Forexthai.in.th ย่อให้
- Trader คือ คนที่ทำการซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงินเพื่อทำกำไรจากความผันผวนของราคา เน้นการเทรดระยะสั้น และใช้เงินทุนไม่สูงมากนัก
- แตกต่างจากนักลงทุนที่เน้นการซื้อขายสินทรัพย์และถือครองระยะยาว เน้นการทำกำไรแบบต่อปีด้วยเงินทุนจำนวนมาก
- ประเภทของ Trader แบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ เทรดเดอร์รายย่อย (เทรดด้วยเงินทุนของตัวเอง) และเทรดเดอร์ของสถาบันการเงิน (เทรดให้กับบริษัท)
- ก่อนจะเป็นเทรดเดอร์หรือเป็นอยู่แล้วก็ควรรู้เรื่องนี้คือ การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน, การวิเคราะห์ทางเทคนิค, การจัดการทุน, จิตวิทยาการเทรด
ในปัจจุบันมีสถิติรายงานเกี่ยวกับประชากรในปัจจุบันให้ความสนใจเกี่ยวกับการเงิน การลงทุนมากขึ้นและยังมีรายงานว่าผู้คนสนใจที่จะเริ่มเทรดสินทรัพย์ต่างๆ ด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะ Full-Time หรือ Part-Time ก็ตาม ดังนั้นหากคุณคือคนหนึ่งที่กำลังจะเริ่มเทรดด้วยตัวเอง ก็อยากให้ได้อ่านบทความนี้ก่อน
ความหมายของ Trader
- Trader หากแปลตามคำศัพท์แปลว่าผู้ประกอบการค้าขาย ซึ่งเป็นความหมายในภาพรวม
- แต่ถ้าเจาะจงอีกสักนิด Trader จะมีความหมายไปเชิงการเงิน ซึ่งก็คือบุคคลหรือหน่วยงานที่ทำการซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงิน เช่น
- หุ้น
- พันธบัตร
- Forex
- สินค้าโภคภัณฑ์
- อนุพันธ์
- เป้าหมายของ Trader ในการเงินก็เพื่อทำกำไรจากความผันผวนของราคาสินทรัพย์ที่ซื้อขายอยู่นั่นเอง
ความแตกต่างระหว่างเทรดเดอร์ vs นักลงทุน
ถ้ามองดูแบบผิวเผิน 2 อย่างนี้ดูเหมือนจะเป็นสิ่งเดียวกัน นักลงทุนคือเทรดเดอร์ใช่หรือไม่? คำตอบก็คือทั้ง 2 มีส่วนที่เหมือนกันและต่างกันอยู่ครับ ไม่ใช่อันเดียวกันแบบสมบูรณ์
- Trader : จะทำการซื้อขายสินทรัพย์ด้วยตนเองแบบถี่ๆ เน้นทำกำไรระยะสั้น ซึ่งอาจจะใช้ปริมาณเงินทุนไม่สูงเทียบเท่านักลงทุนครับ แถมยังเน้นทำกำไรจากความผันผวน(ความเสี่ยงสูงๆ)
- นักลงทุน : คำว่าลงทุนก็ย่อมหมายว่าปริมาณเงินทุนถือว่าเยอะพอสมควร นักลงทุนจะซื้อขายสินทรัพย์ไม่บ่อยครั้งเท่า Trader ครับ จะเน้นถือยาวมองกำไรแบบรายเดือนหรือรายปีและไม่ค่อยชอบลงทุนกับความเสี่ยงสูงๆ
- แม้ว่าจะดูต่างกันมากแต่ทั้ง 2 ก็ถือว่าอยู่ในวงการตลาดการเงินเหมือนกัน เช่น หุ้น Forex Cryptocurrency และดูข่าวเศรษฐกิจเหมือนกัน วิเคราะห์แนวโน้มก็คล้ายๆ กัน รวมถึงมีการจัดการความเสี่ยงที่คล้ายกันด้วย

