Forexthai.in.th ย่อให้
- ระบบเทรด Babon: ระบบเทรดตัวนี้ใช้เทมเพลตที่ชื่อ Babon เป็นเครื่องมือช่วยวิเคราะห์ราคาสำหรับการเทรดแบบ Day Trading และ Scalping ด้วย Leverage สูง
- เทมเพลต Babon: แบ่งเป็น 3 เทมเพลตหลักมี Babon-H1 (ดูภาพรวม), Babon-A (เข้าเทรดตามกฎ Classic Babon), Babon-B (ช่วยดูกราฟเพื่อออกเทรด)
- เครื่องมือที่ใช้ในระบบ: คือ TDI ช่วยระบุ Trend และ Signal, Heiken Ashi ช่วยลด Noise ของกราฟ, Ichimoku บ่งชี้แนวโน้มที่แข็งแกร่ง, และ TMA ใช้ระบุทิศทางโมเมนตัมระยะสั้น
- กลยุทธ์การเทรด Babon: ใช้ Price Action เป็นหลัก เงื่อนไขสำคัญ เช่น การเปลี่ยนสีของ Babon Slope และสัญญาณจากแท่งเทียนที่สอง
- การออกจากตลาด: ใช้ Babon Slope และ Ichimoku เป็นตัวช่วยในการพิจารณาออกจากตลาด
ระบบเทรดต่อไปนี้ เป็นระบบเทรดที่เหมาะกับเทรดเดอร์สไตล์ Day trading และ scalping ที่ต้องเทรดด้วย leverage สูง ๆ ซึ่งเป็นกลยุท์ที่มีเทรดเดอร์พิสูจน์มาแล้วว่าสามารถเทรดในตลาด Forex แบบยั่งยืนได้จริง
ชื่อระบบเทรดคือ Babon สามารถใช้เทรดบนช่วงเวลาสั้นสุดที่ M1 ได้ดีทีเดียว ไปทำความรู้จัก ไปล้วงลึกรายละเอียด ไปพิสูจน์กันเลยว่าจะทำได้จริงไหม
สารบัญบทความ click เพื่อเลือกอ่าน !!
ข้อมูลเบื้องต้น
ระบบเทรด Day trading / scalping ด้วย leverage สูง ตัวนี้ ใช้การเทรดด้วยระบบที่เรียกชื่อว่า Babon ซึ่งเป็นการเทรดที่ช่วงเวลา M1 เป็นหลัก เป็นระบบเทรดที่ประกอบด้วยเทมเพลทสามส่วน ได้แก่
- Babon-H1: ใช้สำหรับดูภาพรวมของตลาด เป็นเทมเพลตที่ใช้ TDI Red Green และ Heiken Ashi เป็นตัวบ่งชี้
- Babon-A: ใช้สำหรับดู M1 ซึ่งมีตัวบ่งชี้สามตัว (Babon Slope, TMA M5 และ Ichimoku) ใช้เทมเพลตนี้สำหรับการดู Price Action สำหรับการเข้าเทรดตามกฎของ “Classic Babon”
- Babon-B: ใช้สำหรับดูกราฟที่ M1 เช่นกัน มีตัวบ่งชี้คือ Ichimoku และ TMA สามอัน (TMA M1, TMA M5 และ TMA M15)
วันและเวลาที่ไม่ควรเข้าเทรด
ก่อนอื่นเลย ก่อนที่จะทำการเข้าเทรดในแต่ละครั้ง หรือแม้กระทั่งก่อนที่เราจะเปิดดูกราฟใด ๆ ก็ตาม เราต้องตัดสินใจก่อนว่าเป็นวันและเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเข้าตลาดหรือไม่ หากไม่ใช่ เราก็ไม่ควรเข้าซื้อขาย เพราะถ้าเราไม่รู้ว่าเมื่อใดควรอยู่นอกตลาด โอกาสสูญเสียจะมีมากแน่นอน วันและเวลาที่ไม่ควรเทรดจะดีกว่า คือ
- ในวันหยุดสำคัญ: วันหยุดเช่น วันปีใหม่, วันแรงงาน, วันคริสต์มาส, และวันหยุดธนาคาร เป็นต้น
