Forexthai.in.th ย่อให้

  • Harmonic Pattern คือ การวิเคราะห์กราฟทางเทคนิค ที่ใช้สัดส่วน Fibonacci และรูปแบบเรขาคณิตมาใช้
  • เป็นที่นิยมเพราะให้ Risk Reward Ratio สูง เก็บกำไรได้กว้าง Stop Loss แคบ และแม่นยำ
  • มี 9 รูปแบบ แต่ละแบบมีความแม่นยำตั้งแต่ 65-83% เป็นรูปแบบที่สะท้อนพฤติกรรมนักลงทุนรายใหญ่
  • ใช้แนวคิด Potential Reversal Zone (PRZ) เพื่อหาจุดกลับตัวของราคาที่มีโอกาสสูง
  • ข้อดีคือมีระบบชัดเจน แม่นยำ RR ดี ใช้ได้ทุกไทม์เฟรม แต่ต้องเรียนรู้และฝึกฝนเยอะ
  • สามารถใช้ทำกำไรได้ดีทั้งในช่วงตลาดเป็นเทรนด์และไซด์เวย์

รู้จัก รูปแบบ Harmonic Pattern

Harmonic Pattern เป็นการวิเคราะห์กราฟทางเทคนิคอย่างหนึ่ง โดยใช้สัดส่วนของฟิโบนัชชี (Fibonacci) และพฤติกรรมราคา ที่มีการเชื่อมโยงรูปแบบเรขาคณิตเข้ามาเกี่ยวข้อง เทรดเดอร์ในตลาด Forex นิยมกันอย่างมาก เนื่องจากเป็นรูปแบบที่มี Risk Reward Ratio (RR) สูง สามารถเก็บกำไรได้กว้าง ในขณะที่ Stop Loss แคบ และมีความแม่นยำค่อนข้างสูง

Harmonic Pattern คืออะไร

แพทเทิร์นอย่างหนึ่ง ที่ใช้ Fibonacci ในการกำหนดสัดส่วนของการเคลื่อนที่ของราคา โดยมีพื้นฐานมาจากพฤติกรรมของผู้คนในตลาด ที่เกิดขึ้นซ้ำๆ เช่นเดียวกับแพทเทิร์นอื่นๆ Harold McKinley Gartley เป็นผู้คิดค้นทฤษฎีนี้ และเผยแพร่ครั้งแรกในปี 1932

Gartley เริ่มจากการสังเกตและเก็บรวบรวมข้อมูลทางสถิติ จากนั้นจึงพัฒนาออกมาเป็นรูปแบบของแพทเทิร์นที่สามารถนำไปใช้งานได้จริง ในปัจจุบัน เทรดเดอร์รุ่นใหม่ได้ค้นพบแพทเทิร์นเพิ่มเติม ทำให้ปัจจุบันมีทั้งหมด 9 รูปแบบ จากเดิมที่มี 7 รูปแบบ

 

เทรดให้เหมือนเจ้า คือทางหลักและทางเดียว

 

เข้าใจระบบ แนวคิดพื้นฐาน

ในตลาดทุนใด ๆ ก็ตามล้วนมีผู้ซื้อจะต้องมีผู้ขายมีผู้ทำกำไรก็จะต้องมีคนที่ขาดทุนรวมถึงมีนักลงทุนรายใหญ่ สถาบัน และกองทุนที่เข้ามาทำกำไรในตลาดเช่นกัน จึงเป็นเสมือนสนามแข่งขันที่มีการแย่งชิงผลประโยชน์อยู่ตลอดเวลา

ลองคิดเล่น ๆ ว่ารายใหญ่เหล่านี้ เวลาจะเข้าซื้อขายจะทำการซื้อขายปริมาณเท่าไหร่ แน่นอนว่าในปริมาณที่สูงมากเกิดกว่าจะคาดการณ์ได้ ในระหว่างเดียวกันถ้าไม่มีผู้ซื้อหรือผู้ขายให้กับรายใหญ่ ก็จะไม่สามารถทำรายได้ได้ จริงไหม?

ดังนั้น รายใหญ่จึงจำเป็นต้อง “สร้างสภาพคล่อง” ให้เพียงพอสำหรับปริมาณการซื้อขายจำนวนมาก จึงเกิดเป็น “เกมล่า Stop Loss” รายย่อยขึ้น ด้วยเงินทุนที่มหาศาล พวกเขาสามารถเปิดทั้งออเดอร์ Buy และ Sell เพื่อสร้างความผันผวนให้กับราคาในการลากกราฟไปกิน Stop Loss ของรายย่อย ก่อนที่จะเข้าออเดอร์หลักที่เป็นเป้าหมายจริงๆ ในเวลาต่อมา

เกมการเงินของรายใหญ่ ไม่ไกลความจริง

 

ทำไมต้อง Harmonic Pattern

ทำไมต้อง <yoastmark class=

ในตลาด Forex มีรูปแบบการเคลื่อนไหวของราคาเพียง 2 รูปแบบนั่นก็คือ

  1. ตลาดที่วิ่งเป็นเทรนด์ชัดเจน หรือมีแนวโน้มทั้งขึ้นและลง จะมีช่วงพักตัวที่เป็นไซด์เวย์อยู่เสมอ
  2. ตลาดที่เกิดการพักตัว วิ่งออกข้าง หรือไซด์เวย์ไม่มีทิศทางของราคาที่แน่ชัด อาจจะกลับตัวหรือไปต่อ ย่อมได้เสมอ

