ในการเทรด FOREX ก่อนที่จะก้าวไปเป็นมืออาชีพ ก็ต้องเริ่มจาก LEVEL 1 ที่ไม่รู้อะไรเลย แล้วค่อยก้าวไปสู่การเป็น TOP TRADER ที่สามารถเทรดเป็นมืออาชีพเพื่อทำเงินได้อย่างมั่นคง ซึ่งในระดับเบื้องต้นที่ LEVEL 1 เป็นระดับการเรียนรู้เรื่องพื้นฐานการเทรด Forex ต้องเรียนรู้เรื่องเหล่านี้

เรียนรู้พื้นฐานการเทรด Forex


สรุปบทที่ 1 เริ่มนับจากศูนย์ <O> กันเลย

เป็นบทเรียนเริ่มต้น ต้องเรียนรู้เรื่องก่อนการเทรด Forex ต้องรู้อะไรบ้าง ดังนี้

  1. ต้องรู้ว่าการเทรด Forex คือการลงทุนซื้อขายคู่สกุลเงินต่าง ๆ ในตลาดฟอเร็กซ์
  2. ก่อนที่คุณจะเริ่มเทรดฟอเร็กซ์ คุณควรเตรียมตัวเรียนรู้บันได 6 ขั้น ก่อนเข้าตลาด Forex คือ ต้องศึกษาเกี่ยวกับตลาด Forex, ควรรู้ว่าตัวไหนคือสกุลเงินหลัก, เลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสม, และการบริหารเงินทุน เป็นต้น
  3. รู้ไหมว่า Forex มีคนนิยม Trade ทั่วโลกเพราะอะไร? นั่นก็เพราะว่ามีขนาดตลาดที่ใหญ่, ไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลา, ทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง, และควบคุมความเสี่ยงทางการเงินได้
  4. ใครกันบ้างหนอที่จะมีสิทธิ์เทรด Forex ได้ คนที่จะเทรดได้คือ นักลงทุนส่วนตัว, นักเทรดจากเงินสำรองของธนาคาร, และนักเศรษฐศาสตร์ เป็นต้น
  5. ประวัติความเป็นมา จุดกำเนิดของ Forex ตลาด Forex (Foreign Exchange Market) เกิดขึ้นในช่วงต้นของคริสต์ศตวรรษที่ 20 ภายหลังกำแพงทางการเงินที่ชื่อ “Bretton Woods” ถูกยกเลิก
  6. ในตลาด Forex มีสินทรัพย์อะไรบ้างที่เปิดให้ซื้อขายได้ ก็จะมีทั้งคู่สกุลเงิน (Currency Pairs), ทองคำ (Gold), ดัชนีหุ้น (Stock Indices), และสกุลเงินดิจิตอล เป็นต้น
  7. Forex Market Hours (เวลาเปิด – ปิดของตลาด) ช่วงเวลาที่เปิดให้เทรดได้ของตลาด Forex นั้น จะเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
  8. ทำไมจึงควรเทรดในตลาด Forex? นั่นก็เพราะว่าเป็นตลาดใหญ่และมี Liquidity สูง, ทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง, และมีเลเวอเรจ (Leverage) ให้ เป็นต้น
  9. ควรมีเงินทุนเท่าไหร่ดี เพื่อการทำกำไร อย่างแรกเลยควรใช้แค่เงินทุนที่สามารถเสียได้, ไม่ควรลงทุนในการเทรดเพียงอย่างเดียว, และการควบคุมความเสี่ยงสำคัญมาก
การอ่านค่าคู่เงิน
การอ่านค่าคู่เงินคือจุดเริ่มต้นของการเทรด Forex

สรุปบทที่ 2 เริ่มต้น “สร้างฐาน” ก่อนลุยตลาด

การสร้างฐานคือ “ความรู้” ที่เราต้องมีติดตัว เพื่อฝ่าด่านต่าง ๆ ไปสู่ LEVEL ที่สูงขึ้นไป สิ่งที่ต้องรู้มีดังนี้

