Forexthai.in.th ย่อให้

  • Moving Average (MA) เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ใช้คำนวณค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ของราคา ช่วยให้เห็นเทรนด์หลักได้ชัดเจนขึ้น
  • MA แบ่งเป็นหลายประเภท เช่น SMA, EMA และ SMMA เป็นต้น
  • ประโยชน์หลัก ๆ คือ บอกทิศทางเทรนด์, เป็นแนวรับ-แนวต้านแบบไดนามิก และช่วยหาจุดเข้า-ออกที่เหมาะสมผ่านการตัดกันของเส้น MA
  • ข้อควรระวัง MA อาจให้สัญญาณหลอกในตลาดไซด์เวย์ ควรใช้ร่วมกับอินดิเคเตอร์อื่นๆ เช่น RSI หรือ MACD เพื่อยืนยันสัญญาณ

MOVING AVERAGE

วันนี้มาทำความรู้จักกับ Indicator ตัวหนึ่ง ซึ่งได้รับความนิยมสูงสุดตลอดกาลในการเทรด แม้แต่เทรดเดอร์หน้าใหม่ก็ไม่มีใครที่ไม่รู้จัก Moving Average หรือเส้น MA

มันเป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์ทางสถิติมาก่อน ใช้สำหรับการพยากรณ์ ขั้นต้นในทางสถิติ ซึ่งเป็นเทคนิคในการพยากรณ์ (Forecasting Techniques) 1 อย่างไรก็ตามในตลาด Forex อินดิเคเตอร์ตัวนี้ จะถูกใช้ด้วยวิธีที่แตกต่างต่างออกไปครับ


Moving Average คืออะไร?

รูปแสดง MOVING AVERAGE หรือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่

Moving Average (MA) ก็คือ ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 2 ซึ่งหมายถึง อินดิเคเตอร์ที่แสดงค่าเฉลี่ยของเส้นกราฟของราคา ในช่วงเวลาที่เรากำหนด เช่น 20 วัน 50 วัน หรือ 100 วัน

โดยเส้น MA จะ “เคลื่อนที่” ไปตามการเปลี่ยนแปลงของราคา ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของทิศทางราคาได้ชัดเจนขึ้น เราจะใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่นี้ ในการวิเคราะห์เชิงเทคนิคเพื่อวิเคราะห์แนวโน้มในระยะยาวของราคาหุ้นหรือราคาสินค้าใด ๆ

ความพิเศษของ MA อยู่ที่ความเรียบง่ายแต่ใช้งานได้จริง แม้ในยุคที่มีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคมากมาย MA ก็ยังคงเป็นที่นิยมและใช้ได้ผลดี เพราะช่วยลดความสับสนจากความผันผวนของราคาในระยะสั้น ทำให้เราเห็นเทรนด์หลักได้ชัดเจนขึ้น

VPS
ผู้สนใจ Forex สามารถศึกษารายละเอียด ได้ดังต่อไปนี้

ประโยชน์ของการใช้เส้น MA

ประโยชน์ของการใช้เส้น MA นั้นมีมาก และสามารถพิจารณาออกมาได้ ดังต่อไปนี้ครับ

1. ใช้บอกว่าเทรนด์ของกราฟนั้นเป็นไปในทิศทางใด

MA มีความสามารถในการกรองสัญญาณรบกวนออกจากการเคลื่อนไหวของราคา โดยหลักการง่ายๆ คือการดูความชันของเส้น MA เพื่อหาแนวโน้มเทรนไลน์ง่ายๆ ความชันของเส้น MA ยังบอกถึงความแรงของเทรนด์ได้อีกด้วย ยิ่งชันมาก แสดงว่าเทรนด์ยิ่งแรง

 Review Broker Forex

วิเคราะห์ วิจารย์ ข้อดี-ข้อเสีย ข้อมูลจากการเทรดด้วยบัญชีจริง โดยทีมงานหลายคน ...

