







หากพูดถึงโบรกเกอร์ Forex ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในหมู่เทรดเดอร์ชาวไทยและทั่วโลก Exness คือชื่อที่ถูกกล่าวถึงเป็นอันดับต้น ๆ ด้วยชื่อเสียงด้าน
- ความน่าเชื่อถือสูง – คะแนนรีวิวและประวัติการดำเนินงานดีเยี่ยม
- ฝาก-ถอนดีที่สุด – ค่าธรรมเนียมต่ำ เร็ว ไม่มีข้อจำกัดเรื่องวันทำการ
- ต้นทุนการเทรดต่ำ – Spread ต่ำ ค่าคอมมิชชั่นสมเหตุสมผล
- ความเร็วการเทรดอันดับ 1 – ไม่มีดีเลย์ ไม่มี Requote
- ตราสารให้เลือกเยอะมาก – โดยเฉพาะคู่เงินที่หลากหลาย
ทำให้ Exness กลายเป็นโบรกเกอร์ที่ตอบโจทย์นักเทรดทุกระดับ ตั้งแต่มือใหม่ไปจนถึงมืออาชีพ แต่ Exness ดีจริงหรือ? และเมื่อเปรียบเทียบกับโบรกเกอร์อื่น ๆ แล้ว Exness มีข้อได้เปรียบตรงไหนบ้าง? บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึก จุดเด่นของ Exness พร้อมเปรียบเทียบข้อดีเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์คู่แข่ง เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกโบรกเกอร์ที่ดีที่สุดสำหรับการเทรดของคุณได้อย่างมั่นใจ!
ข้อมูลสำคัญของ Exness
- ก่อตั้ง: ปี 2008
- ใบอนุญาต: FCA, CySEC, FSA
- เวลาฝากเงิน: น้อยกว่า 5 นาที
- เวลาถอนเงิน:น้อยกว่า 24 ชั่วโมง
- Leverage สูงสุด: ไม่จำกัด
- ฝากขั้นต่ำ: $10 (330 บาท)
- Spread EUR/USD เริ่มต้น: 0.0 pips
เปิดบัญชี Exness ฟรี
เปิดบัญชีง่าย ใช้เวลาเพียง 5 นาที ไม่มีค่าธรรมเนียม
ระบบฝาก-ถอนที่ดีที่สุด
- ติดอันดับ Top 5 ของโบรกเกอร์ที่มีการฝากถอนดีที่สุด
- เรทค่าธรรมเนียมฝาก-ถอนต่ำมาก (0.11%)
- ฝากขั้นต่ำเพียง 330 บาท ต่ำกว่าหลายโบรกที่ต้องใช้เงินฝากเริ่มต้นสูง เช่น FxPro (2000 บาท) และ Tickmill (1780 บาท)
- ถอนได้สูงสุดต่อครั้งถึง 594,000 บาท ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์อื่น ๆ
- รองรับการฝากถอนในวันเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบสำคัญเหนือโบรกเกอร์ที่จำกัดการถอนเฉพาะวันธรรมดา
ความเร็วในการเทรดสูง
- เร็วที่สุดในการเปิด-ปิดออเดอร์ (04ms) เมื่อเทียบกับ Eightcap (157ms), IUX (211ms) และ FBS (265ms)
- ไม่มี Requote หรือคำสั่งล่าช้า สร้างประสบการณ์การเทรดที่ราบรื่น
ความหลากหลายของตราสาร
- มีคู่เงินให้เทรดถึง 124 คู่ ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในตลาด (Pepperstone มี 93 คู่, XM มี 55 คู่)
- มีสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities) ให้เลือกมากถึง 19 รายการ
- ดัชนีให้เลือก 11 รายการ ซึ่งอาจจะน้อยกว่า Pepperstone (26 รายการ) แต่ยังคงครอบคลุมกลุ่มดัชนียอดนิยม
ค่าธรรมเนียมต่ำและต้นทุนการเทรดดี
- มีต้นทุนรวม (Spread + Commission) ที่ ต่ำกว่าโบรกเกอร์ส่วนใหญ่
- มีการกำหนดค่าธรรมเนียมการเทรดที่ โปร่งใส
- ค่าธรรมเนียม Swap มีความสมเหตุสมผลและสามารถแข่งขันได้กับโบรกอื่น ๆ
ความน่าเชื่อถือสูงและได้รับความนิยมมาก

- คะแนนความน่าเชื่อถือสูงสุด (10/10) เทียบเท่าโบรกเกอร์ชั้นนำอย่าง XM และ Pepperstone
- ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2008 ถือว่ามีประสบการณ์ยาวนาน
