William Percent Range คือ Indicator แบบ Oscillator อีกตัวหนึ่งที่ใช้วัดการแกว่งตัวของราคา.. ซึ่ง William Percent Range ยังถือว่าที่เป็นหนึ่งใน 10 indicator ที่ยอดเยี่ยมเยี่ยมชมฝั่งเดียว Oscillator เลยก็ว่าได้ครับ… โดยเราต้องทำความเข้าใจกับสิ่งที่อยู่ในรูปแบบของการปรับค่าเล็กน้อยเพื่อที่จะทำให้การใช้งานนั้นสอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของราคาครับ

ข้อมูลเบื้องต้น

William Percent Range หรือ %R เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สามารถวิเคราะห์การแกว่งตัวของราคาเปรียบเทียบความสัมพันธ์ระหว่างราคากับราคาที่เรากำหนด เช่น 14 วัน หรือ 14 แท่งเทียนย้อนหลัง… เครื่องมือชิ้นนี้ถูกพัฒนาโดย Larry William โดยมีวัตถุประสงค์ในการใช้งานกับตลาดหุ้นหรือตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เป็นหลัก แต่ไม่ใช่เป็นปัญหาเลยในการนำมาใช้งานตลาด Forex

ในทางตรงกันข้ามความเหมาะสมกับตลาด Forex นั้นค่อนข้างมีมาก เพราะว่าได้พตลาด Forex มีปริมาณนั้นความสามารถผันผวนมหาศาลทำให้ราคาแกว่งคุณตัวตลอดเวลาผิดกับตลาดหุ้นที่จะมีเป็นช่วง ๆ เท่านั้นดังนั้นหัวเรื่อง: การใช้ William % R จึงไม่มีปัญหาอย่างใด

การคำนวณ

สำหรับสูตรการคำนวณ William Percent ก็ชนะและทำความเข้าใจได้ง่ายเช่นกันโดยมีสูตรดังต่อไปนี้

Wiliams% R = (สูงสุดต่ำสุดสูงสุด) / (ปิดสูงสุดสูงสุด) 

โดยที่

Highest High คือราคาสูงสุดในช่วงเวลาที่ใช้คำนวณ… ต่ำสุด คือ ราคาต่ำสุดในช่วงเวลาที่ใช้คำนวณ… ในส่วน ปิด คือ ราคาปิด… จากสูตรดังกล่าวจะเห็นได้ว่ามันจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของการเคลื่อนไหวได้หรือไม่ ?

วิธีการใช้งาน

การใช้งาน William Percent Range สามารถใช้ได้เฉพาะช่วงตลาดที่มี Sideway เท่านั้น

การใช้งาน William% R นั้นได้รับช่วงตลาด Sideway เท่านั้นมันเป็นเครื่องมือในการวัดตัว แต่ก่อนที่เราจะไปดูการใช้งานที่เราต้องทำการตั้งค่า William% R ให้มันมีคุณสมบัติที่จะใช้งาน ก่อน

ภาพแสบการปรับระดับ Overbought และ Oversold มอบให้ -90 และ -10 ตามลำดับเพื่อการแกว่งตัว “ชน” กับระดับ Overbought- ขายยาก

ภาพข้างต้นเป็นภาพการตั้งค่าการใช้งาน เนื่องจาก William % นั้นเป็น indicator ที่สร้างจากราคาสูงสุดและต่ำสุดทำให้มันแกว่งตัวสูงมาก จึงต้องทำการปรับค่า Level Overbought และ Oversold ให้ต่ำสุด คือ ใช้ค่า -90 และ ค่า -10 เพื่อให้การแกว่งตัวนั้นชนระดับ Overbought และ Oversold ยาก ในตัวอย่าง เราได้ใช้ค่า William % เท่ากับ 5 ในกราฟ Daily

สาเหตุที่ต้องใช้กราฟ Daily ก็เพราะว่า ความผันผวนของมันทำให้กราฟ Daily นั้นไม่ค่อยสูงเทียบกับ Time Frame อื่น ทำให้การวิเคราะห์นั้นไม่ค่อยจะผิดพลาด โดยตัวอย่างการวิเคราะห์ เป็นไปดังต่อไปนี้

ภาพแสดงสัญญาณการเข้าเทรด “สีเหลือง คือ จุดที่เหมาะสมในการออร์เดอร์ Buy” และ “สีแดงคือ จุดที่เหมาะสมในการออร์เดอร์ Sell”

ตัวอย่างในภาพ สีเหลืองคือจุด Buy และสีแดงคือ จุด Sell การเข้าเทรดนั้นจะเข้าเทรดก็ต่อเมื่อเส้น William % นั้นลดต่ำกว่า ระดับ Overbought และ Oversold อย่างเดียวเท่านั้น สำหรับขา Buy ซึ่งเราได้ทำการเปรียบเทียบวงกลมของราคาและวงกลมของเส้น William % ให้ดูแล้ว

ในส่วนของการเข้า Sell นั้นวงกลมสีแดง คือจุดเข้าเทรด และเงื่อนไขการเข้าเทรดคือ William % ต้องสูงกว่าระดับ Overbought เท่านั้น เพราะไม่เช่นนั้นจะเผชิญกับสัญญาณหลอกอยู่บ่อยครั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงดังกล่าว อย่างที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นว่า การตั้งค่าสุดโต่งทำให้สัญญาณเทรดแม่นยำมากขึ้น

 Review Broker Forex

วิเคราะห์ วิจารย์ ข้อดี-ข้อเสีย ข้อมูลจากการเทรดด้วยบัญชีจริง โดยทีมงานหลายคน ...

แต่ย่อมมีแน่นอนที่สัญญาณผิดพลาด ซึ่งทางออกสำหรับเทรดเดอร์ที่ทางเราได้ย้ำอยู่เสมอคือ Stop loss เพื่อป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้นจากพอร์ท ในมูลค่ามหาศาลได้

สรุป

การใช้เครื่องมือสำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิคในตลาด Forex ของวิลเลียม% R สามารถสร้างระบบที่มีความได้เปรียบโดยการตั้งค่าให้สอดคล้องกันกับการเคลื่อนไหวของราคา แต่ไม่ได้มีอะไรที่สมบูรณ์แบบในโลกนี้ ป้องกันการขาดทุนอย่างมีนัยสำคัญของพอร์ทลงทุน

อ้างอิง

  1. https://www.investopedia.com/terms/w/williamsr.asp
  2. https://en.wikipedia.org/wiki/Williams_%25R
  3. https://www.tradingview.com/wiki/Williams_%25R_(%25R)
  4. https://wiki.finlogix.com/en/2019/05/14/williams-percent-range-r/

ทีมงาน: forexthai.in.th

แสดงข้อคิดเห็น ให้กำลังใจ

comments