Forexthai.in.th ย่อให้
- Take Profit คือการกำหนดระดับราคาที่จะปิดออเดอร์โดยอัตโนมัติ เพื่อรับกำไรเมื่อราคาคู่สกุลเงินถึงระดับที่ตั้งไว้
- ประโยชน์ของการตั้ง Take Profit ก็อย่างเช่น การันตีกำไร, ไม่ต้องเฝ้ากราฟ, ควบคุมความเสี่ยงและลดอิทธิพลของอารมณ์
- ส่วนวิธีการตั้งค่า Take Profit อย่างง่ายบนแพลตฟอร์ม MT4/MT5 นั้นเพียงแค่ เลือก New Order เพื่อเปิดออเดอร์ โปรแกรมจะมีช่องให้เซ็ตค่า ทั้งรูปแบบออเดอร์, ขนาด Lot, TP และ SL
- การจะตั้ง Take Profit ให้มีประสิทธิภาพและเก็บกำไรได้มากที่สุด ก็เช่น ตั้ง TP ตามแนวรับและแนวต้าน, ใช้ Fibonacci, ใช้ Trailing Stop Loss และอย่าลืมระวังข่าวสำคัญช่วงที่เทรดอยู่
ในโลกของการเทรด Forex มีคำศัพท์หลายคำมากๆ ที่เราจำเป็นต้องเรียนรู้ในทุกๆ วัน ในบทความนี้เราจะเน้นไปที่คำว่า “Take Profit (TP)” น่าจะเป็นคำที่เทรดเดอร์ชอบที่สุด (เพราะผมก็ชอบ) คำนี้มันมีความหมายและบริบทมากกว่าแค่การทำกำไรนะครับ ลองมาติดตามกันดู
ความหมายของ Take Profit
- คำว่า Take Profit (TP) ในเชิงไวยกรณ์หมายถึงการ “เก็บกำไร” หรือ “รับกำไร” ส่วนใหญ่จะใช้ในบริบทของการขายทรัพย์สินบางอย่างที่เราเก็งกำไรมาแล้ว
- ในเชิงของ Forex คำว่า Take Profit (TP) หมายถึงการเซ็ตค่าระดับราคาในการปิดออเดอร์(ทั้ง Buy และ Sell) อัตโนมัติเมื่อราคาคู่สกุลเงินเคลื่อนที่ไปถึงระดับที่กำหนดไว้
- ในเชิงความหมายของ Forex TP ก็มีความหมายเดียวกันกับ SL เลยครับ เพียงแต่ว่าผลลัพธ์คือ TP เทรดเดอร์ได้กำไร ส่วน SL เทรดเดอร์ขาดทุน (ยกเว้น Trailing Stop)

ประโยชน์ของการตั้ง Take Profit
การใช้ Take Profit ถือว่าเป็นกลยุทธ์เล็กๆ แต่สำคัญมากๆ สำหรับเทรดเดอร์นะครับและนี่คือ 4 ประโยชน์หลักของการใช้ Take Profit (TP) ในการเทรด Forex ครับ
1.การันตีกำไร
Take Profit ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถล็อกกำไรที่ทำได้เมื่อราคาถึงเป้าหมายที่กำหนด เพราะบางครั้งหากเราไม่ได้ตั้ง TP เอาไว้ เราอาจจะลืมเข้ามาเช็คกราฟจนบางทีกราฟกลับตัวไป เสียโอกาสทำกำไร
2.ไม่ต้องเฝ้ากราฟ
ผลต่อเนื่องมาจากข้อที่ 1 คือเมื่อเราเซ็ต TP ไว้นอกจากจะล็อกกำไรเอาไว้แล้ว เรายังไม่ต้องมานั่งเฝ้ากราฟและรอลุ้นอยู่อย่างนั้น สามารถไปทำอะไรอย่างอื่นได้หรือเทรดคู่เงินอื่นๆ ต่อได้
3.ควบคุมความเสี่ยง
หนึ่งในวิธีที่เทรดเดอร์ใช้ในการบริหารและควบคุมความเสี่ยงคือหลักการ RRR ซึ่งเราจำเป็นต้องมีการตั้ง TP และ SL ในทุกๆ การเทรดเพื่อให้เกิดความคุ้มค่าตามสัดส่วน กำไร/ขาดทุน
4.ลดอิทธิพลของอารมณ์
เนื่องจากเราไม่ต้องมานั่งเฝ้ากราฟทั้งวัน ก็เท่ากับการใช้อารมณ์ในการเทรดก็ลดลง เพราะถ้ายิ่งดูกราฟก็ยิ่งกลัวหรือคิดมากเกินไปย่อมส่งผลเสียแน่นอน

