Carry Trade คือ กลยุทธ์การลงทุนในตลาด Forex ที่อาศัยการเก็งกำไรจาก “อัตราดอกเบี้ย” ของสกุลเงินต่าง ๆ โดยนักลงทุนจะยืมเงินในสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ (Low-Yielding Currency) และนำเงินไปซื้อสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง (High-Yielding Currency)
ตัวอย่าง: สมมติว่า
- อัตราดอกเบี้ยของ USD อยู่ที่ 0.5%
- อัตราดอกเบี้ยของ THB อยู่ที่ 2.0%
นักลงทุนสามารถยืม USD 100,000 ดอลลาร์ (โดยจ่ายดอกเบี้ย 0.5%) และนำเงินไปซื้อ THB 3,300,000 บาท (โดยได้รับดอกเบี้ย 2.0%)
ผลลัพธ์คือ
- นักลงทุนได้รับ ดอกเบี้ย 66,000 บาทต่อปี (2.0% ของ 3,300,000 บาท)
- นักลงทุนต้อง จ่ายดอกเบี้ย 5,000 ดอลลาร์ต่อปี (0.5% ของ 100,000 ดอลลาร์)
กำไรสุทธิที่ได้เท่ากับ 66,000 บาท – 16,500 บาท (5,000 ดอลลาร์ x 33 บาท/ดอลลาร์) = 49,500 บาท
เป้าหมายของ Carry Trade คือการรับผลกำไรจากส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ย เป็นการเก็งกำไรจากค่าเงินอีกรูปแบบหนึ่งนั่นเอง
สารบัญบทความ click เพื่อเลือกอ่าน !!
การใช้ Carry Trades ให้ได้ผลดีที่สุด
การใช้ Carry Trades ให้ได้ผลดีที่สุด ในการเทรดบนตลาด Forex นั้น มีเทคนิคการใช้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้
เลือกคู่สกุลเงินอย่างชาญฉลาด:
- เน้นคู่สกุลเงินที่มีส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ย (Interest Rate Differential) สูง
- พิจารณาความเสี่ยงจากค่าเงิน (Currency Risk) ของคู่สกุลเงิน
- วิเคราะห์สภาพคล่อง (Liquidity) ของคู่สกุลเงิน
บริหารจัดการความเสี่ยง:
- ใช้ Stop-Loss เพื่อจำกัดความสูญเสีย
- กำหนดระดับ Margin ที่เหมาะสม
- กระจายความเสี่ยงโดยลงทุนในหลายคู่สกุลเงิน
ติดตามข่าวสารและข้อมูล:
- ติดตามนโยบายการเงินของธนาคารกลาง
- วิเคราะห์สภาวะเศรษฐกิจของประเทศ
- สังเกตการเคลื่อนไหวของค่าเงิน
เลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้:
- เลือกโบรกเกอร์ที่มีสเปรด (Spread) ต่ำ
- เลือกโบรกเกอร์ที่มีแพลตฟอร์มการเทรดที่ใช้งานง่าย
- เลือกโบรกเกอร์ที่มีสภาพคล่องสูง
ศึกษาและเรียนรู้เพิ่มเติม:
- ศึกษากลยุทธ์ Carry Trade เพิ่มเติม
- เรียนรู้การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis)
- เรียนรู้การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis)
ตัวอย่างกลยุทธ์ Carry Trade:
- กลยุทธ์ Carry Trade แบบดั้งเดิม: ซื้อสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง ขายสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ
- กลยุทธ์ Carry Trade แบบ Cross-Currency: ซื้อสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง ขายสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ โดยใช้สกุลเงินอื่นเป็นตัวกลาง
- กลยุทธ์ Carry Trade แบบ Covered Interest: ซื้อสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง ขายสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ และซื้อสัญญา Forward เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากค่าเงิน
หลักเกณฑ์ของ Carry Trade และความเสี่ยง
Carry Trade เป็นกลยุทธ์การลงทุนในตลาด Forex ที่อาศัยการเก็งกำไรจากอัตราดอกเบี้ย แบบยืมเงินในสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำและนำเงินไปซื้อสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง มีหลักเกณฑ์ที่ประกอบไปด้วย ดังนี้
- ส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ย: เลือกคู่สกุลเงินที่มีส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ย (Interest Rate Differential) สูง
- ความเสี่ยงจากค่าเงิน: วิเคราะห์ความเสี่ยงจากค่าเงิน (Currency Risk) ของคู่สกุลเงิน
