Hidden Divergence คือ อะไร ?

Forexthai.in.th ย่อให้

• Divergence คือ สัญญาณที่ขัดแย้งกันของ indicator กับ ราคา
• Hidden Divergence คือ สัญญาณที่ช่วยยืนยันแนวโน้ม “ไปต่อ” ของราคา
• Hidden Divergence เกิดได้ 2 ลักษณะ คือ Hidden Bullish Divergence และ Hidden Bearish Divergence
• 3 อันดับยอดนิยมของ Hidden Divergence indicator คือ Hidden Divergence Pro Indicator, Hidden Divergence Panel Indicator, และ Hidden MACD Divergence Indicator

Divergence สามารถบอกเราได้ถึงสัญญาณ “การกลับตัวของราคา” ของราคา ซึ่งอีกแง่หนึ่งก็คือ “สัญญาณการเปลี่ยนเทรนด์” มีคำกล่าวอยู่เสมอว่า Trend is your Friend คือ เทรนด์เป็นเพื่อนของเราเสมอ

หลังจากที่บทความก่อนหน้าที่กล่าวถึงการเทรดรูปแบบ Divergence กันไปแล้ว ครั้งนี้เรามาดูอีกรูปแบบหนึ่งของ Divergence คือ “Hidden Divergence” ที่เทรดเดอร์หลายคนยังไม่ค่อยคุ้นเคย

Hidden Divergence จะตรงกันข้ามกับ Divergence ปกติทั่วไป ลักษณะการเทรดก็จะแตกต่างกัน โดยจะเป็นการหาสัญญาณการ “ไปต่อ” ของราคา

ความหมายของ Divergence

ย้อนกลับมาดูความหมายของ Divergence เพื่อทบทวนกันก่อน คำว่า Divergence ในการเทรด Forex คือ “สัญญาณที่ขัดแย้งกันของ indicator กับสัญญาณราคา” เมื่อสัญญาณราคาเกิด Lower Low หรือ ราคา Low ครั้งใหม่ แต่ว่า indicator ไม่ได้ลงตาม สำหรับขาลง อย่างนี้เรียกว่า Divergence ทำให้คาดการณ์ว่าจะเป็นสัญญาณของการกลับตัว 

สัญญาณ Divergence ทั่วไป มี 2 แบบ คือ

• รูปแบบ Bullish Divergence
• รูปแบบ Bearish Divergence

การเกิด Divergence แบบทั่วไปนั้นจะเป็นสัญญาณการเปลี่ยนแนวโน้มหรือการกลับตัว (Reversal) แต่การเกิด Hidden Divergence จะเป็นลักษณะการเคลื่อนไหว “ไปต่อ” ในทิศทางเดิมของแนวโน้มนั้น ๆ 

อ่านต่อ: Divergence โดยละเอียด

Hidden Divergence คืออะไร 

Hidden Divergence คือ การเกิด Divergence ที่เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า “ราคามีโอกาสเคลื่อนที่ต่อในทิศทางเดิม” หรือเรียกว่า “Continuous Pattern” เกิดจากความขัดแย้งระหว่างทิศทางของราคาและอินดิเคเตอร์ แต่เกิดในลักษณะที่ต่างจาก Divergence ทั่วไป

การเกิด Hidden Divergence จะเกิดในช่วงที่ ราคา Sideway อยู่ในกรอบ แล้วมีการเหวี่ยงตัวแรงขึ้น จนมีโอกาสที่จะทะลุกรอบราคาเดิม (Break Out) ซึ่งช่วยในการยืนยันแนวโน้ม “ไปต่อ” มากกว่าการเป็นสัญญาณกลับตัว (Reversal)

รูปแบบของ Hidden Divergence

ซึ่งรูปแบบของ Hidden Divergence ก็จะสามารถแบ่งได้เป็น 2 ชนิด เช่นเดียวกับไดเวอร์เจนทั่วไป แต่จะมีลักษณะการเกิดแตกต่างกัน ได้แก่