วิธีการตั้งค่า Take Profit อย่างง่าย
การจะใช้หรือตั้งค่า Take Profit นั้นสามารถทำได้ง่ายมาก โดยในบทความนี้จะเน้นไปที่การใช้บนแพลตฟอร์ม MT4/5 เป็นหลัก เพราะมองว่าแพลตฟอร์มนี้มีผู้ใช้เยอะที่สุด
- คลิกปุ่ม “New Order หรือ คำสั่งใหม่” บนแถบเครื่องมือด้านบน
- เทรดเดอร์เลือกออกคำสั่งซื้อขายตามที่วิเคราะห์ว่าจะออกออเดอร์ตามราคาตลาดปัจจุบัน (Market Execution) หรือจะตั้งระดับราคาในการออกออเดอร์ล่วงหน้า (Pending Order)
- จากนั้นเซ็ตขนาด Lot ที่จะเทรดตามแผนการเทรดที่วางไว้
- จากนั้นเซ็ตค่า Take Profit ตามระดับราคาที่คิดไว้ เราสามารถระบุราคาแบบเจาะจงหรือจะลากเส้น TP ไปในระดับที่คาดการณ์แบบคร่าวๆ ก็ได้
- ส่วน SL ก็เซ็ตเหมือนกับ TP ตามที่เราคาดการณ์เหมือนกันครับ

เทคนิคการตั้ง Take Profit ให้เป็นประโยชน์
การตั้งค่า Take Profit (TP) นั้น ใช่ว่าเราจะเซ็ตแบบยังไงก็ได้ขอแค่กำไรก็พอ แบบนี้การทำกำไรของเราแต่ละครั้งนั้นก็ไม่มีประสิทธิภาพเต็ม 100 หรอกครับ มันมีเทคนิคในการตั้ง TP เพื่อให้การทำกำไรนั้นคุ้มค่าและมีเหตุผลที่สุดครับ
แนวรับและแนวต้าน
- แนวรับ (Support): จุดที่ราคามีแนวโน้มกลับตัวขึ้นไป เมื่อราคาลงมาถึงแนวรับแล้วสามารถตั้ง TP ใกล้ (เหนือแนวรับเล็กน้อย) จุดนี้ได้ครับ ก่อนราคาจะกลับตัวขึ้นไป
- แนวต้าน (Resistance): รูปแบบเดียวกันกับแนวรับเลยครับแค่ ระดับราคานี้เป็นที่กลับตัวลงของราคา ดังนั้นตั้ง TP ต่ำกว่าแนวต้านเล็กน้อย

Fibonacci Retracement
- Fibonacci Retracement เป็นอินดิเคเตอร์ตัวหนึ่งที่เอาไว้วิเคราะห์และคาดการณ์การกลับตัวของราคาโดยอิงจากลำดับ Fibonacci ซึ่งเป็นชุดตัวเลขที่มีความสัมพันธ์ทางคณิตศาสตร์ผสมกับจิตวิทยานิดๆ
- ระดับตัวเลขตัวเลขที่ใช้บ่อยใน Fibonacci ก็คือ 38.2%, 50%, 61.8% ซึ่งมันมีความหมายดังนี้ครับ
- 38.2% เป็นระดับที่ราคามักจะย้อนกลับมาหากตลาดยังคงอยู่ในแนวโน้มเดิม เป็นระดับที่มักใช้เป็นจุด Support หรือ Resistance
- 50% เป็นระดับสำคัญทางจิตวิทยาที่ราคามักจะย้อนกลับมาที่ครึ่งหนึ่งของการเคลื่อนไหวก่อนหน้า
- 61.8% ระดับนี้สำคัญที่สุดที่เกิดขึ้นบ่อยในธรรมชาติของตลาดการเงิน เกิดจากสถิติที่เก็บและวิเคราะห์ซ้ำๆ ว่าจุดนี้มีโอกาสกลับตัวสูงนั่นเอง

