Forexthai.in.th ย่อให้

  • Lot คือ หน่วยวัดขนาดของสัญญาซื้อ-ขาย โดย 1 Standard Lot = 100,000 หน่วยของสกุลเงิน
  • Lot แบ่งออกเป็น 4 ขนาด เหมาะกับเทรดเดอร์ที่มีทุนและประสบการณ์ต่างกัน ได้แก่ Standard (1.0), Mini (0.1), Micro (0.01) และ Nano (0.001)
  • ขนาด Lot มีผลโดยตรงต่อกำไร/ขาดทุน ยิ่ง Lot ใหญ่ ยิ่งมีโอกาสได้กำไรมาก แต่ความเสี่ยงก็สูงตาม
  • การเลือกขนาด Lot ควรคำนึงถึงเงินทุน, ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และกลยุทธ์การเทรด
  • เริ่มต้นควรใช้ Lot เล็กๆ ก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มขนาดตามประสบการณ์และความมั่นใจที่มากขึ้น

Lot คือ อะไร

Lot คือ อะไร

Lot คือ ปริมาณหรือขนาดของการซื้อขาย ในตลาด Forex ล็อตคือจำนวนของหน่วยสกุลเงิน ซึ่ง 1 standard Lot Size เท่ากับ 100,000 หน่วยของสกุลเงินหลัก หรือสกุลเงินในบัญชีของคุณ (Unites) ซึ่งหมายความว่าหากคุณต้องการซื้อขายคู่เงินใดๆ เช่น GBPUSD จำนวน 1 Lot คุณจะต้องมีเงิน 100,000$ โดย Lot มีอยู่ 4 ลักษณะคือ

  1. Nano Lot size: มีค่าเท่ากับการเทรด 100 units
  2. Micro Lot size: มีค่าเท่ากับการเทรด 1,000 units
  3. Mini Lot size: มีค่าเท่ากับการเทรด 10,000 units
  4. Standard Lot Size: มีค่าเท่ากับการเทรด 100,000 units

ในเชิงการใช้งานมันแตกต่างกันในแง่ของบัญชีที่โบรกสร้างขึ้นมาเพื่อให้เราเทรดครับ อย่างบัญชี Mini ถ้าเราเปิดออร์เดอร์เท่ากับบัญชี Standard ก็จะได้กำไรหรือขาดทุนต่ำกว่าเป็นสิบเท่าของบัญชี Standard ครับ

ดังนั้นพวกบัญชี Mini, Micro(Cent), หรือ Nano ช่วยให้เราบริหารเงินในการเทรดได้ง่ายขึ้นเพราะมันเทรดได้และเสียน้อยลง จึงเหมาะกับมือใหม่หรือคนที่ต้องการเทรดเป็นจำนวนเงินน้อยๆ เพื่อลองตลาดหรือทดลองระบบเทรดก่อนจะทำการเทรดแบบเต็มรูปแบบ

  • 0.01 Lot คือ กำไร-ขาดทุน จุดละ 0.1 $ หรือ 10 Cent (จุดนี้แหละครับที่เป็นจุดรับได้ ที่ง่ายต่อการเปิด Order)
  • 0.1 Lot คือ กำไร-ขาดทุน จุดละ 1 $
  • 1.0 Lot คือ กำไร-ขาดทุน จุดละ 10 $ 

ยกตัวอย่าง คุณเปิดออเดอร์ Buy(Long) EURUSD ที่ 1.4000 และปิดออเดอร์เพื่อขายทำกำไรที่ 1.4010 เท่ากับคุณทำกำไร 10 Pips ถ้าคุณลงทุน 1 Lot คุณจะได้กำไร 10$ x 10pips = +100$ แต่หากกราฟลงมาที่ 1.3990 แล้วคุณปิดออเดอร์เพื่อตัดขาดทุน คุณก็จะขาดทุน 10$ x (-10pips) = -100$ เช่นกัน

ยิ่งถ้าเราใช้ Lot เยอะๆ  ผลที่ตามมาคือ ราคาที่เราได้รับนั้นก็จะสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ด้วย ปกติแล้วทุกๆ โบรกเกอร์จะมีการใช้ Lot ที่เป็นแบบ Standard (1 Lot = 100,000 units) ประกอบไปด้วยตัวเลขดังต่อไปนี้คือ 0.01, 0.1, 1.0 ,10.0 ตัวเลขตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณนั้นจะเลือกตัวเลขไหนและอย่างไร

