รีวิว Eightcap ดีจริงอย่างที่คนเขาว่าจริงหรือ?

เปรียบเทียบต้นทุนการเทรดทองคำ (XAUUSD)

• Eightcap มีต้นทุนรวมที่ค่อนข้างต่ำ แม้ไม่ต่ำที่สุด แต่ได้เปรียบในส่วน Swap ขา Short เป็นบวกถึง +29 ซึ่งหาได้ยากมากในโบรกเกอร์อื่น
• IUX มีต้นทุนรวมต่ำที่สุด (00 USD) แต่ Swap = 0 และ Leverage สูง จึงเหมาะกับสาย Scalping หรือเทรดเร็ว
• Roboforex ต้นทุนรวมต่ำ และได้คะแนนเทรดทองดี แต่ Swap ขาดทุน และ Stopout สูงถึง 100%
• Exness & XM มีต้นทุนรวมค่อนข้างสูง เหมาะกับผู้ที่ต้องการความน่าเชื่อถือระดับสากล

 

เปรียบเทียบความน่าเชื่อถือและคุณภาพโดยรวม

Eightcap ได้รับใบอนุญาตจาก ASIC ซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินระดับ Tier-1 จากประเทศออสเตรเลีย โดยคะแนนในหมวด License อยู่ที่ 8 เต็ม 10 ซึ่งสูงกว่าโบรกเกอร์ทั่วไปหลายเจ้า โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์ที่จดทะเบียนในประเทศ Offshore เช่น Saint Vincent หรือ Belize

 

Eightcap อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ASIC (Australian Securities & Investments Commission) ซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยงานที่ “เข้มงวดและโปร่งใสที่สุด” ในโลกการเงิน จุดนี้ทำให้ผู้ใช้วางใจได้ว่าเงินทุนของคุณจะได้รับการคุ้มครองอย่างเป็นระบบ และอยู่ภายใต้กฎหมายที่ชัดเจน ไม่ใช่เพียงแค่สัญญาบนหน้าเว็บ

ความนิยมที่ก็ไม่ได้ขี้เหล่เมื่อเทียบกับโบรกเกอร์อื่น

จากข้อมูลปริมาณผู้เข้าใช้งานเว็บไซต์ที่สูงกว่า 26,937ครั้งต่อเดือน (อ้างอิงจาก Ubersuggest) แสดงให้เห็นว่า Eightcap ไม่ได้เป็นแค่ทางเลือกทางการตลาด แต่คือ “ทางเลือกของคนจริง” ที่เลือกใช้และกลับมาใช้อีก เพราะประสบการณ์ที่ดีไม่ได้มาจากแค่โฆษณา แต่มาจากการใช้งานจริงซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในขณะที่ fxPro, market4you, และ CXM มีความนิยม 24,899, 19,640, และ 7,844 ตามลำดับ

การใช้งานที่เรียบง่าย เสถียร

ผู้ใช้ต่างชื่นชมระบบของ Eightcap ที่ “ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน” ทั้งในเรื่องของแพลตฟอร์มการเทรด การฝากถอน และบริการหลังบ้าน รวมถึงการมีบัญชีให้เลือกหลากหลาย เช่น Standard, Raw Spread ซึ่งเหมาะกับกลยุทธ์การเทรดทุกรูปแบบ

• เทรดเดอร์สาย Scalping ชอบเพราะ Spread ต่ำ
• เทรดเดอร์สายถือข้ามคืนชอบเพราะ Swap ดี
• มือใหม่เริ่มต้นง่าย เพราะระบบไม่ซับซ้อน

ก่อนรันจริง คุณควรจะรู้อะไรก่อนบ้าง เดี๋ยวเราจะมาสรุปกันให้ฟังแบบง่ายๆ ดังนี้ครับ

ประเภทบัญชีและค่าธรรมเนียมการเทรด

Eightcap เข้าใจดีว่าเทรดเดอร์แต่ละคนมีสไตล์การเทรดต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้น หรือมือโปรที่ต้องการสเปรดแคบเพื่อทำกำไรจากการเคลื่อนไหวเล็ก ๆ ของตลาด ดังนั้น Eightcap จึงออกแบบประเภทบัญชีมาให้ตอบโจทย์หลากหลายความต้องการ

 

Leverage และเงื่อนไขการใช้งาน

หนึ่งในเหตุผลที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือก Eightcap คือความสามารถในการใช้ Leverage ได้อย่างยืดหยุ่น โดย Eightcap มอบ Leverage สูงสุดถึง 1:500 ซึ่งถือว่าเหมาะสำหรับนักเทรดที่ต้องการบริหารเงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการเทรด Forex, ทองคำ หรือ CFD บนดัชนีต่าง ๆ ซึ่งสรุปเป็นตารางแบบนี้ครับ

