Forexthai.in.th ย่อให้
- ระบบ CHOROS System ให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ทางเทคนิค โดยเฉพาะ Moving Average ทั้ง SMA และ EMA เพื่อคาดการณ์แนวโน้มราคาและสร้างสัญญาณซื้อขาย
- เป็นระบบที่มีความยืดหยุ่นในการปรับแต่งพารามิเตอร์ต่าง ๆ เช่น ค่า Period ของเส้นค่าเฉลี่ย, ระดับ Stop-Loss และ Take-Profit
- ใช้เส้นค่าเฉลี่ยหลายเส้น: มีการใช้เส้นค่าเฉลี่ยหลายเส้นช่วยยืนยันแนวโน้มและระบุจุดกลับตัวของราคาได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น
- เหมาะสำหรับนักเทรดทุกระดับ: เนื่องจากใช้เครื่องมือพื้นฐานที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ต้องใช้เป็น
- มีข้อจำกัด: เพราะพึ่งพาข้อมูลในอดีตมากเกินไป จึงอาจเกิดสัญญาณหลอกได้
ระบบเทรด CHOROS System เป็นระบบเทรดที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการเทรด Forex โดยเฉพาะ ระบบนี้ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยให้สามารถทำการซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยอาศัยหลักการวิเคราะห์ทางเทคนิคด้วยเส้น MA เป็นหลัก โดยจะใช้เพียงอย่างเดียวหรือใช้ร่วมกับตัวอื่นก็ได้ ระบบเทรดตัวนี้มีดีอย่างไร ไปทำความรู้จักกันเลย
สารบัญบทความ click เพื่อเลือกอ่าน !!
ข้อมูลเบื้องต้น
คำว่า CHOROS (ออกเสียงว่า โฮ-โร-ช) แปลว่า การเต้นรำในภาษากรีก ซึ่งราคา Forex นั้นจะมีทั้งการวิ่งขึ้นและวิ่งลงเหมือนจังหวะการเต้นรำ ที่มีทั้งจังหวะขึ้นและจังหวะลงนั่นเอง หลักการทำงานเบื้องต้นของระบบเทรด CHOROS System มีดังนี้
- การวิเคราะห์ข้อมูล: จะใช้ปัจจัยทางเทคนิคของตลาด Forex เช่น ราคา, ปริมาณการซื้อขาย, และตัวชี้วัดทางเทคนิคอื่น ๆ เพื่อค้นหาโอกาสในการทำกำไร
- การปรับแต่งกลยุทธ์: ระบบ CHOROS System ถูกออกแบบมาให้มีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับแต่งกลยุทธ์การเทรดให้เหมาะสมกับความต้องการและความเสี่ยงที่นักเทรดแต่ละรายยอมรับได้
- การจัดการความเสี่ยง: ใช้วิธีการจัดการความเสี่ยงที่หลากหลาย เช่น การตั้งค่า Stop-Loss และ Take-Profit เพื่อควบคุมความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้
ระบบ CHOROS System เหมาะกับใครบ้าง
ระบบเทรดที่ลอกเลียนการเต้นรำอย่าง CHOROS System นั้น ถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์นักเทรดหลายประเภท แต่โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหมาะกับนักเทรดที่มีลักษณะดังต่อไปนี้
- นักเทรดที่ต้องการความแม่นยำสูง: ระบบ CHOROS System ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกที่ไม่ซับซ้อน แต่มีความแม่นยำสูง แม้จะเป็นการวิเคราะห์ด้วยตนเอง เหมาะสำหรับนักเทรดที่ต้องการลดความผิดพลาดจากอารมณ์