ทำไมการเข้าใจเรื่อง Lot ถึงสำคัญต่อความสำเร็จในการเทรด Forex

Lot กับความสำเร็จในการเทรด Forex
การเข้าใจเรื่อง Lot ในการเทรด จะช่วยควบคุมความเสี่ยง ปรับกลยุทธ์ให้ยืดหยุ่น เพิ่มโอกาสอยู่รอดในตลาดระยะยาว และช่วยให้ใช้ Leverage ได้อย่างเหมาะสม ทำให้บริหารการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  1. การเลือก Lot size ที่เหมาะสมช่วยให้คุณจำกัดความเสี่ยงต่อเงินทุนได้: หากคุณมีทุน $10,000 และรับความเสี่ยงได้ไม่เกิน 1% ต่อการเทรด คุณก็ควรใช้ Lot size ที่ทำให้การขาดทุนสูงสุดไม่เกิน $100
  2. ช่วยปรับกลยุทธ์ให้ยืดหยุ่นขึ้น: เพราะการเข้าใจในการออกล็อต จะช่วยให้เราสามารถปรับลดขนาดของล็อตในการเทรดแต่ละครั้งได้ดีขึ้น เช่น ลด Lot size ในช่วงที่ตลาดผันผวนเอาแน่เอานอนไม่ได้ และเพิ่ม Lot size ในช่วงที่เรามั่นใจ เห็นแนวโน้มของตลาดได้ชัดเจนเพื่อเพิ่มโอกาสทำกำไร
  3. เพิ่มโอกาสอยู่รอดในตลาดระยะยาว: การใช้ Lot size ที่เหมาะสมช่วยป้องกันการเสียเงินทุนที่คุณมีทั้งหมดจากการเทรดเพียงไม่กี่ครั้งได้ หรือจะเรียกได้ว่าเป็นการป้องกันการ “ล้างพอร์ต” นั่นแหละครับ ตัวอย่างก็มีให้เห็น เช่น นักเทรดมือใหม่ที่ใช้ Lot size ใหญ่เกินไปอย่างออก 1 Lot บนทุน $1,000 ที่พอราคาสวิงสวนทางไม่เท่าไหร่ หันมาอีกทีก็พอร์ตล้างซะแล้ว
  4. ช่วยให้เข้าใจการใช้งาน Leverage: เพราะยิ่ง Leverage สูง ยิ่งทำให้ใช้ Lot size ได้ใหญ่ขึ้น แต่ก็แลกมาด้วยความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นตาม เช่น Leverage 1:100 หมายความว่า ในการเทรดเราสามารถซื้อขายได้ 100 เท่าของเงินทุนที่มีอยู่จริง (ซื้อ $100,000 ด้วยทุนเพียง $1,000)

การประยุกต์ใช้ความรู้เรื่อง Lot

เราใช้หลักการเรื่อง Lot มาใช้ในการคำนวณ หามูลค่าของการเคลื่อนที่ไป 1 pips ครับ โดย

มูลค่า 1 pip = (จำนวนจุดทศนิยมของคู่สกุลเงิน ÷ ราคาอัตราแลกเปลี่ยน ณ ปัจจุบัน) x ขนาดของ Lots

Lot size
รูปตัวอย่าง ราคาที่เคลื่อนที่ไป 1 pip (สังเกตุว่าข้อมูลนี้เป็นทศนิยม 4 ตำแหน่ง ถ้าเป็น Point จะเป็น ทศนิยม 5 ตำแหน่ง) 

ตัวอย่างเช่น

  • คุณเทรด EUR/USD กับ Forex โบรกเกอร์ที่ใช้ทศนิยม 4 ตำแหน่ง หรือ 4 จุด
  • ราคาอัตราแลกเปลี่ยนของ EUR/USD ณ ปัจจุบัน คือ 2385
  • คุณเทรดโดยมีขนาดเท่ากับ Mini Lot size = 10,000 หน่วย

