Search Results for: EUR/USD

เรื่องน่ารู้ก่อนเทรด EUR/USD

เรื่องน่ารู้ก่อนเทรด eur/usd

EURUSD เป็นคู่เงินที่เทรดเดอร์รู้จักและเทรดกันมากสุดก็ว่าได้ เป็น 1 ในคู่เงินหลักๆ ที่มีเรื่อง liquidity มาก เพราะเป็นคู่เงินที่เกี่ยวกับค่าเงินยุโรป (The Euro)   และค่าเงินดอลลาร์ (US Dollar) ทั้งสองต่างเป็นค่าเงินหลักๆ ของตลาดการเงินโลก เลยทำให้คู่เงินนี้มีสภาพคล่องสูง ต้นทุนการเทรดต่ำดูที่ค่าคอมและสเปรค เช่นดูที่ช่วงตลาดเปิด เรื่องสเปรดเป็นหลัก จะเห็นว่าต่ำมาก และยังเป็นคู่เงินที่หาข้อมูลได้ง่ายเพราะอยู่ในความสนใจของเทรดเดอร์ทั้งสองตลาดหลักๆ ยิ่งเป็นช่วงที่ตลาดทั้งสองเปิดพร้อมกันยิ่งทำให้การเทรดเยอะ ช่วงตลาด EUR/USD การเทรดไม่ว่าจะเทรดคู่เงินไหน อย่างแรกที่ต้องรู้คือช่วงเวลาที่ตลาดคู่เงินนั้นๆ เปิด แม้ว่าตลาดฟอเรกจะสามารถเทรดได้ 24 ชั่วโมง 5 วันก็ตาม เพราะเมื่อแต่ละช่วงตลาดเปิดก็จะมีเทรดเดอร์เข้ามาเทรดเยอะ หรือเทรดเดอร์ที่ถือ positions อยู่ในตลาดก็อยากจะจัดการออเดอร์ที่ถืออยู่เพราะเรื่องของ liquidity ที่เกิดขึ้นเยอะ ยิ่งเป็นคู่เงินที่เกี่ยวข้องกับค่าเงินหลักๆ ของตลาดการเงินโลกทั้งฝั่งยุโรปและอเมริกาด้วย วิธีการง่ายที่สุดที่จะอธิบายเรื่อง liquidity และ volatility ที่เกิดขึ้นแต่ละวันของแต่ละค่าเงิน ดูว่าราคาหรือชาร์ตเคลื่อนไหวอย่างไร เมื่อช่วงตลาดเปิด อย่างที่เห็นที่ชาร์ต เรื่องของ Market sessions นำมาจาก forexfactory เพราะสามารถกำหนดช่วงเวลาที่ตรงกับบ้านเราได้ง่ายสำหรับเทรดเดอร์ใหม่ๆ … [อ่านต่อ คลิก]

รูปแบบราคา Harmonic Pattern (Part 2)

รูปแบบ Crab (ปู) Harmonic Pattern รูปแบบ Crab จะมีลักษณะคล้ายกับปูสมชื่อจริง ๆ เมื่อไหร่ที่ฟอร์มตัวแล้วก็มีโอกาสที่จะเก็บกำไรได้เป็นกอบเป็นกำ Harmonic Pattern รูปแบบ Crab “ใช้ได้ดีกับตลาดที่ยังไม่เป็น Trend” การเทรดด้วยรูปแบบ Crab ในตลาด Forex จะมีจุดเข้า Trade ที่ชัดเจน และมีเป้ากำไรให้เก็บได้ค่อนข้างดี มีจุดตัดขาดทุนที่ไม่กว้างมาก เป็นโอกาสที่ดีในการทำกำไรให้ได้ RR ที่มากกว่า 2 เท่า นับว่าคุ้มค่ากับการรอคอยแน่นอน รูปแบบ Crab จะเป็นตัวบ่งชี้ได้ทั้ง Bullish Crab และ Bearish Crab หลังจากการสร้างรูปแบบปูเป็นที่เรียบร้อย จะมีจุดที่มีโอกาสกลับตัวโดยรูปแบบ Crab จะถูกกำหนดว่า การพักตัวของจุด B ที่วิ่งมาจาก A จะพักตัวที่ระดับ 38.2-61.8% ของ XA จุด C ที่วิ่งมาจาก B … [อ่านต่อ คลิก]