- ยอดผู้เข้าชมเว็บไซต์สูงมาก (406,296 ครั้ง จาก Ubersuggest) เป็นหนึ่งในโบรกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก
- คะแนนรีวิวจาก Trustpilot สูงถึง 4.7/5 ซึ่งสูงกว่าคู่แข่งหลายราย เช่น XM (5) และ FxPro (3.8)
- CEO มีคะแนนความน่าเชื่อถือสูง (9/10) สะท้อนถึงความโปร่งใสของบริษัท
ข้อมูลเชิงเทคนิคที่เทรดเดอร์ต้องรู้
ใครที่เป็นสายเทรดตัวจริงอาจจะชอบข้อมูลเหล่านี้ก็ได้ครับ เพราะมันเป็นข้อมูลที่เชิงเทคนิคที่มีคุณภาพจริงๆและสามารถใช้ในการเทรดได้ค่อนข้างเยอะ มันจะมีอะไรกันบ้างไปดูครับ
ประเภทบัญชีและค่าธรรมเนียมการเทรด
ประเภทบัญชี | สเปรดเริ่มต้น | ค่าคอมมิชชั่น | เหมาะสำหรับ |
---|---|---|---|
Standard | 0.9 pip | ไม่มี | เทรดเดอร์ทั่วไป, มือใหม่ |
Cent | 0.9 pip | ไม่มี | เทรดเดอร์ที่ต้องการทดลองระบบ |
Pro | 0.6 pip | ไม่มี | เทรดเดอร์มืออาชีพ |
Zero | 0.0 pip | เริ่มต้น $7/lot | Scalping, เทรดข่าว |
Raw Spread | 0.0 pip | $7/lot | Scalping, EA |
Leverage และเงื่อนไขการใช้งาน
Exness มี Leverage ไม่จำกัด ซึ่งช่วยให้เราสามารถเปิดออเดอร์ใหญ่ด้วยเงินทุนเพียงเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม Leverage อาจถูกปรับลดอัตโนมัติในบางกรณีครับ
ระดับ Leverage | เงื่อนไขการใช้งาน |
---|---|
ไม่จำกัด | บัญชีมี Equity ต่ำกว่า $1,000 และเทรดล็อตต่ำ |
34:20:00 | Equity สูงกว่า $1,000 |
9:20 | Equity สูงกว่า $5,000 |
4:20 | Equity สูงกว่า $10,000 |
แต่ๆๆ Leverage อาจถูกลดลงชั่วคราวในกรณีต่อไปนี้นะ
- ก่อนข่าวเศรษฐกิจสำคัญ เช่น NFP, FOMC
- ก่อนตลาดปิดวันศุกร์
- เทรดสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น คริปโต เป็นต้น
เงื่อนไข Spread และ Slippage
- คู่เงินหลัก (EUR/USD, GBP/USD, USD/JPY) → Spread ต่ำสุดที่ 0.0 pip
- ทองคำ (XAU/USD) → Spread ต่ำสุด 0.0 pip ในบัญชี Zero
- คริปโต (BTC/USD) → Spread เริ่มต้น 1206 จุดในบัญชี Raw Spread
- Slippage อาจเกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง เช่น ช่วงข่าวแรง

Tips การลด Slippage : ให้เลือกใช้บัญชี Raw Spread หรือ Zero ที่มีค่า Spread ต่ำ หรือ ถ้าเราใช้บัญชีธรรมดา ให้เราหลีกเลี่ยงการเทรดช่วงแรงกล่องแดง หรือ ข่าวสำคัญๆ ที่เคล็ดลับสุดท้ายคือให้ใช้ Pending แทน Market order (อันนี้พอจะช่วยได้บ้าง) ที่เหลือก็แล้วแต่ดวง
Swap และค่าธรรมเนียมถือออเดอร์ข้ามคืน
Swap คือ ค่าธรรมเนียมที่คิดเมื่อถือออเดอร์ข้ามคืน โดยอัตรา Swap จะแตกต่างกันไปตามสินทรัพย์ที่เทรด
- Forex: มีค่า Swap ต่ำ เหมาะสำหรับถือออเดอร์ระยะกลาง
- ทองคำ (XAU/USD): Swap ต่ำในบัญชี Standard แต่สูงขึ้นในบัญชี Zero
- Bitcoin (BTC/USD): Swap ค่อนข้างสูง ควรระวังก่อนถือข้ามคืน
- คลิ๊กเพื่อดูค่า Swap และต้นทุนการเทรดของ Exness
ความเร็วในการส่งคำสั่ง (Execution Speed)
ประเภทคำสั่ง | ความเร็วเฉลี่ย |
---|---|
เปิดออเดอร์ | 127.04 ms |
ปิดออเดอร์ | 122.75 ms |
เลื่อน Stop Loss / Take Profit | 0.04 วินาที |
เท่าที่เทรดมาหลายเดือนยังไม่พบ Requote หรือการปฏิเสธคำสั่ง (Rejection) ซึ่ง Exness เหมาะกับ Scalping และเทรดข่าว เพราะความเร็วสูงครับ
