Forexthai.in.th ย่อให้
- ระบบเทรด 4H ไม่มี SL: เป็นระบบการเทรดที่เทรดตามเทรนด์ในไทม์เฟรม 4 ชั่วโมงขึ้นไปและไม่มีการตั้งจุดตัดขาดทุน
- หลักการเทรดเบื้องต้น: ใช้เส้น EMA 5 ในการดูแนวโน้มของตลาดและเปิดออเดอร์ตามแนวโน้มที่เกิดขึ้น
- เครื่องมือที่ใช้: เส้น EMA
- ข้อดี: มีจำนวนการเทรดที่สูง, เป็นระบบเทรดที่ทนต่อการขาดทุนได้
- ข้อเสีย: ต้องถือออเดอร์นาน , คุมความเสี่ยงไม่ดีมีโอกาสขาดทุนสูงถึงขั้นพอร์ตแตก
การเทรดไม่มี Stop Loss (SL)
สิ่งหนึ่งที่เราถูกเน้นย้ำมาเสมอเมื่อเราเข้าสู่ตลาดการเทรดไม่ว่าจะเป็นตลาดใดก็ตามนั่นก็คือความเสี่ยง หลาย ๆ ระบบเทรดจึงถูกเน้นย้ำว่าก่อนที่จะตั้งจุดทำกำไรให้มีการตั้งจุดตัดขาดทุน (SL) ให้แน่นอนเพื่อลดโอกาสการพอร์ตแตก แต่ก็ต้องยอมรับว่าในโลกใบนี้ยังมีระบบเทรดอีกตั้งหลายระบบที่ไม่จำเป็นต้องตั้งจุดตัดขาดทุนก็สามารถสร้างกำไรได้ แต่นั่นก็ต้องมาพร้อมกับการบริหารความเสี่ยงที่เป็นอย่างดี

ข้อดีของการเทรดไม่มี SL
- การเทรดจะไม่มีวันขาดทุน (Realized Loss)
- มีช่องว่างให้ราคาเกิดความผันผวน
ข้อเสียของการเทรดไม่มี SL
- มีโอกาสขาดทุนหนักหากมีการเปิดออเดอร์สวนแนวโน้มของตลาด
- มีโอกาสพอร์ตแตกสูง
- ต้องรับความกดดันจากการขาดทุน
วิธีบริหารความเสี่ยงเมื่อต้องเทรดแบบไม่มี SL
- ใช้จำนวนล็อตขนาดเล็กเพื่อให้มีความเสี่ยงต่ำอย่างน้อย 0.01
- ค่อยๆปรับจำนวนล็อตเพิ่มเมื่อพอร์ตเริ่มเติบโตขึ้น
- ในกรณีที่เทรดบนโบรกเกอร์ที่มีค่า Swap ควรเทรดก็ต่อเมื่อค่าเป็นบวกเท่านั้น
- ไม่ควรใช้ Leverage เพราะจะทำให้มีโอกาสพอร์ตแตกได้ไวมากขึ้น
- ไม่เปิดออเดอร์เทรดหลายออเดอร์มากเกิน (มากสุด 5 ออร์เดอร์)
หลักการเทรดเบื้องต้น
ระบบเทรดนี้เป็นระบบเทรดในไทม์เฟรม 4 ชั่วโมง โดยเราจะใช้เส้น EMA 5 ในการดูเทรนด์ระยะสั้นและเทรดในทิศทางเดียวกับแนวโน้มโดยที่ไม่มีการตั้ง Stop loss ที่สำคัญคือเราจะเทรดในคู่เงิน EUR/USD
เครื่องมือที่ใช้เทรด
- EMA 5 1 เส้น
EMA 5

