Forexthai.in.th ย่อให้
- Demand Supply คือ กลยุทธ์ทำยอดนิยมในตลาด Forex ที่อิงจากพฤติกรรมการซื้อขายของรายใหญ่
- หลักการคือการวิเคราะห์ความต้องการซื้อ (Demand) และขาย (Supply) ที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคา
- รูปแบบหลักมี 4 แบบ คือ Drop Base Rally, Rally Base Drop, Rally Base Rally และ Drop Base Drop
- การเทรดให้ดูโซน Base ที่เกิดหลังการเคลื่อนไหวแรง ๆ รอราคาย้อนกลับมาเพื่อเข้าเทรด โดยวาง SL หลัง Base
- มีความแม่นยำสูง แต่ก็ควรใช้ร่วมกับสัญญาณอื่น และเลือกโซนที่ “สดใหม่” เท่านั้น เพื่อเพิ่มโอกาสทำกำไรและลดความเสี่ยง
Demand Supply คือ กลยุทธ์ทำกำไรอย่างหนึ่ง เป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะกลยุทธ์นี้เป็นรูปแบบของกราฟ ที่มาจากการซื้อขายของรายใหญ่ โดยเทรดเดอร์รายย่อย ๆ จะใช้โอกาสนี้ในการเข้าทำกำไรไปพร้อม ๆ กับรายใหญ่ เปลี่ยนจากเม่าเป็นเหาฉลามได้ด้วยทฤษฎีนี้ครับ
สารบัญบทความ click เพื่อเลือกอ่าน !!
Demand Supply คืออะไร?
- Demand (อุปสงค์) คือ ปริมาณความต้องการซื้อ
- Supply (อุปทาน) คือ ปริมาณความต้องการขาย
เมื่อความต้องการซื้อมาก แต่ความต้องการขายน้อยกว่า ราคาก็จะแพงกว่าปกติ และในทางกลับกันความต้องการขายมาก แต่ความต้องการซื้อน้อยสินค้าหรือบริการก็จะมีราคาถูก
การเทรด Forex คือการใช้สกุลเงินหนึ่ง เพื่อไปซื้ออีกสกุลเงินหนึ่ง เมื่อมีคนซื้อปริมาณมาก ๆ ราคาก็จะพุ่งขึ้นสูง และเมื่อมีคนขายปริมาณมาก ๆ ราคาก็จะลดลงต่ำ เช่น EUR/USD คือการใช้เงิน USD เพื่อไปซื้อ EUR นั่นเอง
และ “เมื่อมีคนซื้อก็จะต้องมีคนขาย และเมื่อมีคนขายก็จะต้องมีคนซื้อ” จึงเกิดทฤษฎีดีมานด์ซัพพลายขึ้น เพราะมีผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนคนหนึ่ง ที่เคยทำงานให้กับสถาบัน ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามีการลงทุนในตลาด Forex โดยนักลงทุนรายย่อยทั่วไป ทุกครั้งที่เขากดออเดอร์ให้กับสถาบัน มักจะเกิดรูปแบบกราฟแบบเดิมซ้ำ ๆ จึงนำมาเผยแพร่เป็นที่นิยมมาจนถึงปัจจุบัน
มีคนซื้อจะต้องมีคนขาย ทุกอย่างมีเหตุมีผลเสมอ
ดีมานด์ซัพพลาย เกี่ยวข้องกับรายใหญ่อย่างไร
ในตลาด Forex เมื่อมีคนซื้อก็จะต้องมีคนขาย รายใหญ่ สถาบัน ธนาคาร กองทุน หรือผู้ที่มีเม็ดเงินปริมาณมหาศาล ถ้าต้องการซื้อในราคาใดราคาหนึ่ง แต่ถ้าไม่มีคนขายที่มากพอ แน่นอนว่าก็จะไม่สามารถทำการเข้าซื้อได้
ดังนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องแบ่งการออกคำสั่งซื้อขายในปริมาณที่ทำได้ แต่ด้วยอาจจะถูกกำหนดจากลูกค้า หรือเหตุผลใดก็ตามที่จะต้องซื้อหรือขายในราคาเดิม จึงจำเป็นที่จะต้องแบ่งออเดอร์เพื่อให้สามารถทำการซื้อขายในราคานั้นได้ จึงจะต้องทำกำไรซื้อขายด้วยกันทั้ง 2 ครั้ง
จึงเกิดเป็นรูปแบบที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ คือการเข้าซื้อหรือขายในปริมาณมาก ๆ และรอให้ราคาย้อนกลับมาในราคาเดิมอีกครั้ง ก่อนที่จะกดคำสั่งออเดอร์ที่เหลือ เพื่อให้ได้ออเดอร์มาตามกำหนด
คิดและทำเหมือนคนส่วนใหญ่อาจจะไม่พอ แต่ถ้าคิดและทำเหมือนรายใหญ่ มันเพียงพอ
รูปแบบดีมานด์ซัพพลาย มีอะไรบ้าง?
