Forexthai.in.th ย่อให้
- ระบบเทรด EMA 5 / 8 Crossover: เป็นระบบเทรดระยะยาวไทม์เฟรม Daily
- หลักการเทรดเบื้องต้น: ระบบเทรดนี้จะใช้การตัดกันของเส้น EMA 2 เส้น ในการเปิดออเดอร์ และใช้ในการ Trailing stop เพื่อเก็บกำไร
- เครื่องมือที่ใช้: EMA 2 เส้น โดยตั้งค่า Length 5 และ 8
- ข้อดี: ทำกำไรได้ดีในตลาดที่เป็นเทรนด์, เรียบง่ายเหมาะกับเทรดเดอร์ทุกคน, ไม่ต้องเฝ้าหน้าจอสามารถตั้งแจ้งเตือนได้
- ข้อเสีย: ไม่เหมาะกับการเทรดตลาด Sideway, ไม่เหมาะกับการเทรดในไทม์เฟรมเล็ก
รู้จักกับ MA Crossover
ถ้าพูดถึงระบบเทรดที่เรียบง่ายและเป็นที่รู้จักกันมาอย่างยาวนาน ก็คงต้องนึกถึง MA Crossover กันอย่างแน่นอน การตัดกันของเส้น MA (Moving Average) จะช่วยบอกจุดเข้าเทรด และบ่งบอกแนวโน้มของตลาดในช่วงเวลานั้น โดยการตัดกันของเส้น MA จะแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ
- Golden Cross
- Death Cross
Golden Cross

Golden Cross คือเส้น MA ที่มีค่าความยาวน้อยกว่า ตัดกับ MA ที่มีค่าความยาวมากกว่า ในทิศทางขาขึ้น (เรียกสั้น ๆ ว่า “การตัดขึ้น”) เมื่อเกิดการ Golden Cross ของเส้น MA แสดงว่าตลาดเริ่มกลับมาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น และเป็นโอกาสเข้าเทรดในหน้า Buy
Death Cross

Death Cross คือเส้น MA ที่มีค่าความยาวน้อยกว่า ตัดกับ MA ที่มีค่าความยาวมากกว่า ในทิศทางขาลง (เรียกสั้น ๆ ว่า “การตัดลง”) เมื่อเกิดการ Death Cross ของเส้น MA แสดงว่าตลาดเริ่มกลับมาอยู่ในแนวโน้มขาลง และเป็นโอกาสเข้าเทรดในหน้า Sell
ซึ่งการเกิด Golden Cross และ Death Cross ในไทม์เฟรมใหญ่ จะมีความแม่นยำและแน่นอนกว่าการเกิดขึ้นในไทม์เฟรมเล็ก
ระบบการเทรด EMA 5 / 8 Crossover
เมื่อเรารู้แล้วว่า MA Crossover มีการทำงานอย่างไรเราก็สามารถสร้างเป็นระบบการเทรด 1 ระบบได้โดยในระบบนี้เราจะใช้อินดิเคเตอร์ 2 ตัวนั่นคือ เส้น EMA ที่มีค่าความยาวแตกต่างกัน
- EMA เส้นที่ 1 ใช้ค่า Length 5
- EMA เส้นที่ 1 ใช้ค่า Length 8
EMA (Exponential Moving Average) คืออะไร