- ช่วงประกาศตัวเลขสำคัญ: อย่างเช่นประกาศตัวเลข Non-Farm, การประชุมที่สำคัญ และการแถลงข่าวที่สำคัญ (BOJ, Draghi, Bernanke ฯลฯ)
เครื่องมือที่ใช้
ระบบเทรด Babon มีเครื่องมือตัวชี้วัดที่ใช้ทั้งหมด ประกอบไปด้วยเครื่องมือดังต่อไปนี้
- TDI: เป็นตัวบ่งชี้ที่พัฒนาขึ้นมาจาก RSI บอก 3 สิ่ง ได้แก่ Momentum, Trend และ Signal จึงออกมาเป็น เขียว (Momentum), เหลือง (Trend) และแดง (Signal)
- Heiken Ashi: เป็นแท่งเทียนแบบค่าเฉลี่ย มันสามารถลด Noise หรือสัญญาณรบกวนในตลาดได้
- TMA: เป็นตัวบ่งชี้การแจ้งเตือนความลาดชันหรือ TMA Slope Alerts Indicator สามารถระบุทิศทางของโมเมนตัมระยะสั้นได้ดี
- Ichimoku: เป็นตัวบ่งชี้ที่ระบุแนวโน้มที่แข็งแกร่งและสัญญาณสำหรับตลาดกระทิงหรือตลาดหมี
การเตรียมพร้อมก่อนเทรด
เมื่อมีความพร้อมทั้งวันและเวลาที่ดีในการเข้าเทรดแล้ว ให้เตรียมการดังต่อไปนี้ เพื่อให้พร้อมในการเข้าเทรด Forex อย่างมีประสิทธิภาพ
เปิดเทมเพลต Babon ที่ H1
ให้เริ่มต้นด้วยการเปิดเทมเพลต Babon-H1 เพื่อพิจารณา ดังนี้
- เพื่อดูและตีความการเคลื่อนไหวของราคาใน H1
- เพื่อดูและตีความ Heiken Ashi และ TDI
- เพื่อดูและตีความรูปแบบ TMA H1 และ TMA H4
การมองภาพรวมด้วย Price Action
ระบบเทรดตัวนี้ ให้ความสำคัญกับ “ภาพรวม” ยิ่งกว่าแนวโน้มเสียอีก การเทรดที่ M1 จะต้องไม่สวนทางกับแนวโน้ม H1 ตัวอย่างเช่น หากเราเห็น doji หรือ pinbar ใน H1 เราก็ต้องเข้าใจว่าการเทรดใน M1 ก็ต้องมีการระมัดระวังว่าราคาอาจมีการเปลี่ยนแน้วโน้มได้
ทั้งนี้ หมายความว่า Price Action คือราชา เพราะเป็นสิ่งที่กำหนดแนวโน้ม การย่อตัวและการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม ดังนั้น ภาพรวมทั้งหมดโดยส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับ Price Action
การมองภาพรวมด้วย TDI
เพื่อความเข้าใจใน Price Action ของ H1 ให้ง่ายขึ้น ขอให้พิจารณาจากเครื่องมือ TDI และเครื่องมือที่ใช้ ดังนี้
- หากเส้นสีเขียวตัดผ่านเส้นสีแดงขึ้นและ Heiken Ashi เป็นสีขาว: นี่คือแนวโน้มขาขึ้น ยิ่งถ้าการตัดกันดังกล่าวเกิดขึ้นใกล้ระดับ 32 ยิ่งใกล้เท่าไหร่ก็ยิ่งดี
- หากเส้นสีเขียวตัดผ่านเส้นสีแดงลงและ Heiken Ashi เป็นสีแดง: นี่คือแนวโน้มขาลง ถ้าการตัดกันดังกล่าวเกิดขึ้นใกล้ระดับ 68 ยิ่งใกล้เท่าไหร่ก็ยิ่งดี
- เมื่อเส้นสีเขียวในแนวโน้มขาขึ้นถึงระดับ 68: นั่นหมายถึงการวิ่งขึ้นใกล้ถึงจุดสิ้นสุด