ระวังข่าวสำคัญ!
- แม้ว่าเราจะเจอระดับในการตั้ง Take Profit ที่เหมาะสมแล้วในทางเทคนิค แต่อย่าลืมนะครับว่า Forex สามารถผันผวนจากปัจจัยพื้นฐานได้เช่นกัน
- ดังนั้นก่อนจะตั้ง TP ในระดับไหน จำเป็นต้องเช็คเสมอว่าช่วงเวลานั้นมีข่าวสำคัญที่จะประกาศออกมาหรือไม่ เช่น ประกาศอัตราดอกเบี้ยหรือการประชุมธนาคารกลาง ที่จะทำให้ราคาผันผวนรุนแรงได้
- หากดูแล้วเหมือนจะมีข่าวสำคัญประกาศก่อนที่ราคาจะไปถึง TP แนะนำให้ปิดกำไรก่อนดีกว่าครับ รอให้ตัวเลขข่าวประกาศออกมาและราคามีทิศทางที่นิ่งกว่านี้

ใช้ Trailing Stop Loss
- Trailing Stop Loss ฟังดูเหมือนเป็นฟังก์ชันใช้งานของ SL แต่ความจริงแล้วการใช้งานมันทำให้เราไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับ TP และยังทำให้เราเก็บ TP ได้แบบคุ้มค่า
- Trailing Stop Loss ก็คือการเลื่อน Stop Loss (SL) ตามหลังราคาแบบมีระยะห่าง เป้าหมายก็เพื่อรักษาผลกำไรในขณะที่ราคายังคงเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่เป็นบวก ระยะห่างนี้อาจเป็นจำนวนจุด (pips) หรือเปอร์เซ็นต์ก็ได้
- เราสามารถตั้งค่าระยะห่าง SL กับราคาได้ทั้งแบบกำหนดเอง (ขยับ SL ด้วยตัวเอง ทำบ่อยๆ) หรือแบบอัตโนมัติโดยให้เซ็ตระยะห่างในแพลตฟอร์มเทรด ซึ่งจะเลื่อน SL ตามราคาโดยอัตโนมัติ

วิดีโอเกี่ยวกับการ Take Profit
การทำกำไรสูงสุดโดยใช้ TP หลายครั้ง เครดิต By Easy Forex Pips Focus นาทีที่ 01:07-07:44
ขอเสริมจากการตั้ง Take Profit ให้เกิดประโยชน์สูงสุดนะครับ มีคลิปวิดีโอที่ทีมงาน Forexthai ไปเจอมาเกี่ยวกับ การทำกำไรสูงสุดโดยใช้ TP หลายครั้ง ซึ่งทีมงานมองว่ามันเข้ากับเนื้อหาของบทความเราและเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านอย่างมาก จึงอยากจะแนะนำให้รับชมคลิปนี้กันครับ
- Focus นาทีที่ 1:07 ความสำคัญของอัตราการชนะและอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน RRR
- Focus นาทีที่ 02:17 การตั้งเป้าหมายกำไรสองเป้าหมาย
- Focus นาทีที่ 03:37 การเปิดสองตำแหน่งแยกกัน
- Focus นาทีที่ 04:07 การใช้อัตราส่วนคงที่ เช่น 1:2 หรือ 1:3
- Focus นาทีที่ 04:29 การปรับ Stop Loss ของการเทรดที่สองไปที่จุดคุ้มทุน
- Focus นาทีที่ 04:43 การใช้เทคนิค Trailing Stop Loss
- Focus นาทีที่ 06:30 ตัวอย่างการเทรดเก็บกำไรคู่ GBP/USD
สรุป
การใช้งาน Take Profit แทบเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้สำหรับการเทรด Forex เลยล่ะครับ ด้วยเหตุผลที่กล่าวไปในบทความ ทั้งนี้อยากให้เทรดเดอร์ทุกคนโฟกัสไปที่การตั้ง Take Profit ยังไงเพื่อให้เกิดผลกำไรที่ดีที่สุด ซึ่งในความเป็นจริงอาจจะมีวิธีหลากหลายกว่าในบทความที่ผมกล่าวไปก็ได้ครับ
ดังนั้นอย่าลืมวางแผนการลงทุนอย่างมีระบบและปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ตลาดเพื่อให้การลงทุนของเทรดเดอร์ทุกคนประสบความสำเร็จในระยะยาวนะครับ
ทีมงาน: forexthai.in.th