ระบบการฝาก-ถอนเงิน และค่าธรรมเนียม
Exness เป็นโบรกเกอร์ที่ฝาก-ถอนเร็วที่สุด และ ไม่มีค่าธรรมเนียมฝากถอนสำหรับช่องทางยอดนิยม
ช่องทางฝากถอน | ระยะเวลาดำเนินการ | ค่าธรรมเนียม |
---|---|---|
Thai QR Payment | ทันที | ไม่มี |
Online Banking | ไม่เกิน 1 วัน | ไม่มี |
BinancePay | ภายใน 5 นาที | ไม่มี |
Crypto Wallet | ภายใน 24 ชั่วโมง | มีค่าธรรมเนียม Blockchain |
สิ่งที่ประทับใจอีกอย่างคือ ฝากขึ้นต่ำแค่ $1 เอง แต่ข้อควรระวัง คือ เราควรเลี่ยงการฝากผ่าน Crypto Wallet เพราะมันเสียค่าธรรมเนียม
ระบบป้องกันความเสี่ยง (Risk Management)
Exness มีระบบที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงในการเทรด เช่น Negative Balance Protection (ป้องกันยอดคงเหลือติดลบ), Stop-Out Level 0% สำหรับบัญชี Pro และ Standard, และ Margin Call Level – 60% สำหรับบัญชี Standard
แต่เอาจริงๆไหม? การที่ Exness ให้ Stop out มาน้อยขนาดนี้อันตรายมากนะ เพราะถ้าพอร์ตแตกทีก็หายเกลี้ยง ทางที่ดีควรใช้ Stop Loss (SL) จะดีกว่า และอีกคำแนะนำคือ คุณไม่ควร Overtrade หนักๆและมั่นตรวจสอบ Margin Level บ่อยๆครับ
การใช้ VPS และ EA ใน Exness
Exness รองรับการใช้งาน Expert Advisor (EA) และมี VPS ฟรี สำหรับลูกค้าที่มีคุณสมบัติครบถ้วนจ้า แถมรองรับ EA ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น Grid, Arbitrage, Martingale และยังไม่มีข้อจำกัดเรื่อง Scalping หรือ เทรดข่าว (ถือว่าเลิศ)

วิธีขอใช้งาน VPS ฟรี
- เปิดบัญชีและทำการฝากเงิน
- เทรดให้ครบเงื่อนไขที่กำหนด
- ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าเพื่อขอใช้งาน VPS
ระบบ Copytrade ของ Exness เป็นยังไง?
Exness มี แพลตฟอร์ม Copy Trading ที่ช่วยให้เราสามารถ คัดลอกการซื้อขายของเทรดเดอร์เทพๆได้ โดยไม่ต้องวิเคราะห์ตลาดเอง ถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการทำกำไรแต่ไม่มีเวลาเฝ้ากราฟ (แต่ต้องเลือกเป็นนะ)
ใน Exness เราจะเรียก Copytrade ว่า Exness Social Trading โดยนิยามว่าผู้ให้สัญญานคือ Strategy provider และคนที่กด copy จะเรียกว่า Investor เข้าใจตรงกันนะ

วิธีเป็น Strategy provider
- เปิดบัญชี Exness Social Trading
- กำหนดค่าธรรมเนียมที่ต้องการ (เปอร์เซ็นต์จากกำไรที่นักลงทุนทำได้)
- เริ่มเทรดตามกลยุทธ์ของตนเอง
- หากนักลงทุนคัดลอกและมีกำไร คุณจะได้รับส่วนแบ่ง
วิธีเป็น Investor
- เปิดบัญชี Exness และเลือกสมัครใช้บริการ Copy Trading
- เลือกนักเทรด (Strategy Provider) จากรายการที่มีให้
- ตรวจสอบ สถิติการเทรด เช่น อัตราผลตอบแทน, Drawdown, ประวัติการซื้อขาย
- กำหนด เงินลงทุน ที่ต้องการใช้ในการคัดลอก
- ระบบจะ คัดลอกคำสั่งซื้อขายให้อัตโนมัติ ตามสัดส่วนของเงินทุน
ค่าธรรมเนียมและเงื่อนไขของ Copy Trade Exness
- นักลงทุนไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์ม
- Strategy Provider สามารถกำหนด ค่าธรรมเนียมตามเปอร์เซ็นต์ของกำไร (เช่น 10-30% ก็ว่ากันไป)
- ระบบจะ จ่ายค่าคอมมิชชั่นให้ Strategy Provider อัตโนมัติทุกเดือน
จะใช้ระบบ Copy Trading ของ Exness ดีไหม?