- นักเทรดที่ต้องการกระจายความเสี่ยง: ระบบเทรดมีฟังก์ชันการจัดการความเสี่ยงที่หลากหลาย ช่วยให้นักเทรดสามารถควบคุมความเสี่ยงในการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- นักเทรดที่ต้องการปรับแต่งกลยุทธ์ได้เอง: ระบบมีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับแต่งกลยุทธ์การเทรดให้เหมาะสมกับสไตล์การลงทุนของแต่ละบุคคลได้
ระบบ CHOROS System เหมาะสำหรับนักเทรดที่มีประสบการณ์ในตลาด Forex มาแล้วระดับหนึ่ง เพราะระบบสามารถช่วยให้นักเทรดที่มีประสบการณ์เพิ่มประสิทธิภาพในการเทรดและลดความเสี่ยงในการลงทุนได้ดี
กลยุทธ์การเทรดที่ระบบใช้
CHOROS System สามารถรองรับกลยุทธ์การเทรดได้หลากหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าและการปรับแต่งของผู้ใช้งาน ตัวอย่างกลยุทธ์ที่นิยมใช้กัน ได้แก่
- Trend Following: เน้นการติดตามแนวโน้มราคาหลัก โดยเข้าซื้อเมื่อราคาอยู่ในขาขึ้น และเข้าขายเมื่อราคาอยู่ในขาลง
- Mean Reversion: เน้นการซื้อเมื่อราคาต่ำกว่าค่าเฉลี่ย และขายเมื่อราคาสูงกว่าค่าเฉลี่ย คาดหวังว่าราคาจะกลับสู่ค่าเฉลี่ยในระยะยาว
- Volatility Trading: เน้นการทำกำไรจากความผันผวนของราคา โดยใช้ตัวชี้วัดที่วัดความผันผวน เช่น Bollinger Bands
- Arbitrage: เน้นการใช้ประโยชน์จากความแตกต่างของราคาในตลาดที่แตกต่างกัน
การเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมของแต่ละคนนั้น จะขึ้นอยู่กับความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนสามารถยอมรับได้ ระยะเวลาในการลงทุน และเป้าหมายในการทำกำไรของแต่ละคน
เครื่องมือที่ใช้
ตัวบ่งชี้ทางเทคนิค (Technical Indicators) ที่ใช้ในระบบเทรด CHOROS System นั้น หลัก ๆ เลยก็คือการใช้
- EMA (Exponential Moving Average)
- SMA (Simple Moving Average)
เป็นเครื่องมือทางเทคนิคที่ใช้ในการวิเคราะห์กราฟราคา เพื่อคาดการณ์แนวโน้มของราคาในอนาคต โดยทั้งสองเส้นนี้มีหลักการในการคำนวณที่แตกต่างกัน ทำให้มีลักษณะและการใช้งานที่แตกต่างกันด้วย
เส้น SMA (Simple Moving Average)
- การคำนวณ: หาค่าเฉลี่ยของราคาปิดในช่วงเวลาที่กำหนด เช่น 5 วัน, 10 วัน, 20 วัน โดยให้น้ำหนักของแต่ละวันเท่ากัน
- ลักษณะ: เส้น SMA จะตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาค่อนข้างช้า เนื่องจากให้น้ำหนักกับข้อมูลในอดีตทั้งหมดเท่ากัน
- การใช้งาน: ใช้ในการระบุแนวโน้มระยะกลางถึงระยะยาว และใช้ร่วมกับตัวชี้วัดอื่น ๆ ในการยืนยันสัญญาณซื้อขาย
เส้น EMA (Exponential Moving Average)
- การคำนวณ: คล้ายกับ SMA แต่ให้ความสำคัญกับราคาปิดล่าสุดมากกว่า โดยให้น้ำหนักแก่ข้อมูลล่าสุดมากขึ้นเรื่อย ๆ