  1. คำว่า “คู่เงิน” คืออะไร? ซึ่งคู่เงินก็คือ”สกุลเงินฐาน” (base currency) และ “สกุลเงินคู่” (quote currency) ที่เปิดให้เทรดในตลาด Forex นั่นเอง
  2. ประเภทของคู่เงินมีหลายแบบ มีทั้ง Major Pairs (คู่เงินหลัก), Minor Pairs (คู่เงินรอง), และExotic Pairs (คู่เงินพิเศษ)
  3. การอ่านค่าของคู่เงินใน “FX Quote” คือการอ่านค่าของราคาขาย (Bid) และ ราคาซื้อ (Ask)
  4. การดูความแข็งค่าและอ่อนค่าของคู่เงิน สกุลเงินที่แข็งค่าขึ้น หมายถึงสกุลเงินที่ใครอยากได้ก็ต้องจ่ายสกุลเงินของตัวเองมากขึ้น ถ้าต้องการแลกเปลี่ยนกัน การอ่อนค่าก็เป็นตรงกันข้าม
  5. อยากจะเป็นนักเทรดสไตล์ไหน เป็น Scalper นักเทรดระยะสั้น, Day Trader นักสู้วันต่อวัน, Swing Trader นักเทรดระยะกลาง, หรือ Position Trader นักรบข้ามปี ก็เลือกได้ตามที่ตรงกับนิสัยของตัวเอง
  6. รู้จักกับ Forex Market Hierarchy หมายถึงโครงสร้างที่เป็นลำดับชั้นของตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Foreign Exchange Market) อย่าง Interbank Market, Retail Market, และ Exchange-Traded Market
  7. หน่วยงานที่กำกับดูแลโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ คือหน่วยงานที่กำกับดูแลคอยควบคุม เพื่อป้องกันการโกง การตุกติกหลอกลวง เช่น FCA, NFA, CFTC, ASIC, และ CySEC เป็นต้น
  8. ประเภทของโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ ตามลักษณะการให้บริการมีแบบ Market Maker, ECN Broker, STP Broker, และ DMA Broker
  9. สิ่งที่คุณต้องรู้ก่อนเลือก Broker 6 อย่าง คือ การรับอนุญาตและการกำกับดูแล, ค่าธรรมเนียมและสเปรด, ความเสถียรของแพลตฟอร์มเทรด, การสนับสนุนลูกค้า, การฝึกอบรมและเรียนรู้, และความปลอดภัยของเงินฝาก
  10. ประเภทของบัญชี Forex ที่มีทั้งแบบบัญชีสากล (Standard Account), บัญชีเล็ก (Mini Account), และบัญชีทดลอง (Demo Account) เป็นต้น
  11. บัญชี Demo จุด Start ที่ดีก่อนลงสนาม เพราะจะได้ฝึกฝนและเรียนรู้, ได้ทดสอบกลยุทธ์การเทรด, ได้เรียนรู้การปรับแต่งแพลตฟอร์ม, และได้ทดสอบความเสี่ยง
Commodity Exchange
การเทรดสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity Exchange) ก็มีในตลาด Forex

สรุปบทที่ 3 คำศัพท์ที่ต้องรู้ ในการเทรด Forex

เพื่อช่วยให้เข้าใจความหมาย ช่วยในการวิเคราะห์แนวโน้มตลาดก่อนลงมือเทรด มีดังนี้

  1. คำว่า Exchange คือตลาดที่สร้างสภาพแวดล้อมให้ผู้ซื้อและผู้ขายมาเจอกัน เช่น ตลาดหุ้น (Stock Exchange), ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity Exchange), และตลาดเงินตราต่างประเทศ (Foreign Exchange Market)
  2. คำศัพท์ที่ต้องรู้ ในการเทรด Forex มีดังนี้
    • Pip Value คือมูลค่าของแต่ละ Pip
    • Pip (Percentage in Point) เป็นหน่วยการเปลี่ยนแปลงของราคาในตลาด Forex
    • Lot หรือ Lot Size ในการซื้อขาย Forex มีทั้งแบบ Standard Lot, Mini Lot, และ Micro Lot
    • Leverage หมายถึงการใช้จำนวนเงินน้อยเป็นหลักประกัน เช่น 1:50, 1:100, 1:500 เป็นต้น
    • Balance หมายถึงจำนวนเงินที่คุณมีในบัญชีเทรดของคุณทั้งหมด
    • Equity หมายถึงมูลค่าทั้งหมดของบัญชีเทรดของคุณในขณะนั้น รวมกับ กำไร/ขาดทุน ที่เกิดขึ้น
    • Margin Call คือการเรียกเงินประกันเพิ่ม เกิดขึ้นเมื่อค่า Margin Level ลดลงต่ำกว่าระดับที่กำหนด
    • Cross Rate คืออัตราแลกเปลี่ยนที่เกิดขึ้นระหว่างสกุลเงินที่ไม่ใช่สกุลเงินฐานในคู่สกุลเงิน
    • Spread คือความต่างระหว่างราคาซื้อ (Bid price) และราคาขาย (Ask price)
    • Stop loss (SL) คือการกำหนดระดับราคาปิดออเดอร์นั้น เพื่อลดความเสี่ยงในการสูญเสียเงินที่มากขึ้น
    • Take Profit (TP) คือการกำหนดระดับราคาที่คุณกำหนดไว้เพื่อทำกำไรจากการเทรด
    • Swap หมายถึง “ค่าดอกเบี้ย” ที่เกิดขึ้น เมื่อคุณยังคงถือออเดอร์ซื้อขายของคุณข้ามวัน
    • Correlation หมายถึงแนวโน้มที่คู่สกุลเงินหรือสินทรัพย์จะเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกันหรือตรงกันข้าม ในการขึ้นหรือลง
  1. ชนิดของคำสั่ง BUY–SELL ในการเทรด Forex เช่น Market Order, Limit Order, Stop Order, หรือ Trailing Stop Order เป็นต้น
  2. การเปิดและปิดออเดอร์ ในการเทรด Forex เป็นกระบวนการที่สำคัญในการเข้าทำกำไรในการซื้อขายสกุลเงิน
  3. การคำนวณกำไรหรือขาดทุน ในการเทรด Forex จะขึ้นอยู่กับประเภทของออเดอร์และตำแหน่งที่คุณเปิดในตลาด
  4. คู่เงิน Forex ที่สำคัญ และชื่อเล่น เช่น EUR/USD ชื่อเล่น: Fiber, GBP/USD ชื่อเล่น: Cable, หรือ USD/JPY ชื่อเล่น: Gopher เป็นต้น
  5. การอ่านราคาคู่สกุลเงิน Forex นั้น คือพื้นฐานแรกในการเทรดเลย เราจะขาดทุนหรือกำไรก็ได้จากตัวเลขสองตัวนี้ ระบบการเสนอราคาที่เรียกว่า “Bid – Ask” หรือ “BUY – SELL”
  6. ก่อนจะเริ่มเทรด Forex ควรตั้งสติและมีแนวคิดดังนี้ก่อน คือ อย่าหยุดเรียนรู้เรื่อง Forex, เปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ, สร้างแผนการเทรด, เริ่มต้นเทรดจากเงินทุนที่น้อยก่อน, และควบคุมอารมณ์ตัวเองให้ได้
การเลือกโบรกเกอร์ Forex
การเลือกโบรกเกอร์ Forex คือด่านแรกที่สำคัญ