ระบบเทรด Scalping ในแบบของ “Machine”

Forexthai.in.th ย่อให้ หลักการพื้นฐาน: ระบบนี้เน้นการเทรดในช่วงที่มีปริมาณการซื้อขายสูง โดยเฉพาะช่วง Kill Zone และ NY Open เพื่อใช้ประโยชน์จากความผันผวนของราคา เครื่องมือหลัก: ใช้ BOS การแตกโครงสร้างราคาเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม, HTF กรอบเวลาที่ใหญ่กว่าช่วยยืนยันแนวโน้ม, EMA20 บ่งบอกแนวโน้มและทำหน้าที่เป็นแนวรับแนวต้าน, ATR14 วัดความผันผวนของราคา ช่วยในการกำหนดขนาด Position และ Stop-loss เงื่อนไขการเข้าเทรด: เน้นการเทรดในกรอบเวลาเล็ก ๆ เช่น M1 หรือ M5 โดยพิจารณาจากสัญญาณของ EMA20, สีของแท่งเทียน, ปริมาณการซื้อขาย และค่า ATR14 S/R Breakout Phase: การทะลุผ่านแนวรับแนวต้าน เป็นสัญญาณสำคัญในการเข้าซื้อขาย จุดแข็งและจุดอ่อน: ระบบนี้มีข้อดีคือเข้าใจง่ายและใช้ได้ผลในตลาดที่มีความผันผวนสูง แต่ก็มีข้อจำกัดคือมองเห็นภาพรวมได้ไม่ครอบคลุม และอาจเกิดสัญญาณหลอกได้ การเทรดแบบ Scalping ด้วยระบบเทรดของ “Machine” (มาชิเน่) คือการเทรดโดยที่ไม่ยึดติดกับกฎเกณฑ์มากเกินไป จนมองข้ามว่าตลาดกำลังเกิดอะไรขึ้นเมื่อเทียบกับเงื่อนไขของระบบเทรด ระบบเทรดนี้ได้รับการพัฒนาและออกแบบมาเพื่อการเก็งกำไรระยะสั้น … [อ่านต่อ คลิก]

ระบบเทรด THV System, final edition แม่นยำ ทำกำไรสม่ำเสมอ

Forexthai.in.th ย่อให้ ระบบเทรด THV System: ใช้การวิเคราะห์ Trend, Harmonic, และ Value ผสมผสานกับทฤษฎีคลื่นเอลเลียต (Elliott Wave Theory) ในการเทรด Forex จุดเด่นที่น่าสนใจ: มีความเรียบง่ายแต่แม่นยำ และมีความยืดหยุ่นในการจัดการความเสี่ยงที่ดีด้วย การใช้ตัวบ่งชี้: ใช้ Indicator เพื่อช่วยในการวิเคราะห์ราคาหลายตัว เช่น THV Trix, THV MTF TrixHisto, Ichimoku Kinko Hyo, และอื่น ๆ เพิ่มเติมอีกหลายตัว เงื่อนไขในการเข้าเทรด: ให้ดูที่สัญญาณการตัดกันของเส้น Trix Slow, Medium และ Fast ราคาวิ่งเหนือ Coral จะต้อง Buy เท่านั้น ต่ำกว่า Coral จะต้อง Sell เท่านั้น ส่วนจุดออกที่ดีจะเกิดขึ้นเมื่อ Trix เร็วเปลี่ยนสีและแตะระดับ … [อ่านต่อ คลิก]

