Forexthai.in.th ย่อให้
- ระบบเทรด EMA Pullback: เป็นระบบการเทรดสั้นในไทม์เฟรม 1 นาทีโดยใช้เส้น EMA 2 เส้นและการคอนเฟิร์มจากพฤติกรรมราคาร่วมกับ MACD
- หลักการเทรดเบื้องต้น: รอการตัดกันของเส้น EMA รอราคาเกิดการพักตัวที่เส้น EMA และค่อยหาจังหวะในการเข้าเทรด
- เครื่องมือที่ใช้: EMA 2 เส้น, MACD และ ลักษณะแท่งเทียน
- ข้อดี: เหมาะกับตลาดที่เป็นเทรนด์, เป็นระบบที่สร้างโอกาสการเทรดได้เยอะ, สามารถรันเทรนด์ได้
- ข้อเสีย: แพ้ตลาด Side Way, ต้องระวังเรื่องค่า Spread
สารบัญบทความ click เพื่อเลือกอ่าน !!
EMA HLC3
สำหรับอินดิเคเตอร์ที่มีชื่อว่า “เส้น EMA” คงเป็นอินดี้ที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี และคงผ่านการใช้งานกันมาบ้าง ซึ่งโดยปกติแล้วเส้น EMA ที่แสดงให้เห็นบนกราฟนั้นจะคำนวณจากราคาปิดของแท่งเทียน แต่เราก็สามารถปรับเปลี่ยนให้คำนวณจากส่วนอื่น ๆ ได้เช่นเดียวกันตัวอย่างเช่น ราคาเปิด, ราคาสูงสุด, ราคาต่ำสุด เป็นต้น
ซึ่งเมื่อเปลี่ยนแปลงการคำนวณแล้วก็จะทำให้เส้น EMA ที่ปรากฏบนกราฟนั้นจะมีลักษณะแตกต่างกันด้วย สำหรับเส้น EMA HLC3 คือเส้น EMA ที่เกิดจากการคำนวณของ (ราคาสูงสุด+ราคาต่ำสุด+ราคาปิด)/3
MACD
อินดิเคเตอร์ตัวหนึ่งที่นิยมใช้งานในการดูโมเมนตัมของตลาด ซึ่งสามารถใช้ดูแรงซื้อและแรงขายของสินทรัพย์นั้น ๆ ในช่วงเวลาหนึ่งเพื่อประกอบการตัดสินใจในการเปิดออเดอร์เทรดได้
ส่วนประกอบของอินดิเคเตอร์
- ฮิสโตแกรม
- เส้น Signal Line
- เส้น MACD
- เส้น Zero Line (เส้นศูนย์)
การใช้งาน MACD เบื้องต้น
- ดูฮิสโตแกรมถ้าเป็นสีเขียวหมายถึงตลาดขาขึ้น ถ้าเป็นสีแดงหมายถึงตลาดขาลง
- ดูการตัดกันของเส้น MACD และเส้น Signal หากมีการตัดกันของ 2 เส้นนี้นักเทรดมักจะคาดการณ์ว่าตลาดเริ่มจะมีการเปลี่ยนแนวโน้ม
- ดูเส้นศูนย์ถ้าเส้น MACD และเส้น Signal ยังอยู่เหนือเส้นศูนย์แสดงว่าเป็นตลาดขาขึ้น แต่ถ้าอยู่ต่ำกว่าเส้นศูนย์แสดงว่าตลาดช่วงนั้นอยู่ในขาลง
หลักการเทรดเบื้องต้น
ระบบเทรดนี้เป็นระบบเทรดสั้นในไทม์เฟรม 1 นาที โดยใช้เส้น EMA ทั้งหมด 2 เส้น เริ่มต้นจากรอการตัดกันของเส้น EMA ระยะสั้นและระยะยาว หลังจากนั้นรอการเกิดการพักตัว (Pullback) ของราคาและเข้าเทรดด้วยการคอนเฟิร์มของพฤติกรรมแท่งเทียนและ MACD
เครื่องมือที่ใช้เทรด
- EMA 5 HLC3 offset 1
- EMA 40 Close offset 0
- MACD
- ลักษณะแท่งเทียน
การตั้งค่า EMA
ในการตั้งค่าเส้น EMA เพื่อให้ใช้งานกับระบบเทรดสั้นมีการตั้งค่าดังนี้ครับ
EMA เส้นที่ 1
- ค่า Length : 5
- Source: HLC3
- Offset: 1
EMA เส้นที่ 2
- ค่า Length : 40
- Source: Close
- Offset: 0
สำหรับใครที่ใช้โปรแกรม MT4 หรือ MT5 ค่า Offset คือ ค่า Shift
