Forexthai.in.th ย่อให้
- ระบบ Multi-Timeframe RSI: เป็นระบบเทรดระยะกลางโดยอาศัยการวิเคราะห์หลายไทม์เฟรมและดูแนวโน้มของตลาดด้วยเส้นแนวโน้มและ RSI
- หลักการเทรดเบื้องต้น: วิเคราะห์หลายไทม์เฟรมจาก W และ D เพื่อดูทิศทางของตลาดและเข้า- เทรดในไทม์เฟรม 4H เมื่อโมเมนตัมและทิศทางของตลาดมีความสอดคล้องกันโดยจุดเข้าเทรดใช้การพักตัวบริเวณเส้นแนวโน้ม
- เครื่องมือที่ใช้: Multi-Timeframe Analysis, RSI และ เส้นแนวโน้ม
- ข้อดี: เป็นระบบที่สะอาดตา, มีสัญญาณหลอกน้อย,มีประสิทธิภาพในการวิเคราะห์
- ข้อเสีย: ต้องอาศัยประสบการณ์ในการวิเคราะห์, ต้องถือออเดอร์ข้ามคืน, สัญญาณเทรดเกิดไม่บ่อย
หลักการเทรดเบื้องต้น
ระบบเทรด Multi-Timeframe RSI เป็นระบบเทรดระยะกลางในไทม์เฟรม 4H ซึ่งใช้การวิเคราะห์แนวโน้มของตลาดจากอินดิเคเตอร์ RSI ร่วมกับเส้นแนวโน้ม และใช้หลัก “การวิเคราะห์หลายไทม์เฟรม” และเทรด เมื่อแนวโน้มของทุกไทม์เฟรมมีความสอดคล้องกัน
เครื่องมือที่ใช้เทรด
- Multi-Timeframe Analysis (การวิเคราะห์หลายไทม์เฟรม)
- RSI 3
- เส้นแนวโน้ม
Multi-Timeframe Analysis (การวิเคราะห์หลายไทม์เฟรม)

Multi-Timeframe Analysis คือการวิเคราะห์กราฟโดยใช้หลายไทม์เฟรมมาวิเคราะห์ร่วมกันซึ่งการวิเคราะห์ในรูปแบบนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในนักเทรดระดับมืออาชีพ โดยการวิเคราะห์หลายไทม์เฟรมเราจะวิเคราะห์แบบ Top-Down Analysis คือการวิเคราะห์จากไทม์เฟรมใหญ่ลงไปหาไทม์เฟรมเล็ก ซึ่งแต่ละไทม์เฟรมก็จะมีวัตถุประสงค์ในการวิเคราะห์แตกต่างกันดังนี้
- High Time Frame: ไทม์เฟรมใหญ่ใช้ดูภาพรวมของตลาดและแนวโน้มในระยะยาว
- Mid Time Frame: ไทม์เฟรมกลางใช้ดูความสอดคล้องกับไทม์เฟรมใหญ่และใช้หา Key Level เช่น แนวรับแนวต้าน, Swing Low และ Swing High
- Low Time Frame: ไทม์เฟรมเล็กใช้ดูความสอดคล้องกับไทม์เฟรมกลางและใช้หาจุดเข้าเทรดจุดวาง Stop loss และจุด Take profit
หลักการเลือกไทม์เฟรมในการวิเคราะห์
- การเลือกไทม์เฟรมในการวิเคราะห์แบบ Multi-Timeframe Analysis ให้เราใช้หลักการ Factor of 4-6 คือให้คูณ 4 หรือ 6 จากไทม์เฟรมหลักที่เราใช้ในการเทรดเช่น
- ไทม์เฟรมหลักในการเทรดคือ 5 นาที ไทม์เฟรมที่ใช้ในการวิเคราะห์คือ 30 นาที (5นาที x 6 = 30 นาที)
- ไทม์เฟรมหลักในการเทรดคือ 1 ชั่วโมง ไทม์เฟรมที่ใช้ในการวิเคราะห์คือ 4 ชั่วโมง (1 ชั่วโมง x 4 = 4 ชั่วโมง)
ข้อดีของ Multi-Timeframe Analysis
- เห็นแนวโน้มของตลาดได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
- ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มผลตอบแทนในการเทรดได้
ข้อเสียของ Multi-Timeframe Analysis
- ต้องอาศัยประสบการณ์
- ทำให้มีการวิเคราะห์มากเกินไป จนเกิดความไม่มั่นใจในการเทรดได้
RSI 3

RSI เป็นอินดิเคเตอร์แสดงโมเมนตัมของตลาดดูจุดที่ราคาจะมีการกลับตัว แต่การตั้งค่า Length ให้มีค่าเท่ากับ 3 ทำให้ RSI มีความตอบสนองที่ไวต่อราคามากขึ้น เห็นโมเมนตัมการวิ่งของตลาดในช่วงระยะเวลาสั้นๆได้ดีมากยิ่งขึ้น เหมาะกับการใช้งานในการเทรดระยะกลางจนถึงระยะยาว แต่ไม่เหมาะกับการใช้งานในระยะสั้นเพราะจะมีสัญญาณหลอกเพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัวนั่นเอง
เส้นแนวโน้ม