ดังนั้น มูลค่า 1 pip ของ EUR/USD = ((0.0001)÷ 1.2385) x 10,000 = 0.0000807 x 10,000 = 0.807

โดยหากบัญชีเทรดที่คุณเปิดอยู่กับโบรกเกอร์ เป็นหน่วยดอลลาร์สหรัฐ เราจะสามารถพูดได้ว่า ทุกๆครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงราคาอัตราแลกเปลี่ยนไป 1 pip จะมีค่าเท่ากับการเปลี่ยนแปลงไป $0.807 ดอลลาร์สหรัฐ

Lot คืออะไร
Fractional pips (point): บางโบรกเกอร์จะใช้ราคา fractional pips ที่มีหน่วยเล็กลงเพื่อความแม่นยำสำหรับคู่สกุลเงินนั้น ๆ โดยจะอ้างอิงเป็นทศนิยมตำแหน่งที่ 5 ซึ่ง fractional pips นี้เรียกว่า “Pipettes” ซึ่งหลายๆ ที่ เรียก “point”

การคำนวณหา กำไร/ขาดทุน จากการเทรด

สมมุติว่า คุณเทรดคู่เงิน EUR/USD โดยทำการเปิด Buy 1 ออเดอร์ และใช้ขนาด Lot Size เท่ากับ $10,000

  • เมื่อราคา ณ ปัจจุบันของ EUR/USD อยู่ที่ 1.5650 และในเวลาต่อมา คุณตัดสินใจปิดออเดอร์ที่ราคา 1.5700 เราจะสามารถคำนวณหากำไร/ขาดทุนได้ดังนี้

             กำไรหรือขาดทุน    =    มูลค่า 1 pip  x  จำนวน pips ที่เคลื่อนที่

  • ราคาเปลี่ยนจาก 1.5650 มาเป็น 1.5700 แสดงว่า อัตราแลกเปลี่ยนเคลื่อนที่ไป +50 pips
  • กำไรหรือขาดทุน = $0.807 x 50 = $40.35

จากตัวอย่างนี้ เราจะเห็นได้ว่าเราได้กำไรจากการเทรด EUR/USD ครั้งนี้เท่ากับ $40.35

อย่างไรก็ตาม การแสดงการคำนวณทั้งหมดที่ได้กล่าวมานี้ มีจุดประสงค์เพียงเพื่อทำให้เกิดความเข้าใจใน “ภาพรวมเกี่ยวกับเรื่องของ Pip Value และ Lots” เท่านั้น เพราะในชีวิตของการเป็นนักเทรด Forex จริงๆ ทางโบรกเกอร์แต่ละเจ้าจะมีการคำนวณมาให้เราหมดแล้วครับ

Lot mt4
Lot Size (Lot Volume) ของการเปิด Order ใน MT4 ที่โบรกเกอร์กำหนดมาให้ เราจะเปิด Volume เทรดเท่าไรก็เลือกจากตรงนี้ 

สิ่งที่น่ารู้เกี่ยวกับ Lot

Lot size calculator
สูตรการหาจำนวนเงิน กำไร ขาดทุนจาก Lot กล่าวคือ Lot size x Pip = +- $

เมื่อเราทำการเปิด Lot มากขึ้น ผลที่ตามมาคือ จำนวนของราคาที่เพิ่มขึ้นไปด้วยทั้งในส่วนของกำไรและส่วนของการขาดทุน ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องของจิตวิทยาการลงทุนเลยนะครับ เพราะว่ายิ่งถ้าเราโลภ หรือว่าปล่อยให้ความโกรธนั้นเข้าครอบงำ แล้วทำการออกล็อตสูงๆ ผลที่ตามมาคือ อาจทำให้เราขาดทุนแบบบักโกรก หรือผมมักเรียกการขาดทุนแบบนี้ว่า “ล้างพอร์ต” นั่นเอง

การเลือก Lot Size ที่เหมาะสมสำหรับเทรดเดอร์

Lot Size ที่เหมาะสมนั้น จะช่วยให้ “จัดการความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร” โดยการเลือก Lot size ที่ดีควรมีข้อพิจารณาดังต่อไปนี้

