Forexthai.in.th ย่อให้

  • PVSRA Scalping คืออะไร: เป็นระบบเทรดระยะสั้นที่ใช้อินดิเคเตอร์ เช่น ปริมาณการซื้อขาย ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ และรูปแบบกราฟ เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มราคาและเข้าเทรด โดยตั้งเป้าหมายทำกำไรเล็กน้อยแต่บ่อยครั้ง
  • หลักการทำงาน: ระบบนี้ใช้ปริมาณการซื้อขายในการตัดสินใจ การตั้งจุดตัดขาดทุนและจุดทำกำไร รวมถึงการใช้ค่าเฉลี่ยในการวิเคราะห์แนวโน้ม
  • ลักษณะของการเทรด Scalping: เน้นการเก็งกำไรระยะสั้น ใช้เลเวอเรจสูง และต้องติดตามตลาดอย่างใกล้ชิด
  • เครื่องมือที่ใช้: ใช้เครื่องมือทางเทคนิคหลากหลาย เช่น เส้น MA, RSI, Stochastic, แนวรับแนวต้าน, Volume Profile, Market Depth, และ Tick Chart เพื่อวิเคราะห์และตัดสินใจ
  • ข้อควรระวัง: ระบบนี้ต้องการความรู้และประสบการณ์ค่อนข้างสูง มีค่าใช้จ่ายจากค่าคอมมิชชั่นและสเปรด และต้องใช้ความอดทนสูงในการติดตามตลาด

ระบบ PVSRA Scalping เป็นระบบเทรดสั้นแต่มั่นคง

ระบบเทรด PVSRA Scalping เป็นการ “Trade” แบบทำกำไรเพียงเล็กน้อยแต่ทำเป็นประจำ โดยมีการเปิดและปิดคำสั่งซื้อขายหลายครั้งต่อวัน นักเทรดประเภทนี้จะไม่นิยมถือออเดอร์ข้ามคืน จะพยายามเก็งกำไรเพียงเล็กน้อย แต่ทำหลายๆครั้งในหนึ่งวันมากกว่า

มาดูกันว่าระบบเทรดตัวนี้จะเหมาะกับนิสัยและความชอบของคุณหรือไม่ ไปดูกันเลย!!


ข้อมูลเบื้องต้น

ระบบเทรด PVSRA Scalping เป็นแนวคิดในการสร้างระบบเทรดสั้น โดยใช้อินดิเคเตอร์ต่าง ๆ เช่น ปริมาณการซื้อขาย ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ และรูปแบบกราฟ เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มราคาในระยะสั้น จากนั้นจะกำหนดตำแหน่งเข้าเทรด พร้อมทั้งตั้งค่า Stop Loss และ Take Profit ที่เหมาะสม

PVSRA
PVSRA ย่อมาจาก P (Position), V (Volume), S (Stop Loss), R (Take Profit), และ A (Average)

PVSRA ย่อมาจากอะไร?

แต่ละตัวอักษรของ PVSRA มีความหมายเฉพาะตัว ดังนี้

  • P (Position): ตำแหน่งการซื้อขาย (ซื้อหรือขาย)
  • V (Volume): ปริมาณการซื้อขาย
  • S (Stop Loss): จุดตัดขาดทุน
  • R (Take Profit): จุดทำกำไร
  • A (Average): ค่าเฉลี่ย

เทรดแบบ Scalping คืออะไร?

การซื้อขายแบบ Scalping เป็นคำที่ใช้เรียกการ “Trade” แบบทำกำไรเพียงเล็กน้อยแต่ทำเป็นประจำ โดยมีการเปิดและปิดคำสั่งซื้อขายหลายครั้งต่อวัน โดยจะไม่นิยมถือออเดอร์ข้ามคืน จะพยายามเก็งกำไรเพียงเล็กน้อย แต่ทำหลายครั้งในหนึ่งวันมากกว่า

นักเก็งกำไรประเภท Scalping มักจะซื้อขายด้วยกราฟราคา 15 นาที จนถึง 1 นาที โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่มีการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจและเหตุการณ์ข่าวสำคัญอื่น ๆ เช่น ข่าวตัวเลขสถิติการจ้างงานหรือข่าวตัวเลข GDP เป็นต้น

