Forexthai.in.th ย่อให้

  • ระบบ CCI Momentum Breakout  : เป็นระบบการเทรดตามเทรนด์ที่สามารถใช้ได้กับทุกไทม์เฟรม
  • หลักการเทรดเบื้องต้น: เริ่มต้นจากการดูโครงสร้างตลาดและเข้าเทรดด้วยโมเมนตัมของ CCI
  • เครื่องมือที่ใช้: EMA และ CCI
  • ข้อดี: เรียบง่ายเหมาะกับนักเทรดทุกคน, ใช้เทรดตามเทรนด์ได้ดีมีโอกาสในการทำกำไรสูง และ มีความยืดหยุ่นสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้หลากหลาย
  • ข้อเสีย: ไม่เหมาะกับการเทรด Sideway, เหมาะกับนักเทรดที่มีเวลาเฝ้าจอ

ระบบเทรด CCI Momentum Breakout

ระบบเทรด CCI Momentum Breakout

หากเพื่อน ๆ กำลังหาระบบเทรด Breakout ที่เมื่อเข้าเทรดแล้วราคามีโอกาสไปต่อโดยทันทีอยากให้ลองมาทำความรู้จักกับระบบ CCI Momentum Breakout กันครับ โดยระบบนี้จะเทรดในรูปแบบตามเทรนด์

โดยอาศัยอินดิเคเตอร์อย่าง Commodity Channel Index (CCI) ในการดูโมเมนตัมของตลาด และเข้าเทรดต่อเมื่อตลาดมีท่าทีที่จะวิ่งต่อตามโมเมนตัม (แรงซื้อและแรงขายที่เกิดขึ้นในขณะนั้น)

ความแตกต่างของการเทรด Breakout แท่งเทียนกับ Momentum Breakout

แม้ว่าชื่อดูคล้าย ๆ กัน แต่ก็มีนัยยะที่แตกต่างกันจากเครื่องมือที่ใช้ กล่าวคือ

1. Breakout แท่งเทียน

ลักษณะการ Breakout แท่งเทียน
ภาพแสดงลักษณะการ Breakout แท่งเทียน โดยมีกรอบแนวรับ-แนวต้าน และช่วงที่ราคาทะลุกรอบออกไป

“เน้นที่การทะลุแนวรับ-ต้านที่แท่งเทียน !!!” ….. ปกติแล้วการเทรด Breakout ในลักษณะนี้จะใช้ “แนวรับแนวต้าน” กับลักษณะ “แท่งเทียน” เป็นหลัก

ตัวอย่างเช่นคู่เงิน GBP/JPY ได้มีการวิ่งขึ้นและลงจนสร้างเป็นกรอบแนวรับและแนวต้านไว้ที่ช่วงราคาหนึ่ง และเมื่อกราฟแท่งเทียนเกิดการทะลุแนวรับหรือแนวต้านออกไปเราจะเรียกช่วงนั้นว่าการ Breakout  และนั่นก็คือการ Breakout แท่งเทียนที่เรารู้จักกันครับ ถ้าหากเพื่อน ๆ ยังงงก็สามารถดูตัวอย่างได้ครับ

ภาพตัวอย่าง Breakout แท่งเทียนในตลาดขาขึ้น โดยมีแท่งเทียนทะลุแนวต้าน
ภาพตัวอย่าง Breakout แท่งเทียนในตลาดขาลง
ภาพตัวอย่าง Breakout แท่งเทียนในตลาดขาลง โดยมีแท่งเทียนทะลุแนวรับ

2. Momentum Breakout

ลักษณะ Momentum Breakout ของอินดิเคเตอร์ CCI
ภาพแสดงลักษณะ Momentum Breakout ของอินดิเคเตอร์ CCI โดยมีคำบรรยายลักษณะการ Breakout

“เน้นดูการค่าที่เกิดขึ้นจากเส้นของอินดิเคเตอร์ประเภทโมเมนตัม !!!” … (ในระบบนี้ก็คือ CCI นั่นเอง)

  • ถ้าเส้นของ CCI มีการวิ่งเข้าโซน Overbought และทำจุดสูงสุดก่อนที่จะย่อลงมาต่ำกว่า 100 และวิ่งไปโซน Overbought อีกครั้ง แต่ในครั้งนี้สามารถวิ่งขึ้นมากกว่าจุดสูงสุดเดิมนั่นคือ Momentum Breakout ในขาขึ้นครับ
  • ส่วนถ้าเส้นของ CCI มีการวิ่งเข้าโซน Oversold และทำจุดต่ำสุดก่อนที่จะกลับขึ้นไปมากกว่า -100 และวิ่งลงมาที่โซน Oversold อีกครั้ง แต่ในครั้งนี้สามารถวิ่งลงมากกว่าจุดต่ำสุดเดิมนั่นคือ Momentum Breakout ในขาลงครับ