สรุปบทที่ 4 ด่านแรกที่ต้องผ่านในการเทรด Forex

Normal เนื้อหาธรรมดา คือ การเลือกว่าเราจะตั้งป้อมปราการอันเป็นฐานที่มั่นของเรากับโบรกเกอร์ไหนดี โดยวิธีพิจารณานั้นมีดังนี้

  1. การเลือกโบรกเกอร์ Forex เรื่องที่ควรนำมาพิจารณาคือ ความน่าเชื่อถือ, ระบบการเทรด, ค่าธรรมเนียม, และการ Support ลูกค้า เป็นต้น
  2. Broker มีใบอนุญาติรึเปล่า? ซึ่งคุณสามารถทำตามขั้นตอนได้ ดังนี้ ตรวจสอบที่เว็บไซต์ของหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงิน, ตรวจสอบในฐานข้อมูลของหน่วยงานกำกับดูแล, หรือติดต่อหน่วยงานกำกับดูแลโดยตรง
  3. Support บริการลูกค้าดีไหม มีวิธีการตรวจสอบดังนี้ เข้าสู่เว็บไซต์ของโบรกเกอร์ จะมีช่องทางการติดต่อหรือหน้า Contact Us ซึ่งจะระบุวิธีการติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า แล้วทดลองติดต่อดู
  4. แพลตฟอร์ม & โปรแกรมเทรดออนไลน์ มีอะไรบ้าง มี MT 4-5, cTrader, หรือ IQ Option เอาไว้คอยบริการหรือไม่
  5. การเปิดบัญชีเทรดต้องเตรียมอะไรบ้าง? ควรเตรียมความพร้อมดังนี้ก่อน คือ การวางแผนการเงิน, เปิดบัญชีเทรด, การยืนยันตัวตน, การดาวน์โหลดและติดตั้งแพลตฟอร์มการเทรด
  6. การเปิดบัญชีเทรดออนไลน์ใหม่ กับโบรกเกอร์ Forex มีขั้นตอนดังนี้ เข้าสู่เว็บไซต์ของโบรกเกอร์, ลงทะเบียนหรือเปิดบัญชี, กรอกข้อมูลส่วนตัว, เลือกประเภทบัญชี, ยอมรับเงื่อนไขและข้อตกลง, ยืนยันข้อมูล, ฝากเงินเข้าบัญชีล และเริ่มซื้อขายได้เลย
  7. แนะนำการใช้ MT 4-5 เบื้องต้น นี่คือบางฟังก์ชันที่สำคัญและใช้บ่อยในการเทรดด้วย MetaTrader คือ กราฟแสดงราคา, Technical indicators, Pending orders, การจัดการรายการซื้อขาย, การวิเคราะห์กราฟ, และปรับขนาดออเดอร์ (Lot size)
โปรแกรมเทรดออนไลน์
มีแพลตฟอร์ม & โปรแกรมเทรดออนไลน์หลายอย่างให้เลือกใช้

 

ทีมงาน Forexthai.in.th

แสดงข้อคิดเห็น ให้กำลังใจ

comments