ลักษณะของการเทรดแบบ Scalping

การเทรดแบบ Scalping จะมีลักษณะเฉพาะตัวที่เป็นรูปแบบในการเทรด ดังนี้

  • เป็นการเก็งกำไร: มักจะพยายามเก็งกำไรให้ได้ระหว่าง 5 ถึง 10 pip จากการซื้อขายแต่ละครั้ง และทำซ้ำอย่างนี้ ซ้ำแล้วซ้ำอีกตลอดทั้งวัน
  • ใช้เลเวอเรจสูง: การเลือกใช้เลเวอเรจที่สูง ๆ ช่วยให้กำไรเพียงไม่กี่ pip ในแต่ละครั้ง มีมูลค่าที่สูงขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีกำไรและสามารถทำซ้ำได้หลายครั้ง
  • ต้องเฝ้าหน้าจอ: นัก Scalping จำเป็นต้อง “รัก” การนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ตลอดการเทรด และต้องเพลิดเพลินไปกับการใช้สมาธิในการติดตามราคาอย่างต่อเนื่อง

ด้วย Lot มาตรฐาน มูลค่าเฉลี่ยของ 1 pip จะอยู่ที่ประมาณ $10 ดังนั้นสำหรับกำไรที่ทำได้ทุก ๆ 5 pip นักเก็งกำไรก็จะทำกำไรได้ครั้งละ $50 ถ้าสิบครั้งต่อวันจะเท่ากับ $500 เลยทีเดียว (ตรงกันข้าม หากขาดทุนก็เยอะนะครับ)

แนวคิดระบบ PVSRA Scalping
แนวคิดสำคัญในการสร้างระบบ PVSRA Scalping ที่มีประสิทธิภาพ 7 อย่าง

7 สิ่งสำคัญของระบบ PVSRA Scalping

แนวคิดสำคัญในการสร้างระบบ PVSRA Scalping ที่มีประสิทธิภาพ คุณจะต้องทำตาม 7 สิ่งสำคัญ ดังต่อไปนี้

  1. กำหนดคู่สกุลเงิน: เลือกคู่สกุลเงินที่มีสภาพคล่องสูงและมีความผันผวนเหมาะสมกับสไตล์การเทรดของคุณ
  2. เลือกช่วงเวลา: กำหนดช่วงเวลาในการเทรด เช่น 1 นาที 5 นาที หรือ 15 นาที
  3. เลือกอินดิเคเตอร์: เลือกตัวชี้วัดที่เหมาะสมกับระบบของคุณ เช่น Moving Average, RSI, Stochastic, หรือ Bollinger Bands
  4. สร้างกลยุทธ์การซื้อ/ขาย ให้ชัดเจน: กำหนดกฎเกณฑ์ในการเข้าซื้อและขาย เช่น เมื่อราคาทะลุผ่านค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ หรือเมื่อ RSI เข้าสู่โซนซื้อหรือขายมากเกินไป
  5. ตั้งค่า SL และ TP: กำหนดจุดตัดขาดทุนและจุดทำกำไรที่เหมาะสมกับแต่ละการเทรด
  6. ทดสอบระบบ: ทดสอบระบบของคุณด้วยข้อมูลย้อนหลัง เพื่อประเมินประสิทธิภาพและปรับปรุงกลยุทธ์
  7. บริหารจัดการความเสี่ยง: กำหนดขนาด Position ที่เหมาะสม และปฏิบัติตามแผนการบริหารเงินทุนอย่างเคร่งครัด

7 เครื่องมือที่ควรเลือกใช้

สำหรับการเลือกเครื่องมือที่จะใช้กับระบบเทรดนั้น ขอให้เลือกเครื่องมือที่ใช้งานง่ายที่สุดสำหรับตัวเอง แต่โดยทั่วไปแล้วเครื่องมือที่ควรเลือกใช้ 7 อย่าง ได้แก่