2. ใช้สำหรับบอกแนวรับ แนวต้านของราคาได้

คุณสมบัติที่อีกประการของ MA คือการทำหน้าที่เป็นแนวรับ-แนวต้านแบบไดนามิก

  • เมื่อราคาเคลื่อนที่อยู่เหนือเส้น MA เส้นนี้จะกลายเป็นแนวรับที่คอยพยุงราคา
  • ในทางกลับกัน หากราคาเคลื่อนที่อยู่ใต้เส้น MA เส้นนี้จะทำหน้าที่เป็นแนวต้านที่คอยกดราคาไว้

ยิ่งเส้น MA มีระยะเวลายาวเท่าไหร่ (เช่น MA 200) ก็จะยิ่งเป็นแนวรับ-แนวต้านที่แข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น เพราะมีเืทรดเดอร์จำนวนมากให้ความสำคัญและใช้เส้นเหล่านี้ในการตัดสินใจ

3. ช่วยหาจุดเข้า-ออกที่เหมาะสม

Golden Cross
จุดเข้าซื้อที่แข็งแกร่ง (Golden Cross) เมื่อ MA 50 วันตัดขึ้นเหนือ MA 200 วัน

จริงๆแล้วเส้น MA อาจไม่ได้ช่วยขนาดชัดเจน 100% คุณจำเป็นต้องเลือกใช้อินดี้อื่นๆประกอบการตัดสินใจด้วย โดยปกติ เราจะดูการตัดกันของเส้น MA ที่มีช่วงเวลาต่างกัน เช่น

  • เมื่อ MA 50 วันตัดขึ้นเหนือ MA 200 วัน (เรียกว่า Golden Cross) มักเป็นสัญญาณซื้อที่แข็งแกร่ง
  • หรือเมื่อราคาทะลุผ่านเส้น MA สำคัญ เช่น MA 200 วัน ก็มักเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนเทรนด์ครั้งสำคัญ อย่างไรก็ตาม เพื่อลดความเสี่ยงจากสัญญาณหลอก ควรใช้ MA ร่วมกับอินดิเคเตอร์อื่นๆ เช่น RSI หรือ MACD เพื่อยืนยันสัญญาณเพิ่มเติม

ประเภทของ Moving Average ที่ควรรู้จัก

การตั้งค่า MA ใน MT4
ใน MT4 จะมีลักษณะของ MA หลายประเภทให้เลือก และราคาที่ใช้ในการคำนวณนั้นสามารถใช้ได้หลายรูปแบบ ได้แก่ ราคาปิด ราคาเปิด ราคาสูงสุด ราคาต่ำสุด หรือ ราคา กลาง (high บวก Low หารด้วย 2) ก็สามารถทำได้เช่นกัน

รูปแบบของ Moving Average สามารถแบ่งได้หลายรูปแบบ โดยแต่ละหลักการของ MA มีความแตกต่างกันที่ค่าน้ำหนักที่ใช้ในการคำนวณ ซึ่งค่าน้ำหนักของแต่ละประเภทจะใช้ไม่เท่ากัน โดยสามารถอธิบายได้ ดังนี้

1. Simple Moving Average (SMA)

  • คำนวณแบบค่าเฉลี่ยธรรมดา ให้น้ำหนักแต่ละแท่งเทียนเท่ากัน
  • มีความแม่นยำสูง ถ้ากราฟสามารถบอกเทรนด์ได้อย่างชัดเจน
  • ตอบสนองช้ากว่า EMA แต่ให้สัญญาณที่น่าเชื่อถือกว่า และนิยมใช้เส้น SMA 200 เป็นเส้นบอกเทรนด์หลัก

2. Exponential Moving Average (EMA)

  • ค่าน้ำหนักของ EMA นั้นจะแตกต่างจาก SMA มาก เพราะว่าให้น้ำหนักราคาปัจจุบันมากกว่าราคาในอดีต (เนื่องจากราคาที่อยู่ไกลจากราคาปัจจุบัน จะไม่สามารถอธิบายการเคลื่อนไหวของราคาในอนาคตได้มาก ความสำคัญก็ลดหลั่นลงไปตามนั้นด้วย เป็นการลดลงแบบทวีคูณตามการกระจายแบบ Exponential นั่นเอง)
  • ตอบสนองไวกว่า SMA เหมาะกับการเทรดระยะสั้น มักใช้ร่วมกับ SMA เพื่อดู Golden Cross และ Death Cross