  1. ก่อนเทรดทุกครั้ง ให้เรากำหนดความเสี่ยงที่รับได้ เช่น ขาดทุนได้ครั้งละ ไม่เกิน 1 ดอลลาร์ หรือ 1% ของเงินทุนทั้งหมด (กรณีทุน 100$)
  2. กำหนด Stop Loss หรือ จุดหยุดขาดทุน ทุกครั้งที่เปิดออเดอร์ โดยกำหนดดังนี้ 1% ของเงินทุน 100 ดอลลาร์ ผิดทางได้ 10 จุด โดยเปิดขนาดล็อตที่ 01 Lot ต่อ 1 ไม้
  3. เปิดขนาดล็อตให้เหมาะสมกับทุน กรณีเปิดออเดอร์ Sell ที่คู่เงิน EURUSD ที่ราคา 50000 จากนั้นราคาเคลื่อนที่ไปยัง 1.50010 ออเดอร์ Sell ของเราที่เปิดไว้ จะโดน Stop Loss ทันที เพราะราคาวิ่งผิดทาง ในทางตรงกันข้าม หากราคาวิ่งถูกทาง เราจะได้กำไร
  4. กำหนด % ขาดทุน ในแต่ละวันไว้ด้วยยิ่งดี เช่น กำหนดไว้ที่ 5-10% ของเงินทุน 100 ดอลลาร์ เท่ากับว่า ใน 1 วัน ขาดทุนได้ไม่เกิน 5-10 ดอลลาร์ (เพื่อพัก Refresh สมอง และจัดการอารมณ์ให้ปกติก่อน)
  5. แบ่งไม้เทรดออกเป็นจำนวนย่อยๆ เช่น ทุน 100 ดอลลาร์ เราจะแบ่งการเทรดได้ 10 ไม้ หรือเทรดได้ 10 ครั้ง ในแต่ละวัน หมายความว่า เราขาดทุนได้ถึง 10 ครั้ง ใน 1 วัน โดยเปิดขนาดล็อตที่ 01 Lot
การเลือก Lot Size
การเลือก Lot Size ที่เหมาะสม หัวใจหลัก (Key Point) คือเริ่มจากเปิด Lot Volume ต่ำสุด 0.01 ค่อยๆปั้น ค่อยๆไต่ระดับไป ปกติสูตรง่ายๆคือ 0.01 ต่อ 100$ ถ้ามีสัก 1,000$ ก็เปิด Lot Volume เป็น 0.1 ได้

Lot size และเทคนิคการเปิด Lot

Lot size คือ ปริมาณหรือขนาดที่จะเป็นไปตามจำนวน Lot (Volume) และเพื่อให้คุณสามารถใช้ Lot ให้เกิดประโยชน์ต่อการเทรด forex ได้ดีที่สุด ผมขอแนะนำหลักการในการเปิด Lot แบบง่ายๆ ที่คุณนั้นสามารถทำได้ครับ มาดูว่ามีหลักการอย่างไรบ้าง

1. เปิด 0.01-0.05

  • เหมาะสมอย่างยิ่งหากคุณมีทุนไม่เกิน 5,000 บาท เพราะเป็นตัวเลขการเทรดที่มีความปลอดภัยมากที่สุด
  • สามารถใช้กับ Time frame ได้หลากหลายแบบ แต่ควรเน้นไปที่ Time frame ใหญ่ ๆ ก่อน (TF day) และการทำกำไรอาจใช้เวลาซัก 2-3 วัน เพราะว่าตัว lot ที่มีค่าน้อยทำให้ผลกำไรอาจจะยังไม่มากนักนั่นเอง

* ข้อแนะนำในทางปฏิบัติ

การเทรดแบบปลอดภัย เริ่มต้นควรใช้ Leverage 1:100 (ไม่เกิน 1:200) ออก Lot จำนวน 100$ ละ 0.01 และเมื่อทุนสูงขึ้นจากการทำกำไรได้หรือเติมพอร์ต เช่น 200$ ก็ออก Lot 0.02 เป็นต้น และปกติการออกไม้จะ “ไม่ควรออกไม้เกินสองไม้” ถ้าเล่นแบบนี้จะรักษาพอร์ตไว้ได้นานและมีโอกาสกำไรในอนาคต ตามกฎข้อแรกๆของการเทรด Forex ที่ดีคือ