 

เงื่อนไข Spread และ Slippage

Eightcap มีจุดแข็งที่ชัดเจนเรื่องสเปรดต่ำ โดยเฉพาะบัญชี Raw ที่เริ่มต้น 0.0 pip จริง พร้อมระบบส่งคำสั่งที่รวดเร็ว ไม่มีรีโควต และ slippage ต่ำแม้ในช่วงข่าวแรง จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับเทรดเดอร์สาย Scalping หรือ Day Trade ที่ต้องการความแม่นยำในการเข้าออกออร์เดอร์

 

Swap และค่าธรรมเนียมถือออเดอร์ข้ามคืน

หลายคนอาจมองข้าม Swap หรือค่าธรรมเนียมถือออร์เดอร์ข้ามคืน แต่ในระยะยาวแล้ว นี่คือ “ต้นทุนแฝง” ที่ส่งผลชัดเจนต่อผลกำไร โดยเฉพาะกับเทรดเดอร์สายถือยาว เช่น Swing หรือ Position Trader

 

หมายเหตุ: ตัวเลขเป็นค่าโดยประมาณในหน่วย USD ต่อ 1 ล็อตมาตรฐาน และอาจเปลี่ยนแปลงตามสภาพตลาดและบัญชีที่ใช้ (Raw / Standard)

จุดเด่นของ Eightcap ในเรื่อง Swap

Swap ขา Short ทองคำ (XAUUSD) เป็น ค่าบวก

Eightcap เป็นหนึ่งในไม่กี่โบรกเกอร์ที่ จ่ายค่าธรรมเนียมคืน ให้กับผู้ที่ถือคำสั่ง Sell ทองคำ (Short XAUUSD) ข้ามคืน โดยได้มากถึง +24.29 USD/ล็อต ซึ่งถือว่าสูงและน่าสนใจมากสำหรับสายเทรดยาวหรือเฮดจ์ทองคำ

Swap คู่เงินขา Short = บวก / ขา Long = ลบ

รูปแบบ Swap ของ Eightcap สะท้อนโครงสร้างดอกเบี้ยระหว่างประเทศ (Interest Rate Differential) ได้อย่างชัดเจน:

• ถือ Buy EUR/USD จะเสีย -6.00
• แต่ถือ Sell EUR/USD จะได้คืน +1.80

ซึ่งหมายความว่า ถ้าคุณเลือกกลยุทธ์ถูกฝั่ง คุณสามารถ “สร้างรายได้จาก Swap” ควบคู่กับกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคา

BTC/USD ยังมี Swap ติดลบสองทาง

อย่างไรก็ตาม คู่สกุลคริปโตอย่าง BTC/USD ยังมี Swap ติดลบทั้งขา Buy และ Sell (-50/-40) ซึ่งสะท้อนถึงความเสี่ยงสูงและความผันผวนของตลาดนี้ จึงเหมาะสำหรับการเทรดระยะสั้นมากกว่า

ความเร็วในการส่งคำสั่ง (Execution Speed)

หนึ่งในปัจจัยที่เทรดเดอร์มืออาชีพให้ความสำคัญเป็นพิเศษ คือ ความเร็วในการเปิด–ปิดออร์เดอร์ โดยเฉพาะเมื่อต้องเทรดในตลาดที่ผันผวนสูง เช่น ขณะมีข่าวเศรษฐกิจ หรือเวลาราคาวิ่งแรง ซึ่ง “ความเร็วคำสั่ง” สามารถส่งผลโดยตรงต่อจุดเข้า-ออกและกำไร

Eightcap ใช้ Equinix Data Centers (เซิร์ฟเวอร์ในระดับ Tier-1) ในสหรัฐอเมริกาและยุโรป ทำให้สามารถประมวลผลคำสั่งทั่วไปได้อย่างรวดเร็ว ภายในระยะเวลาเพียง ประมาณ 100–130 มิลลิวินาที (ms) เท่านั้น ซึ่งถือว่าเร็วมากในระดับอุตสาหกรรม และเพียงพอสำหรับ Scalper และ Day Trader ทั่วไป

ในช่วงที่มีข่าวแรง เช่น Non-farm Payrolls (NFP), CPI หรือการประชุม FOMC ความผันผวนของตลาดจะสูงผิดปกติ แต่ Eightcap ก็ยังคงสามารถประมวลผลคำสั่งได้ ภายใน 200–350 ms โดยเฉลี่ย ซึ่งถือว่า “เร็วและเสถียรกว่าโบรกเกอร์ทั่วไป” ที่อาจใช้เวลาเกิน 500 ms หรืออาจเกิด Requote / Delay

 

