Forexthai.in.th ย่อให้
- EUR/USD เป็นอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างเงินยูโร (EUR) และเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) เป็นคู่เงินยอดนิยมของเทรดเดอร์ มีสภาพคล่องสูงและมีโอกาสในการทำกำไรสูงเช่นกัน
- ช่วงเวลาที่ควรเทรดคือช่วงที่ตลาดยุโรป (ลอนดอน) และอเมริกา (นิวยอร์ก) เปิดทำการ โดยเฉพาะช่วง 19.00-23.00 น. (เวลาไทย) ซึ่งเป็นช่วงที่มีสภาพคล่องสูงสุด
- ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อ EUR/USD ก็เช่น อัตราดอกเบี้ย, ข้อมูลเศรษฐกิจ, เหตุการณ์สำคัญและความเชื่อมั่นของนักลงทุน
- กลยุทธ์การเทรด EUR/USD ที่แนะนำ ได้แก่ การใช้ EUR/USD กับ Dollar Index, การเทรดตามข่าว, การใช้ ใช้ Oanda Orderbook
จากสถิติล่าสุดพบว่า คู่เงินที่ได้รับความนิยมในการเทรดมากที่สุด โดยมีปริมาณการเทรดมากถึง 20-25% ของปริมาณการเทรด Forex ทั้งหมด นั่นก็คือคู่เงิน EUR/USD สาเหตุหลักก็มาจากรากฐานความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของทั้งยูโรโซนและสหรัฐอเมริกาและบทความนี้เราจะเจาะลึก 5 เรื่องสำคัญ EUR/USD ที่เทรดเดอร์ต้องรู้ก่อนเทรดคู่เงินนี้
5 เรื่องน่ารู้ก่อนเทรด EUR/USD
อย่างที่ทราบกันว่าสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกาเป็นสองภูมิภาคทางเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีสภาพคล่องสูงสำหรับการเทรด Forex คู่นี้ เทรดเดอร์จึงได้เปรียบในการมีต้นทุนจากค่าสเปรดที่ต่ำแต่ยังมีอีกหลายเรื่องที่เราอยากนำเสนอแก่ผู้อ่านทุกท่าน
1. EUR/USD คืออะไร?
- EUR/USD คือ สัญลักษณ์ที่ใช้แทนอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างเงินยูโร (EUR) และเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD)
- อัตราแลกเปลี่ยนที่ว่าก็คือตัวเลขที่ขยับขึ้นลงตลอดเวลาที่เราเห็นนั่นแหละ มันหมายความว่า ณ เวลานั้น ๆ 1 ยูโร สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐได้เท่าไหร่ เช่น
- EUR/USD = 1.10 หมายความว่า 1 ยูโร มีค่าเท่ากับ 1.10 ดอลลาร์สหรัฐ
- เหตุผลที่ต้องเทียบจาก 1 ยูโรก็เพราะในคู่นี้ EUR ทำหน้าที่เป็น Base Currency อยู่ และแต่ละสกุลเงินที่อยู่ด้านหน้าก็จะถือเป็น Base currency หมด ส่วนสกุลเงินด้านหลังถือว่าเป็น Quote currency
- เหตุผลเพิ่มเติมที่คู่เงิน EUR/USD เป็นที่นิยมของเหล่าเทรดเดอร์ก็เพราะ
- สภาพคล่องสูง มีปริมาณการซื้อขายมหาศาลและมีสเปรดที่แคบ
- EUR/USD มีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา = โอกาสในการทำกำไรสูง
- ข่าวเศรษฐกิจของยโรปและอเมริกามีออกมาเรื่อยๆ เป็นปัจจัยทำให้ราคาขยับ

2. ช่วงตลาด EUR/USD
- ก็จริงอยู่ที่ตลาด Forex เปิด 24 ชั่วโมงตลอด 5 วัน จันทร์-ศุกร์ แต่ช่วงที่ EUR/USD เริ่มเปิดตลาดนั้น เราก็ต้องดูทั้งของยุโรปและอเมริกา ว่าช่วงเวลาไหนที่ตลาดเปิดหรือมีสภาพคล่องสูง
- สภาพคล่อง (Liquidity) คือ ปริมาณการซื้อขายในตลาด ยิ่งมากก็ยิ่งทำให้ซื้อขายง่าย ราคาเคลื่อนไหวราบรื่น ค่าสเปรดก็แคบไปด้วย และถ้าช่วงที่สกุลเงินหลักๆ เปิดพร้อมกัน สภาพคล่องจะพุ่งทำให้ราคาผันผวน (Volatility) เกิดโอกาสทำกำไรเพียบ!
- ช่วงเวลาที่สกุลเงิน EUR/USD จะเริ่มขยับคือ
- ตลาดลอนดอน : 14.00-23.00 น. (เวลาไทย)
- ตลาดนิวยอร์ก : 19.00-04.00 น. (เวลาไทย)
- หากลองสังเกตการเคลื่อนไหวของราคาคู่นี้จะเห็นว่าช่วง 2-3 ชั่วโมงแรกที่ตลาดนิวยอร์กเปิด ราคามักจะวิ่งแรงเทรดเดอร์ส่วนใหญ่มักหาจังหวะนี้เข้าเทรด