• Hidden Bullish Divergence: ราคาไม่ลงทำ Low ใหม่ แต่ Indicator ทำ Low ใหม่ ซึ่ง “ราคามักจะปรับตัวขึ้นต่อ”
• Hidden Bearish Divergence: ราคาไม่ขึ้นทำ High ใหม่ แต่ Indicator ทำ High ใหม่ ซึ่ง “ราคามักจะปรับตัวลงต่อ”

ข้อดีของการใช้ Hidden Divergence

1. ช่วยระบุจังหวะการกลับตัวของราคาได้ล่วงหน้า

Hidden Divergence มักจะเกิดขึ้นก่อนที่ราคาจะเปลี่ยนทิศทาง ช่วยให้คุณสามารถวางแผนการเทรดล่วงหน้าได้ เช่น การหาจุดเข้าที่มีความเสี่ยงต่ำและโอกาสทำกำไรสูง

2. ใช้ยืนยันเทรนด์ของตลาด

ถ้าเราสังเกตว่ามี Hidden Divergence เกิดขึ้น ในช่วงที่ราคากำลังวิ่งไปในทิศทางเดิม อย่างน้อยก็โล่งใจได้ว่าเทรนด์นั้นยังแข็งแรงดี ยิ่งถ้ามีออเดอร์ติดมืออยู่ก็สามารถถือรันยาว ๆ ต่อไปได้อย่างสบายใจ

3. ช่วยลดสัญญาณหลอกจาก Divergence ปกติ

บางครั้งการดูแค่ Divergence อย่างเดียว จะทำให้เราถูกหลอกบ่อย ๆ แต่ถ้าคุณมองหา Hidden Divergence ควบคู่ไปด้วย ก็จะ “ช่วยกรองสัญญาณหลอกได้ในระดับหนึ่ง” ช่วยให้คุณแยกระหว่าง “การกลับตัว” กับ “การพักตัวชั่วคราว” ได้ดีขึ้นครับ

ตัวอย่างการเกิด Hidden Divergence ในกราฟจริง เครดิต By Lucid Trader Focus นาทีที่ 2.05 – 5.26

การใช้งาน Hidden Divergence กับเครื่องมืออื่นๆ ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค

Hidden Divergence เกิดขึ้นโดยราคากับอินดิเคเตอร์ไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งขอยกตัวอย่างกับการใช้งานอินดิเคเตอร์ stochastic oscillator (ตัวชี้วัดโมเมนตัมของราคา) มีวิธีดังต่อไปนี้

ติดตั้ง Indicators ชื่อว่า “stochastic oscillator” สามารถทำตามได้ ดังนี้ครับ

• ไปที่โปรแกรม MT4 เลือก Insert
• กดเลือก Indicators
• กดเลือก Oscillators
• กดเลือก “stochastic oscillator”
• กดปุ่ม OK โดยใช้ค่าเริ่มต้นของอินดิเคเตอร์ได้เลย ไม่ต้องปรับเพิ่ม

การหา Bullish Hidden Divergence ร่วมกับ stochastic เพื่อหาจุดเข้า Oder Buy

Bullish Hidden Divergence คือ รูปแบบสัญญาณ การไปต่อของราคาในแนวโน้มขาขึ้น (Up Trend) เราจะหาจุดเข้า Oder Buy โดยมีวิธีดังนี้