- เมื่อเส้นสีเขียวในแนวโน้มขาลงถึงระดับ 32: นั่นหมายถึงการวิ่งลงใกล้ถึงจุดสิ้นสุด
รูปแบบที่สำคัญของเทมเพลต Babon
การวิเคราะห์แนวโน้มราคา Forex ด้วยระบบเทรดของเทมเพลต Babon มีหลักในการพิจารณารูปแบบสำคัญที่เกิดขึ้นต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
รูปแบบ “เส้นกึ่งกลาง”
ให้ตรวจสอบเทมเพลต Babon ที่ H4 ก่อน โดยเส้นขอบด้านบนและด้านล่างของ TMA เป็นสีน้ำตาล และเส้นกึ่งกลางเป็นเส้นประสีขาว ซึ่งเส้นกึ่งกลางของ TMA H4 เส้นนี้ จะถือเป็น แนวรับ – แนวต้าน ที่แข็งแกร่งมาก
เมื่อราคาวิ่งมาถึงเส้นกึ่งกลาง ราคาอาจย้อนหรือทดสอบเป็นหลาย ๆ ชั่วโมงได้ เมื่อเจอรูปแบบนี้ โดยปกติแล้วควรออกจากตลาดไปก่อน แล้วรอจนกว่าจะเกิดการทะลุหรือดีดตัวที่ดี ในกรอบเวลาที่เล็กกว่า
รูปแบบ “การทะลุสองครั้ง”
รูปแบบนี้จะเป็นการบ่งบอกถึงความแรงของราคา ซึ่งเมื่อเกิดขึ้นราคาจะสามารถวิ่งไปต่อได้อีกไกลเลยทีเดียว โดยรูปแบบที่เกิดขึ้นคือ เส้นขอบของ TMA H1 (สีน้ำเงิน) วิ่งไปใกล้เส้นขอบเส้น TMA H4 (สีน้ำตาล) แล้วราคาก็สามารถวิ่งทะลุผ่านได้ทั้งสองเส้น
รูปแบบ “TMA H1 ทะลุ TMA H4”
รูปแบบขอบเส้น TMA H1 ทะลุ TMA H4 จะเป็นเส้นด้านบนหรือด้านล่างก็ตาม แต่ทะลุออกไปแค่เส้นเดียว อย่างนี้คือสัญญาณที่บ่งบอกว่าแนวโน้มอาจจะต้องเปลี่ยนแปลง แต่จะยังไม่ชัดเจน จะยังไม่รู้เลยว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มหรือเป็นเพียงการย่อตัวเท่านั้น
เมื่อเกิดรูปแบบนี้ เราควรอยู่ห่างจากตลาดไว้ก่อน แต่ช่วงเวลานี้อาจกินเวลานานมากเช่นกัน ดังนั้น หากเราต้องการเทรดอย่างมีประสิทธิภาพ ก็ให้ความสำคัญกับ Price Action, Heiken Ashi และ TDI แทน
รูปแบบ “TMA H1 และ TMA H4 สอดคล้องกัน”
รูปแบบนี้ เราจะไม่สนใจความชันของเส้น TMA H1 และ TMA H4 แต่สิ่งที่สำคัญคือราคาต้องวิ่งไปในทิศทางเดียวกันภายใน TMA H1 และ TMA H4 หรือไม่
จากภาพที่นำมาประกอบ แสดงให้เห็นว่า TMA H1 และ TMA H4 สอดคล้องกัน โดยเคลื่อนจากขอบบนไปยังขอบล่าง นี่คือรูปแบบที่ดี เราสามารถคาดหวังการเข้าเทรดได้หลายครั้งในรอบการวิ่งอย่างนี้
การเปลี่ยนไปใช้ M1
หลังจากที่ได้พิจารณารูปแบบราคาในเทมเพลต H4 และ H1 แล้วนั้น ตอนนี้ก็สามารถเริ่มทำงานกับแผนภูมิ M1 ด้วยเทมเพลต Babon-A และ Babon-B ดังนี้
Babon-A:
เป็นเทมเพลตหลักของระบบเทรดตัวนี้ ซึ่งมีตัวบ่งชี้เพียงสามตัว (Babon Slope, TMA M5 และ Ichimoku) ระบบจะใช้เทมเพลตนี้สำหรับการดู Price Action เพื่อดูสัญญาณของ Babon Slope และสำหรับการเข้าเทรดตามกฎของ “Classic Babon”