เงื่อนไขการเทรดขาขึ้น
1. รอการตัดขึ้นของเส้น EMA 5 และ EMA 40
2. รอกราฟราคาลงมาทดสอบที่ EMA 40 และเส้น EMA 5 จะต้องไม่ตัด EMA 40 ลง
3. รอราคากลับไปปิดเหนือ EMA 5
4. MACD Histogram ต้องเป็นสีเขียว (แสดงถึงโมเมนตัมตลาดขาขึ้น)
5. เปิดออเดอร์ Buy
6. ตั้ง Stop loss ไว้ที่ Swing Low ล่าสุด
7.ตั้ง Take Profit โดยใช้ RR 1:2
เงื่อนไขการเทรดขาลง
1. รอการตัดลงของเส้น EMA 5 และ EMA 40
2. รอกราฟราคาขึ้นมาทดสอบที่ EMA 40 และเส้น EMA 5 จะต้องไม่ตัด EMA 40 ขึ้น
3. รอราคากลับไปปิดใต้ EMA 5
4. MACD Histogram ต้องเป็นสีแดง (แสดงถึงโมเมนตัมตลาดขาลง)
5. เปิดออเดอร์ Sell
6. ตั้ง Stop loss ไว้ที่ Swing High ล่าสุด
7. ตั้ง Take Profit โดยใช้ RR 1:2
ข้อดีและข้อเสียของ ระบบเทรด EMA Pullback
ข้อดีของระบบเทรด
- เป็นระบบที่ชนะตลาดที่เป็นเทรนด์ โดยเฉพาะในช่วงที่เป็นเทรนด์แข็งแรง
- ระบบเรียบง่ายมือใหม่ใช้งานง่ายมือเก่าใช้งานดี
- เป็นระบบเทรดที่สร้างโอกาสเทรดได้บ่อย
- สามารถใช้รันเทรนด์ได้
ข้อเสียของระบบเทรด
- การใช้ฮิสโตแกรมในการยืนยันการเทรดมักทำให้พลาดโอกาสการเทรดที่ดีไป
- ค่า Spread มีผลต่อการตั้ง SL และ TP
- การเทรดสั้นตลาดมีโอกาสผันผวนและเป็น Side Way บ่อยทำให้มีโอกาสขาดทุนติดต่อกัน
คำแนะนำการใช้ระบบเทรด
- เพื่อให้ระบบเทรดแสดงประสิทธิภาพควรเทรดคู่เงินที่เป็นเทรนด์
- ระบบเทรดเหมาะกับการใช้ตลาดที่มี Volume สูงอย่างในช่วงตลาดนิวยอร์ก
- สามารถลองเปลี่ยนการยืนยันการเทรดจากฮิสโตแกรมไปใช้การตัดการของ Signal Line และ MACD Line แทนได้
- การคำนวณระยะ SL และ TP ให้คำนวณโดยมีค่า Spread เข้าไปเป็นตัวแปรในการคำนวณด้วย อาจจะใช้ ATR เข้ามาช่วยในการวาง SL
สรุป
ระบบเทรดสั้นไทม์เฟรม 1 นาที EMA Pullback เหมาะกับตลาดที่เป็นเทรนด์และมี Volume ซื้อขายสูง โดยเฉพาะกับตลาดในช่วงนิวยอร์ก ระบบเทรดนี้เป็นระบบที่เรียบง่ายมือใหม่ใช้ได้มือเก่าใช้ดี แต่จุดอ่อนหลักๆของระบบนี้ก็คือไม่สามารถเอาชนะตลาดที่เป็น Side Way ได้แพ้ตลาดที่มีความผันผวนสูง
นอกจากนี้ในการเทรดระยะสั้นนั้นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเลยก็คือ ค่า Spread เพราะมีผลต่อการตั้ง Stop loss และ Take profit เป็นอย่างมากเลยครับ ที่สำคัญอย่าลืมนำระบบเทรดนี้ไปทดสอบในพอร์ตเดโม่ก่อนนำไปใช้งานจริง
สุดท้ายคือการเทรดสั้นควรเทรดในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งเท่านั้นครับ ถ้าหากเทรดทั้งวันบางครั้งผลลัพธ์ที่ออกมานั้นจะเป็นผลลบมากกว่าผลบวก อีกทั้งยังเป็นการเทรดที่มีความเครียดแล้วความกดดันสูง นักเทรดที่ต้องการจะเดินในเส้นทางการเทรดสั้นต้องพัฒนาเรื่องจิตวิทยาการเทรดให้มาก ๆ ครับ
ทีมงาน: forexthai.in.th