การที่เราจะตอบว่าหรือไม่ดีนั้น เราควรช่างน้ำหนักเอาเองครับระหว่างข้อดีกับข้อเสีย ข้างไหนน้ำหนักจะมากกว่ากัน
ข้อดี
- ใช้งานง่าย ไม่ต้องเฝ้ากราฟเอง
- มี Strategy Provider ให้เลือกเยอะ (เพราะคนใช้เยอะ)
- คัดลอกออเดอร์ได้แบบเรียลไทม์
- ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
ข้อเสีย
- นักลงทุนต้องเลือก Strategy Provider ให้ดี ไม่งั้นเสี่ยงขาดทุน
- ยังขาดข้อมูลเชิงลึก เช่น Sharpe Ratio หรือ Win Rate แบบละเอียด
- ไม่มีระบบจำกัดการขาดทุนอัตโนมัติ
คำแนะนำในการใช้ Copy Trading ของ Exness
- เลือก Strategy Provider ที่มี Drawdown ต่ำ และ Win Rate สูง
- ไม่ควรลงทุนเงินทั้งหมดกับนักเทรดเพียงคนเดียว
- ตรวจสอบผลการเทรดเป็นระยะ และหยุดคัดลอกหากผลงานไม่ดี
สรุปแล้ว Social Trade ของ Exness เหมาะกับใครหนอ?
- เหมาะกับมือใหม่ ที่ไม่มีเวลาเฝ้ากราฟแต่ต้องการทำกำไร
- เหมาะกับนักเทรดมืออาชีพ ที่ต้องการสร้างรายได้เพิ่มจากการให้คนอื่นคัดลอก
- ต้องบริหารความเสี่ยงให้ดี เพราะนักเทรดที่เลือกอาจขาดทุนได้
- หากเลือกใช้ให้ถูกวิธี Copy Trading ของ Exness สามารถเป็นทางเลือกทำกำไรที่ดีได้!
แล้ว Exness มีดีอะไรอีกบ้าง?
- สภาพคล่องสูง : เทรดได้ไม่มีสะดุด มี Liquidity Providers (LPs) ระดับสถาบัน ทำให้ ส่งคำสั่งซื้อขายได้เร็ว และมี Slippage ต่ำ
- ระบบรักษาความปลอดภัยของบัญชีขั้นสูง เพราะมี 2FA (Two-Factor Authentication) + การล็อกอินด้วย Biometric (Face ID / Fingerprint) ในแอปมือถือ + เงินฝากของลูกค้าแยกเก็บในบัญชีที่ปลอดภัย (Segregated Accounts)
- ระบบ IB (Introducing Broker) ที่ให้ค่าคอมมิชชันสูง โดยมีค่าคอมมิชชันสูงสุด $25 ต่อล็อต ขึ้นอยู่กับประเภทบัญชี
- มีระบบคืนเงิน (Cashback Program) สำหรับเทรดเดอร์ที่มีปริมาณการซื้อขายสูง
- ได้รับรางวัลระดับโลกเยอะ เช่น Best Forex Broker 2024, Best Trading Platform 2023, Best Customer Support 2022

ข้อเสียของ Exness ที่คุณควรรู้ก่อนใช้งาน
แม้ว่า Exness จะเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ Forex ที่ได้รับความนิยมสูงสุด และมีข้อดีมากมาย เช่น ค่าธรรมเนียมต่ำ, ฝาก-ถอนรวดเร็ว และ Leverage สูง แต่ก็มีข้อเสียบางประการที่เทรดเดอร์ควรทราบก่อนเลือกใช้งาน
License ในไทยอยู่ภายใต้ FSA Seychelles ซึ่งเป็นระดับ C

แม้ว่า Exness จะมีใบอนุญาตจาก FCA (อังกฤษ) และ CySEC (ไซปรัส) ซึ่งเป็นใบอนุญาตระดับ A แต่สำหรับบัญชีที่เปิดโดยคนไทย จะถูกกำกับดูแลภายใต้ FSA Seychelles (แรงค์ C)
FSA Seychelles เป็น Regulator ที่มีมาตรฐานต่ำกว่าหน่วยงานอื่น ๆ เช่น FCA, ASIC หรือ CySEC และไม่มีข้อกำหนดด้านการคุ้มครองนักลงทุนที่เข้มงวด