Babon-B:
เป็นเทมเพลตที่ประกอบด้วย Ichimoku และ TMA สองตัว (TMA M1 และ TMA M5) ซึ่งทำให้การออกของเราง่ายขึ้นมากและมีกำไรมากขึ้น เราใช้เทมเพลตนี้เพื่อดูรูปแบบ TMA สองรูปแบบ (“TMA M1 เหนือคลาวด์ Ichimoku” และ “TMA M1 เหนือ TMA M5”)
เงื่อนไขการเทรดด้วย Babon “แบบคลาสสิก”
สิ่งที่เป็นสัญญาณสำคัญก่อนเข้าเงื่อนไขการเทรดด้วยระบบ Babon แบบคลาสสิก ก็คือการเปลี่ยนสีของเส้น Babon Slope เมื่อมีการเปลี่ยนสีแล้วสัญญาณที่ยืนยันก็คือแท่งเทียนที่สอง ดังนี้
- หากเส้น Babon Slope เปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีน้ำเงิน: “แท่งเทียนสีน้ำเงิน” ที่สองคือแท่งเทียนสัญญาณสำหรับการซื้อ
- หากเส้น Babon Slope เปลี่ยนจากสีน้ำเงินเป็นสีแดง: “แท่งเทียนสีแดง” ที่สองคือแท่งเทียนสัญญาณสำหรับการขาย
สัญญาณซื้อ:
- ราคาจะต้องอยู่เหนือเมฆ Ichimoku: หรือเราสามารถรอให้ราคาเคลื่อนตัวเหนือเมฆได้ แต่ในกรณีนั้น เราสามารถรอได้เพียง 3-4 แท่งเทียน
- ราคาอยู่ในแนวโน้มขึ้น: ดูได้จากการที่ราคาเคลื่อนตัวจากขอบล่างของ TMA M5 ไปยังขอบบนของ TMA M5
- ช่อง TMA M5 จะต้องชันขึ้น: สำหรับสัญญาณซื้อแล้ว ช่องของเส้น TMA M5 จะต้องไม่เคลื่อนตัวลง
- ระยะห่างระหว่างราคาและแถบ TMA M5 บน: ยิ่งระยะห่างมากขึ้นเท่าใด โอกาสในการทำกำไรก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
สัญญาณขาย:
- ราคาจะต้องอยู่ใต้เมฆ Ichimoku: หรือเราสามารถรอให้ราคาเคลื่อนตัวลงใต้เมฆได้ แต่ในกรณีนั้น เราสามารถรอได้เพียง 3-4 แท่งเทียน
- ราคาอยู่ในแนวโน้มลง: ดูได้จากการที่ราคาเคลื่อนตัวจากขอบบนของ TMA M5 ไปยังขอบล่างของ TMA M5
- ช่อง TMA M5 จะต้องชันลง: สำหรับสัญญาณขายแล้ว ช่องของเส้น TMA M5 จะต้องไม่เคลื่อนตัวขึ้น
- ระยะห่างระหว่างราคาและแถบ TMA M5 ล่าง: ยิ่งระยะห่างมากขึ้นเท่าใด โอกาสในการทำกำไรก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
กฎการออกจากเทรด
สำหรับการออกจากการเทรด ไม่ว่าเราจะ Buy หรือ Sell ก็ตาม หากทุกอย่างโอเคและราคาเป็นใจ เราก็สามารถปล่อยไปตามความแข็งแกร่งของแนวโน้มนั้นได้ หากเป็นแนวโน้มปกติ มีกฎของการออกดังนี้
- เมื่อราคาที่ Babon-B M1 ตัดกับแถบบน TMA M1
- หากแนวโน้มดี ให้รออย่างน้อยจนกว่าราคาจะตัดกับ TMA M5
- หากแนวโน้มดีมาก เราสามารถรอจนกว่าราคาจะข้ามเส้น TMA M15