- สภาพคล่อง: เลือกคู่สกุลเงินที่มีสภาพคล่อง (Liquidity) สูง
ตัวอย่าง:
- USD/JPY: USD มีอัตราดอกเบี้ย 0.5% JPY มีอัตราดอกเบี้ย 0.1%
- AUD/JPY: AUD มีอัตราดอกเบี้ย 1.5% JPY มีอัตราดอกเบี้ย 0.1%
ความเสี่ยงของ Carry Trade
Carry Trade เป็นกลยุทธ์ที่มีความเสี่ยงที่ต้องบริหารจัดการให้ดีเหมือนกับการลงทุนอื่น ๆ เช่นกัน ความเสี่ยงหลัก ๆ จะประกอบไปด้วย
- ความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ย: การเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยอาจส่งผลต่อผลกำไร
- ความเสี่ยงจากค่าเงิน: การเปลี่ยนแปลงของค่าเงินอาจส่งผลต่อผลกำไร
- ความเสี่ยงสภาพคล่อง: การเปลี่ยนแปลงของสภาพคล่องในตลาด Forex
- ความเสี่ยงจาก Leverage: การใช้ Leverage ที่สูง อาจขยายความเสี่ยงให้สูงขึ้นเช่นกัน
วิธีจัดการความเสี่ยง Carry Trade
เมื่อมีความเสี่ยงในการเทรด นักลงทุนก็จำเป็นจะต้องมีวิธีจัดการกับความเสี่ยงนั้น วิธีจัดการความเสี่ยง Carry Trade มีดังนี้
- ใช้ Stop-Loss: เพื่อจำกัดความสูญเสีย
- กำหนดระดับ Margin: ที่เหมาะสม
- กระจายความเสี่ยง: ลงทุนในหลายคู่สกุลเงิน
- ติดตามข่าวสาร: นโยบายการเงิน สภาวะเศรษฐกิจ และการเคลื่อนไหวของค่าเงิน
- เลือกโบรกเกอร์: ที่มีความน่าเชื่อถือ สเปรดต่ำ แพลตฟอร์มใช้งานง่าย และมีสภาพคล่องสูง
บทสรุป
Carry Trade คือ กลยุทธ์การลงทุนในตลาด Forex ที่อาศัยการเก็งกำไรจาก “อัตราดอกเบี้ย” ของสกุลเงินต่าง ๆ
วิธีการ:
- ยืมเงินในสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ (Low-Yielding Currency)
- นำเงินไปซื้อสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง (High-Yielding Currency)
เป้าหมาย: รับผลกำไรจากส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ย เป็นการเก็งกำไรจากค่าเงินอีกรูปแบบหนึ่ง
เทคนิคการใช้ Carry Trades:
เลือกคู่สกุลเงิน:
- เน้นคู่ที่มีส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยสูง
- พิจารณาความเสี่ยงจากค่าเงิน
- วิเคราะห์สภาพคล่อง
บริหารจัดการความเสี่ยง:
- ใช้ Stop-Loss
- กำหนดระดับ Margin ที่เหมาะสม
- กระจายความเสี่ยง
ติดตามข่าวสาร:
- นโยบายการเงินของธนาคารกลาง
- สภาวะเศรษฐกิจ
- การเคลื่อนไหวของค่าเงิน
เลือกโบรกเกอร์:
- สเปรดต่ำ
- แพลตฟอร์มใช้งานง่าย
- สภาพคล่องสูง
ศึกษาเพิ่มเติม:
- กลยุทธ์ Carry Trade
- วิเคราะห์ทางเทคนิค
- วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
กลยุทธ์ Carry Trade:
- แบบดั้งเดิม: ซื้อสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง ขายสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ
- Cross-Currency: ซื้อสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง ขายสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ โดยใช้สกุลเงินอื่นเป็นตัวกลาง
- Covered Interest: ซื้อสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง ขายสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ และซื้อสัญญา Forward เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากค่าเงิน
ความเสี่ยง:
- อัตราดอกเบี้ย: การเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย
- ค่าเงิน: การเปลี่ยนแปลงของค่าเงิน
- สภาพคล่อง: การเปลี่ยนแปลงของสภาพคล่อง
- Leverage: การใช้ Leverage ที่สูง
วิธีจัดการความเสี่ยง:
- Stop-Loss: จำกัดความสูญเสีย
- Margin: กำหนดระดับ Margin ที่เหมาะสม
- กระจายความเสี่ยง: ลงทุนในหลายคู่สกุลเงิน
- ติดตามข่าวสาร: นโยบายการเงิน สภาวะเศรษฐกิจ และการเคลื่อนไหวของค่าเงิน
- เลือกโบรกเกอร์: เชื่อถือได้ สเปรดต่ำ แพลตฟอร์มใช้งานง่าย สภาพคล่องสูง
ทีมงาน Forexthai.in.th