หมายความว่า หากมีปัญหาทางกฎหมาย การดำเนินการร้องเรียนอาจมีความยุ่งยากกว่าการใช้โบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแลโดย FCA หรือ ASIC ดังนั้น ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นคือ
- หากเกิดปัญหากับบัญชี อาจไม่มีการคุ้มครองจาก Regulator ระดับสูง
- อาจไม่สามารถเรียกร้องความเสียหายได้ง่ายเหมือนโบรกเกอร์ที่อยู่ภายใต้ FCA หรือ ASIC
ไม่มีโบนัสต้อนรับ หรือโปรโมชั่นพิเศษ
Exness ไม่ได้มีการแจกโบนัสต้อนรับ หรือโปรโมชั่นสำหรับผู้ใช้งานใหม่ นอกจากนี้ยังไม่มีโบนัสเงินฝาก หรือโปรแกรมโบนัสที่เพิ่ม Margin เหมือนโบรกเกอร์อื่น เช่น XM หรือ FBS
โดย Exness อธิบายว่า พวกเขาเลือกที่จะ ลดต้นทุนด้านโปรโมชั่น และนำเงินไปใช้ปรับปรุงเงื่อนไขการเทรดแทน และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นก็คือ
- สำหรับมือใหม่ที่ต้องการ “ทุนฟรี” เพื่อทดลองเทรด อาจต้องใช้ทุนตัวเองทั้งหมด
- ไม่มีโปรโมชั่นแบบ Cashback หรือ Rebate ที่ช่วยลดต้นทุนการเทรด
กราฟราคาบางครั้งแตกต่างจากโบรกเกอร์อื่น
- มีรีวิวจากผู้ใช้บางรายที่พบว่า กราฟราคาใน Exness อาจแตกต่างจากโบรกเกอร์อื่น ๆ ในบางจังหวะ
- กรณีที่เกิดขึ้นบ่อยคือ ราคา Slippage หรือราคาระหว่างการประกาศข่าวมีความแตกต่างจากโบรกอื่น ทำให้บางครั้งออเดอร์ถูกปิดหรือโดน Stop-Out โดยไม่คาดคิด
- โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง เช่น เวลาประกาศข่าวเศรษฐกิจ
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นคือ เทรดเดอร์ที่ใช้กลยุทธ์ Scalping หรือเทรดข่าว อาจเจอปัญหาการเคลื่อนที่ของราคาที่ไม่เป็นไปตามที่คาด และอาจทำให้ Stop-Loss ถูกตัดขาดทุนเร็วกว่าปกติ
Leverage ไม่จำกัดอาจเป็นดาบสองคม
- แม้ว่า Leverage ไม่จำกัดของ Exness จะเป็นข้อดี แต่ก็มีความเสี่ยงสูงมาก
- เทรดเดอร์มือใหม่ที่ไม่มีการบริหารความเสี่ยงที่ดี อาจล้างพอร์ตเร็วมาก เพราะขาดทุนจะถูกคูณตามอัตราส่วน Leverage ครับ
- บางครั้ง Exness จะปรับลด Leverage อัตโนมัติ ในกรณี เช่น มีข่าวสำคัญทางเศรษฐกิจ, ช่วงก่อนปิดตลาดวันศุกร์, เมื่อ Equity ในบัญชีสูงถึงระดับที่กำหนด
ขาดหลักสูตรการสอนที่ครบวงจร
- แม้ว่า Exness จะมีบทความและคู่มือการเทรดให้ศึกษา แต่ยังขาด หลักสูตรการสอนแบบครบวงจร เหมือนที่โบรกเกอร์บางแห่ง เช่น XM หรือ IC Markets หรือ QRS มีให้
- ไม่มี คอร์สเรียนวิดีโอหรือการสัมมนาสด ที่ช่วยให้มือใหม่เรียนรู้การเทรดได้อย่างเป็นระบบ จึงต้องอาศัยความรู้การเทรด หรือ การเขียน EA จากสำนักอื่นแทน

สินทรัพย์ให้เลือกเทรดน้อยกว่าโบรกเกอร์บางเจ้า
- แม้ว่า Exness จะมีตราสารให้เลือกมากถึง 143 รายการ แต่ยังถือว่าน้อยกว่าบางโบรกเกอร์ เช่น IC Markets หรือ Pepperstone ที่มีให้เลือกมากกว่า