 

“จงรักษาต้นทุนไว้ก่อน แล้วกำไรจะมาเอง จงปิดทางแพ้ไว้ก่อน เมื่อปิดหมดแล้วทางชนะจะชัดเจนเอง”

 

2. เปิด 0.05-0.30

  • หากคุณเริ่มทำกำไรและมีทุนประมาณ 10,000-20,000 บาท การเปิด Lot ที่เท่านี้ คือสิ่งที่ช่วยให้คุณทำกำไรได้มากขึ้น ในขณะที่คุณนั้นปลอดภัยมากขึ้นด้วย
  • ถ้าเปิด Lot มากกว่านี้ ก็จะเข้าสู่ความเสี่ยงของการล้างพอร์ต หรืออาจหมายถึง คุณยังบริหารจัดการพอร์ตของตนเองได้ไม่ดีเท่าที่ควรเท่าไหร่
Lot forex
กำไรหรือขาดทุน = Lot size X Pip

3. เปิดมากกว่า 0.30

  • คุณควรมีเงินทุนอยู่อย่างน้อย 100,000 บาท ผมเน้นนะครับว่า “หนึ่งแสน” ไม่ใช่ว่ามีแค่หมื่นสองหมื่นแล้วจะเปิด
  • คุณไม่ควรสนใจว่าคุณจะสามารถหาเงินได้จาก forex ต่อครั้งได้เท่าไหร่ แต่คุณควรสนใจว่าเงินทุนของคุณนั้นสุดท้ายแล้วเหลือที่เท่าไหร่ต่างหากล่ะครับ ดังนั้น นักเทรด forex มืออาชีพจะออก Lot ที่เหมาะสมกับเงินในพอร์ต เพื่อลดความเสี่ยงให้ได้มากที่สุดครับ
Lots Forex Volume
Volume เริ่มแรกที่แนะนำเริ่มเปิดคือ 0.01 

การใช้ Lot Size เพื่อปรับแต่งกลยุทธ์ให้เหมาะกับสไตล์การเทรด

การเลือกขนาด Lot ที่เหมาะสม ก็เหมือนกับการใช้เครื่องมือให้เหมาะกับงานที่ทำ เช่นเดียวกับการเทรด Forex ครับ การปรับ Lot Size ให้เข้ากับสไตล์การเทรดของเรานั้นสำคัญมาก ดังนั้นผมขอแนะนำแนวทางในการปรับใช้ Lot Size กับกลยุทธ์การเทรดรูปแบบต่างๆ ได้ดังนี้ครับ

1. สำหรับสาย Scalping ลักษณะการเทรดกลยุทธ์นี้คือ เน้นเก็บสั้น ๆ แต่เก็บบ่อย ๆ ระยะทำกำไรจะสั้นมากและมาจากการขึ้นลงของราคาเพียงแค่เล็กน้อย

การใช้ Lot Size

  • ใช้ Lot Size ที่ค่อนข้างใหญ่หน่อยเมื่อเทียบกับเงินทุน เพราะเราเก็บสั้น เลยต้องใช้ Lot Size ที่ใหญ่มาช่วยให้ได้กำไรมากขึ้น โดยอาจจะเริ่มต้นที่ 0.01-0.05 lot ต่อการเทรด 1 ครั้ง เช่นสมมติคุณมีทุน $1,000 คุณอาจใช้ 0.03 lot ต่อการเทรด โดยตั้งเป้าทำกำไร 5-10 pips ต่อครั้ง
  • ควรตั้ง stop loss แคบ ๆ หรือไม่เกิน 1-3% ของจำนวนเงินทุนที่มีเพื่อจำกัดความเสี่ยง ที่สำคัญคือห้ามปล่อยลากเด็ดขาด เพราะสุดท้ายจะได้ไม่คุ้มเสีย

2. สำหรับสาย Day Trading คือ การเทรดแบบเก็งกำไรระยะสั้น เทรดแบบจบภายในวัน หรือก็คือ ไม่ถือออเดอร์ข้ามวัน นั่นเอง ซึ่งก็เหมาะกับตลาด Forex ที่มีสภาพคล่องสูง