- ลักษณะ: เส้น EMA จะตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาได้เร็วกว่า SMA เนื่องจากให้ความสำคัญกับข้อมูลล่าสุดมากกว่า
- การใช้งาน: ใช้ในการระบุแนวโน้มระยะสั้น และใช้ในการสร้างสัญญาณซื้อขายที่รวดเร็วกว่า SMA
การตั้งค่าเส้น SMA และ EMA
ระบบเทรด CHOROS System จะใช้ทั้ง SMA และ EMA ร่วมกัน เพื่อยืนยันแนวโน้ม โดยมีวิธีในการปรับแต่งค่าระบบที่แตกต่างกันตามแต่ละ Time Frame ดังนี้
- Time Frame 15m: มีการตั้งค่าคือ 10 ema, 35 sma, 50 ema, 40 ema, 140 sma, 200 ema, และ 248 ema
- Time Frame 1Hr: มีการตั้งค่าคือ 10 ema, 35 sma, 50 ema, 62 ema, 120 ema, 420 sma, และ 600 eam
- Time Frame D1: มีการตั้งค่าคือ 10 ema, 35 sam, และ 50 ema
เหตุผลที่ใช้หลายเส้นค่าเฉลี่ย
ระบบ CHOROS System ได้ออกแบบมาให้ใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ทั้ง SMA และ EMA ร่วมกัน เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มราคาในแต่ละ Time Frame ที่แตกต่างกัน โดยมีการกำหนดค่าของเส้นค่าเฉลี่ยที่หลากหลาย เพื่อให้เหมาะสมกับความผันผวนของราคาในแต่ละช่วงเวลา โดยมีเหตุผลดังนี้
- ยืนยันแนวโน้ม: การใช้เส้นค่าเฉลี่ยหลายเส้นช่วยให้สามารถยืนยันแนวโน้มของราคาได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น เมื่อเส้นค่าเฉลี่ยหลายเส้นเคลื่อนที่ไปในทิศทางเดียวกัน จะบ่งบอกถึงแนวโน้มที่ชัดเจน
- ระบุจุดกลับตัว: การตัดกันของเส้นค่าเฉลี่ยต่าง ๆ สามารถใช้เป็นสัญญาณในการระบุจุดกลับตัวของราคาได้
- ปรับตัวให้เข้ากับ Time Frame: การตั้งค่าเส้นค่าเฉลี่ยที่แตกต่างกันสำหรับแต่ละ Time Frame ช่วยให้ระบบสามารถปรับตัวให้เข้ากับความผันผวนของราคาในแต่ละช่วงเวลาได้อย่างเหมาะสม
ทำไมแต่ละ TF ใช้ค่าต่างกัน
การตั้งค่าเส้น EMA และ SMA ในระบบ CHOROS System มีการใช้เส้นค่าเฉลี่ยหลายเส้นและการปรับค่าตาม Time Frame ที่แตกต่างกันนั้น เพื่อช่วยให้ระบบสามารถจับสัญญาณซื้อขายได้อย่างแม่นยำและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างรวดเร็ว ดังนี้
- Time Frame 15 นาที: การใช้เส้นค่าเฉลี่ยหลายเส้นที่มีค่าที่แตกต่างกัน ช่วยให้สามารถจับสัญญาณระยะสั้นได้ดี เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการเข้าออกตลาดบ่อยครั้ง
- Time Frame 1 ชั่วโมง: การใช้เส้นค่าเฉลี่ยที่มีคาบที่ยาวขึ้น ช่วยให้สามารถจับแนวโน้มระยะกลางได้ดี เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการถือตั๋วไว้นานขึ้น
- Time Frame รายวัน: การใช้เส้นค่าเฉลี่ยที่มีคาบน้อยลง ช่วยให้สามารถจับการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มรายวันได้อย่างรวดเร็ว