3. สิ่งที่มีผลกระทบต่อ EUR/USD
- ก่อนจะเริ่มเทรด EUR/USD เทรดเดอร์ต้องรู้ก่อนว่าปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้ราคาคู่เงินนี้ขยับ โดยส่วนใหญ่คู่จะขยับเพราะ ปัจจัยพื้นฐาน (fundamental) หรือก็คือข่าวเศรษฐกิจจากทั้ง EUR และทางฝั่ง USD
- ข่าวปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญต่อคู่เงิน EUR/USD ได้แก่
- อัตราดอกเบี้ย จากทั้ง ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และ ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ทั้ง 2 คือผู้กำหนดนโยบายการเงินและอัตราดอกเบี้ย
- ข้อมูลเศรษฐกิจ เช่น GDP, อัตราเงินเฟ้อ, อัตราการจ้างงาน เป็นต้น
- เหตุการณ์สำคัญของประเทศสกุลเงินนั้นๆ เช่น การเลือกตั้ง, ความขัดแย้งทางการเมือง, ภัยพิบัติ
- ความเชื่อมั่น (Sentiment) ของนักลงทุน เช่น ถ้าคนมองว่ายุโรปดี EUR แข็ง EUR/USD ก็ขึ้น กลับกันถ้าคนมองว่าอเมริกาดี USD แข็ง EUR/USD ก็ลง

4. คนไทยเทรด EUR/USD ช่วงไหนดี
- จากข้อที่ 2 เรารู้แล้วว่าช่วงเวลาที่ตลาด EUR และ USD เปิดทำการคือช่วงไหน ส่วนคนไทยอย่างเราช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่แนะนำในการเทรด EUR/USD ก็คือช่วง 19:00 – 23:00
- ทำไมต้องเป็นช่วง 19:00 – 23:00 ? นั่นก็เพราะช่วงเวลาที่ตลาดทั้ง EUR และ USD เปิดพร้อมกันพอดี สภาพคล่องสูงสุด ราคาผันผวนแรง
- นอกจากนี้ช่วงเวลาอื่นๆ ก็สามารถเทรดได้เช่นกัน เช่น
- 14.00 – 19.00 น. : ตลาดลอนดอนเปิด สามารถเทรดกับคู่เงินอื่นๆ ที่จับคู่กับ EUR
- 23.00 – 04.00 น. : ตลาดนิวยอร์กเปิด เหมาะกับ News Trading เพราะข่าวจากฝั่ง US จะเริ่มออก

5. กลยุทธ์เทรด EUR/USD ที่แนะนำ
- มีอยู่ 3 กลยุทธ์ด้วยกันที่ทางทีมงานอยากจะแนะนำ ซึ่งใครถนัดใช้อันไหนก็เลือกได้ตามใจ 3 กลยุทธ์ที่ว่ามีดังนี้ โดยเราจะอธิบายแต่ละกลยุทธ์
- จับคู่ EUR/USD กับ Dollar Index
- เทรดตามข่าว (News Trading)
- ใช้ Oanda Orderbook
- จับคู่ EUR/USD กับ Dollar Index
- เพราะ EUR/USD มีความสัมพันธ์แบบตรงกันข้ามกับ Dollar Index (DXY) ถ้า EUR/USD ขึ้น DXY จะลง
- โดยเราอาจจะใช้ DXY ช่วยยืนยันสัญญาณเทรด เช่น ถ้า EUR/USD ขึ้น พร้อมกับ DXY ลง แสดงว่า EUR แข็งค่า USD อ่อนค่า เป็นสัญญาณซื้อ EUR/USD ที่แข็งแกร่ง
- อย่าลืมมองหา Price Level สำคัญ เช่น แนวรับ-แนวต้าน Demand/Supply ที่สอดคล้องกันทั้ง EUR/USD และ DXY เพื่อเป็นจุด เข้า-ออก ออเดอร์
- เมื่อเห็น Impulsive Move หรือการเคลื่อนไหวของราคาที่รุนแรงและต่อเนื่อง ในแนวโน้มเดียวกัน(กราฟตรงข้ามกัน) ทั้งสองกราฟ เป็นจังหวะที่ควรเข้าเทรดมากที่สุด

