Forexthai.in.th ย่อให้
- EMA เป็นอินดิเคเตอร์ยอดนิยม ใช้งานง่าย มีหลายระบบเทรดที่น่าสนใจ
- ระบบ ADX, Parabolic SAR และ EMA 3 เส้น: ใช้ EMA ร่วมกับ ADX และ Parabolic SAR บน TF 15 นาทีขึ้นไป
- ระบบ 4 EMA และ Channel: ใช้ EMA และ Channel จาก EMA10 บน TF H4 ขึ้นไป
- Dynamic Wave of Moving Averages: ใช้ EMA ร่วมกับ Pivots และ Dynamic Wave Arrow เหมาะกับการเทรดระยะสั้น
- แต่ละระบบมีข้อดีข้อเสีย ควรศึกษาและทดสอบก่อนใช้งานจริง
EMA จัดเป็นอินดิเคเตอร์ที่ใช้งานกันอย่างกว้างขวางและแพร่หลาย มีหลายเว็บนำมาไปจัดเป็น “ระบบเทรด EMA” แล้วนำมาเผยแพร่ นับเป็นอินดิเคเตอร์ตัวที่ผมใช้งานอย่าง เข้าใจ และชำนาญมากกว่าตัวอื่น ๆ คลุกคลีกับมันมาร่วม ๆ 5 ปีแล้วครับ ส่วนตัวอื่นก็ใช้บ้าง
ในตอนนี้เลยขอค้นหาระบบที่ใช้ EMA เป็นหลักในการเทรด โดยค้นจากเว็บนอกมานำเสนอ โดยขอเริ่มจากระบบแรก ตามมาครับ
สารบัญบทความ click เพื่อเลือกอ่าน !!
ADX, Parabolic Sar and three EMA Trading System
ระบบนี้ถือว่าเป็นระบบที่ใช้งานง่าย เพราะใช้อินดิเคเตอร์พื้นฐานที่มีอยู่แล้วใน MT4 ทั้งหมดเลย โดยจะใช้ EMA นำทาง ประกอบด้วย EMA 3 เส้นคือ 5, 10 และ 80 ส่วน ADX กับ Parabolic SAR ก็ใช้ค่าปกติ
ผมขอแนะนำให้ใช้กับกราฟ 15 นาทีขึ้นไปนะครับ และสามารถใช้ได้กับทุกคู่เงินเลย
หลักการทำงานของระบบนี้ก็คือ:
- EMA80 จะเป็นตัวบอกทิศทางของเทรนด์ และบอกแนวรับแนวต้าน
- Parabolic SAR จะช่วยเตือนจังหวะเปิดออเดอร์
- ADX จะช่วยยืนยันสัญญาณการเข้าเทรด
จังหวะการเปิด ออเดอร์ Buy (ใช้กราฟ 15 Min)
- แท่งเทียนอยู่เหนือ EMA80
- EMA5 ตัดขึ้นกับ EMA10
- แท่งเทียนอยู่เหนือจุด Parabolic SAR
- ADX มีค่าเกิน 20
จังหวะการเปิด ออเดอร์ Sell (ใช้กราฟ 15 Min)
- แท่งเทียนต้องอยู่ใต้ EMA80
- EMA5 ตัดลงกับ EMA10
- แท่งเทียนอยู่ใต้จุด Parabolic SAR
- ADX มีค่าเกิน 40
จุดทำกำไร
สำหรับจุดทำกำไร ให้ดูตอนที่ EMA80 เปลี่ยนเทรนด์ หรือ ถ้าได้กำไรมา 20-30 pips ก็ปิดได้แล้วครับ ส่วนจุดตัดขาดทุนก็ให้ออกเมื่อผิดทางไป 15-20 pips
4 EMA and Channel Trading System
ระบบนี้เรียบง่ายแต่ทรงพลังครับ เพราะใช้แค่เส้น EMA อย่างเดียวเลย ไม่ต้องพึ่งอินดิเคเตอร์อื่นๆ เลย มาดูรายละเอียดของ ระบบเทรด EMA นี้เลยดีกว่า
- ใช้ EMA 4 เส้น คือ 4, 12, 23 และ 50
- สร้างช่อง Channel ด้วย EMA10 ค่า High และ Low
- เหมาะกับกราฟ H4 ขึ้นไป
- ใช้ได้กับทุกคู่เงิน
รวม ๆ แล้ว ผมว่าใช้ EMA เยอะไปนิดครับ.. มาดูจังหวะการเปิดออเดอร์ของระบบกันเลย