เส้น EMA 5 เป็นเส้น MA ที่คำนวณโดยใช้แท่งเทียน 5 แท่งย้อนหลัง ทำให้มีการตอบสนองไวต่อราคาและบอกทิศทางของเทรนด์ในระยะสั้นได้ดี
การใช้งาน EMA 5
- ถ้ากราฟอยู่เหนือ EMA 5 แสดงว่ามีแนวโน้มขาขึ้น
- ถ้ากราฟอยู่ใต้ EMA 5 แสดงว่ามีแนวโน้มขาลง
- ใช้เป็นแนวรับแนวต้านระยะสั้น
เงื่อนไขการเทรดขาขึ้น
1. กราฟ 4 ชั่วโมงปิดเหนือ EMA 5
2. เปิดออเดอร์ Buy
3. ไม่ต้องตั้ง Stop loss
4. ตั้ง Take profit 15-20 pips
เงื่อนไขการเทรดขาลง
1. กราฟ 4 ชั่วโมงปิดใต้ EMA 5
2. เปิดออเดอร์ Sell
3. ไม่ต้องตั้ง Stop loss
4. ตั้ง Take profit 15-20 pips
ข้อดีและข้อเสียของ ระบบเทรด 4H ไม่มี SL

ข้อดีของระบบเทรด
- เป็นระบบเทรดที่เน้นเก็บกำไรสั้น ๆ ตามเทรนด์ระยะสั้น
- มีโอกาสเทรดบ่อยครั้ง
- เป็นระบบเทรดที่ทนต่อการขาดทุนได้
- คุมความเสี่ยง ไม่มีการใช้ Leverage

ข้อเสียของระบบเทรด
- เป็นระบบเทรดที่ต้องถือออร์เดอร์นาน
- มีโอกาสขาดทุนสูงถ้าเทรดเดอร์ต้องการ Cut loss
- มีโอกาสพอร์ตแตก
- จุดเก็บกำไรค่อนข้างสั้นบางครั้งอาจได้ไม่คุ้มเสีย
คำแนะนำการใช้ระบบเทรด

- ควรเทรดในคู่เงินที่มีค่า Spread ต่ำ เพิ่มโอกาสที่จะทำกำไร
- ไม่เปิดออเดอร์เยอะมากเกินไปเพราะจะทำให้มีความเสี่ยงมากขึ้น
- ควรใช้ Risk Rewrad Ratio เข้ามาช่วยในการคุมความเสี่ยง โดยเฉพาะเมื่อนำไปเทรดกับคู่เงินอื่น ๆ
- ไม่ควรเทรดในไทม์เฟรมเล็กเพราะจะมีความผันผวนสูง
- เทรดเฉพาะฝั่งที่มีค่า swap เป็นบวกเท่านั้นเพื่อนำดอกเบี้ยการถือออร์เดอร์ข้ามคืนมาเพิ่มเป็นผลกำไร
- ต้องนำไป Back Test ก่อนใช้งานจริงเพราะการเทรดโดยที่ไม่วางจุดตัดขาดทุนนั้นถือว่าเป็นระบบเทรดที่มีความเสี่ยงสูงมากถึงแม้ว่าจะมีการคุมความเสี่ยงดีแค่ไหนก็ตาม
สรุป
ระบบเทรด 4H ไม่มี SL เป็นระบบเทรดสำหรับไทม์เฟรมใหญ่อย่าง 4 ชั่วโมง ระบบนี้ต้องการความแน่นอนของตลาดสูงเพราะว่าเป็นระบบที่ไม่มีการตั้งจุดตัดขาดทุน ถึงแม้จะมีการคงความเสี่ยงโดยการไม่ใช้ Leverage และไม่เปิดออเดอร์เทรดเยอะ แต่ก็ยังมีโอกาสขาดทุนในกรณีที่ตลาดวิ่งไปในทิศทางตรงกันข้ามกับที่คาดการณ์เอาไว้ แถมการตั้งจุดทำกำไรก็ค่อนข้างสั้นเรียกว่าเป็นระบบเทรดที่เน้นสร้างอัตราการชนะที่สูง แต่มีความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่ต่ำ
คนที่จะใช้งานระบบเทรดนี้ต้องมีความใจเย็นพอสมควรและยอมรับความเสี่ยงได้ บางครั้งต้องเปิดออร์เดอร์ข้ามคืนหรือข้ามสัปดาห์เพื่อรอให้ราคาวิ่งมาชนจุดทำกำไร สำหรับผู้ที่จะใช้งานระบบเทรดนี้แนะนำว่าต้องนำไป Back Test ในคู่เงินที่ต้องการเทรดก่อนนะครับ และที่สำคัญต้องหาวิธีการคุ้มความเสี่ยงที่เหมาะกับตัวเองให้ได้ เพื่อให้ระบบเทรดมีความเสถียรมากขึ้นครับ
ทีมงาน: forexthai.in.th