Zigzag Indicator วิธีใช้ เพื่อให้ง่ายต่อการมองกราฟ

Forexthai.in.th ย่อให้

• ZigZag Indicator ช่วยให้มองกราฟง่ายขึ้น โดยลากเส้นเชื่อมจุดสูงสุดและต่ำสุดของราคาให้อัติโนมัติ
• ช่วยกำหนดสวิงตามหลักการทฤษฎีดาว ทำให้การวิเคราะห์แนวโน้มชัดเจนและเป็นรูปธรรมมากขึ้น
• เหมาะกับหลายสไตล์การเทรด ทั้งกราฟเปล่า ใช้คู่กับอินดิเคเตอร์อื่น หรือใช้วิเคราะห์ร่วมกับทฤษฎีอื่น ๆ 
• ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน ช่วยให้เห็นภาพรวม และใช้งานได้ฟรีใน MT4/MT5 
• ข้อควรระวัง คือ Repainting ทำให้จุดกลับตัวเปลี่ยนแปลงได้ ควรรอการยืนยัน หรือใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่นเสมอ

การวิเคราะห์กราฟในตลาด Forex นั้น แม้จะเป็นกราฟเดียวกัน แต่เทรดเดอร์หรือนักลงทุนแต่ละคนอาจจะวิเคราะห์ออกมาแตกต่างกัน เพราะนั่นคือมุมมองและประสบการณ์ของแต่ละคน

วันนี้เรามาทำความรู้จักกับอินดิเคเตอร์ (Indicator) ที่จะช่วยให้เทรดเดอร์เห็นสวิงได้ง่ายขึ้นกันครับ นั่นก็คือ ZigZag Indicator

---

ZigZag Indicator คืออะไร?

ZigZag เป็นอินดิเคเตอร์ (Indicator) หนึ่ง ที่จะเปลี่ยนเรื่องยากให้กลายเป็นเรื่องง่าย ด้วยการสร้างมาตรฐานในการกำหนดจุดหรือสวิง เพื่อการวิเคราะห์กราฟ แก้ปัญหาการใช้ความรู้สึกในการวิเคราะห์ ให้เป็นรูปธรรมและชัดเจนขึ้น

เชื่อหรือไม่ว่า กราฟหนึ่งกราฟ เทรดเดอร์แต่ละคนอาจจะมีมุมมองที่แตกต่างกัน ในหนึ่งภาพบางคนอาจจะกำหนดสวิงได้หลายสวิง แต่อีกคนอาจจะกำหนดสวิงได้เพียงไม่กี่สวิง ทั้งนี้ก็เพราะแต่ละคนมีประสบการณ์ไม่เท่ากันนั่นเอง

ตัวอินดี้ ZigZag จะช่วยให้เราเห็นการเคลื่อนไหวของราคาได้ง่ายขึ้น โดยการลากเส้นเชื่อมจุดสูงสุดและต่ำสุดของราคา ทำให้เราเห็นแนวโน้มและจุดกลับตัวได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ทำให้เราไม่ต้องกังวลหรือกลัวว่าจะมองต่างไปจากคนอื่น ทำให้การวิเคราะห์กราฟไม่ใช่แค่เรื่องของความรู้สึก แต่เป็นเรื่องที่จับต้องได้และชัดเจนขึ้น

 

คนเก่ง มักจะทำเรื่องยากให้สำเร็จ แต่อัจฉริยะจะทำให้เรื่องยากเป็นเรื่องง่าย

 

ทฤษฎีดาว ครูใหญ่สายเทคนิค ต้นแบบของแนวโน้มทั้งปวง

ก่อนจะไปต่อ เรามาทำความเข้าใจทฤษฎีดาวกันสักนิด ทฤษฎีนี้เป็นหนึ่งในต้นแบบการมองแนวโน้มหรือเทรนด์ โดยมีหลักการว่า กราฟจะไม่มีทางเคลื่อนที่เป็นเส้นตรง แต่จะเคลื่อนที่เป็นคลื่น และมีเพียง 3 รูปแบบเท่านั้น คือ:

1. แนวโน้มขาขึ้น
2. แนวโน้มขาลง
3. ออกข้างหรือไซด์เวย์

ดังนั้น การกำหนดว่าเป็นแนวโน้มแบบไหน จะต้องใช้ Swing-High หรือ Swing-Low เป็นตัวกำหนด แต่การกำหนด สวิง (Swing) ให้ได้มาตรฐานนั้น จำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนจากทฤษฎีให้เป็นการปฏิบัติ และการปฏิบัติให้ได้เหมือนกันในทุกครั้ง นั่นคือ “จำเป็นต้องมีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจน”