3. Smoothed Moving Average (SMMA)

  • SMMA เป็นการผสมผสานข้อดีของทั้ง SMA และ EMA เข้าด้วยกัน โดยใช้วิธีการคำนวณที่ให้น้ำหนักกับราคาในช่วงกลางมากที่สุด เช่น ถ้าหากใช้จำนวนแท่งเทียนในการคำนวณ 20 แท่ง แท่งที่มีความสำคัญที่สุด คือ แท่งที่ 9 – 10
  • เป็นการปรับเรียบความเคลื่อนไหวของแท่งเทียน ด้วยเหตุนี้มันจึงเรียกว่า Smooth ทำให้เส้น SMMA ลดสัญญาณหลอกได้ดี
  • เหมาะอย่างยิ่งกับตลาดที่มีความผันผวนสูง เพราะสามารถกรองสัญญาณรบกวนออกได้มาก เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการความมั่นใจสูงในการเข้าเทรด และไม่ต้องการถูกหลอกด้วยการแกว่งตัวระยะสั้น
เส้น MA ประเภทต่าง
เส้น MA ประเภทต่าง ๆ จะเห็นได้ว่า EMA ตอบสนองต่อการกลับตัวเร็วที่สุด โดย SMA และ SMMA ยืนยันการกลับตัวช้ากว่า แต่ให้สัญญาณที่น่าเชื่อถือ

ข้อควรระวังในการใช้ MA

MA มีข้อจำกัดในตลาดไซด์เวย์ เนื่องจากธรรมชาติของตัวอินดิเคเตอร์ที่คำนวณจากค่าเฉลี่ยของราคาในอดีต เมื่อตลาดไม่มีทิศทางชัดเจน เส้น MA มักจะให้สัญญาณหลอกบ่อยครั้ง โดยเฉพาะการตัดกันของเส้น MA ที่อาจเกิดขึ้นซ้ำๆ โดยไม่มีการเคลื่อนไหวของราคาที่มีนัยสำคัญตามมา

ในกรณีนี้ เราก็ควรใช้อินดิเคเตอร์วัดโมเมนตัมเสริม เช่น RSI หรือ MACD เพื่อยืนยันสัญญาณ และควรหลีกเลี่ยงการเทรดเมื่อเห็นว่าเส้น MA เรียงตัวสับสน ไม่เป็นระเบียบ

สรุป

Moving Average ถือเป็นอีกหนึ่งตัวที่หลาย ๆ คนนั้นเลือกนำมาใช้ในการทำนายราคาในอนาคต เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และมือโปร สามารถใช้ได้ทั้งในการเทรด Forex, หุ้น, คริปโต และตลาดการเงินอื่นๆ ความสำเร็จในการใช้ MA ไม่ได้อยู่ที่ความซับซ้อน แต่อยู่ที่ความเข้าใจและการประยุกต์ใช้อย่างถูกต้อง

MA เป็นเพียงเครื่องมือหนึ่งในการวิเคราะห์ทางเทคนิค การใช้ร่วมกับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน การบริหารเงินที่ดี และการควบคุมจิตวิทยาการเทรด จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการเทรดได้อย่างยั่งยืน

ทีมงาน: forexthai.in.th

 

References

  1. wikipedia, Forecasting Techniques ที่มา https://en.wikipedia.org/wiki/Forecasting สืบค้นเมื่อ 12/7/2019
  2. Importance of moving averages in trading ที่มา: https://excellenceassured.com/trading/importance-moving-averages-trading สืบค้นเมื่อวันที่ 05/10/2019

แสดงข้อคิดเห็น ให้กำลังใจ

comments