ระบบเทรด The paradox System 2023 ฉบับมือใหม่ หัดทำกำไร

Forexthai.in.th ย่อให้ The Paradox System 2023: เป็นระบบเทรดที่ออกแบบมาสำหรับมือใหม่ เน้นหาโอกาสการเทรดที่มีความน่าจะเป็นสูง ระบบ Paradox System: ออกแบบมาเรียบง่าย มีประสิทธิภาพ ปรับแต่งได้ตามความต้องการและระดับความเสี่ยงของแต่ละบุคคล Indicator ที่ใช้: MA วัด Momentum, RSI วัดความเร็วและแรงของราคา, Bollinger Bands วัดความผันผวน เงื่อนไขในการเข้าเทรด: ปิดออเดอร์เมื่อตัวชี้วัดหลายตัวสอดคล้องกัน ทั้ง Buy และ Sell จุดอ่อน: พึ่งพาตัวชี้วัดทางเทคนิคอย่างมาก อาจให้สัญญาณที่ผิดพลาด โดยเฉพาะในช่วงตลาดผันผวนสูง และเป็นกลยุทธ์ตายตัว อาจไม่เหมาะกับทุกสภาวะตลาด Paradox System 2023 นี่คือกลยุทธ์การซื้อขายที่ออกแบบมาเพื่อให้นักเทรดมือใหม่ เป็นระบบเทรดที่สามารถเริ่มต้นใช้งานได้ง่าย โดยใช้การซื้อขายแบบเทรดตามเทรนด์ ตามแนวโน้มของราคาเป็นหลัก ระบบเทรดนี้มุ่งเน้นไปที่การทำกำไรระยะสั้นและปานกลางในตลาด Forex โดยเฉพาะคู่ EUR/JPY กำลังได้รับความนิยมสูงสุดจากการใช้ระบบเทรดตัวนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงความสับสนและทำความเข้าใจให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ไปดูรายละเอียดกันเลย ข้อมูลเบื้องต้น ระบบเทรด “The Paradox System … [อ่านต่อ คลิก]

ระบบเทรด Pivot Trading เทรดทำกำไร ได้ทุกคู่เงิน

Forexthai.in.th ย่อให้ ระบบเทรด Pivot Trading: เป็นระบบที่ต้องใช้ทั้งประสบการณ์ทางจิตวิทยาและทางเทคนิค โดยมีการกำหนดระดับแนวรับและแนวต้านเพิ่มเติมอีกหลายระดับ เครื่องมือทางเทคนิค: ต้องใช้ส่วนมากก็จะเป็นประเภทที่บ่งชี้ระดับราคาที่มีผลทางจิตวิทยา เพื่อหาระดับแนวรับและแนวต้าน โดยใช้ร่วมกันกับการวิเคราะห์ข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจ Indicator: ที่ใช้คือ Pivot Point (PP) สามารถกำหนดระดับแนวรับและแนวต้านได้หลายระดับ เงื่อนไขในการเข้าเทรด: Buy เมื่อราคาวิ่งอยู่เหนือระดับ Pivot Point และ Sell หากราคาวิ่งอยู่ต่ำกว่าระดับ Pivot Point แสดงว่าตลาดอยู่ในช่วงขาลง จุดอ่อนของระบบเทรด: สัญญาณระดับแนวรับและแนวต้านจาก Pivot Point ไม่ได้แม่นยำเสมอไป และไม่เหมาะกับตลาดที่มีแนวโน้มชัดเจนด้วย การซื้อขาย forex แบบ Pivot Trading ระบบเทรดนี้ จำเป็นต้องใช้ทั้งประสบการณ์ทางจิตวิทยาและทางเทคนิคอย่างมากที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับระบบเทรดต่าง ๆ ที่มีเทรดเดอร์ใช้ในการเทรด Forex ด้วยความที่ระบบเทรด Pivot กำลังได้รับความนิยมอย่างสูง จึงขอหยิบยกเอามาพิจารณาองค์ประกอบของระบบเทรดที่ใช้ เพื่อเป็นแนวทางสำหรับนักเทรดทั้งหลาย ได้นำไปปรับใช้กับการเทรดของตัวเองบ้าง ไปพิจารณาด้วยกันเลยครับ   “In the … [อ่านต่อ คลิก]

