Forexthai.in.th ย่อให้
- Commissions คือค่าธรรมเนียมที่โบรกเกอร์ Forex เรียกเก็บจากเทรดเดอร์ บางครั้งแฝงอยู่ในรูปแบบของ Spread
- Spread คือส่วนต่างระหว่างราคาซื้อและขาย ยิ่งกว้างมากยิ่งเสียค่าธรรมเนียมสูง
- Swap เป็นค่าผลต่างของดอกเบี้ยข้ามคืน สามารถเป็นได้ทั้งบวกและลบ
- การเลือกโบรกเกอร์ควรพิจารณาค่าธรรมเนียมต่างๆ อย่างรอบคอบ เพื่อลดต้นทุนการเทรดในระยะยาว
คำศัพท์ forex ที่น่าสนใจคำต่อไป และมีประโยชน์มากเพราะจะเป็นเครื่องมือในการช่วยประเมินโบรกเกอร์ที่เราเลือกใช้บริการ ว่ามีความจริงใจกับเราขนาดไหน เอาเปรียบเรามากไปไหม? มาดูกันครับกับคำว่า Commissions นั้นมีความหมายว่าอย่างไรกันครับ
สารบัญบทความ click เพื่อเลือกอ่าน !!
ความหมายของ Commissions
Commission คือ ค่าธรรมเนียมที่โบรกเกอร์เรียกเก็บจากเทรดเดอร์ในฐานะผู้ให้บริการในการเทรด ซึ่งโบรกจะได้กำไรจากค่าธรรมเนียมตรงนี้แหละครับ แม้ว่าบางโบรกเขาจะบอกว่าไม่คิดค่า Commission เพราะว่าจริงๆแล้วเค้าได้บวกกับค่า Spread (ค่าส่วนต่างของราคาซื้อและราคาขายของตลาดในขณะนั้น) ไปแล้วนั่นเอง
ซึ่งอาจจะคิดเพียงแค่ $0.1 ต่อการเทรด 1 lot ($100,000) ก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพคล่องทางตลาด (liquidity) หรืออื่น ๆ ตามแต่โบรกเกอร์นั้นๆ จะคิดคำนวณช่องทางรายได้ของเขาครับ
แต่ทั้งนี้ก็มีบางโบรกที่เก็บค่า Commission เพราะว่าค่า Spread ของเค้าน้อย หรือบางโบรกหรือบางระบบบัญชีก็คิดทั้งสองอย่าง….ครับพวกที่ทำงานระบบการเงิน การธนาคาร โบรกเกอร์ ฯลฯ พวกนี้เขาจะสร้างอะไรที่สลับซับซ้อนให้เราตามไม่ทันเสมอๆ อยู่แล้วครับ
แต่อีกนัยหนึ่ง Commissions จะหมายถึง “ค่านายหน้าที่โบรกให้เราเวลาเราหาลูกค้าให้เขาได้” เป็นเงินพิเศษตอบแทนจากโบรกที่คุณนั้นทำการชักชวนคนมาสมัครสมาชิกและทำการเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์นั้น ๆ เช่น ชวนคนมาสมัครเป็นสมาชิกของทางโบรกเกอร์ XM, FBS เป็นต้น
โดยผู้ชักชวนจะได้รับทั้ง % จากการสมัคร และ % จากทุกๆ ยอดเทรดอีกด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการหาเงินเพิ่มขึ้นจากการเทรด Forex ที่คุณควรรู้ สามารถอ่านรายละเอียดได้ที่บทความ “affiliate, IB, partners, รีเบต คืออะไร” ครับ
ความจริงเกี่ยวกับเรื่อง Commissions
