Forexthai.in.th ย่อให้
- Channel Pattern เป็นรูปแบบกราฟที่เกิดจากการเคลื่อนที่ของราคาในกรอบ โดยมีแนวรับและแนวต้านเป็นตัวกำหนดระยะ
- ง่ายต่อการคาดการณ์จุดเข้า-ออก ใช้ทำกำไรได้ทั้งในตลาดขาขึ้นและขาลง
- แบ่งเป็น 3 รูปแบบ ได้แก่: Horizontal Channel, Bullish Channel และ Bearish Channel
- จุดเข้าเทรดที่เหมาะสมคือเมื่อราคากลับมาทดสอบแนวรับ/แนวต้านครั้งที่ 3 พร้อมสัญญาณยืนยัน
- การทำกำไรด้วย Channel Pattern ต้องมีวินัยในการวางแผน ตั้ง Stop Loss ทุกครั้ง และควรเทรดตามแนวโน้มหลักเพื่อความปลอดภัย
Channel Patten คือ อีกหนึ่งรูปแบบของกราฟที่เกิดขึ้นบ่อย หรือแทบจะเกิดขึ้นได้ทุกช่วงราคา เทรดเดอร์หลายคนมองข้ามโอกาสทำกำไรในช่วงที่ตลาด Sideway แต่จริง ๆ แล้ว Channel Pattern เป็นรูปแบบกราฟที่สร้างกำไรได้ดีไม่แพ้ช่วงที่ตลาดมีเทรนด์ชัดเจน แถมยังเข้าใจง่าย เหมาะกับทั้งมือใหม่และมือเก่า
แต่การจะทำกำไรได้ดีต้องมีแผนการเทรดที่ชัดเจน มีระบบ กรอบราคาเป็นแพทเทิร์นที่ง่าย และใช้ได้ดี จะใช้ไม่ดีเฉพาะคนที่ไม่มีแผนเท่านั้น แม้จะเป็นเรื่องง่าย ๆ แต่ถ้าไม่วางแผน นั่นคือการวางแผนที่จะล้มเหลว
Channel Pattern คืออะไร ?
กรอบราคา หรือ Channel Pattern คือ รูปแบบที่ราคาเคลื่อนที่ซ้ำ ๆ ใน “กรอบที่กำหนดระยะของการเคลื่อนที่ชัดเจน” ส่วนใหญ่การเทรด จะเป็นการเทรดจากพฤติกรรมของกราฟ ที่ทำรูปแบบเดิมซ้ำ ๆ แล้วคาดการณ์ระยะที่กราฟจะเคลื่อนที่
ต่างจากการเทรดด้วย Chart Pattern ทั่วไปที่มักรอจังหวะ Breakout แล้วค่อยเข้าเทรด การเทรดใน Channel จะอาศัยการเด้งตัวของราคาระหว่างแนวรับและแนวต้านเป็นตัวกำหนดระยะในการเคลื่อนที่ หรือตั้งเป้าของราคาแทน
ใช้เครื่องมือง่าย ๆ ก็ทำกำไรแบบง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน
ข้อดีของ Channel Pattern:
- เกิดขึ้นบ่อยในทุกช่วงตลาด
- มีจุดเข้า-ออกที่ชัดเจน
- คำนวณเป้าหมายกำไรได้ง่าย
- บริหารความเสี่ยงได้แม่นยำ
- ใช้เครื่องมือไม่กี่อย่างก็เทรดได้
Horizontal Channel Pattern คืออะไร ?
Horizontal Channel เป็น Pattern ที่มาจากแนวรับแนวต้าน เป็นรูปแบบที่พบบ่อยที่สุด สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกช่วงของราคา ไม่ว่าจะเป็นก่อนการกลับตัว หรือช่วงพักตัว โดยราคาจะเคลื่อนที่ออกข้างอยู่ในกรอบแนวราบ หรือที่เรามักจะเรียกว่า รูปแบบ Sideway นั่นเอง บ่อยครั้งที่เทรดเดอร์รอเพียงจังหวะที่ราคามีแนวโน้ม จึงทำให้พลาดโอกาสในการทำกำไรช่วงนี้ไป ทั้งที่จริงแล้วในตลาด forex จะมีการวิ่งแบบ sideway คิดเป็น 80% เลยทีเดียวครับ
การสร้างรูปแบบ Horizontal Channel Pattern

ไม่ว่าจะเป็นตลาดในแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง หรือช่วงพักตัว ราคาไม่สามารถเคลื่อนที่ไปต่อได้
- รอให้ราคาสร้างแนวรับหรือแนวต้านอย่างน้อย 2 จุด (ราคามาเทสบริเวณใดบริเวณหนึ่งถึง 2 ครั้ง)
- ลากเส้นขนานเพื่อสร้างกรอบบนและล่าง
- ราคาเคลื่อนที่อยู่เพียงในกรอบเท่านั้น ใช้จังหวะที่ 3 ในการเข้าเทรด
กรอบบนกรอบล่างสร้างขึ้นอย่างมีนัยยะ ใช้โอกาสนี้
Trade Setup ด้วย Horizontal Channel Pattern