เส้น EMA เป็นหนึ่งในประเภทของเส้น MA ที่มีความสามารถสะท้อนราคาได้รวดเร็วเนื่องจากมีการให้น้ำหนักไปที่การคำนวณราคาล่าสุดมากกว่าราคาในอดีตนั่นเอง ดังนั้นการใช้เส้น EMA มาทำเป็นระบบเทรดในรูปแบบของ Crossover จะให้สัญญาณการเทรดที่ไวกว่าเส้น MA ประเภทอื่น ๆ เช่น SMA หรือ SMMA
หลักการเทรดเบื้องต้น
ในระบบการเทรดนี้เราจะใช้การตัดกันของเส้น EMA 5 และเส้น EMA 8 ในการเปิดออเดอร์เทรดทั้งในหน้า Buy และหน้า Sell โดยจะเทรดในไทม์เฟรม Daily เท่านั้น
เงื่อนไขการเทรดหน้า Buy
1. EMA 5 ตัดกับ EMA 8 ในทิศทางขาขึ้น (Golden Cross)
2. เปิดออเดอร์ Buy
3. ตั้ง Stop loss ไว้ที่ Low ของแท่งเทียนก่อนหน้า, Swing low หรือ ที่แนวรับสำคัญ
4. ใช้การ Trailing stop ในการ Take profit
เงื่อนไขการเทรดหน้า Sell
1. EMA 5 ตัดกับ EMA 8 ในทิศทางขาลง (Death Cross)
2. เปิดออเดอร์ Sell
3. ตั้ง Stop loss ไว้ที่ High ของแท่งเทียนก่อนหน้า, Swing high หรือ ที่แนวต้านสำคัญ
4. ใช้การ Trailing stop ในการ Take profit
ข้อดีและข้อเสียของระบบเทรด

ข้อดีของระบบเทรด
- เป็นระบบที่เข้าใจง่าย เหมาะกับนักเทรดทุกคนไม่ว่าจะเป็นมือเก่าหรือมือใหม่
- ทำกำไรได้ดีในตลาดที่เป็นเทรนด์
- เป็นระบบที่สามารถสร้างโอกาสในการเทรดได้บ่อยครั้ง
- เหมาะกับการใช้ทำกำไรจนสุดเทรนด์ในไทม์เฟรมใหญ่อย่าง Daily
- เป็นระบบการเทรดที่ไม่จำเป็นจะต้องนั่งเฝ้าหน้าจอ
- สามารถตั้งแจ้งเตือนได้ในเว็บไซต์ TradingView
ข้อเสียของระบบเทรด
- ในตลาด Ranging หรือ Sideway ระบบการเทรดนี้จะมีสัญญาณหลอกบ่อย
- การใช้ Trailing stop ทำให้อัตราผลตอบแทนไม่แน่นอน บางครั้งได้มาก บางครั้งได้น้อย
- ไม่สามารถใช้กับไทม์เฟรมอื่น ๆ ได้ ยิ่งใช้ในไทม์เฟรมเล็ก ๆ ประสิทธิภาพยิ่งลดลง
คำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับการใช้งานระบบเทรด EMA 5 / 8 Crossover

- สามารถปรับค่า EMA ให้เหมาะกับพฤติกรรมคู่เงินนั้นๆได้ ซึ่งแต่ละคู่เงินจะมีพฤติกรรมที่แสดงออกกับเส้น EMA แตกต่างกัน
- ไม่ควรใช้ความยาวของเส้น EMA ที่มากเกินไป เพราะจะทำให้เข้าเทรดได้ช้าลง พลาดโอกาสการเข้าเทรดตั้งแต่ช่วงต้นเทรนด์
- สามารถใช้ร่วมกับแนวรับแนวต้านหรือเส้นแนวโน้มเพื่อเลี่ยงตลาด Sideway และใช้ในการวางเป้ากำไรได้
- เนื่องจากเป็นกลยุทธ์ในไทม์เฟรม Daily ต้องคำนึงถึงค่า Swap และต้องบริหารความเสี่ยงให้เป็นอย่างดี
- ควรนำระบบเทรดไป Backtest ก่อนที่จะนำมาใช้งานจริง เพื่อให้ได้สถิติการเทรดที่แน่นอน
- สามารถเทรดได้หลายคู่เงินเพื่อเฉลี่ยกำไรและขาดทุน
- สามารถใช้ Risk Reward Ratio เข้ามาเพิ่มเติมเพื่อให้อัตราการทำกำไรมีความเสถียรมากขึ้น โดยเน้นทำกำไรให้มากกว่า RR 1:1 เสมอ
- คู่เงินที่แนะนำในการเทรดระบบนี้ NZD/JPY, GBP/JPY และ GBP/USD
ทีมงาน: forexthai.in.th