Trader แต่ละประเภททำงานอย่างไร?
Trader ตามความจริงมีหลายรูปแบบมากๆ ครับ แต่เราสามารถจำแนกออกมาได้ 2 กลุ่มใหญ่ๆ ดังนี้
- Trader รายย่อย
- เทรดเดอร์รายย่อย ก็คือเทรดเดอร์ทั่วไปที่เทรดทำกำไรเพื่อตัวเอง ใช้เงินทุนตัวเอง วิเคราะห์เอง ซึ่งก็สามารถแบ่งออกเป็นอีกหลายสไตล์ เช่น
- Scalper : เน้นเทรดระยะสั้น ทำกำไรสั้นๆ แบบรายวัน
- News trader : เน้นเทรดแบบชนข่าวหรือช่วงที่ข่าวกำลังออก
- Position trader : เน้นเทรดตามตำแหน่งที่ได้เปรียบหรือเน้นระยะยาวเพื่อได้จุดซื้อขาย เข้าออกที่ดี
- EA trader : เทรดเดอร์ที่ใช้ EA ในการเทรดเป็นหลัก
- Trader ของสถาบันการเงิน
- เทรดเดอร์ประเภทนี้จะเป็นเหมือนพนักงานในตำแหน่งซื้อขายสินทรัพย์ให้กับบริษัทเช่น ธนาคาร กองทุน เป็นต้น
- หน้าที่หลักคือลงทุนเพื่อทำกำไรทั้งแบบระยะสั้น ระยะยาวให้เงินทุนของบริษัทงอกเงย ดังนั้นเทรดเดอร์ประเภทนี้คือคนที่มีความรู้ด้านดารเงินและเศรษฐอย่างลึกซึ้ง
- บางสถาบันการเงินที่มีเทรดเดอร์คอยซื้อขายในตลาด ก็คือตัวสภาพคล่องที่รับการซื้อขายของเทรดเดอร์รายย่อยอีกทีนั่นเอง

4 เรื่องพื้นฐานที่ Trader ควรรู้ก่อนเริ่มต้น
ทีนี้ไม่ว่าจะคุณจะเป็นเทรดเดอร์มือใหม่แบบที่ไม่เคยเทรดมาก่อนหรือเป็นเทรดเดอร์มือฉมังเก๋าเกมแบบสุดๆ ก็ต้องมีเรื่องพื้นฐานที่เทรดเดอร์ทุกคนควรจะต้องรู้
1.การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
- อันดับแรกสิ่งที่เทรดเดอร์ต้องมีความรู้คือเรื่อง การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis) เป็นเหมือนการรู้จักกับปัจจัยที่มีผลต่อราคาสินทรัพย์ที่เราเทรด
- อย่าง Forex ปัจจัยพื้นฐานที่มีผลต่อราคาสกุลเงินต่างๆ ก็เช่น
- ข้อมูลเศรษฐกิจ GDP, อัตราดอกเบี้ย, อัตราเงินเฟ้อ, การจ้างงาน
- นโยบายรัฐบาล, ความขัดแย้งการเมือง, ภัยพิบัติ
- ความเชื่อมั่นของนักลงทุน มุมมองของนักลงทุนต่อเศรษฐกิจและเสถียรภาพของประเทศ
- ข้อมูลพวกนี้เราหาดูได้ตามเว็บไซต์ข่าวทั่วไปเลยครับ แต่แนะนำเว็บไซต์ Forex Factory จะมีข้อมูลครบถ้วนและหลากหลาย

2.การวิเคราะห์ทางเทคนิค
- ต่อมาครับ เมื่อรู้จักปัจจัยทางพื้นฐานของราคาสินทรัพย์ไปแล้ว การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) ก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน มันคือการวิเคราะห์ในชิงเทคนิคเกี่ยวกับแนวโน้มในอนาคตของราคาสินทรัพย์
- การวิเคราะห์ทางเทคนิคจะไม่ใช้ข้อมูลจากภายนอกแต่จะเน้นการวิเคราะห์จากราคาในอดีต เพื่อคาดการณ์ราคาในอนาคต
- ประโยชน์ของการวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น ระบุจุดกลับตัวไดแม่นยำ, มองเห็นแนวโน้มราคา, หาจุดเข้าออกออเดอร์ได้เหมาะสม
- เครื่องมือทางเทคนิคที่นิยมในวงการ Forex ก็อย่างเช่น
- Indicator : Moving Average, RSI, MACD
- Chart Pattern : รูปแบบกราฟราคา Head and Shoulders, Double Top/Bottom
- Candlestick : ลักษณะแท่งเทียนที่บ่งบอกพฤติกรรมของราคา
- Support/Resistance หรือแนวรับ-แนวต้านของราคา

3.การจัดการทุน (Money Management)
- ปัจจัยต่อมาที่เทรดเดอร์ต้องรู้คือการจัดการเงินทุนทั้งนี้รวมไปถึงเรื่องการบริหารความเสี่ยงด้วย เพราะหากเราขาดข้อนี้เท่ากับเรากำลังตกอยู่ในความเสี่ยงและอาจะอยู่ไม่รอดในตลาดการลงทุนทุกรูปแบบ
- การจัดการเงินทุน คือ การวางแผนการเงินสำหรับการเทรดในแต่ละครั้ง ซึ่งไม่ใช่แค่การตั้ง Stop Loss แต่รวมถึง กำหนดขนาดของออเดอร์,Risk/Reward Ratio, การกระจายความเสี่ยง ด้วย
- โดยเฉพาะในตลาด Forex ที่มีความผันผวนสูง ไม่มีใครชนะตลอดเวลา การจัดการเงินทุนที่ดีจะช่วยให้อยู่รอด แม้จะเทรดขาดทุนบ้างก็ตาม