ก่อนอื่นเข้าใจก่อนว่า Base คือ การปรับฐาน คือช่วงเวลาที่รายใหญ่กำลังเก็บสะสมของ ลักษณะคือแท่งสั้น ๆ คล้ายกับไซด์เวย เพราะราคายังไม่เลือกทิศทาง และรูปแบบของการเคลื่อนที่ด้วยดีมานด์ซัพพลาย มีดังต่อไปนี้
- Drop Base Rally ราคาร่วงลงมา แล้วเกิดสร้างฐานก่อนที่จะวิ่งย้อนกลับขึ้นไป
- Rally Base Drop ราคาวิ่งขึ้น แล้วเกิดการสร้างฐานก่อนที่จะวิ่งกลับลงไป
- Rally Base Rally ราคาวิ่งขึ้น แล้วเกิดการสร้างฐานก่อนที่จะวิ่งขึ้นต่อ
- Drop Base Drop ราคาวิ่งลง แล้วเกิดการสร้างฐาน ก่อนที่จะวิ่งลงต่อ
ลักษณะของการเคลื่อนที่ด้วยรูปแบบของดีมานด์ซัพพลายคือ การเคลื่อนที่ไปยังทิศาทางใดทิศทางหนึ่ง ด้วยปริมาณมาก ๆ หรือรุนแรง คือแท่งเทียนยาว ๆ ต่อเนื่องกัน 2-3 แท่งอย่างเห็นได้ชัด ว่ามีแรงฝั่งใดฝั่งหนึ่งที่เคลื่อนที่อย่างรุ่นแรง
ตัวอย่างที่ดี มีค่ากว่าคำสอน
ตัวอย่างในการหา Demand Supply
แน่นอนว่า การหารูปแบบของดีมานด์ซัพพลาย แม้จะเจอรูปแบบ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถเข้าเทรดได้ในทันที แต่การเทรดด้วยดีมานด์ซัพพลายนี้ จะต้องรอให้กราฟย้อนกลับมายังฐานหรือ Base แล้วนั่นจะเป็นโซนที่เทรดเดอร์จะหาจังหวะในการเข้าเทรด
- มองด้วยสายตาว่า มีบริเวณใดบ้าง ที่มีแท่งเทียนยาว ๆ ติดต่อกัน แสดงให้เห็นถึงแรงซื้อหรือแรงขายที่มีมากกว่าปกติ
- ก่อนที่จะเกิดแท่งเทียนยาว ๆ ติดต่อ จะมีการสร้างฐานด้วยแท่งเทียนเล็ก ๆ สั้น ๆ คล้ายกับไซด์เวย์
- ดีมานด์ ซัพพลาย สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งแนวโน้มขาลงและขาขึ้น และยังสามารถเป็นรูปแบบต่อเนื่องได้ และรูปแบบกลับตัวได้เช่นกัน
Trade Setup ด้วย ดีมานด์ซัพพลาย
- หาโซนดีมานด์หรือซัพพลายตามรูปแบบ และทำการตีโซนไว้ เมื่อราคาย้อนกลับมาจะเป็นจุดเข้า Buy หรือ Sell
- Stop Loss หลัง Base หรือไส้เทียนในโซน
- Target แนวรับหรือแนวต้านถัดไป
ประโยชน์และข้อควรระวัง
ประโยชน์ในการเทรดด้วยดีมานด์ซัพพลาย
- สัดส่วนของ Risk Reward Ratio ค่อนข้างสูง เพราะมี SL แคบ
- เกิดขึ้นได้บ่อยและใช้ได้ทุกไทม์เฟรม แต่จะใช้ได้ดีในไทม์เฟรมที่ค่อนข้างใหญ่ เช่น H1 ขึ้นไป