  1. เส้น MA (Moving Average): ช่วยระบุแนวโน้มราคาในระยะสั้นและระยะยาว
  2. RSI (Relative Strength Index): ช่วยวัดโมเมนตัมของราคา และระบุสภาวะซื้อเกินหรือขายเกิน
  3. Stochastic Oscillator: อีกหนึ่งตัวชี้วัดที่ใช้วัดโมเมนตัมของราคาได้เช่นกัน
  4. เส้นแนวรับแนวต้าน: ช่วยระบุระดับราคาที่สำคัญ ซึ่งอาจเป็นจุดเข้าซื้อหรือขายที่ดีได้
  5. Volume Profile: แสดงปริมาณการซื้อขายที่เกิดขึ้นในแต่ละระดับราคา ช่วยระบุระดับราคาที่มีความสำคัญ
  6. Market Depth: แสดงคำสั่งซื้อขายที่รอการจับคู่ ช่วยประเมินแรงซื้อแรงขายในปัจจุบัน
  7. Tick Chart: แสดงการเปลี่ยนแปลงของราคาในแต่ละครั้งที่เกิดการซื้อขาย ช่วยให้เห็นภาพการเคลื่อนไหวของราคาได้ละเอียดขึ้น
Indicator พื้นฐาน เครื่องมือสำหรับนักเทรด Forex ที่มีประสบการณ์ไม่มากนัก

แนะนำเครื่องมือสำหรับมือใหม่

เครื่องมือสำหรับนักเทรด Forex ที่มีประสบการณ์ประมาณ 1 ปี ซึ่งยังจัดว่าเป็นมือใหม่อยู่ ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เพราะน่าจะมีความเข้าใจพื้นฐานของตลาด Forex และเครื่องมือบางอย่างอยู่แล้ว เครื่องมือแนะนำมีดังนี้

  • เครื่องมือพื้นฐาน:
    • เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average)
    • ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI)
    • Stochastic Oscillator
    • เส้นแนวรับแนวต้าน
  • เครื่องมือสำหรับวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย:
    • Volume Profile
    • On Balance Volume (OBV)
  • เครื่องมือสำหรับวิเคราะห์ทางเทคนิคขั้นสูง:
    • Fibonacci Retracement
    • Ichimoku Cloud

ซึ่งนอกจากเครื่องมือที่กล่าวมานั้น อยากจะขอแนะนำเว็บ TradingView.com อีกตัว ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมสูง อีกทั้งยังมีเครื่องมือและ Indicator ให้เลือกใช้มากมายด้วย

เงื่อนไขการเข้าเทรด

เนื่องจากระบบ PVSRA Scalping เป็นการเทรดระยะสั้น เราจึงต้องให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์กราฟในช่วงเวลาสั้น ๆ เช่น 1 นาที 5 นาที หรือ 15 นาที เงื่อนไขเฉพาะของแต่ละเครื่องมือคือ

  • เส้น MA: ใช้ในการยืนยันแนวโน้มและหาจุดเข้าซื้อขายเมื่อราคาตัดเส้น MA
  • RSI และ Stochastic: ใช้ในการวัดโมเมนตัมและหาจุดที่ราคาอาจเกิดการกลับตัว
  • แนวรับแนวต้าน: ใช้ในการวางแผนจุดเข้าซื้อขายและตั้ง Stop-loss
  • Volume Profile: ใช้ในการยืนยันจุดที่มีปริมาณการซื้อขายหนาแน่น และหาจุดที่ราคาอาจเกิดการพักตัว
  • Market Depth: ใช้ในการประเมินแรงซื้อแรงขายปัจจุบัน และคาดการณ์ทิศทางราคาในระยะสั้น
  • Tick Chart: ใช้ในการวิเคราะห์รายละเอียดการเคลื่อนไหวของราคาในช่วงเวลาสั้น ๆ
สัญญาณการเข้าเทรด
สัญญาณการเข้าเทรดตามเงื่อนไข ทั้งการเข้า Buy และ Sell

เงื่อนไขการเข้า Buy

  • สัญญาณซื้อ: ราคาปิดเหนือเส้น MA ระยะสั้น RSI อยู่ในเขตซื้อ และมีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นที่บริเวณแนวรับ
  • จุดเข้า Buy: ที่ระดับราคาใกล้แนวต้าน
  • Stop-loss: ใต้ระดับต่ำสุดของแท่งเทียนที่เกิดสัญญาณซื้อ
  • Take-profit: ที่ระดับเป้าหมายที่คำนวณได้จากการวิเคราะห์ Fibonacci Retracement หรือแนวต้านถัดไป