Strat’s PASR Long Term เทรดแบบไม่เครียด ทำกำไรระยะยาว

Forexthai.in.th ย่อให้ ระบบเทรด PASR เป็นระบบเทรดที่ทำความเข้าใจได้ง่าย สามารถนำมาใช้เทรดในตลาด Forex ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้ได้ดีกับทุกคู่เงินอีกด้วย PASR เป็นระบบเทรดที่มีการใช้ Indicator ในการช่วยวิเคราะห์แนวโน้มคือ Parabolic SAR โดยใช้ร่วมกับแนวรับแนวต้าน (Support and Resistance) พร้อมด้วยการพิจารณารูปแบบของราคาด้วย เงื่อนใขในการเข้าเทรดของระบบ PASR นั้น Buy Entry เมื่อราคาทะลุแนวต้านขึ้นไป พร้อมทั้งมี Parabolic SAR เกิดข้างล่าง ส่วน Sell Entry เมื่อราคาวิ่งทะลุแนวรับลงไป และมี Parabolic SAR เกิดขึ้นข้างบน ระบบ PASR สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของนักเทรดแต่ละคน โดยผู้ที่จะใช้ระบบ PASR ช่วยเทรด จำเป็นจะต้องมีความรู้ในเรื่อง Price Action ประกอบด้วย ระบบ PASR นั้นเป็นเพียงเครื่องมือช่วยในการวิเคราะห์เท่านั้น ไม่ได้การันตีผลลัพธ์การเทรด ควรบริหารความเสี่ยงด้วยการตั้ง SL และ … [อ่านต่อ คลิก]

ระบบเทรดสั้น กำไรไว – M1 Countertrend Scalping Strategy

Forexthai.in.th ย่อให้ ระบบเทรดสั้น M1 Countertrend Scalping Strategy จะเน้นไปที่การจับจังหวะการย่อตัวของราคา Forex เทรดกับคู่สกุลเงินที่มีสภาพคล่องสูง เช่น EUR/USD, GBP/USD, USD/JPY เป็นต้น จะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า ใช้ Indicator เพียง 2 ตัวเท่านั้น คือ Moving Average แบบ EMA และ Relative Strength Index (RSI) เงื่อนไขในการเทรดคือระยะห่างของราคากับเส้น EMA ต้องห่างกันในระดับหนึ่ง และราคาจะต้องไม่อยู่ภายในกรอบของเส้น EMA ทั้งสามเส้น ข้อควรระวังคือ ทุก ๆ การเทรดจะต้องมี SL/TP รองรับ และเทรดเดอร์ควรจะมีประสบการณ์ในตลาด Forex มาแล้วในระดับหนึ่ง M1 Countertrend Scalping Strategy เป็นระบบเทรดที่ได้รับการสืบทอดต่อ ๆ กันมาอย่างยาวนาน จนค้นหาข้อมูลว่าใครคือผู้ที่สร้างระบบเทรดนี้ไม่ได้แล้ว โดยในปัจจุบันนี้ … [อ่านต่อ คลิก]

Skill สำคัญเพื่อการเป็น Top Trader

เอาละ… มาถึงบทส่งท้ายของบทเรียนกันแล้ว จากที่เรียนรู้กันมาทั้งหมดก่อนหน้านี้ ล้วนแต่มีความหมาย มีความจำเป็นต่อการใช้งานในการเทรด Forex อย่างยิ่ง ใครที่เรียนรู้แล้วนำมาใช้อย่างถูกต้องเหมาะสม การก้าวไปสู่สุดยอดของ Top Trader ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป สิ่งที่อยากจะเสนอในบทส่งท้ายนี้คือเคล็ดลับวิชาอันสุดยอด เป็นวิชาเพิ่ม Skill ขั้นเทพ เพื่อที่จะเอาชนะเกมเศรษฐีที่ชื่อว่า Forex ไปอัพสกิลกันเลยดีกว่า การใช้ Leverage และ Margin อย่างถูกต้อง อย่างแรกเลยคือต้องทำความเข้าใจกับ Leverage และ Margin ในการ Forex ให้เหมือนกับมือโปรกันก่อน เพราะโดยทั่วไปแล้วนักเทรดมือใหม่มักจะมองข้าม มักจะมองว่าเป็นเรื่องง่าย ๆ ของ Forex แต่จริง ๆ แล้ว Leverage และ Margin ทั้งสองสิ่งนี้เป็นหัวใจสำคัญของการเทรด Forex เลยก็ว่าได้ เพราะนักเทรดมืออาชีพทั้งหลายจะให้ความสำคัญกับสองสิ่งนี้มาก Leverage คืออะไร? Leverage เปรียบเสมือน “เงินกู้” ที่โบรกเกอร์ Forex เสนอให้เรา โดยเทรดเดอร์ใช้เงินทุนเพียงจำนวนน้อย … [อ่านต่อ คลิก]