ยกตัวอย่างเช่น การกำหนดสวิงจากแท่งเทียน อาจจะกำหนดแท่งเทียนด้านหน้าต่ำ 2 แท่ง และมีแท่งหลังอีกต่ำ 2 แท่ง นั่นหมายความว่าแท่งที่อยู่ตรงกลางสูงกว่าทั้ง 4 แท่ง ทั้งด้านหน้าและด้านหลังนับเป็น Swing-High (Swing-Low ก็ใช้เกณฑ์เช่นเดียวกัน) เพื่อเป็นการกำหนดสวิงให้ได้เหมือนกันทุกครั้ง ถ้าไม่เข้าเกณฑ์ดังกล่าวจะไม่นับว่าเป็นสวิง

 

ความสำเร็จ เป็นเรื่องของการทำสิ่งเดิมให้ได้ซ้ำ ๆ

 

ทั้งนี้ การกำหนดสวิงจะไม่มีถูกไม่มีผิด ไม่มีอะไรตายตัวหรอกครับ ขึ้นอยู่กับความพอใจที่ผู้ใช้กำหนดเอง อาจจะอาศัยประสบการณ์ด้วยว่าการกำหนดแบบไหนที่คุณรู้สึกว่าใช้แล้วแม่น

ทำไมจะต้องใช้ ZigZag Indicator

การเทรดที่ดี แม้จะมีคนบอกว่าควรเป็นคนส่วนน้อยในตลาด แต่บางอย่างมันก็จำเป็นที่จะต้องทำให้เหมือนกับคนกลุ่มใหญ่ การมีเครื่องมือที่ช่วยในการกำหนดในส่วนตรงนี้ อย่าง ZigZag ก็เพื่อลดความผิดพลาด และง่ายต่อการมองกราฟ เพียงแค่มองก็รู้ได้ทันทีว่ามีสวิงอยู่ตรงไหนบ้าง ตามทฤษฎีที่มันควรจะเป็น (ถ้าไม่เชื่อทฤษฎี แล้วจะให้เชื่ออะไรล่ะครับ ฮ่า)

ในเทรนด์ขาขึ้น Swing-High และ Swing-Low จะต้องมีการยกสูงขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อกราฟจะเปลี่ยนเทรนด์ Swing-High จะไม่สามารถทำ High ที่สูงกว่าเดิมได้ ส่วน Swing-Low ก็จะต่ำลงกว่า Low เดิม ถ้ามีเครื่องมือที่ช่วยกำหนดสวิง การวิเคราะห์แบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

เนี่ยแหละครับ เหตุผลที่เทรดเดอร์หลายคนชอบใช้เครื่องมือช่วย เพราะมันช่วยประหยัดเวลาในการหาสวิง แล้วเอาเวลาไปวิเคราะห์อย่างอื่นแทน เพราะถ้าจะใช้ทุกทฤษฎีมาวิเคราะห์พร้อม ๆ กัน ก็คงจะปวดหัวหรือเสียเวลาหน้าดู

 

เครื่องมือเสมือนคานงัด ที่จะผลักเรื่องหนัก ๆ ให้บางเบาลงได้

 

วิธีเปิดใช้ ZigZag

1. มองซ้ายมือ หาคำว่า “Indicator” แล้วกด +
2. หา “Examples” แล้วกด + อีกที
3. แล้วเลือกคำว่า “ZigZag” ทำการแดรกเมาส์ลากมาวาง
4. จะมีหน้าต่างให้ตั้งค่า เทรดเดอร์สามารถตั้งค่าได้ตามความพอใจ
5. ZigZag พร้อมใช้งานได้ทันที

การนำ ZigZag ไปปรับใช้ในรูปแบบต่าง ๆ

เทรดกราฟเปล่า

ปฎิเสธไม่ได้ว่า สไตล์การเทรดของแต่ละคนมักจะมีไม่เหมือนกัน ทั้งนี้เกิดขึ้นจากความคิด ความเชื่อ และประสบการณ์ หลายคนชอบใช้กราฟเปล่า โดยไม่พึ่งอินดิเคเตอร์ เพราะเทรดเดอร์แบบนี้ มองว่าอินดิเคเตอร์ทำให้กราฟรก หรือให้สัญญาณช้าเกินไป แต่:

• ZigZag ต่างจากอินดิเคเตอร์ทั่วไป เพราะมันไม่ได้ให้สัญญาณซื้อขาย
• ZigZag ช่วยให้มองเห็นจุดกลับตัวของราคา (สวิง) ได้ชัดเจนขึ้น ช่วยให้การตีสวิงเป็นไปอย่างมีรูปธรรมอีกด้วย

ดังนั้น แม้แต่คนที่ชอบเทรดกราฟเปล่าก็สามารถใช้ ZigZag เพื่อช่วยในการวิเคราะห์ได้ โดยไม่ขัดกับหลักการเทรดแบบกราฟเปล่า