การใช้ Lot Size

  • สำหรับการเทคนิคนี้ ควรใช้ Lot Size ขนาดกลาง ๆ เพราะจะช่วยสร้างสมดุลระหว่างโอกาสในการทำกำไรและการควบคุมความเสี่ยงได้ดีกว่า สำหรับระยะเวลาการเทรดสั้น ๆ ในหนึ่งวัน
  • เช่น ถ้าคุณมีทุน $10,000 ควรใช้ Lot Size อยู่ที่ 0.05 – 0.2 กำหนด Stop Loss ที่ 1-2% ของเงินทุน และเก็บ RR 1:2 ขึ้นไป

3. สำหรับสาย Swing Trading สไตล์การเทรดของกลยุทธ์นี้จะเป็นการเข้าซื้อในจังหวะที่ราคามีการแกว่งตัว แล้วเก็บกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาในช่วงระยะเวลาสั้นถึงปานกลาง (มีตั้งแต่ไม่กี่วันไปจนถึงหลายสัปดาห์) เพื่อให้ได้กำไรจากการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มราคาในระยะสั้น

การใช้ Lot Size

  • ใช้ Lot Size ที่ค่อนข้างเล็กได้ เพราะเทคนิคนี้เราจะทำกำไรโดยการถือออเดอร์นานขึ้นแทน เช่น ทุน $3,000 อาจจะใช้ 0.03 lot โดยตั้งเป้าทำกำไรที่ 100-200 pips ขึ้นไปต่อการเทรด และสามารถเพิ่ม Lot Size ได้ ในกรณีที่ Trend ของตลาดชัดเจนขึ้น
  • ข้อดี คือ Lot Size ที่เล็กลงช่วยให้พอร์ตของเราสามารถทนต่อความผันผวนของราคาในระยะสั้นได้ดีขึ้น เหมาะกับการถือระยะยาวเพื่อรอ Trend หลัก

4. สำหรับสายใช้ Grid Trading เป็นกลยุทธ์การเทรดที่สร้างกำไรจากส่วนต่างราคา ซึ่งมาจากการวางออเดอร์ซื้อขายล่วงหน้าในช่วงราคาต่างๆ โดยลักษณะจะออกมาคล้าย “ตารางหรือตาข่าย” เพื่อจับการเคลื่อนไหวของราคา

การใช้ Lot Size

  • ต้องใช้ Lot Size ขนาดเล็ก เพราะจะช่วยให้สามารถเปิดหลายออเดอร์ โดยที่เรายังคงควบคุมความเสี่ยงโดยรวมได้ ซึ่งเราจะทำกำไรได้จากการเปิดหลาย ๆ ออเดอร์แทน เช่น มีทุน $5,000 อาจใช้ 0.01 lot ต่อออเดอร์ แต่เปิด 10 ออเดอร์พร้อมกัน
  • ต้องคำนวณจำนวนออเดอร์และระยะห่างของแต่ละออเดอร์ให้ดี รวมถึงคำนวณความเสี่ยงรวมของทุกออเดอร์ “ไม่ให้เกิน 2-3% ของทุน”
การออกล็อตให้เหมาะกับสไตล์การเทรด
ตัวอย่างการออก Lot Size โดยคำนึงถึงสไตล์ในการเทรดแต่ละรูปแบบ

สรุป

ล็อตคือจำนวนของหน่วยสกุลเงิน 1 standard Lot Size เท่ากับ 100,000 Unites มีอยู่ 4 ลักษณะคือ Nano Lot size, Micro Lot size, Mini Lot size, และ Standard Lot Size (ต่างกันสิบเท่าตามลำดับ) ประยุกต์ใช้ในการเทรดเป็นเรื่องของการเปิด Volume โดยแนะนำให้ไต่ระดับจาก 0.01 ก่อน โดยขนาด Lot ที่ต่างกันนี้ โบรกเกอร์จะประยุกต์ออกมาเป็นรูปแบบของบัญชีเทรด (คลิ๊กเพื่อคำนวน Lot Size ฟรี)

ทีมงาน: forexthai.in.th

แสดงข้อคิดเห็น ให้กำลังใจ

comments