ถ้ายังไม่เข้าใจดูตัวอย่างได้ครับ

Momentum Breakout ในตลาดขาขึ้น
ภาพตัวอย่าง Momentum Breakout ในตลาดขาขึ้น โดยที่ CCI มีการทำจุดสูงสุดก่อนที่จะทำจุดสูงสุดใหม่ที่สูงกว่าจุดเดิม
Momentum Breakout ในตลาดขาลง
ภาพตัวอย่าง Momentum Breakout ในตลาดขาลง โดยที่ CCI มีการทำจุดต่ำสุดก่อนที่จะทำจุดต่ำสุดใหม่ที่ต่ำกว่าจุดเดิม

หลักการเทรดเบื้องต้น

การเทรดด้วยระบบ CCI Momentum Breakout สามารถเทรดได้ทุกไทม์เฟรมครับ แต่จะใช้ได้ดีกับไทม์เฟรมใหญ่ตั้งแต่ H1 ขึ้นไป โดยเราจะดูทิศทางของเทรนด์ในตลาดอาจจะใช้ความรู้เรื่องโครงสร้างของตลาดหรือเส้น MA เข้ามาช่วย หลังจากนั้นเราจะดูโมเมนตัมจาก CCI เพื่อเข้าเทรด

อินดิเคเตอร์ที่ใช้ในการเทรด 

ภาพการตั้งค่าอินดิเคเตอร์ CCI และ EMA
ภาพการตั้งค่าอินดิเคเตอร์ CCI และ EMA สำหรับนะบบเทรด CCI Momentum Breakout
  1. CCI ตั้งค่ามาตรฐาน
  2. เส้น EMA  ตั้งค่า Length 200 (จะใช้หรือไม่ใช้ก็ได้ครับ)

Commodity Channel Index (CCI)

โซน Overbought และ Oversold
ภาพอธิบายโซน Overbought และ Oversold ของอินดิเคเตอร์ CCI ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของระบบเทรด

เป็นอินดิเคเตอร์แสดงโมเมนตัมของตลาด ซึ่งสามารถบ่งบอกได้ถึงแนวโน้ม และความแข็งแรงของแรงซื้อและแรงขายได้อีกด้วยครับ CCI ประกอบด้วยองค์ประกอบ 4 ส่วน

  1. เส้น CCI คือเส้น MA ที่ใช้แสดงโมเมนตัมของตลาดในช่วง 20 แท่งเทียนย้อนหลัง
  2.  โซน Overbought  เป็นโซนที่มีค่า +100  แสดงถึงแรงซื้อที่เข้ามาเป็นจำนวนมาก
  3.  โซน Oversold เป็นโซนที่มีค่า -100  แสดงถึงแรงขายที่เข้ามาเป็นจำนวนมาก
  4. เส้น Zero Line  คือเส้นกึ่งกลางมีค่า 0 หาก CCI อยู่เหนือเส้นนี้แสดงว่าตลาดเริ่มมีแรงซื้อ แต่ถ้าอยู่ต่ำกว่าเส้นนี้แสดงว่าตลาดเริ่มมีแรงขาย

EMA 200

การใช้งาน EMA 200 ในการดูแนวโน้ม
ภาพอธิบายการใช้งาน EMA 200 ในการดูแนวโน้มระยะยาวของคู่เงินในตลาด Forex

เส้น EMA 200  เป็นเส้น EMA ที่ยังคงเหมาะกับการดูแนวโน้มของตลาดเสมอ และยังเหมาะกับมือใหม่ที่ยังดูโครงสร้างตลาดไม่เก่งแต่อยากรู้แนวโน้มของตลาดในระยะยาวด้วยเช่นกันครับ

  • ถ้ากราฟราคาอยู่เหนือเส้น EMA 200 คือตลาดขาขึ้น
  • ถ้ากราฟราคาอยู่ใต้เส้น EMA 200  คือตลาดขาลง