หมายเหตุ: ความเร็วอาจแตกต่างเล็กน้อยตามประเภทบัญชี, เซิร์ฟเวอร์, และการเชื่อมต่อของผู้ใช้ (VPS, อินเทอร์เน็ต)

ระบบการฝาก-ถอนเงิน และค่าธรรมเนียม

ปัจจัยสำคัญที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ใช้งาน Eightcap คือ ความใส่ใจในระบบธุรกรรมการเงิน ไม่ว่าจะเป็นความเร็ว ความยืดหยุ่น และที่สำคัญคือ ไม่มีค่าธรรมเนียมในการฝาก-ถอน ไม่ว่าคุณจะใช้ช่องทางใดก็ตาม

Eightcap รองรับการฝากถอนผ่าน Internet Banking ไทย ผ่านตัวกลางที่เชื่อมระบบธนาคารภายในประเทศ ทำให้สามารถดำเนินการฝากถอนได้ ภายใน 1–3 ชั่วโมงทำการ โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมแม้แต่บาทเดียว เหมาะกับเทรดเดอร์ไทยที่ต้องการความสะดวก ปลอดภัย และไม่ซับซ้อน

เทรดเดอร์ที่ต้องการความเร็วแบบทันใจ สามารถใช้ บัตรเครดิตหรือเดบิต (Visa / Mastercard) ในการฝากเงินเข้าบัญชี ซึ่งระบบจะดำเนินการโดยอัตโนมัติภายในไม่กี่นาที สะดวกมากโดยเฉพาะเมื่อตลาดกำลังเคลื่อนไหวแรง

Eightcap ยังรองรับช่องทางดิจิทัล เช่น Skrill / Neteller สำหรับผู้ใช้งานในต่างประเทศ หรือผู้ที่ต้องการความคล่องตัวด้านค่าเงิน และยังรองรับการฝากถอนด้วย สกุลเงินดิจิทัล (Crypto) เช่น USDT และ BTC โดยระบบจะตรวจสอบผ่าน Blockchain และดำเนินการภายในไม่กี่ชั่วโมงครับ

 

หมายเหตุ: ข้อมูลอัปเดตล่าสุด ณ ปี 2025 โดยอิงจากระบบฝากถอนในไทยและข้อมูลสากลของ Eightcap

ระบบป้องกันความเสี่ยง (Risk Management)

แยกเงินลูกค้า (Segregated Client Funds)

Eightcap แยกบัญชีเงินของลูกค้าออกจากบัญชีของบริษัทอย่างชัดเจน โดยเงินของลูกค้าจะถูกเก็บไว้ในบัญชีธนาคารที่มีความปลอดภัยสูง ซึ่งหมายความว่า ในกรณีฉุกเฉิน เช่น บริษัทประสบปัญหาใด ๆ เงินของลูกค้าจะไม่ได้รับผลกระทบ

Negative Balance Protection (ป้องกันยอดติดลบ)

Eightcap ให้บริการ ป้องกันยอดติดลบ (Negative Balance Protection) ซึ่งหมายความว่า หากตลาดมีความผันผวนรุนแรงจนทำให้บัญชีคุณติดลบ ระบบจะตัดขาดทุนโดยอัตโนมัติก่อนที่จะเกินยอดเงินที่คุณฝากไว้… คุณจะไม่มีทางเป็นหนี้บริษัท — สูงสุดที่คุณจะเสียคือจำนวนเงินที่คุณฝากเข้าบัญชีเท่านั้น

ระดับ Stop Out และ Margin Call ที่เป็นธรรม

Margin Call: ประมาณ 80% และ Stop Out Level: อยู่ที่ 50%… ตัวเลขนี้ถือว่า “ไม่โหด” และให้อิสระกับเทรดเดอร์ในการจัดการพอร์ตได้ดีในระดับหนึ่ง เหมาะกับเทรดเดอร์ที่ใช้ Leverage สูง และยังสามารถควบคุมความเสี่ยงของพอร์ตด้วยตนเองได้

ระบบส่งคำสั่งเร็ว ลด Slippage

ด้วยโครงสร้างเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ Equinix Tier-1 และมีการเชื่อมโยงกับผู้ให้บริการสภาพคล่องหลายราย Eightcap สามารถส่งคำสั่งได้รวดเร็วมาก

• คำสั่งเปิด–ปิดออร์เดอร์ทั่วไป ~100–130 ms
• Slippage ต่ำมาก แม้ในช่วงข่าวแรง

นั่นหมายความว่า โอกาสที่คุณจะถูก “รีโควต” หรือเปิดออร์เดอร์ไม่ตรงราคาจริง มีน้อยมาก ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของการเทรดอย่างมากในสถานการณ์ตลาดผันผวน