ในการเทรด forex นั้นเราจะต้องจ่ายค่าบริการให้โบรกเกอร์ ซึ่งเขาอาจจะเรียกว่าค่า Commissions หรือไม่ก็ได้ ซึ่งโดยรวมทั้งหมดถือว่าสูงมาก เมื่อเทียบกับการซื้อขายหุ้น หรือกองทุนในบ้านเรา ซึ่งมีค่าคอมมิชชั่นจะอยู่ที่ประมาณ 0.2% ของมูลค่าที่ทำการเทรด ดังนั้น
- การที่โบรคเกอร์ forex ส่วนใหญ่ ทำการตลาดโดยอ้างว่า “ฟรีค่าคอมมิชชัน” แต่จริงๆ แล้วมันไม่ฟรี 100% ครับ ซึ่งมันอาจทำให้เราเข้าใจผิดได้
- ในตลาด Forex มีราคาซื้อ (Bid) และราคาขาย (Ask) เหมือนตลาดอื่นๆ ผลต่างระหว่างราคาซื้อและขายเรียกว่า Spread นี่แหละที่เป็นต้นทุนแอบแฝงของเรา
ยกตัวอย่าง EUR/USD ราคา Bid ที่ 1.5157 และ Ask ที่ 1.5160
- ค่า Spread ของ EUR/USD จะเท่ากับ 0.0003 หรือ 3 PIPS
- ถ้าเราทำการเปิด Order ทำการซื้อขณะนั้น เราจะซื้อได้ที่ 1.5160 และ Transaction ของเราจะขึ้นเป็น -3 PIPS ทันที
- ถ้าเราปิดออร์เดอร์ขณะนั้นโดยอัตราแลกเปลี่ยนยังไม่เปลี่ยนแปลง เราจะขายได้ที่ 1.5157 และขาดทุนทันที 0.0003 หรือ 3 PIPS
Spread ยิ่งกว้างค่า Commissions ยิ่งสูง
จากข้อมูลข้างต้น จะเห็นได้ว่าถ้ายิ่ง Spread กว้างมาก เราก็จะต้องจ่ายส่วนต่างนี้มากขึ้นไปด้วย “ส่วนต่างตรงนี้เองที่เป็นรายได้ของโบรกเกอร์” และเราหรือผู้เทรดจำเป็นจะต้องจ่ายทุกครั้งที่เปิด Order และทำการเทรด (จริงๆ ถ้าจริงใจกันจริงๆ เขาควรจะเรียกกันไปเลยตรงๆว่า Commissions Spread ให้ชัดๆไปเลยใช่ไหมครับ นี่แหละคนหัวหมอหัวการเงินเขาคิดและทำกันแบบนี้แหละครับ หุหุ….)
บางคนอาจจะเห็นว่า เสียแค่ 0.0003 จากราคาประมาณ 1.4 นั้นไม่เท่าไหร่เอง… ถ้าคิดเป็น % ก็แค่ประมาณ 0.03% เอง แต่อย่าลืมนะครับว่าการเทรด Forex นั้นมีระบบ Leverage
- ถ้า Leverage ที่ 1:100 นั้นก็เสมือนว่าเราส่งคำสั่งซื้อด้วยเงินทุน 100 เท่าจากเงินทุนจริงของเรา ดังนั้นถ้าเทียบกับเงินทุนจริงของเรา มันจะไม่ใช่แค่ 0.03% แต่มันจะเป็น 3% นั้นเอง
- หรือถ้าเทรดในระบบ Leverage 1:500 จำนวนเงินตรงนี้ก็จะยิ่งสูงขึ้นไปอีกเป็น 15% ของเงินทุนจริงของเรา
คราวนี้จะเห็นชัดเจนเลยใช่ไหมครับ ว่าเขาฟันกำไรไปเหนาะๆขนาดไหน แบบนี้เรียก “เสือนอนกิน” ดีๆนี่เอง
Spread แต่ละโบรกเกอร์ แต่ละคู่เงิน แต่ละบัญชีแตกต่างกัน