ใช้คู่กับเครื่องมือทางเทคนิคอื่น ๆ

เทรดเดอร์หลายคนมีอินดิเคเตอร์ที่ใช้ดูสัญญาณเป็นหลักอยู่แล้ว เช่น Moving Average, RSI, MACD แต่การจะเข้าให้ได้ราคาดี ก็อาจจะใช้การวิเคราะห์กราฟเปล่าเข้ามาช่วย หรือการระบุแนวโน้มที่แม่นยำ

• การเพิ่ม ZigZag เข้าไปจะช่วยให้เห็นภาพรวมของการเคลื่อนไหวราคาได้ชัดเจนขึ้น
• เมื่อใช้ร่วมกับอินดิเคเตอร์อื่น ZigZag จะช่วยให้เห็นจุดที่ราคาอาจจะกลับตัว
• ช่วยให้เห็นจุดเข้า-ออกที่มีโอกาสทำกำไรได้ดีขึ้น

ใช้เพื่อวิเคราะห์ร่วมกับทฤษฎีอื่น ๆ

ใช้เพื่อวิเคราะห์ร่วมกับทฤษฎีที่ต้องอาศัยสวิงที่แม่นยำ ไหนจะต้องวิเคราะห์ตามทฤษฎี ยังจะต้องมานั่งกำหนดสวิงให้ชัดเจน 

• Elliott Wave Theory ใช้การนับคลื่นราคา ซึ่งต้องระบุจุดสูงสุดและต่ำสุดของแต่ละคลื่นให้ชัดเจน
• Harmonic Pattern ต้องการจุดกลับตัวที่แม่นยำเพื่อวัดระยะ Fibonacci

ZigZag ช่วยให้การระบุจุดเหล่านี้ง่ายขึ้นมาก เพราะมันจะแสดงจุดกลับตัวที่สำคัญโดยอัตโนมัติ แทนที่จะต้องพยายามหาจุดสวิงด้วยตาเปล่า การใช้เครื่องมือเข้ามาช่วยให้คุณมีจุดอ้างอิงที่ชัดเจน ลดความยุ่งยากและความผิดพลาดในการวิเคราะห์ ทำให้คุณสามารถโฟกัสกับการวางแผนการเทรดได้ดีขึ้น

 

ทำเหมือนคนอื่น ก็เป็นได้แค่คนธรรมดา ทำให้แตกต่างจากคนอื่น คุณจะเป็นคนที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร

 

ข้อดีของการใช้ ZigZag

ดังที่ได้กล่าวมาในเบื้องต้น ข้อดีของการใช้ ZigZag มีอยู่มากมาย แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ เป็นเครื่องมือที่ใช้ฟรี! และมีทั้งใน MT4 และ MT5 เทรดเดอร์สามารถเปิดใช้เครื่องมือที่ติดมากับโปรแกรมเทรดของเราได้เลย

ข้อควรระวังในการใช้งาน

Repainting เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับอินดิเคเตอร์บางตัว รวมถึง ZigZag Indicator ด้วย มันหมายถึงการที่อินดิเคเตอร์มีการเปลี่ยนแปลงค่าหรือการแสดงผลย้อนหลัง เมื่อข้อมูลราคาใหม่เข้ามา ซึ่งมันจะทำให้เกิดความสับสนได้ เพราะจุดกลับตัวที่คุณเห็นในตอนนี้อาจหายไปเหมือนมันไม่เคยเกิดขึ้น

ดังนั้น เวลาใช้ ZigZag ในการวิเคราะห์แบบเรียลไทม์ ควรรอให้แน่ใจว่าจุดกลับตัวนั้นได้รับการยืนยันแล้วจากการเคลื่อนไหวของราคาในช่วงถัดมา ก่อนที่จะใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจเทรด หรือใช้การตั้ง stop loss ทุกครั้ง ก็จะสามารถป้องกันความเสี่ยงในจุดนี้ได้ครับ

สรุป อินดิเคเตอร์ ZigZag ง่าย ๆ ใครก็ใช้เป็น

ZigZag ไม่ใช่เครื่องมือที่ลึกลับซับซ้อน เพียงเปิดเครื่องมือก็จะเห็นสวิง สำหรับเทรดเดอร์ที่มองเห็น ก็คงจะพอเข้าใจได้ว่า มีประโยชน์อย่างไร ใช้ทำอะไร และจะนำไปปรับใช้ได้อย่างไร ถึงตรงนี้จะรออะไร รีบเปิดเข้าไปใช้กันเลย ใช้ได้ฟรี เป็นเครื่องมือที่น่าใช้ ไม่เคยใช้ก็ใช้เป็น

และที่สำคัญ อย่าลืมว่า ZigZag ควรใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ เพื่อยืนยันสัญญาณและลดความเสี่ยงด้วยครับ

 

ร้อยคนรู้ แต่น้อยคนลงมือทำ ความสำเร็จจึงแตกต่างกัน

 

ทีมงาน: forexthai.in.th

แสดงข้อคิดเห็น ให้กำลังใจ

comments