ข้อควรระวังในการเทรดด้วยดีมานด์ซัพพลาย
- เลือกเทรดเฉพาะโซนที่สดใหม่เท่านั้น เพราะไม่มีทางรู้ได้เลยว่ารายใหญ่ ได้ของครบแล้วหรือยัง ดังนั้นการเทรดด้วยรูปแบบนี้ จะเลือกเทรดด้วยโซนใหม่ ที่ยังไม่เคยใช้หรือถูกทำลายเท่านั้น
- แม้จะมีความแม่นยำ แต่ก็มีโอกาสที่จะผิดพลาดได้เสมอ บางครั้งรายใหญ่อาจจะไม่ใช้โซนนั้นในการเปิดออเดอร์รอบสองก็เป็นได้
จิตวิทยาการเทรดกับดีมานด์ซัพพลาย
ในตลาด Forex การเข้าใจจิตวิทยาตลาดสำคัญพอๆ กับการอ่านกราฟเลยครับ และ Demand Supply เองก็สามารถสะท้อนอารมณ์ของตลาดได้ด้วย เช่น เวลาราคาวิ่งแรงๆ นั่นแหละครับ ความโลภกำลังครอบงำตลาด ทุกคนอยากได้ส่วนแบ่ง แต่พอเข้าสู่ช่วง Base นั่นคือจังหวะที่ความกลัวเริ่มมีมากขึ้น นักเทรดเริ่มลังเล ไม่แน่ใจว่าเทรนด์จะไปต่อหรือกลับตัว
ถ้าคุณเข้าใจจุดนี้ คุณจะเทรดได้อย่างมีสติมากขึ้น ไม่หลงไปกับกระแสความโลภตอนราคาพุ่ง และไม่ตื่นตระหนกจนเกินเหตุตอนราคาย่อตัว ในตลาด Forex อารมณ์มักจะมาก่อนเหตุผลเสมอ ใครควบคุมอารมณ์ได้ คนนั้นก็มีโอกาสทำกำไรได้มากกว่า
สรุป
การทำกำไรด้วยดีมานด์ ซัพพลาย เป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน สามารถนำไปปรับใช้กับทฤษฎีอื่น ๆ ได้ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เกิดโซน ก็จะเป็นโอกาสในการเข้าเทรด แต่จะใช้เวลารอสักระยะ เพราะจนกว่าที่ราคาจะย้อนกลับมาในโซน บางครั้งใช้เวลานานพอสมควร หรือเมื่อมาถึงแล้ว แต่โซนอาจจะใช้ไม่ได้หรือไม่กลับตัว
ดังนั้นการใช้โซนให้ปลอดภัยที่สุด คือการใช้ร่วมกับสัญญาณอื่น ๆ แม้บางโซนราคาจะแตะปั๊บ ก็พร้อมจะพาราคาเคลื่อนที่ปุ๊บ อาจจะทำให้เสียโอกาสในการเข้าเทรด ทั้งนี้อยู่ที่เทรดเดอร์เองว่า จะเลือกเสี่ยงสูงหรือปลอดภัย ถ้าเสี่ยงสูงก็มีโอกาสได้กำไรสูง แต่ถ้าเลือกปลอดภัย ก็แค่เสียโอกาสในการทำกำไร
ดังนั้นถ้าไม่ชัดเจน หรือไม่มั่นใจในการเทรด ไม่ควรที่จะเข้าเทรด เพราะนั่นอาจจะยังไม่ใช่โอกาสทองในการทำกำไร แต่การเทรดด้วยดีมานด์ซัพพลาย มีโอกาสได้มากกว่าเสียแน่นอน
อะไรที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่นั่นคือพฤติกรรม
ทีมงาน: forexthai.in.th
