B-C-D จะเป็นจุดเข้า Buy ตามระบบ
Harmonic รูปแบบ A-B-C-D ช่วยทำกำไรได้ดีทั้งแนวโน้มขาขึ้นและขาลง โดยใช้ได้ในทุกคู่เงิน มีการอ้างอิงต่อ ๆ กันมาว่า “เป็นรูปแบบราคาที่มาจากพฤติกรรมที่รายใหญ่ใช้เก็บ SL รายย่อย” แผนในการเข้าเทรดมีดังนี้
- Sell เมื่อราคามาอยู่ที่ Zone ระดับราคาที่ดี นั่นก็คือ 1.27-1.618 ของ BC
- วัดระยะจาก AB และนำมาวางไว้ที่ C เพื่อหา D
- Stop Loss คือ 200% ของ BC
- เป้าหมาย TP1 คือ Retracement ของ AD อยู่ที่ 38.2%
- เป้าหมาย TP2 คือ Retracement ของ AD อยู่ที่ 61.8%
Harmonic รูปแบบ A-B-C-D เป็นทฤษฎีที่จะ “เทรดในช่วงที่ตลาดพักตัวหรือไซด์เวย์เป็นส่วนใหญ่” ดังนั้นจึงเกิดได้บ่อยในช่วงดังกล่าว สำหรับมือใหม่อาจจะยังมองหา Pattern ได้ยากสักหน่อย แต่จะคุ้มค่าอย่างแน่นอนเมื่อเรียนรู้และฝึกใช้จนชำนาญ
รูปแบบ Gartley
Gartley เป็นรูปแบบหนึ่งของ Harmonic Pattern ที่ถูกตั้งชื่อตามผู้ค้นพบ นั่นก็คือ H.M Gartley ซึ่งเป็นผู้ที่เปิดเผยทฤษฎีนี้เป็นครั้งแรก ในช่วงปี 1932
Harmonic Pattern รูปแบบ Gartley มักจะเกิดขึ้นบ่อยในกราฟราคา ตามที่มีการบอกต่อกันมา รูปแบบ Gartley มีความแม่นยำมากกว่า 70% เลยทีเดียว แม้ระยะการทำกำไรจะแคบกว่าแพทเทิร์นอื่น ๆ แต่ก็ยังมีคง RR ในสัดส่วนที่น่าสนใจ
สัญญาณการเข้าเทรดด้วยรูปแบบ Gartley สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในขา BUY และ SELL เมื่อมีการการฟอร์มตัวสร้างรูปแบบตามเงื่อนไข ดังนี้
- การพักตัวของจุด B ที่วิ่งมาจาก A จะพักตัวที่ระดับ 61.8% ของ XA
- จุด C ที่วิ่งมาจาก B จะพักตัวอย่างน้อย 38.2-88.6 ของ AB และไม่เกินหัว A
- Zone ราคาการเข้าเทรดที่ดี จะอยู่ที่ระดับ 127.2-161.8% ของ AB หรือ 78.6 ของ XA นั่นก็คือจุด D นั่นเอง
การวางแผนเข้า Trade ด้วย Bullish Gartley
การเข้าเทรดด้วย Bullish Gartley จะต้องระบุรูปแบบของราคาให้ครบตามเงื่อนไขเสียก่อน ต้องเข้าเทรดตามทฤษฎีรูปแบบแพทเทิร์น จึงจะถือว่าเป็นการทำกำไรตามระบบ
- จุดเข้า Buy จะอยู่ที่ระดับ 127.2-161.8% ของจุด BC และ 78.6 ของ XA
- Stop Loss เลย X ไป 5-10 pip
- เป้าหมาย TP1 ที่ 38.2 ของ CD
- เป้าหมาย TP2 ที่ 61.8 ของ CD
วางแผนการเทรดด้วย Bearish Gartley
การเข้าเทรดด้วย Bearish Gartley จะสังเกตได้ว่าราคาอาจจะไซด์เวย์กว้าง ๆ จับทิศจับทางอะไรไม่ได้ และเทรดเดอร์ส่วนใหญ่จะหลีกเลี่ยงสภาวะตลาดอย่างนี้ แต่สำหรับรูปแบบ Gartley คือจังหวะในการเข้าทำกำไรที่ดี
- จุดเข้า Sell จะอยู่ที่ 127.2-161.8% ของจุด BC และ 78.6 ของ XA
- Stop Loss เลย X ไป 5-10 pip
- เป้าหมาย TP1 ที่ 38.2 ของ CD
- เป้าหมาย TP2 ที่ 61.8 ของ CD
Harmonic Pattern รูปแบบ Gartley เป็นรูปแบบที่ “ใช้งานได้ดีในทุกสภาวะตลาด” ดังนั้นจึงสามารถเข้าเทรดได้ตลอดเวลา เพียงแต่เทรดเดอร์เองก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเทรดให้ได้ในทุกเวลา แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มีโอกาสในการเทรด ก็จะต้องลงมือจัดการอย่างทันทีเช่นกัน
ทีมงาน Forexthai.in.th