- เมื่อราคาเคลื่อนที่ออกข้าง และสร้างกรอบราคาขึ้นมา รอราคามาเทสแนวรับ/ต้านครั้งที่ 3 ให้ทำการ Buy หรือ Sell
- Stop Loss ใต้หรือเหนือกรอบ ของออเดอร์ Buy หรือ Sell
- Target แนวรับหรือแนวต้าน ของกรอบราคาอีกฝั่งหนนึ่ง
ข้อควรระวัง
การเทรดอยู่ในกรอบ ไม่ว่าจะเป็นช่วงพักตัว หรือการเปลี่ยนแนวโน้ม เทรดเดอร์จะไม่มีทางรู้ว่ากรอบนั้นเกิดขึ้นด้วยสาเหตุหรือปัจจัยอะไร ดังนั้น กราฟมีโอกาสจะไปต่อ นั่นหมายความว่า เรากำลังเล่นแบบสวนเทรนด์อยู่ ควรมีการตั้ง Stop Loss ทุกครั้งเพื่อจำกัดความเสี่ยง และ “เน้นเทรดตามทิศทางเทรนด์หลักจะปลอดภัยกว่า” ไม่จำเป็นที่จะต้องเทรดทั้ง Buy และ Sell
Bullish Channel Pattern คืออะไร?
Bullish Channel เป็นรูปแบบที่เกิดในแนวโน้มขาขึ้น โดยใช้ “เส้นแนวโน้มหรือเทรนด์ไลน์” และกรอบราคาที่วัดระยะของการเคลื่อนที่ เข้า Buy เมื่อราคากลับมาเทสเส้นเทรนไลน์เป็นครั้งที่ 3
การสร้างรูปแบบ Bullish Channel Pattern

ในแนวโน้มขาขึ้น ราคาอาจจะเคลื่อนที่ด้วยการสวิงหรือมีการเหวี่ยงตัวรุนแรง แต่เมื่อไร่ก็ตามที่ราคาสร้างสวิงในระยะเดิมซ้ำ ๆ สามารถตีกรอบราคา หรือคาดการณ์การเคลื่อนที่ของราคาได้
- รอให้ราคาสร้างจุดต่ำและจุดสูงใหม่อย่างน้อย 2 ครั้ง
- ลากเส้นเทรนด์ไลน์เชื่อมจุดต่ำ ลากเส้นขนานผ่านจุดสูงเพื่อสร้างกรอบบน
- เมื่อมีการย้อนกลับมาเทสกรอบล่างเป็นครั้งที่ 3 ก็จะถือเป็นจุดเข้า Buy ตามแนวโน้ม
Trade Setup ด้วย Bullish Channel Pattern

- เมื่อราคาย้อนกลับมาเทสเส้นเทรนด์ไลน์เป็นครั้งที่ 3 และมีสัญญาณอย่างใดอย่างหนึ่งยืนยันเช่น แท่งเทียนกลับตัว ให้ทำการเข้า Buy
- Stop Loss ใต้กรอบ หรือใต้เส้นเทรนด์ไลน์
- Target แนวต้าน ของกรอบราคาอีกฝั่งหนึ่ง
ไม่ว่าจะแนวโน้มไหน ก็ทำกำไรได้เหมือนกัน
Bearish Channel Pattern คืออะไร?
Bearish Channel เป็น Pattern ในแนวโน้มขาลง โดยใช้เส้นแนวโน้มหรือเทรนด์ไลน์ และกรอบราคาที่วัดระยะของการเคลื่อนที่ เข้า Sell เมื่อราคากลับขึ้นไปเทสเส้นเทรนไลน์เป็นครั้งที่ 3
การสร้างรูปแบบ Bearish Channel Pattern

Bearish Channel คล้ายกับ Bullish แต่เกิดในแนวโน้มขาลง ราคาอาจจะเคลื่อนที่ด้วยการสวิงหรือมีการเหวี่ยงตัวรุนแรง
- รอให้ราคาสร้างจุดสูงและจุดต่ำใหม่อย่างน้อย 2 ครั้ง
- ลากเส้นเทรนด์ไลน์เชื่อมจุดสูง ลากเส้นขนานผ่านจุดต่ำเพื่อสร้างกรอบล่าง
- เมื่อมีการย้อนกลับไปเป็นเทสกรอบบนครั้งที่ 3 ให้ทำการ Sell ตามแนวโน้ม
Trade Setup ด้วย Bearish Channel Pattern

- เมื่อราคาย้อนกลับขึ้นไปเทสเส้นเทรนด์ไลน์เป็นครั้งที่ 3 และมีสัญญาณอย่างใดอย่างหนึ่งยืนยันเช่น แท่งเทียนกลับตัว ให้ทำการเข้า Sell
- Stop Loss เหนือกรอบ หรือเหนือเส้นเทรนด์ไลน์
- Target แนวรับ ของกรอบราคาอีกฝั่งหนึ่ง
คนสำเร็จไม่ใช่เก็บราคาได้มากเท่าไหร่ แต่อยู่ในตลาดได้นานเท่าไหร่ต่างหาก
สรุป
การเทรดด้วย Channel Patten เป็นการเทรดเมื่อราคาอยู่ในกรอบ โดยมีที่มาจากเส้นแนวรับแนวต้านและเส้นเทรนด์ไลน์ โดยการเพิ่มกรอบราคาเข้าไปเพื่อคาดการณ์การเคลื่อนที่ตามระยะที่ได้สร้างเอาไว้ก่อนหน้า เป็นรูปแบบที่เกิดขึ้นบ่อย เกิดขึ้นซ้ำ ๆ และทำกำไรได้จริง แต่จะต้องมีวิธีการเทรดอย่างมีระบบจึงจะสามารถทำกำไรได้ดี
รู้อย่างนี้แล้ว ลองนำไปฝึกเทรดกันดูครับ ทำตามระบบอย่างมีวินัย ได้ผลลัพธ์ที่ดีอย่างแน่นอน
เก็บกำไรทีละคำ ไม่รวยในสักวันให้มันรู้ไป
ทีมงาน: forexthai.in.th