4.จิตวิทยาการเทรด
- ข้อสุดท้ายสำคัญมากๆ เพราะถ้าขาดข้อนี้ไปทั้งหมดก็อาจจะศูนย์เปล่าได้เลย นั่นก็คือจิตวิทยาการเทรด มันคือการทำความเข้าใจและควบคุมอารมณ์ที่เกิดขึ้นในระหว่างการเทรดทั้งหมด
- จะเห็นได้ว่าการที่ราคาขยับไม่ว่าจะขึ้นหรือลง ล้วนแล้วแต่มาจากการตัดสินใจของเทรดเดอร์ในตลาดทั้งสิ้น ซึ่งมันเหมือนเป็นพฤติกรรมที่สะท้อนความคิด+อารมณ์ของเทรดเดอร์
- เทรดเดอร์ที่ควบคุมสิ่งนี้ได้รวมถึงมีวินัยในการเทรด ก็จะเทรดด้วยเหตุผลและข้อมูลมากกว่าใช้อารมณ์ (ความโลภ ความกลัว) เพราะถ้าหากเราควบคุมอารมณ์ในการเทรดไม่ได้ ผลลัพธ์อาจจะแย่เกินจินตนาการ

วิดีโอเกี่ยวกับวิถีชีวิต Trader
ทีมงานไปเจอคลิปวิดีโอหนึ่ง ที่เปิดเผยกิจวัตรประจำวันของเทรดเดอร์ Forex แบบ Fulltime จึงอยากเอามาแชร์ให้กับผู้อ่านได้เห็นมุมมองของเทรดเดอร์คนหนึ่งใช้ชีวิตแต่ละวันยังไง เหมือนหรือแตกต่างจากอาชีพทั่วไปยังไง จากที่ตัวผมดูเลยสรุปมาคร่าวๆ ประมาณนี้ครับ
- ตื่นนอนตอน 7:00 น. กินข้าวเช้าปกติ เน้นผ่อนคลายโดยการฟัง Podcast ทำจิตใจให้สงบเพื่อเผชิญหน้าในวันนี้
- จากนั้นเริ่มวิเคราะห์กราฟ GBPJPY และ EURUSD มองหาโอกาสในการเทรด
- เทรดเดอร์รายนี้เน้นย้ำในเรื่องการ “รอคอย” จังหวะที่เหมาะสม มีวินัยในการเทรด
- ระหว่างรอ เขาก็หาความรู้เพิ่มเติม อ่านหนังสือ Trading in the Zone และศึกษาเกี่ยวกับ Trading Psychology
- หากมองเห็นโอกาสในการเทรด เขาจะออกออเดอร์ทันทีหรือวาง Pending Order ไว้และรอให้ตลาดทำงานด้วยตัวมันเอง
- หลังจากวางคำสั่งไว้ ตั้ง SL, TP ไว้ เขาก็ใช้ชีวิตตามปกติ ดูหนัง เล่นเกม โดยอาจจะแวะมาดูผลงานเป็นครั้งคราว
สรุป
การเป็น Trader นั้นไม่มีใบสมัครหรือใบลาออก ทุกอย่างเกิดจากการกระทำของตัวเอง หากเราตั้งมั่นอยากจะเป็นเทรดเดอร์ Forex จริงๆ การหาความรู้นั้นสำคัญมากสำหรับอาชีพนี้เพราะมันจะเป็นตัวกำหนดความสำเร็จของเราได้เลย หวังว่าหลังจากที่ได้อ่านบทความนี้แล้วหลายคนคงจะเข้าใจความหมายของ Trader มากขึ้นและตามหาขิตวิญญาณความเป็น Trader ของตัวเองจนเจอนะครับ

Nakrob Seareechon
บรรณาธิการ/Web master
ปริญญาโทเศรษฐศาสตร์การเงิน พัฒนาระบบเทรดอัตโนมัติและพัฒนาเว็บไซต์ควบคู่การเทรดด้วยตนเอง
อ่านประวัติเพิ่มเติม
Krisorn Himmapan
Content Writer
ประสบการณ์เทรด Forex 12+ ปี จากพนักงานบริษัทสู่เทรดเดอร์อาชีพ เน้นกลยุทธ์ Long-term Trading
อ่านประวัติเพิ่มเติมทีมงาน: forexthai.in.th