เงื่อนไขการเทรดขาขึ้น

เงื่อนไขการเทรดขาขึ้น

1. กราฟราคาอยู่เหนือ EMA 200 บ่งบอกถึงตลาดอยู่ในช่วงขาขึ้น

เงื่อนไขการเทรดขาขึ้น

2. CCI ต้องอยู่ในโซน Overbought มีค่ามากกว่า +100

เงื่อนไขการเทรดขาขึ้น

3. ตีเส้นแนวนอนที่จุดสูงสุดของ CCI  และเส้นแนวตั้งที่แท่งเทียนที่ CCI ทำจุดสูงสุดนั้น เพื่อมาร์กตำแหน่ง

เงื่อนไขการเทรดขาขึ้น

4. รอให้ CCI ย่อต่ำกว่า 100

เงื่อนไขการเทรดขาขึ้น

5. รอ CCI กลับไปทำจุดสูงสุดใหม่ที่สูงกว่าจุดสูงสุดเดิม

เงื่อนไขการเทรดขาขึ้น

6. เปิดออร์เดอร์ Buy

เงื่อนไขการเทรดขาขึ้น

7. ตั้ง Stop loss ที่ใต้แท่งเทียนที่เข้าเทรด

เงื่อนไขการเทรดขาขึ้น

8. ตั้ง Take profit 1 ที่ RR 1:1

เงื่อนไขการเทรดขาขึ้น

9. ตั้ง Take profit 2 ที่ RR 1:2

เมื่อราคาวิ่งถึง TP 1 ให้ปิดออเดอร์ 50%  และกันหน้าทุนเพื่อป้องกันการขาดทุนและเป็นการการันตีกำไร

เงื่อนไขการเทรดขาลง

เงื่อนไขการเทรดขาลง

1. กราฟราคาอยู่ใต้ EMA 200 บ่งบอกถึงตลาดอยู่ในช่วงขาลง

เงื่อนไขการเทรดขาลง

2. CCI ต้องอยู่ในโซน Oversold มีค่าน้อยกว่า -100

เงื่อนไขการเทรดขาลง

3. ตีเส้นแนวนอนที่จุดต่ำสุดของ CCI  และเส้นแนวตั้งที่แท่งเทียนที่ CCI ทำจุดต่ำสุดนั้น เพื่อมาร์กตำแหน่ง

เงื่อนไขการเทรดขาลง

4. รอให้ CCI กลับขึ้นมามากกว่า -100

เงื่อนไขการเทรดขาลง

5. รอ CCI กลับไปทำจุดต่ำสุดใหม่ที่ต่ำกว่ากว่าจุดต่ำสุดเดิม

เงื่อนไขการเทรดขาลง

6. เปิดออร์เดอร์ Sell

เงื่อนไขการเทรดขาลง

7. ตั้ง Stop loss ที่เหนือแท่งเทียนที่เข้าเทรด

เงื่อนไขการเทรดขาลง

8. ตั้ง Take profit 1 ที่ RR 1:1

เงื่อนไขการเทรดขาลง

9. ตั้ง Take profit 2 ที่ RR 1:2

เช่นเดียวกันเมื่อราคาวิ่งถึง TP 1 ให้ปิดออเดอร์ 50%  และกันหน้าทุนเพื่อป้องกันการขาดทุนและเป็นการ การันตีกำไร การแบ่งปิดกำไรเช่นนี้ถึงแม้ว่าจะได้ Risk Reward Ratio แค่ 1:1.5  แต่ถ้าระบบมีอัตราการชนะเกิน 50%  พอร์ตการเทรดก็จะเติบโตอย่างแน่นอน

ข้อดีและข้อเสียของระบบเทรด CCI Momentum Breakout

ข้อดีและข้อเสียของระบบเทรด
ภาพอธิบายข้อดีและข้อเสียของระบบเทรดเพื่อให้นักเทรดตัดสินใจก่อนนำระบบไปใช้เทรดทำกำไร

ข้อดีของระบบเทรด

  1. เป็นระบบที่เรียบง่าย เหมาะกับนักเทรดทุกคน
  2. การแบ่งปิดทำกำไรเพิ่มโอกาสที่จะทำให้ชนะการเทรดมากขึ้น
  3. สามารถใช้ได้ทุกไทม์เฟรม
  4. ระยะ Stop loss สั้นทำให้โอกาสทำกำไรได้เยอะ
  5. CCI สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างหลากหลาย

ข้อเสียของระบบเทรด

  1. เป็นระบบที่แพ้ตลาด Side Way
  2.  ต้องนั่งเฝ้ากราฟไม่เหมาะกับคนที่มีเวลา
  3. ระยะ Stop loss ค่อนข้างสั้นทำให้บางครั้งราคาวิ่งกลับมาโดน SL ก่อนจะวิ่งไปในทิศทางที่คาดการณ์ไว้