จังหวะเปิดออเดอร์ Buy
- EMA4 > EMA12 > EMA23
- EMA10 (Low) > EMA50
ถ้าครบทั้ง 2 เงื่อนไขนี้ ก็เปิดออเดอร์ Buy ได้ทันทีครับ
จังหวะเปิดออเดอร์ Sell
- EMA4 < EMA12 < EMA23
- EMA10 (Low) < EMA50
ครบ 2 ข้อนี้ ก็เปิดออเดอร์ Sell ได้ทันทีครับ
มาดูจังหวะการออกกัน
สำหรับจุดทำกำไรและตัดขาดทุน ระบบนี้แนะนำมาแค่ 2 คู่เงินนะครับ
- EUR/USD: TP 60 pips (H4), 200 pips (D1)
- GBP/USD: TP 70 pips (H4), 250 pips (D1)
ส่วนจุดตัดขาดทุน (Cut loss) ให้ดูตอนสัญญาณ EMA50 เปลี่ยนเทรนด์ครับ ที่สำคัญ ถ้าใช้กราฟ H4 การ Repaint นั้น คงไม่น่าเกิดขึ้นแน่
Dynamic Wave of the Moving Averages
ระบบนี้เป็นอีกระบบที่ใช้ EMA มาจับเทรนด์แบบ Trend Following และ Reversal trading method ซึ่งการเทรดแนวนี้ เหมาะกับเจ้า EMA ทีเดียว มาดูกันว่าระบบนี้ใช้อะไรบ้างครับ
- EMA 3 เส้น: EMA3, EMA21, EMA55
- Pivots
- Dynamic Wave Moving Averages Arrow
Review Broker Forex
วิเคราะห์ วิจารย์ ข้อดี-ข้อเสีย ข้อมูลจากการเทรดด้วยบัญชีจริง โดยทีมงานหลายคน ...
รวมๆ แล้วก็ใช้อินดิเคเตอร์ 3 กลุ่มนี่แหละครับ คือ EMA, Pivots, และ Arrow
- ระบบนี้เหมาะกับ “การเทรดระยะสั้น” ครับ จะใช้กราฟ 15, 30, และ 60 นาทีเท่านั้น
- ใช้ได้กับทุกคู่เงิน
เรามาดูหน้าตาของระบบกันครับ
ดูหน้าตาของระบบ เหมือนจะใช้เส้น MA เยอะจริงครับ แถม Arrow ก็ดูจะเยอะไปหน่อย ผมเลยลองใช้คู่เงิน USD/JPY กับกราฟ H1 เพื่อลดการผันผวนของสัญญาณ ส่วนการ Repaint หรือไม่ ขณะที่เขียนบทความตรงกับวันเสาร์-อาทิตย์ เลยฟันธงไม่ได้ครับ
จากภาพแสดง การใช้ เส้น MA ผมไม่ได้นับว่าใช้กี่เส้น แต่ละเส้นนั้นตั้งค่ายังไง เอาเป็นว่ามายังไงก็ใช้ตามนั้นละกัน… มาดูที่จังหวะการเปิดออเดอร์กันเลยครับ
จังหวะการเปิดออเดอร์ Buy
- EMA3 > EMA21 > EMA55
- Dynamic Wave Moving Averages Arrow ชี้ขึ้นและเป็นสีน้ำเงิน
จังหวะการเปิดออเดอร์ Sell
- EMA3 < EMA21 < EMA55
- Dynamic Wave Moving Averages Arrow ชี้ลงและเป็นสีแดง
ดูเหมือนว่าระบบจะเน้นแค่สองเงื่อนไขนี้เท่านั้นนะครับ แต่ผมก็ยังสงสัยอยู่ว่า Pivots เอาไว้ใช้ตอนไหน
ส่วนตัวผมมองว่าลูกศรในระบบนี้แสดงสัญญาณเยอะไปนิดนะ อาจจะทำให้สับสนได้ ที่น่าเสียดายก็คือ เว็บต้นฉบับไม่ได้บอกจุด TP กับ Cut loss ไว้ ก็คงต้องใช้วิจารณญาณกันเอาเองละครับ
ยังไงก็ลองเอาไปศึกษาต่อดูนะครับ อย่าลืมว่าต้องฝึกฝนให้ชำนาญก่อนเอาไปใช้จริง พบกันใหม่ตอนหน้าครับ ..