สองสัปดาห์ก่อนได้คุยกับเพื่อสนิทต่างวงการ ที่คุ้นเคยกันมานานตั้งแต่วัยเด็ก เพราะเพื่อนคนนี้ทำให้ผมได้เข้ามาสู่วงการเทรด ซึ่งเป็นคนเผยแพร่เรื่องหุ้น เราได้คุยกันถึงเรื่องว่า ตลาดหุ้นกับตลาด Forex อันไหนยากกว่ากัน บทสนทนาของเราจบลงด้วยความเห็นที่แตกต่างกัน วันนี้ผมจึงนำเรื่องราวนี้มาแบ่งปันในมุมมองของผมกันบ้างครับ
บ่อยครั้งที่หลายคนมักจะบอกว่า ตลาด Forex นั้นยากกว่าตลาดหุ้น เพราะว่า คนส่วนใหญ่มักจะขาดทุนในตลาด Forex มากกว่าตลาดหุ้น บ้างก็บอกว่าตลาด Forex นั้นเป็นการพนัน ขณะที่หุ้นนั้นเป็นการลงทุน ผมจะบอกว่าใครถูกใครผิดก็กะไรอยู่ครับ ไม่ใช่เพราะผมไม่รู้ แต่เพราะว่า ไม่อยากจะไปพูดถึงคนที่เข้าใจไม่ตรงกันกับเราครับ เรามาว่ากันเลยดีกว่าทีละหัวข้อ
สารบัญบทความ click เพื่อเลือกอ่าน !!
ตลาด Forex ยากกว่าตลาดหุ้นจริงหรือ?
หลายคนบอกว่าตลาด Forex นั้นยากกว่าตลาดหุ้น อันนี้ต้องบอกเลยครับว่าไม่จริง เพราะว่า นั่นเป็นเพียงความคิดเห็นของคนที่ไม่รู้ที่มาที่ไปของมันครับ ตลาด Forex ที่หลายคนตอบว่ายากกว่าตลาดหุ้นนั่นเป็นเพราะว่า คนเหล่านั้นไม่มีความเข้าใจ ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ครับ ถ้าเป็นไปด้วย 2 ข้อนี้ ตลาดไหน ๆ ก็ยากสำหรับเขาทั้งนั้นแหละครับ
Photo by Michał Parzuchowski on Unsplash
ความแตกต่างระหว่างตลาดหุ้น และ ตลาด Forex
ตลาดหุ้น |
ตลาด Forex |
หุ้น คือ ตราสารที่ผู้ประกอบกิจการสร้างขึ้นมา เพื่อระดมทุนใช้ในการขยายผลกำไรในกิจการ โดยให้ผู้ถือซื้อและเป็นเจ้าของหุ้นในจำนวนนั้นๆ
ส่วนผู้ถือหุ้น ก็สามารถเรียกได้ว่าเป็นเจ้าของกิจการร่วม เมื่อบริษัทมีกำไร ก็จะได้ผลตอบแทนในรูปแบบของเงินปันผล ขึ้นกับข้อตกลงของผู้ถือกับบริษัท การเริ่มต้นเล่นหุ้นนั้น ต้องมีบัญชีที่เหมาะสมกับตนเอง และ ทำความเข้าในสินค้าทางการเงินที่มีในตลาด ว่า หุ้นของบริษัทที่เราจะซื้อ “ดำเนินธุรกิจอะไร แผนธุรกิจของกิจการนั้น โอกาสที่จะประสบความสำเร็จมาก-น้อยแค่ไหน” ส่วนใหญ่ในบริษัทที่มีความมั่นคงสูงผู้คนมักซื้อเก็บเงินปันผลส่วนในธุรกิจขนาดเล็ก หรือหุ้นตัวเล็ก นักลงทุนก็จะเล่นซื้อ-ขายเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น |
Forex คือ การแลกเปลี่ยนเงินสกุลเงิน มูลค่าเงิน ทิศทางตลาดจะเป็นไปตามเศรษฐกิจ ของแต่ละประเทศ ดอกเบี้ย ผลตอบแทนจะเป็นตัวกำหนดทิศทางราคาของ Forex