- เมื่อ Babon Slope เปลี่ยนเป็นสีแดง หรือหากราคาลงไปต่ำกว่าเส้น Babon Slope
- เมื่อราคาเข้าไปในกลุ่มเมฆ Ichimoku เราก็ควรออก
หากเมื่อใดก็ตามที่เราเห็นว่าราคาเริ่มวิ่งสวนทางกับเรา เราก็ควรออกจากตลาดด้วยกำไรเล็กน้อยหรือขาดทุนเล็กน้อยจะดีกว่า เพราะท้ายที่สุดแล้วเรายังสามารถเข้าตลาดใหม่ได้เสมอเมื่อสถานการณ์ดีขึ้น
จุดอ่อนของระบบ
แม้ระบบเทรดตัวนี้จะมีข้อดีที่เหมาะกับเทรดเดอร์ที่ต้องการใช้กลยุทธ์แบบ Day Trading และ Scalping แต่ก็มีจุดอ่อนและข้อจำกัดที่ควรพิจารณา ดังนี้
- ความซับซ้อนของระบบ: ระบบ Babon มีหลายเทมเพลตและตัวบ่งชี้ที่ต้องใช้งานร่วมกัน เช่น TDI, Ichimoku, TMA ฯลฯ ซึ่งต้องการความเข้าใจเชิงลึกและประสบการณ์ในการใช้งาน
- การพึ่งพา Leverage สูง: การใช้ Leverage สูงอาจเพิ่มผลกำไร แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินทุนอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง
- ขาดความยืดหยุ่นในบางสถานการณ์: ระบบมีกฎเกณฑ์ค่อนข้างตายตัว เช่น การรอแท่งเทียนที่สองหรือการใช้รูปแบบเฉพาะ หากตลาดไม่ตรงกับรูปแบบเหล่านี้ อาจทำให้พลาดโอกาสเทรดดี ๆ ได้
สรุป
ลักษณะของระบบเทรด Babon ตัวนี้ เหมาะสำหรับการเทรด Day Trading และ Scalping โดยเฉพาะในช่วงเวลา M1 ที่สั้นมาก ระบบแบ่งเป็นสามเทมเพลตหลักโดยดูภาพรวมของตลาด, ดูเพื่อเข้าเทรดตามกฎ, และช่วยดูกราฟเพื่อออกจากการเทรด
การใช้ระบบเทรดตัวนี้ มีข้อควรหลีกเลี่ยงในการเทรดที่สำคัญคือไม่ควรเทรดในวันหยุดสำคัญ เช่น วันปีใหม่, วันคริสต์มาส เป็นต้น รวมทั้งควรหลีกเลี่ยงการเทรดช่วงประกาศตัวเลขสำคัญอีกด้วย
โดยรวมแล้วระบบเทรดตัวนี้ เน้นที่ความสำคัญของการวางแผนและปฏิบัติตามกฎการเทรดอย่างเคร่งครัดเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในตลาด Forex ด้วย Leverage ที่สูง และกำหนดวิธีการเข้าเทรดที่ปลอดภัย ระบบเทรดนี้จึงเหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์มากกว่าเทรดเดอร์มือใหม่นะครับ
อ้างอิง
ด้านล่างนี้คือลิงค์สำหรับการดาวน์โหลดเทมเพลตของระบบเทรด Babon ไปใช้งาน สำหรับเทรดเดอร์ที่สนใจ
- Babon A. tpl
https://www.forexfactory.com/attachment/file/1174668?d=1366124588
- Babon B. tpl
https://www.forexfactory.com/attachment/file/1174669?d=1366124603
- Babon H1.tpl
https://www.forexfactory.com/attachment/file/1174670?d=1366124620
ทีมงาน: forexthai.in.th