เส้นแนวโน้ม เป็นเส้นที่ดีในแนวทแยงโดยตีบริเวณที่กราฟเกิด Swing High หรือ Swing Low เพื่อเป็นการคาดการณ์แนวโน้มของตลาดและจุดที่ราคามีโอกาสพักตัวในอนาคตซึ่งเส้นแนวโน้มที่มีความแข็งแรงราคาจะมีการทดสอบมากกว่า 2 ครั้งขึ้นไป
เงื่อนไขการเทรดขาขึ้น
1. ดูไทม์เฟรม Weekly อินดิเคเตอร์ RSI ต้องอยู่ในทิศทางขาขึ้น
2. ดูไทม์เฟรม Daily อินดิเคเตอร์ RSI ต้องอยู่ในทิศทางขาขึ้น
3. ดูไทม์เฟรม 4H อินดิเคเตอร์ RSI ต้องอยู่ในทิศทางขาขึ้น
4. ตีเส้นแนวโน้มในไทม์เฟรม 4H ในทิศทางขาขึ้นจาก Swing Low 1 ไป Swing Low 2
5. รอราคาเกิด Swing Low 3 บริเวณเส้นแนวโน้มที่ตีเอาไว้
6. เปิดออร์เดอร์ Buy เมื่อเกิดแท่งเทียน Bullish สีเขียว
7. ตั้ง Stop loss ใต้ Swing Low ล่าสุด
8. ตั้ง Take profit ที่ Swing High ล่าสุด
เงื่อนไขการเทรดขาลง
1. ดูไทม์เฟรม Weekly อินดิเคเตอร์ RSI ต้องอยู่ในทิศทางขาลง
2. ดูไทม์เฟรม Daily อินดิเคเตอร์ RSI ต้องอยู่ในทิศทางขาลง
3. ดูไทม์เฟรม 4H อินดิเคเตอร์ RSI ต้องอยู่ในทิศทางขาลง
4. ตีเส้นแนวโน้มในไทม์เฟรม 4H ในทิศทางขาลงจาก Swing High 1 ไป Swing High 2
5. รอราคาเกิด Swing High 3 บริเวณเส้นแนวโน้มที่ตีเอาไว้
6.เปิดออร์เดอร์ Sell เมื่อเกิดแท่งเทียน Bearlish สีแดง
7. ตั้ง Stop loss เหนือ Swing High ล่าสุด
8. ตั้ง Take profit ที่ Swing Low ล่าสุด
ข้อดีและข้อเสียของระบบเทรด Multi-Timeframe RSI
ข้อดีของระบบเทรด

- เป็นระบบเทรดที่มีอินดิเคเตอร์ไม่เยอะกราฟดูสะอาดตา
- ใช้การวิเคราะห์หลายไทม์เฟรมช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการเทรด
- เป็นระบบเทรดที่มีการวิเคราะห์และการเทรดในระยะกลางขึ้นไปทำให้มีสัญญาณหลอกน้อย
ข้อเสียของระบบเทรด

- ต้องใช้ประสบการณ์ในการวิเคราะห์
- รอสัญญาณการเทรดนาน
- มีโอกาสถือออเดอร์ข้ามวันต้องกังวลเรื่องค่า Swap
คำแนะนำการใช้ระบบเทรด

- ฝึกฝนการวิเคราะห์หลายไทม์เฟรมและการตีเส้นแนวโน้มให้ชำนาญ
- เทรดหลายคู่เงินเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร
- ปรับค่า RSI ได้ตามพฤติกรรมของคู่เงิน
- สามารถปรับจุด Stop loss ได้ ใช้การ Trailing stop เข้ามาช่วยเพิ่มผลตอบแทนได้
- ใช้โบรกเกอร์ที่มี Free Swap หรือเทรดในฝั่งที่ Swap เป็นบวกเท่านั้น
- ทดสอบระบบเทรดก่อนนำไปใช้งานจริง
สรุป
ระบบเทรด Multi-Timeframe RSI เป็นระบบเทรดระยะกลาง ในไทม์เฟรม 4 ชั่วโมงโดยอาศัยการวิเคราะห์หลายไทม์เฟรมจากไทม์เฟรม 1 วัน และ 1 สัปดาห์ ในการดูแนวโน้มร่วมกับทิศทางของ RSI และการตีเส้นแนวโน้ม ด้วยการวิเคราะห์ในรูปแบบนี้จะช่วยทำให้การเทรดมีประสิทธิภาพและมีความความเสี่ยงต่ำมีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูง และความผิดพลาดลดน้อยลง
แต่การวิเคราะห์หลายไทม์เฟรมนั้นต้องอาศัยประสบการณ์ ดังนั้นนักเทรดที่จะนำระบบนี้ไปใช้จำเป็นจะต้องไปฝึกฝนให้เกิดความชำนาญเสียก่อนครับ
ซึ่งระบบนี้ไม่ได้มีดีแค่มีความเสี่ยงต่ำแต่มีความสามารถที่จะทำกำไรได้เป็นอย่างดีโดยเราไม่จำเป็นที่จะต้องตั้งเป้ากำไรไว้แต่สามารถใช้การ Trailing stop เพื่อทำกำไรได้จนสุดเทรนด์ยิ่งเป็นกราฟในไทม์เฟรมใหญ่ยิ่งทำกำไรได้ดีเลยครับ แต่ก็ต้องไม่ลืมนะครับว่ายิ่งถือนานยิ่งเสียค่า Swap มากไปด้วยดังนั้นก่อนเทรดก็ควรเลือกโบรกเกอร์ที่ไม่มีค่า Swap จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องการถือข้ามคืน
เพื่อทำกำไรได้อย่างต่อเนื่องและมีโอกาสทำกำไรในทุก ๆ เดือนสามารถเทรดหลายคู่เงินได้เลยครับและอย่าลืมนำระบบไปทดสอบและปรับค่าให้เหมาะสมกับคู่เงินนั้น ๆ นะครับ
แหล่งเรียนรู้เพิ่มเติมอัพสกิลการเทรดเพื่อนำไปต่อยอดการเทรด
อ้างอิง
- Trade What You See – Almost Naked Trading จาก Forex Factory
ทีมงาน: forexthai.in.th