เครื่องมือที่ใช้เพิ่มเติม
นอกจากเส้น SMA และ EMA ที่ใช้ นักเทรดสามารถใช้เครื่องมือเพิ่มเติมเพื่อช่วยให้วิเคราะห์ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ของราคาและปริมาณการซื้อขาย เพื่อคาดการณ์ทิศทางราคาในอนาคต ให้แม่นยำยิ่งขึ้นได้ ด้วยตัวบ่งชี้ดังต่อนี้
- Relative Strength Index (RSI): ใช้เพื่อวัดโมเมนตัมของราคา
- Volume Indicators: วัดปริมาณการซื้อขาย ซึ่งสามารถบ่งบอกถึงแรงกดดันในการซื้อหรือขาย
- Chart Pattern Indicators: วิเคราะห์รูปแบบกราฟต่าง ๆ เช่น รูปแบบหัวและไหล่, รูปแบบสามเหลี่ยม
วิธีการปรับแต่ง
CHOROS System สามารถปรับแต่งได้หลากหลายรูปแบบ เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้ใช้งาน เช่น
- การปรับพารามิเตอร์ของตัวชี้วัด: เปลี่ยนค่าต่าง ๆ ของตัวชี้วัดเพื่อให้ได้สัญญาณที่ต้องการ
- การเพิ่มหรือลดน้ำหนักของตัวชี้วัด: กำหนดความสำคัญของตัวชี้วัดแต่ละตัว
- การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์: เปลี่ยนแปลงกลยุทธ์การเทรดให้สอดคล้องกับสภาวะตลาด
การปรับแต่งระบบ ควรตั้งค่าให้เข้ากันได้กับการบริหารความเสี่ยง อย่างเช่น กำหนดขนาด Position, Stop-Loss และ Take-Profit และควรทดสอบระบบในบัญชีทดลองก่อนนำไปใช้ในบัญชีจริง
เงื่อนไขการเข้าเทรด
การตั้งค่าเส้น EMA และ SMA เอาไว้หลายระดับ เพื่อให้สามารถวิเคราะห์แนวโน้มราคาและสร้างสัญญาณการซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เงื่อนไขการเข้าเทรดมีดังนี้
การตัดกันของเส้นค่าเฉลี่ย:
- Golden Cross: เมื่อเส้น EMA และ SMA ระยะสั้นตัดขึ้นเหนือเส้น EMA และ SMA ระยะยาว เป็นสัญญาณซื้อ
- Death Cross: เมื่อเส้น EMA และ SMA ระยะสั้นตัดลงต่ำกว่าเส้น EMA และ SMA ระยะยาว เป็นสัญญาณขาย
ราคาปิดกับเส้นค่าเฉลี่ย:
- ปิดสูงกว่า: เมื่อราคาปิดเหนือเส้น EMA และ SMA ระยะยาว เป็นสัญญาณซื้อ
- ปิดต่ำกว่า: เมื่อราคาปิดต่ำกว่าเส้น EMA และ SMA ระยะยาว เป็นสัญญาณขาย
เงื่อนไขในการพิจารณาก่อนเข้าเทรด อาจใช้การรวมกันของหลาย ๆ เงื่อนไข เช่น การตัดกันของเส้นค่าเฉลี่ยหลายเส้น พร้อมกับการเคลื่อนที่ของราคา เพื่อยืนยันสัญญาณซื้อขายให้แข็งแกร่งขึ้นด้วยก็ได้
ตัวอย่างการเปิด Open Sell
ขอยกตัวอย่างการเทรดตามเงื่อนไขของระบบ CHOROS System ในรูปแบบการ Open Sell บนคู่เงิน EUR/USD โดยการใช้ TF 15m ในการเทรด ดังนี้
- การตัดกันของเส้นค่าเฉลี่ย: เมื่อกลุ่มเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น (ฟ้า EMA10, ม่วง SMA35, น้ำตาล EMA40, เขียว EMA50) ตัดกลุ่มเส้นค่าเฉลี่ยระยะยาวลงมา (ส้ม SMA140, เทา EMA200, ดำ EMA248) เป็นสัญญาณขาย