7 กลยุทธ์ จัดการความเสี่ยง Forex ฉบับมือโปร

การจัดการความเสี่ยงในตลาด Forex เป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ จัดการความเสี่ยง เปรียบเสมือนเกราะป้องกันอันทรงพลัง ที่คอยช่วยให้คุณควบคุมความสูญเสียและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในตลาด Forex ทำไมการจัดการความเสี่ยงถึงสำคัญ ก็ด้วยเหตุผล ดังนี้ ตลาด Forex มีความผันผวนสูง การสูญเสียเงินทุนทั้งหมดมีความเป็นไปได้ตลอดเวลา ดังนั้น การจัดการความเสี่ยงจึงช่วยให้คุณควบคุมการสูญเสียต่อการเทรด และปกป้องเงินทุนของคุณ พร้อมทั้งรักษาสุขภาพจิตที่ดีในการเทรดได้นั่นเอง 7 กลยุทธ์ จัดการความเสี่ยง ต่อไปนี้คือกลยุทธ์ในการจัดการกับความเสี่ยง กับการเทรด Forex ที่มีประสิทธิภาพ มีวิธีการ 7 กลยุทธ์ ดังนี้ 1. กำหนดเป้าหมายและระดับความเสี่ยง: กำหนดเป้าหมายทางการเงินที่ชัดเจน ประเมินระดับความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้ ปรับกลยุทธ์การเทรดให้สอดคล้องกับเป้าหมายและความเสี่ยง 2. ใช้ Stop Loss: กำหนดจุด Stop Loss เพื่อจำกัดการสูญเสียต่อการเทรด ปรับระดับ Stop Loss ให้เหมาะสมกับกลยุทธ์และสภาวะตลาด ใช้ Stop Loss อย่างมีวินัย 3. ใช้ Position Sizing: กำหนดขนาด … [อ่านต่อ คลิก]

เทคนิคการสร้าง ระบบเทรด Forex ที่ใช่

เทคนิคการสร้างระบบเทรดต่อไปนี้ คือกลยุทธ์ลับของ “ระบบเทรด Forex” สุดปัง ที่จะช่วยให้พิชิตกำไรมหาศาลในตลาด Forex ได้อย่างง่ายดาย เป็นระบบเทรดที่ใช้ศาสตร์แห่งเทคนิคอลวิเคราะห์ร่วมกับกลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงขั้นสูง ซึ่งกลไกของระบบเทรดมีดังนี้ การวิเคราะห์ทางเทคนิค: ใช้อินดิเคเตอร์ทางเทคนิคที่หลากหลาย ตามสภาวะของตลาด เช่น Moving Average, MACD, RSI ฯลฯ วิเคราะห์รูปแบบกราฟราคา เพื่อคาดการณ์ทิศทางตลาดล่วงหน้า ค้นหารูปแบบราคาที่บ่งบอกโอกาสในการเข้าซื้อหรือขาย กลยุทธ์การบริหารความเสี่ยง: ให้ความสำคัญกับการควบคุมความเสี่ยงเป็นอันดับแรก ตั้งจุด Stop Loss เพื่อจำกัดการสูญเสีย ใช้ Position Sizing ที่เหมาะสมกับเงินทุน กระจายความเสี่ยงโดยลงทุนในหลายคู่เงิน ผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง: เป็นระบบเทรดที่สร้างผลตอบแทนเฉลี่ยต่อเดือนมากกว่า 10% มี Win Rate สูงถึง 70% สามารถดึงกำไรจากตลาดได้อย่างสม่ำเสมอ ด้วยระบบเทรดอันทรงพลังนี้ คุณจะสามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้อย่างรวดเร็ว สร้างรายได้เสริมจากตลาด Forex มีอิสรภาพทางการเงินและใช้ชีวิตอย่างที่คุณต้องการได้ เป้าหมายหลักของเทคนิคลับระบบเทรด เป้าหมายหลักของเทคนิคลับระบบเทรดที่ว่านี้ เป็นระบบเทรดที่มีเป้าหมายหลักดังต่อไปนี้: สร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ: มุ่งเน้นไปที่การสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ มากกว่าการทำกำไรก้อนโตในระยะสั้น หลีกเลี่ยงการไล่ล่าผลตอบแทนสูงเกินจริง จนเสี่ยงต่อเงินทุน … [อ่านต่อ คลิก]