การเทรด Forex เป็นการซื้อ-ขาย คู่เงินในเวลาเดียวกัน ทำให้ได้/เสีย เห็นเร็วกว่าตลาดหุ้นแต่แน่นอนว่าคุณ ไม่สามารถเป็นเจ้าของค่าเงินได้ การเริ่มเทรด Forex ต้องเข้าใจเรื่องระบบเศรษฐกิจระหว่างประเทศและเทคนิคการวิเคราะห์กราฟแนวรับ-แนวต้าน จุดเด่นของตลาด Forex คือใช้เงินลงทุนน้อยกว่าตลาดหุ้น เนื่องจากมีระบบของ Margin , leverage
|
สำหรับกลไกตลาดที่ทุกคนต้องทำความเข้าใจคือ การมี Leverage และไม่มี Leverage ตลาด Forex นั้นมี Leverage เข้ามาเกี่ยวข้อง ในตลาดตราสารก็มีผลิตภัณฑ์ที่มี Leverage ทำนองนี้เหมือนกัน นั่นคือ Futures และ Options ซึ่งสร้างความเสียหายได้เช่นกัน ไม่แตกต่างจาก Forex ตัว Leverage นี้แหละครับ ที่หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าตลาดหุ้นนั้นปลอดภัยกว่า และง่ายกว่า เพราะว่าตลาดหุ้น Leverage เท่ากับ 1 นั่นคือ เงินคุณจะไม่มีวันหมดไป เพราะว่ามันจะไม่มีทางเหลือ 0 ซึ่งก็ไม่จริงหรอกนะครับ เพราะว่าหุ้นบางตัวมีมูลค่าเหลือ 0 บาทเยอะแยะไป
ฉะนั้น หากคิดว่า Leverage เป็นปัญหา สิ่งที่คุณทำได้จริง ๆ และทำให้มันไม่ได้ล้างพอร์ทในตลาด Forex คือ 1 การลด Leverage ลง หรือ 2 การลด Lot ในการส่งคำสั่ง ลง ทำให้ประสิทธิภาพในตลาด Forex นั้นแทบจะไม่แตกต่างจากตลาดหุ้น นั่นก็คือ กำไรน้อย เมื่อกำไรน้อย ผลเปลี่ยนแปลงน้อย ก็ทำให้มันขาดทุนน้อยเช่นกัน
แต่ว่าสำหรับเทรดเดอร์มันไม่สะใจไง มันไม่ทันใจรวยไง ไม่รู้จะรวยชาติไหน เทรดแบบ Lot เล็ก ๆ แบบนั้น ดังนั้น พวกนี้จึงส่ง Lot หนักข้อเข้าเรื่อย ๆ เพื่อรีบทำกำไร แล้วพอล้างพอร์ทก็บอกว่าตลดายาก มันก็ยากทุกตลาดนั่นแหละครับ คุณเอาตัวเองเข้าไปยุ่งเกียวกับการพนันเองต่างหาก
ตลาด Forex เป็นการพนัน ตลาดหุ้นเป็นการลงทุนจริงหรือ?
ถ้าหากเรานิยาม การลงทุนหรือการพนัน จริง ๆ แล้วตลาดหุ้นนั่นแหละครับที่เป็นการพนัน หากการพนันนั้นเป็นสิ่งดีนะครับ การพนัน คือ การเดิมพันกับโอกาสและความน่าจะเป็นว่าจะฟลุ๊คได้ผลตอบแทนมากมายในตลาดหุ้นใคร ๆ ก็หวังอย่างนั้นกันทั้งนั้น แต่ว่าตลาด Forex พนันไม่ได้ครับ การมองตลาด Forex ที่ถูกต้อง คือ ควรจะมองให้มันเป็นการลงทุนมากกว่า
อะไรกันนี่!!!!! จู่ ๆ ผมมาบอกว่าตลาด Forex เป็นการลงทุน และตลาดหุ้นเป็นการพนัน มันกลับตาลปัตรไปหมดแล้ว ก็ลองนึกดูสิเครับ ถ้าเรามองตลาด Forex เป็นการลงทุน แล้วปีนี้เราลงทุน 1 ล้านบาท เราอยากจะได้ผลตอบแทนเท่าไหร่ดีหล่ะสำหรับการลงทุนของเรา เอาซัก 15 % พอไหวไหม เอาซัก 20 % พอจะได้ไหม ต่อปีนะ ไม่ใช่ต่อเดือน