- ราคาปิดต่ำกว่าเส้นระยะยาว: ราคาไม่สามารถขึ้นไปยืนเหนือกลุ่มเส้น SMA และ EMA ระยะยาวได้ โดยมีราคาปิดอยู่ข้างล่าง
- Open Sell: ให้ทำการเปิดออเดอร์ Sell เมื่อเกิดราคาปิดใต้ทุกเส้น โดยวาง SL เอาไว้เหนือเส้นสูงสุดขึ้นไปเล็กน้อย ส่วน TP วางตามอัตราส่วนการบริหารความเสี่ยงที่ชอบ แต่ไม่ควรน้อยกว่า 1:1.5
จุดอ่อนของระบบ
ถึงแม้ว่าระบบ CHOROS System จะมีการออกแบบที่น่าสนใจในการใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่หลายเส้นเพื่อวิเคราะห์แนวโน้ม แต่ก็ยังมีจุดอ่อนที่อาจพบได้เหมือนกับระบบเทรดอื่น ๆ ดังนี้
- การพึ่งพาข้อมูลในอดีต:
เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ เป็นตัวชี้วัดที่อาศัยข้อมูลในอดีตในการคำนวณ ดังนั้นระบบอาจไม่สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วได้ทันที เพราะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา สิ่งที่เคยทำงานได้ดีในอดีตอาจไม่สามารถทำงานได้ดีในอนาคตเสมอไป
- ความล่าช้าในการส่งสัญญาณ:
การตัดกันของเส้นค่าเฉลี่ย อาจเกิดขึ้นหลังจากที่ราคาได้เคลื่อนไหวไปแล้ว ทำให้พลาดโอกาสในการเข้าซื้อหรือขายในจุดที่เหมาะสม อาจเกิดสัญญาณซื้อขายปลอมที่ทำให้ขาดทุนได้
- การปรับตั้งค่าที่ซับซ้อน:
การเลือกค่า Period ของเส้นค่าเฉลี่ยที่เหมาะสม สำหรับแต่ละคู่สกุลเงินและแต่ละช่วงเวลาเป็นเรื่องที่ซับซ้อน รวมทั้งการปรับแต่งพารามิเตอร์อื่น ๆ ของระบบ เช่น ระดับ Stop Loss, Take Profit อาจต้องใช้เวลาและประสบการณ์
- การขาดความยืดหยุ่น:
ระบบอาจไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างรวดเร็ว หากตลาดมีพฤติกรรมที่แตกต่างไปจากเดิม ระบบอาจไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สรุป
CHOROS System เป็นระบบเทรด Forex ที่เน้นการวิเคราะห์ทางเทคนิค โดยเฉพาะการใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ทั้งแบบง่าย (SMA) และแบบเอ็กซ์โปเนนเชียล (EMA) หลายเส้น เพื่อคาดการณ์แนวโน้มราคาและสร้างสัญญาณซื้อขาย
จุดเด่นของระบบคือมีความยืดหยุ่น สามารถปรับแต่งกลยุทธ์ให้เหมาะกับสไตล์การเทรดของแต่ละคนได้ การใช้เส้น SMA และ EMA หลายเส้น ช่วยให้มั่นใจในแนวโน้มมากขึ้น อีกทั้งการตั้งค่าที่แตกต่างกันสำหรับแต่ละ Time Frame ช่วยให้ระบบตอบสนองต่อความผันผวนของราคาในแต่ละช่วงเวลาได้อย่างทันท่วงทีด้วย
โดยรวมแล้ว CHOROS System เป็นระบบเทรดที่น่าสนใจ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ชอบความง่าย ไม่ชอบการใช้เครื่องมือเยอะแยะให้วุ่นวาย อย่างไรก็ตาม ระบบนี้ก็มีข้อจำกัดเช่นเดียวกับระบบเทรดอื่น ๆ การนำไปใช้ในการซื้อขายจริง ๆ ควรศึกษาและทดสอบอย่างละเอียดก่อน
ทีมงาน: forexthai.in.th