แผนการเทรด Forex ที่ดี ทำยังไง?

แผนการเทรด Forex มันก็เหมือนเข็มทิศที่จะนำทางสู่ความสำเร็จ เป็นตัวช่วยให้เทรดเดอร์ตัดสินใจอย่างมีระบบ ลดความเสี่ยง เพิ่มโอกาสทำกำไร ซึ่งองค์ประกอบสำคัญของแผนการเทรด มีดังนี้ 1. เป้าหมายและกลยุทธ์: กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน เช่น ต้องการรายได้เสริม หรือสร้างรายได้หลัก เลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับสไตล์การเทรด บุคลิก และระยะเวลาที่ใช้ กลยุทธ์อาจใช้ตัวชี้วัดทางเทคนิค การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน หรือผสมผสานทั้งสอง 2. การจัดการความเสี่ยง: กำหนดขนาดการเทรดที่เหมาะสม โดยใช้เครื่องมือ Money Management กำหนดจุด Stop Loss และ Take Profit สำหรับทุกออเดอร์ ตั้ง Stop Loss เผื่อไว้สำหรับสถานการณ์เลวร้ายที่สุด 3. การบันทึกและวิเคราะห์ผล: จดบันทึกการเทรดทุกครั้ง เพื่อติดตามผล วิเคราะห์จุดผิดพลาด และพัฒนาทักษะ วิเคราะห์ผลลัพธ์อย่างสม่ำเสมอ ปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสม ตัวอย่างแผนการเทรด: เป้าหมาย: ตั้งเป้าหมายเอาไว้ที่การเพิ่มรายได้ 10% ต่อเดือน กลยุทธ์: เทรดแบบสวิงบนคู่เงิน EUR/USD โดยใช้ Moving … [อ่านต่อ คลิก]

สินทรัพย์ที่น่าลงทุน 3 ชนิด ในตลาด Forex

ในตลาด Forex มีสินทรัพย์มากมายหลายชนิดที่ Broker เปิดให้เลือกเทรด เทรดเดอร์สามารถเลือกเทรดได้ตามที่ตนเองชื่นชอบ แต่มีสินทรัพย์ที่น่าลงทุน 3 ชนิด ในตลาด Forex ที่อยากนำเสนอ คือ USD: เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการความปลอดภัยและสภาพคล่อง GOLD: เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและความผันผวนของตลาด BRENT: เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเก็งกำไรจากความผันผวนของราคาน้ำมัน สินทรัพย์ทั้งสามอย่างนี้ ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในกลุ่มนักลงทุนที่เทรดกันในตลาด Forex แม้ในปัจจุบันนี้มีค่าเงินดิจิทัล Cryptocurrency ให้เลือกเทรดด้วย แต่ก็ยังไม่ได้รับความนิยมมากนัก จะลงทุนกับ USD ต้องรู้ว่า DXY คืออะไร? ในตลาด Forex สกุลเงิน USD มีบทบาทสำคัญมาก การที่จะลงทุนกับ USD ก็ต้องรู้ว่า DXY คืออะไร DXY คือค่าเงินดัชนีดอลลาร์สหรัฐ เป็นมาตรวัดค่าเงิน USD เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลัก 6 สกุล ได้แก่ EUR: ค่าเงินของกลุ่มยูโรโซน JPY: ค่าเงินเยนญี่ปุ่น GBP: ค่าเงินปอนด์สเตอร์ลิงของอังกฤษ … [อ่านต่อ คลิก]