คำแนะนำการใช้ระบบเทรด 

คำแนะนำการใช้งานระบบเทรด
ภาพคำแนะนำการใช้งานระบบเทรด เพื่อให้นักเทรดสามารถนำไปต่อยอดและพัฒนาระบบ เทรดให้ดีขึ้น
  1. สามารถลองปรับค่า CCI  ให้เหมาะกับพฤติกรรมคู่เงินที่เทรดได้
  2. สามารถลองนำเทคนิคอื่นๆมาประยุกต์ใช้กับระบบเทรดนี้ได้
  3. Stop loss สั้นเป็นทั้งข้อดีและข้อเสีย ควรปรับให้เหมาะสม
  4. ควรนำไป Back Test และ Forward Test ก่อนใช้งานจริง
  5. สามารถปรับเรื่องการตั้งจุด Take profit และการบริหารออเดอร์เทรดได้

Tip เพิ่มเติมการใช้ CCI เทรดในรูปแบบต่าง ๆ (4 รูปแบบ)

1. การใช้ CCI เข้าเทรดในทิศทางขาขึ้นโดยใช้ลักษณะการเกิด Bullish Divergence (สัญญาณการกลับตัวขึ้น)

Tip เพิ่มเติมการใช้ CCI
ภาพตัวอย่างการใช้ CCI เข้าเทรดในทิศทางขาขึ้นโดยใช้ลักษณะการเกิด Bullish Divergence (สัญญาณการกลับตัวขึ้น)

2. การใช้ CCI เข้าเทรดในทิศทางขาลงโดยใช้ลักษณะการเกิด Bearlish Divergence (สัญญาณการกลับตัวลง)

Tip เพิ่มเติมการใช้ CCI
ภาพตัวอย่างการใช้ CCI เข้าเทรดในทิศทางขาลงโดยใช้ลักษณะการเกิด Bearlish Divergence (สัญญาณการกลับตัวลง)

3. การใช้ CCI เทรดสั้นในทิศทางขาขึ้น โดยเข้าเทรดเมื่อ CCI อยู่โซน Oversold และปิดออร์เดอร์เมื่อ CCI อยู่โซน Overbought

Tip เพิ่มเติมการใช้ CCI
ภาพตัวอย่างการใช้ CCI เทรดสั้นในทิศทางขาขึ้น โดยเข้าเทรดเมื่อ CCI อยู่โซน Oversold และปิดออร์เดอร์เมื่อ CCI อยู่โซน Overbought

4. การใช้ CCI เทรดสั้นในทิศทางขาลงโดยเข้าเทรดเมื่อ CCI อยู่โซน Overbought และปิดออร์เดอร์เมื่อ CCI อยู่โซน Oversold

Tip เพิ่มเติมการใช้ CCI
ภาพตัวอย่างการใช้ CCI เทรดสั้นในทิศทางขาลงโดยเข้าเทรดเมื่อ CCI อยู่โซน Overbought และปิดออร์เดอร์เมื่อ CCI อยู่โซน Oversold

สรุป

ระบบเทรด CCI Momentum Breakout เป็นระบบการเทรดที่ทำให้เพื่อน ๆ นั้นสามารถเทรดตามโมเมนตัมของเทรนด์ได้อย่างสนุกสนานแน่นอนครับ และด้วยกลยุทธ์แบ่งปิดทำกำไรทำให้ระบบเทรดนี้มีโอกาสทำกำไรได้อย่างต่อเนื่องแม้ในสภาวะตลาดที่ไม่เป็นใจ

ไม่ว่าเพื่อน ๆ จะเป็นนักเทรดสายเทรดสั้น สายเทรดระยะกลาง หรือสายเทรดระยะยาวก็สามารถนำระบบนี้ไปปรับใช้ได้ ยิ่งไปกว่านั้นด้วยอินดิเคเตอร์ CCI ยังมีแนวทางการใช้ที่ยืดหยุ่นสูงสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้หลากหลายอีกด้วยครับ เรียกได้ว่าเพียงระบบเดียวก็สามารถนำไปต่อยอดได้ สุดยอดไปเลยใช่ไหมล่ะครับระบบเทรดนี้

ทีมงาน: forexthai.in.th

แสดงข้อคิดเห็น ให้กำลังใจ

comments