เงื่อนไขการเข้า Sell

  • สัญญาณขาย: ราคาปิดใต้เส้น MA ระยะสั้น RSI อยู่ในเขตขาย และมีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นที่บริเวณแนวต้าน
  • จุดเข้า Sell: ที่ระดับราคาใกล้แนวรับ
  • Stop-loss: เหนือระดับสูงสุดของแท่งเทียนที่เกิดสัญญาณขาย
  • Take-profit: ที่ระดับเป้าหมายที่คำนวณได้จากการวิเคราะห์ Fibonacci Retracement หรือแนวรับถัดไป

ปัจจัยที่ควรพิจารณาเพิ่มเติม

นอกจากเงื่อนไขในการเข้าเทรดตามระบบนั้นแล้ว อยากจะขอเพิ่มเติมปัจจัยที่ควรนำมาพิจารณาประกอบอีก ดังนี้

  • ความผันผวนของตลาด: ตลาดที่มีความผันผวนสูงอาจต้องตั้ง Stop Loss ที่แคบลง
  • ระยะเวลาในการถือครอง: หากต้องการถือครองระยะยาว อาจตั้ง Take Profit ที่ไกลออกไป
  • ความเสี่ยงที่ยอมรับได้: กำหนดเปอร์เซ็นต์ของพอร์ตการลงทุนที่ยอมรับที่จะขาดทุนในการเทรดแต่ละครั้ง
  • การใช้รูปแบบกราฟ: เช่น รูปแบบ Head and Shoulders, Double Top/Bottom
  • การใช้ข่าวสาร: พิจารณาปัจจัยพื้นฐาน เช่น ข้อมูลเศรษฐกิจ หรือเหตุการณ์สำคัญที่จะส่งผลต่อตลาด
Spread
การใช้ระบบเทรด PVSRA Scalping มีข้อควรใส่ใจคือค่า Spread ที่ต้องเสีย

จุดอ่อนของระบบ

ข้อควรระวังของระบบเทรด PVSRA Scalping ที่ถือว่าเป็นจุดอ่อน ที่ควรนำมาพิจารณาก่อนตัดสินใจเลือกใช้ระบบเทรดตัวนี้ มีดังนี้

  • มีความรู้และประสบการณ์จะใช้ได้ดีกว่า: การเทรด Scalping ต้องอาศัยความรู้และประสบการณ์ในการวิเคราะห์ตลาดค่อนข้างสูง
  • ค่าคอมมิชชั่นและค่าสเปรด: เนื่องจากมีการเข้าออกตลาดบ่อย ค่าคอมมิชชั่นและค่าสเปรดอาจส่งผลกระทบต่อผลกำไรได้
  • ความเครียดสูง: การเทรด Scalping ต้องใช้สมาธิและความอดทนสูง เพราะต้องติดตามตลาดอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา ใครที่มีความอดทนน้อย คงยากที่จะใช้ระบบเทรดตัวนี้ได้ดี

สรุป

ระบบ PVSRA Scalping เป็นระบบเทรดที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้น โดยใช้การเข้าและออกจากตลาดอย่างรวดเร็วและบ่อยครั้งในแต่ละวันที่เทรด

เป็นระบบเทรดที่สามารถทำกำไรได้เร็ว แต่ต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงและความอดทนในการนั่งเฝ้าหน้าจอเพื่อติดตามราคา อีกทั้งยังต้องมีสมาธิที่สูงด้วย

สำหรับผู้ที่สนใจระบบเทรดนี้ ควรศึกษาและฝึกฝนอย่างละเอียดก่อนนำไปใช้งานจริง เพื่อที่จะใช้ระบบเทรดตัวนี้ให้ประสบความสำเร็จในการเทรด Forex นั่นเอง

ทีมงาน: forexthai.in.th

แสดงข้อคิดเห็น ให้กำลังใจ

comments