- เทรดตามข่าว (News Trading)
- ติดตามข่าวสำคัญ เช่น GDP, อัตราดอกเบี้ย, การจ้างงาน ของทั้งสกุลเงิน EUR และ USD แนะนำให้ดูจากจากเว็บไซต์ Forex Factory
- ช่วงที่ข่าวออกเราสามารถใช้โอกาสจากความผันผวนนี้เทรดระยะสั้น (Scalping) ตามผลกระทบของข่าว
- สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจและคาดการณืผลกระทบของข่าวนั้นให้เร็ว เช่น ถ้าข่าว Nonfarm Payrolls ของสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด USD จะแข็งค่า EUR/USD จะร่วง เป็นโอกาส Sell เป็นต้น
- ใช้ Oanda Orderbook
- วิธีการนี้อาจจะเป็นรูปแบบที่เฉพาะเจาะจง เพราะเรากำลังใช้ฟีเจอร์ของโบรกเกอร์ Oanda เพื่อดู Pending Order ของเทรดเดอร์คคนอื่นๆ ที่เทรดบน Oanda เช่นกัน
- การใช้ Oanda Orderbook ก็เหมือนการ “แอบดูไพ่” ของเทรดเดอร์คนอื่นๆ ในตลาด EUR/USD แม้ว่าจะเป็นเฉพาะเทรดเดอร์ที่ใช้โบรกนี้เท่านั้น แต่ก็แสดงนัยยะสัญได้หลายอย่างครับ
- กลยุทธ์ก็คือ เราสามารถรู้ว่าเทรดเดอร์ส่วนใหญ่กำลังคิดอะไร จะซื้อหรือขาย ณ ราคาเท่าไหร่ จากการตั้ง Pending Order
- โดยเฉพาะถ้าเรารู้จุด Stop Loss ของคนอื่น เราจะได้ไม่โดน Stop Hunting หรือการไล่ราคาไปชน Stop Loss
- และยังสามารถดู Limit Orders (คำสั่งซื้อขายที่กำหนดราคาไว้) ของฝั่งตรงข้าม เพื่อหาแนวรับ-แนวต้านและจุดทำกำไรได้ด้วย

วิดีโอเกี่ยวกับ EURUSD
กลยุทธ์การเทรด EURUSD ที่มีอัตราชนะสูง เครดิต By Forex Trading Lions Focus นาทีที่ 1.30 – 9.40
ก่อนจากกันไปทีมงาน forexthai ได้เจอคลิปใน YouTube ที่คิดว่าน่าสนใจ เป็นคลิปเกี่ยวกับกลยุทธ์การเทรด EURUSD ที่มีอัตราชนะใกล้เคียง 100% !!! แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราเน้นการศึกษากลยุทธ์และแนวทางในการเทรดมากกว่า ไม่ควรเทรดตามโดยที่ไม่มีความเข้าใจแบบลึกซึ้งนะครับ
- Focus นาทีที่ 1:30 กลยุทธ์ใช้ Pivot Points จากเว็บไซต์ babypips.com เป็นแนวรับ-แนวต้าน
- Focus นาทีที่ 3:00 วิเคราะห์กราฟ 4H และ 15 min ควบคู่กัน
- Focus นาทีที่ 4:30 ใช้ Moving Averages (MA) เป็นตัวช่วยยืนยัน
- Focus นาทีที่ 8:00 ใช้ Stochastic RSI เป็นตัวยืนยันเพิ่มเติม
สรุป
อ่านจบแล้วก็พอจะเข้าใจได้หละครับว่าทำไมคู่ EURUSD จึงเป็นคู่เงินหลักๆ ที่เทรดเดอร์ Forex ทุกคนนิยมเทรดกัน โดยทางทีมงานของ forexthai ก็หวังว่าหลังจากที่ผู้อ่านได้อ่านบทความนี้แล้ว ก็คงจะเข้าใจ EURUSD ลึกซึ้งมากขึ้น อาจจะต่อยอดเพื่อไปใช้ศึกษาคู่เงินอื่นๆ ด้วย แต่ก็แนะนำว่าควรจะเทรดให้ชำนาญไปทีละคู่ สุดท้ายนี้ก็ขอให้ทำกำไรจากมันได้เป็นกอบเป็นกำนะครับ
ทีมงาน: forexthai.in.th