- โดยเฉพาะกลุ่ม ETF และพันธบัตร (Bonds) ซึ่งบางโบรกเกอร์มีให้เทรด แต่ Exness ยังไม่มี
การซัพพอร์ตลูกค้าบางครั้งล่าช้าในบางกรณี
- แม้ว่า Exness จะมี Live Chat 24/7 รองรับภาษาไทย แต่บางครั้งการตอบคำถามทาง Email หรือ Ticket Support อาจล่าช้า โดยเฉพาะในช่วงที่มีปัญหาด้านระบบหรือช่วงข่าวสำคัญ
- มีรายงานจากเทรดเดอร์บางคนว่า บางเคสที่เกี่ยวกับปัญหาการฝาก-ถอนหรือข้อผิดพลาดของกราฟ ต้องใช้เวลานานกว่าปกติในการตรวจสอบ
มีรายงานปัญหาด้านระบบ เช่น กราฟค้าง หรือ Lot Size เปลี่ยนแปลงโดยไม่แจ้งล่วงหน้า
- เทรดเดอร์บางรายพบปัญหาว่า กราฟของ Exness ค้างหรือแสดงราคาผิดพลาด ทำให้การเปิด-ปิดออเดอร์มีปัญหา
- บางครั้ง Lot Size มีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้า ทำให้เทรดเดอร์ต้องปรับกลยุทธ์แบบกะทันหัน
ข้อสรุปจากผู้เชี่ยวชาญว่า Exness น่าใช้งานไหม?

ข้อดีของ Exness
- ฝาก-ถอนเร็วที่สุด : ไม่มีค่าธรรมเนียม ฝากถอนเงินไทย ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที – ไม่เกิน 1 วัน
- Leverage ไม่จำกัด : ช่วยให้เทรดด้วยทุนน้อยแต่เปิดออเดอร์ใหญ่ได้
- Spread ต่ำที่สุด : บัญชี Zero และ Raw Spread เริ่มต้นที่ 0 pip
- ระบบ Copy Trading ใช้งานง่าย : สำหรับมือใหม่ที่อยากคัดลอกเทรดเดอร์เก่ง ๆ
- Zero Balance Protection : ป้องกันพอร์ตติดลบ 100%
- รองรับการเทรด EA & Scalping : ไม่มีข้อจำกัดเรื่องความถี่ในการเทรด
- VPS ฟรี สำหรับคนที่ใช้ EA : ลด Latency และทำให้คำสั่งรวดเร็วขึ้น
- แพลตฟอร์มใช้งานง่าย : ทั้ง MT4, MT5 และ Exness Terminal
- บริการลูกค้า 24/7 ภาษาไทย : ตอบกลับเร็ว แก้ปัญหาได้จริง

ข้อเสียของ Exness
- License ในไทยเป็น FSA Seychelles : เป็นหน่วยงานระดับ C (มาตรฐานต่ำกว่า FCA, ASIC)
- ไม่มีโบนัสต้อนรับ หรือโปรโมชั่นใหญ่ : โบรกเน้นพัฒนาบริการมากกว่าการแจกโบนัส
- ต้องเลือก Copy Trader ให้ดี : ระบบ Copy Trade ใช้ง่าย แต่ถ้าเลือกเทรดเดอร์ผิด อาจขาดทุนหนัก
- Lot Size อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่แจ้งล่วงหน้า : ต้องคอยตรวจสอบก่อนเข้าออเดอร์
- สินทรัพย์บางประเภทมีตัวเลือกจำกัด : เช่น ETF และพันธบัตรยังไม่มีให้เทรด
คะแนนรีวิวรวม
8.19 จาก 10
Exness เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ที่ดีที่สุดสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการต้นทุนต่ำ ความเร็วสูง และฝากถอนง่าย แต่ยังมีจุดที่ต้องระวัง โดยเฉพาะการใช้ Leverage และการเลือก Copy Trader ให้ดี ถ้าคุณต้องการโบรกเกอร์ที่เทรดง่าย ระบบดี ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง Exness คือตัวเลือกที่ดีที่สุด