Broker แต่ละที่จะมีค่า Spread ที่แตกต่างกันไป แต่ละบัญชีก็แตกต่างกัน รวมไปถึงคู่อัตราแลกเปลี่ยนแต่ละคู่ก็อาจมี Spread ที่แตกต่างกันด้วย หรือแม้กระทั้งคู่สกุลเงินคู่เดียวกัน แต่คนละช่วงเวลา บางโบรคเกอร์ค่า Spread ก็สามารถขึ้นลง และไม่ Fix ด้วยเช่นกัน
**ดังนั้นก่อนเปิดใช้บริการของโบรคเกอร์ ควรตรวจสอบค่า Spread ของโบรคเกอร์นั้นๆ ให้ดีก่อนนะครับ รวมไปถึงระบบ Spread ของโบรคเกอร์นั้น ๆ ว่าเป็นแบบ Fix คงที่ หรือเปลี่ยนแปลงได้
- ในกรณีที่ใช้บริการของโบรคเกอร์ที่ไม่ Fix ค่า Spread ก่อนทำการเทรดทุกครั้ง ต้องตรวจสอบค่า Spread ในขณะนั้นก่อนส่งคำสั่ง ซื้อ-ขาย เพราะถ้ารีบร้อนเกินไป กลัวไม่ได้ราคาที่ลงไว้โดยไม่ได้ตรวจสอบ Spread ให้ดีๆ เมื่อคุณเข้าเทรดไปแล้วอาจจะตกใจภายหลังได้ครับ
- ค่า Spread ก็เป็นจุดสำคัญจุดหนึ่งที่สามารถลดค่าใช้จ่ายของเราได้ ถึงแม้มันจะน้อยเมื่อเทียบกับราคาที่วิ่งขึ้น-วิ่งลง ของอัตราแลกเปลี่ยน แต่ถ้าเราประหยัดตรงนี้ได้ แค่ 1-2% ต่อการเทรดแต่ละครั้ง แต่รวมๆ หลายๆ ครั้งก็เป็นจำนวนเงินไม่ใช่น้อยๆ เลยนะครับ
ดังนั้นที่ว่าโบรกเกอร์ Forex หลายโบรกเกอร์ ได้โฆษณาว่าฟรี Commission นั้นโปรดเช็คค่าอื่นๆด้วย เช่น ค่า Spread เป็นต้นครับ
Swap : คำอีกคำที่เกี่ยวกับคอมมิชชั่น
ค่า Swap (อ่านว่า สวอป) คือค่าผลต่างของอัตราดอกเบี้ย overnight interest บางทีก็เรียก Rollover ตามคู่เงินที่เราเทรด โดยค่า Swap มีทั้งแบบ Debit or Credit คือมีค่าทั้งบวกและลบ เช่น ถ้าเรา Buy EUR/USD เราก็จะได้ค่าดอกเบี้ยของการถือออเดอร์ข้ามคืน แต่ถ้าเรา Sell เราก็จะเสียในส่วนนี้
แล้วมันคิดยังไง?
- โบรกเกอร์จะคิด Swap ทุกวันตอนประมาณตี 4 – ตี 5 ตามเวลาบ้านเรา
- แต่ละโบรกเกอร์อาจมีเวลาต่างกันนิดหน่อย แล้วแต่เวลาของ Server ในแต่ละโบรกเกอร์
- ถ้าคุณไม่ต้องการให้มีค่า Swap ที่เป็นลบเกิดขึ้นกับคุณ ให้พึงระวังในการเปิดออเดอร์ข้ามคืน โดยเฉพาะการเปิดออเดอร์ที่มีเป็นจำนวนหลายๆสัญญา เป็นต้น
โดย Swap จะคิดค่าที่ 5 PM ตามเวลาของ New York ตั้งแต่เวลาเปิดจนกระทั่งตลาดปิด คำนวณแบบวันต่อวัน ซึ่งเวลาช้ากว่าประเทศไทยประมาณ 12 ชั่วโมง โดยทุกจุดที่เข้าเราซื้อ-ขายภายในช่วงเวลา “ก่อน 5PM” จะเกิดค่า overnight interest แต่ถ้าซื้อขายเวลา 5.01 PM จะถูกนับไปเป็นอีกวันหนึ่ง และค่า Swap +/- จะโชว์ขึ้นในบัญชีเทรดหลังจากเวลาปิดตลาดประมาณ 1 ชั่วโมง