การเทรด Forex ด้วย Breakout

การเทรด Forex ด้วย Breakout คือ การเทรดที่รอราคาทะลุผ่านระดับแนวรับหรือแนวต้านที่แข็งแกร่ง ที่ผ่านการทดสอบมาด้วยระยะเวลาที่นานพอประมาณ Breakout ที่จะเข้าไปทำกำไรได้นั้น มักจะมีคุณสมบัติดังนี้ Breakouts ที่เป็นสัญญาณการกลับตัวของแนวโน้ม: Breakout ประเภทนี้ ราคามักจะทะลุผ่านแนวต้านหรือแนวรับ หลังจากเคลื่อนไหวในทิศทางเดิมมาเป็นเวลานาน อย่างเช่น ราคาอาจจะวิ่งเป็นขาขึ้นมานาน เคยทะลุผ่านแนวต้านมาแล้วหลายรอบ โดยที่ไม่เคยผ่านแนวรับเลย จนเมื่อไม่อาจวิ่งผ่านแนวต้านได้อีกแต่กลับทะลุผ่านแนวรับได้ นี่คือสัญญาณการกลับตัวของแนวโน้มนั่นเอง Breakouts ที่เกิดขึ้นในกรอบเวลายาวย่อมดีกว่าสั้น: Breakout ที่เกิดขึ้นในกรอบเวลา 1 ชั่วโมง อาจนำไปสู่การเคลื่อนไหวของราคาที่สั้นกว่า ในขณะที่ Breakout ที่เกิดขึ้นในกรอบเวลารายวัน อาจนำไปสู่การเคลื่อนไหวของราคาที่ยาวกว่า ดังนั้น โอกาสที่จะทำกำไรดี ๆ จึงมีมากกว่า เห็นได้ว่า Breakouts เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการเทรด Forex อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าบางครั้ง Breakout อาจเป็นสัญญาณปลอม (False Breakout) ก็มีได้ ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ เทคนิคการเทรดด้วย Breakout Breakouts ถือว่าเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังที่สามารถนำมาใช้เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร กับการเทรด Forex … [อ่านต่อ คลิก]

การใช้ Divergence ในการเทรด

Divergence คือ สัญญาณทางเทคนิคที่บ่งชี้ว่าแนวโน้มของราคาอาจเปลี่ยนแปลง สัญญาณ Divergence เกิดขึ้นเมื่อการเคลื่อนไหวของราคาและการเคลื่อนไหวของ Oscillator เกิดในทิศทางตรงกันข้ามกัน Divergence สามารถแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก ได้แก่ Bullish Divergence: เกิดขึ้นเมื่อราคาทำจุดต่ำสุดใหม่ในแนวโน้มขาลง แต่ Oscillator ไม่ได้ทำจุดต่ำสุดใหม่ แต่กลับมีจุดต่ำสุดที่ยกตัวขึ้น ซึ่งสัญญาณ Bullish Divergence จะเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าแนวโน้มขาลงกำลังจะสิ้นสุดลง Bearish Divergence: เกิดขึ้นเมื่อราคาทำสูงสุดใหม่ แต่ Oscillator ไม่ได้ทำจุดสูงสุดใหม่ แต่กลับมีจุดสูงสุดที่ลดระดับต่ำลง ซึ่งสัญญาณ Bearish Divergence จะเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าแนวโน้มขาขึ้นกำลังจะสิ้นสุดลง Divergence ในตลาด Forex มี 2 แบบ ในตลาด Forex ที่มีสินทรัพย์ให้เลือกเทรดอย่างมากมายนั้น โดยทั่วไปแล้ว Divergence ที่เกิดขึ้น จะมีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท ดังนี้ Regular Divergence = ไดเวอร์เจนท์ปกติ Hidden Divergence … [อ่านต่อ คลิก]