ก็ถ้ามองแบบนี้ได้ Forex ไม่ใช่การพนันเลย เราจะมีวิธีการจัดการอย่างไรให้ได้กำไร 15 % ต่อปี หรือ 1.2 % ต่อเดือนโดยเฉลี่ย คือ ถ้าแค่นี้โอกาสล้างพอร์ทยากมาก เพราะกำไรมันน้อยไงละครับ การลงทุนนั้นสิ่งที่ให้ผลตอบแทนสำหรับการลงทุนคือ ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอแต่ไม่หวือหวา เราลองดูการลงทุนในหอพักสิครับ จะได้เงินเท่านั้นแหละ ไม่มาก หรือไม่น้อยไปกว่านั้น แต่มันได้มาเรื่อย ๆ ตลาด Forex ทำได้ไหมหล่ะครับ ทำได้แน่นอน ถ้าเราอยากได้เยอะเมื่อไหร่ก็เตรียมล้างพอร์ทได้เลยเมื่อนั้น ก็นั่นแหละครับผมถึงบอกว่าคุมตัวเองไม่อยู่
แล้วตลาดหุ้นหล่ะ ในตลาดหุ้น บางปีเราออาจจะได้แค่ 4- 5 % บางปี เราอาจจะได้ 500 % และทุกคนในตลาดคาดหวังอะไรกันหรอครับ? ก็ต้องหวังกัน 4- 5 ร้อยเปอร์เซ็นต์กันทั้งนั้นแหละ ก็เพราะแบบนี้นี่แหละ เรียกว่า มาเดิมพันกันดีกว่า เผื่อจะได้เงินเยอะ ดีกว่าเอาไปซื้อหวย ซื้อแล้วหาย ซื้อแล้วหาย อันนี้ซื้อแล้วยังไม่ถูกเก็บไปถูกอีก 10 ปีก็ยังได้ มันเรียกว่าการพนันสำหรับผมก็จริง แต่ผมเรียกว่า มันเป็นการพนันที่ดี ครับ
ก็บทความนี้ก็ขอฝากไว้เท่านี้ครับว่า การลงทุนใน Forex กับตลาดหุ้นนั้นอันไหนจะยากกว่ากัน สามารถไปคิดดูได้ครับ
สรุป
หุ้น กับ Forex เป็นคนละตลาดกัน เทคนิคการวิเคราะห์ที่ต้องมีก็แตกต่างกันไป ถ้าจะถามว่าอะไรยากกว่ากันคงขึ้นกับหลายๆปัจจัยที่แต่ละคนมีเช่น เงินทุน ความรู้ ความถนัดมากกว่า แน่นอนว่าถ้าคุณอยู่ในวงการหุ้นมา 5 ปี แล้วเริ่มเทรด Forex วันแรก ยังไงคุณก็มองว่าตลาดหุ้นเล่นง่ายกว่า แต่คนที่เล่นมาทั้ง 2 อย่าง จะสามารถตัดสินใจได้ว่าชอบลักษณะการลงทุนแบบใดมากกว่ากัน หรืออาจเล่นทั้งสองแบบ
“โลภมาก ลาภหาย คำพังเพยที่ไม่เคยเกินจริง”
แต่ที่เหมือนกัน คือ “ความโลภ จะเหนี่ยวนำให้เงินหมดกระเป๋า” ไม่ใช่แค่ใน 2 ตลาดนี้ แต่ในทุกๆการลงทุน (เล่นแบบเสี่ยงดวงตลาดไหนก็เป็นการพนัน) ความโลภ ถือเป็นปัญหาสำคัญที่ทำให้คนล้มละลายมามากมาย ดังนั้น “การจัดการความเสี่ยง” เป็นเรื่องสำคัญที่สุด
หากคุณอยากรู้ว่า ตลาดไหนเล่นยากกว่ากันสำหรับตัวคุณ เราแนะนำให้คุณลองศึกษาทีละอย่างอยู่กับมันให้นานพอโดยไม่ล้างพอร์ท แล้วค่อยนำมาเปรียบเทียบกัน คุณก็จะเจอคำตอบของคำถามนี้
บทความนี้ก็ขอฝากไว้เท่านี้ครับว่า การลงทุนใน Forex กับตลาดหุ้นนั้นอันไหนจะยากกว่ากัน สามารถไปคิดดูได้ครับ
ทีมงาน: forexthai.in.th