อัตราค่า Swap นั้นแล้วแต่ที่โบรกเกอร์ของคุณกำหนดไว้ ส่วนใหญ่คุณจะต้องเสียค่า Swap เล็กน้อยจนถึงมาก โดยที่
- คืนวันเสาร์และอาทิตย์ไม่มีการคิดค่า Swap แต่จะไปทบในคืนวันพุธแทน
- ค่า Swap คืนวันพุธจะมีค่าเป็น 3 เท่าของค่า Swap ปกติ (ซึ่งตรงนี้เองที่หลายคนพลาดแล้วรู้สึกไม่แฟร์) เนื่องจากเป็นการรวบยอดจากคืนวันเสาร์-อาทิตย์มารวมไว้ด้วย
โดยสรุปแล้ว Swap ถือเป็นคอมมิชชั่นแบบหนึ่งที่เป็นทั้งบวกและลบ คือ “เราได้และเราจ่าย” ซึ่งผมได้กล่าวเรื่อง Swap นี้อย่างละเอียดแล้วในบทความ “Swap คืออะไร” ลองเข้าไปอ่านดูได้ครับ
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับโบรกเกอร์
หลายคนมักเข้าใจผิดว่าโบรกเกอร์ Forex พยายามทำให้เราล้างพอร์ตเพื่อที่จะได้เงินจากตรงนั้นทั้งหมด เอาจริง ๆ แล้วโบรกเกอร์ไม่เคยคิดว่าจะให้เราล้างพอร์ตเลยครับ
ทำไมโบรกเกอร์ถึงไม่อยากให้เราล้างพอร์ต?
เหตุผลง่ายๆ เลยคือ ใคร ๆ ก็อยากจะได้กำไรจากเราในระยะยาว ให้เราเทรดไปเรื่อย ๆ และเขาก็กินค่าคอมมิชชั่นไปเรื่อยๆ เช่นกันครับ ดังนั้นไอ้คำที่ว่าลากมาโดน Stop loss แล้วให้ราคาไปอยู่ที่เดิมบ้างล่ะ Stop loss hunter บ้างล่ะ นั่นเป็นความคิดไปเองฝ่ายเดียว
เพราะว่าเขาอยากจะได้รายได้จากเราในระยะยาวมากกว่าที่จะมาคาดหวังเงิน 100 – 200 เหรียญแต่ได้ครั้งเดียวและให้เราเข็ดจนออกจากตลาดไป
บทสรุป ข้อเสนอแนะ
นับเป็นเรื่องยากทีเดียวที่จะทำการเปรียบเทียบแบบหมัดต่อหมด ถึงค่า Commissions และค่าบริการแฝงของแต่ละโบรกเกอร์ นอกจากต้องใช้สติและความละเอียดรอบคอบในการอ่านและคิดตามอย่างถ้วนถี่แล้ว ยังต้องมีความเข้าใจในวิถีทางการเงิน ตลอดจนแนวคิดของเขาอย่างถ่องแท้กันเลยทีเดียว
จึงมีความพยายามจากบรรดาเซียนที่เจนสนาม ได้เรียบเรียง วิเคราะห์เรื่องนี้ไว้หลายๆ เว็บ เกี่ยวกับข้อดี-ข้อเสียของแต่ละโบรกเกอร์ ซึ่งผมอยากจะแนะนำเว็บ www.thaiforexbroker.com เนื่องจากเป็นเว็บที่ติดตามความเคลื่อนไหวของโบรกเกอร์อย่างต่อเนื่อง และผมเห็นว่าเขาวิเคราะห์ออกมาได้ดีทีเดียวครับ ลองเข้าไปอ่านและเลือกสมัครผ่านลิงก์เพื่อเป็นกำลังใจแก่เขาได้
นอกจากจะได้ข้อมูลดีๆ แล้ว อย่างน้อยก็ถือว่าเงินทองจะได้ไม่รั่วไหลไปไหน ไม่ไปทางโบรก (ซึ่งล้วนเป็นของต่างชาติ) เสีย 100 % ยังแบ่งมาให้คนไทยด้วยกันบ้างครับ
ทีมงาน: forexthai.in.th