• ใช้ Time Frame 1H (1 ชั่วโมง) ขึ้นไป ในการหาสัญญาณ และเข้าเทรด (ไม่แนะนำให้ใช้ต่ำกว่า 1H เพราะจะเจอสัญญาณหลอก) 
• ราคาต้องปรับตัวขึ้นสูงกว่า Low ก่อนหน้า และ STO ต้องปรับตัวลดลง (จุดที่ 2 ต้องต่ำกว่าจุดที่ 1) ดูรูปประกอบ
• เส้นค่าเฉลี่ย %K(เส้นสีฟ้า) และ %D(เส้นสีแดง) ต้องต่ำกว่าโซน 20 (Over Sold) ตั้งแต่ 2 จุดขึ้นไป
• รอสัญญาณ STO วิ่งขึ้นผ่านโซน 20 เตรียมตัวเปิด Oder Buy (ตั้ง Stop Loss ที่ราคาต่ำสุดของแท่งเทียนก่อนหน้า ห่างออกมา 100-200 จุด)
• ตั้ง TP ตาม Risk : Reward (ความเสี่ยงต่อผลตอบแทน) 1:3 โดยตั้งจุดทำกำไร ไว้ที่ 300-600 จุด
• แนะนำให้ตั้ง Trailing Stop Loss (การเลื่อนจุด Stop loss ขึ้นมาเรื่อยๆ ตามราคาตลาด)

การหา Bearish Hidden Divergence ร่วมกับ stochastic เพื่อหาจุดเข้า Oder Sell

Bearish Hidden Divergence คือ รูปแบบสัญญาณ การไปต่อของราคาในแนวโน้มขาลง (Down Trend) เราจะหาจุดเข้า Oder Sell โดยมีวิธีดังนี้

• ใช้ Time Frame 1H (1 ชั่วโมง)ขึ้นไป ในการหาสัญญาณ และเข้าเทรด
• ราคาต้องปรับตัวลดลงกว่า High ก่อนหน้า และ STO ต้องปรับตัวขึ้น (จุดที่ 2 ต้องสูงกว่าจุดที่ 1) ดูรูปประกอบ
• เส้นค่าเฉลี่ย %K(เส้นสีฟ้า) และ %D(เส้นสีแดง) ต้องสูงกว่ากว่าโซน 80 (Over Bought) ตั้งแต่ 2 จุดขึ้นไป
• รอสัญญาณ STO ลดลงผ่านโซน 80 เตรียมตัวเปิด Oder Sell (ตั้ง Stop Loss ที่ราคาสูงสุดของแท่งเทียนก่อนหน้า ห่างออกมา 100-200 จุด)

3 อันดับยอดนิยมของ Hidden Divergence indicator

Hidden Divergence Pro Indicator:

Indicator นี้ออกแบบมาเพื่อตรวจจับสัญญาณ Hidden Divergence ซึ่งถือว่าเป็นการตั้งค่าการเทรดที่มีความเป็นไปได้สูงตามเทรน ซึ่งสามารถใช้เพื่อระบุการเทรดที่ชนะในคู่เงินฟอเร็กซ์ เช่น EUR/USD

Hidden Divergence Panel Indicator:

Indicator นี้ทำงานภายใต้การตรวจจับ hidden divergences โดยอาศัย exponential moving averages 2 เส้นเป็นตัวกรองเพื่อระบุความเป็นเทรน และมันก็ยังใช้ ATR เพื่อกำหนด TP และ SL ได้อีกด้วย

Hidden MACD Divergence Indicator:

Indicator นี้สามารถใช้เพื่อระบุสัญญาณ Hidden Divergence เมื่อตัวบ่งชี้ MACD และราคาของสินทรัพย์เคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้ามกัน

สรุป

อย่างไรก็ตาม การเทรดแบบ Divergence ก็ยังมีข้อจำกัดอื่น ๆ คือความไม่ตายตัวของวิธีการ ซึ่งรูปแบบราคาก็ไม่ได้ตายตัวว่าจะเกิดรูปแบบนี้ทุกครั้ง ดังนั้นเราก็ต้องเผื่อใจไวด้วย การตั้ง Stop loss ช่วยให้เราจำกัดการขาดทุน ลองเอาวิธีนี้ไปใช้เทรดกันดูได้ครับ ขอย้ำเสมอนะครับว่าไม่มี Indicator ตัวไหนที่ให้สัญญาณถูกต้อง 100% การเทรดผิดทางเป็นเรื่องปกติ ควรตั้ง Stop loss เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น

ทีมงาน: forexthai.in.th

แสดงข้อคิดเห็น ให้กำลังใจ

comments