โดยเฉลี่ยแล้ว ในหนึ่งปี ตลาด Forex จะอยู่ในสภาวะไซด์เวย์ประมาณ 70% และเป็นเทรนด์ประมาณ 30% เนื่องด้วยตลาดในปัจจุบันมีเทรดเดอร์เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงทำให้ “ไม่มีปัจจัยพื้นฐานใดที่จะส่งผลให้ตลาดเป็นเทรนด์ได้โดยง่าย”

ด้วยเหตุนี้ Harmonic Pattern จึงได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในหมู่เทรดเดอร์ระดับโลก เนื่องจากสามารถใช้ทำกำไรได้ดีแม้ในสภาวะตลาดไซด์เวย์

ความแม่นยำของแต่ละแพทเทิร์น

การเทรดด้วยรูปแบบฮาโมนิค จึงได้รับการยอมรับจากเทรดเดอร์ทั่วโลกว่ามีความแม่นยำค่อนข้างสูง โดยเฉพาะเมื่อแพทเทิร์นเกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์ แม้จะเป็นการสวนเทรนด์ เทรดเดอร์ส่วนใหญ่มักจะไม่ลังเลที่จะเข้าออเดอร์ ถึงแม้จะขัดกับหลาย ๆ ทฤษฎีก็ตาม เนื่องจากรูปแบบเหล่านี้สะท้อนพฤติกรรมของนักลงทุนรายใหญ่ 

โดยแต่ละแพทเทิร์น จะมีโอกาสชนะตามสถิติ ดังต่อไปนี้

  • ABCD: 73%
  • Bat: 83%
  • Butterfly: 77%
  • Crab: 67%
  • Cypher: 75%
  • Gartley: 72%
  • Shark: 65%
  • 5-0: 70%
  • Quasimodo: 79%

จะเห็นได้ว่าแต่ละแพทเทิร์นมีความแม่นยำค่อนข้างสูง เมื่อนำมาเทรดตามทฤษฎี บวกกับ RR ที่ค่อนข้างสูงเช่นกัน พอร์ตก็มีโอกาสเติบโตอย่างเห็นได้ชัด

การเทรดด้วย Harmonic จะต้องรู้จักโซน

การเทรดด้วย Harmonic จะต้องรู้จักโซน
การเทรดด้วย Harmonic จะต้องรู้จักโซน

ในการเทรดด้วยรูปแบบฮาโมนิค มีแนวคิดสำคัญที่เรียกว่า Potential Reversal Zone หรือ PRZ ซึ่งหมายถึงบริเวณที่มีโอกาสจะเกิด “การกลับตัวของราคา” ตามแพทเทิร์น PRZ ใช้เป็นบริเวณในการพิจารณาเข้าออเดอร์ตามรูปแบบแพทเทิร์นและความน่าจะเป็น

การกำหนด PRZ มีความสำคัญเนื่องจากในความเป็นจริง เราไม่สามารถระบุจุดกลับตัวได้อย่างแม่นยำ 100% PRZ จึงเป็นการกำหนดโซนที่มีโอกาสเกิดการกลับตัวสูง

โซน PRZ ส่วนใหญ่จะใช้สัดส่วนของ Fibonacci และหลักการ AB=CD เพื่อวางโซนอีกจุดหนึ่ง เมื่อไหร่ที่ราคาเข้ามาอยู่ในโซน PRZ และมีสัญญาณยืนยันอื่นๆ ประกอบ เช่น รูปแบบแท่งเทียน จะถือเป็นจุดเข้าที่มีโอกาสทำกำไรสูง

ดังนั้น การเทรดด้วย Harmonic จึงจะวางโซนเพื่อคาดการณ์การกลับตัวไว้ก่อนเทรด และจะรอสัญญาณยืนยันเพื่อความแม่นยำ เป็นการวางแผนไว้ล่วงหน้าอย่างเป็นระบบ

 

รอโอกาสที่ราคาเข้ามาอยู่ในโซน ที่ได้เปรียบ

ตัวเลขและสัดส่วนของ Fibonacci ที่มีนัยสำคัญต่อการเทรดด้วย Harmonic

ดังนั้นก่อนการเทรด ควรตั้ง Fibonacci ให้ได้สัดส่วนตามตารางในข้างต้นนี้

ตัวเลขและสัดส่วนขจอง Fibonacci
ตัวเลขและสัดส่วนขจอง Fibonacci ที่มีนัยสำคัญต่อการเทรดด้วย Harmonic

ข้อดีและประโยชน์ของการเทรดด้วย Harmonic

  • มีระบบการเทรดที่ชัดเจน: สามารถกำหนดจุดเข้า จุดออก และจุดตัดขาดทุนได้ล่วงหน้า และที่สำคัญจะต้องวางแผนก่อนเทรดทุกครั้ง จึงเป็นสิ่งที่เกิดผลดีต่อการเทรด
  • มีความแม่นยำสูง: เนื่องจากสะท้อนพฤติกรรมของนักลงทุนรายใหญ่ในตลาด
  • เกิดรูปแบบได้ตลอด: ทั้งไทม์เฟรมใหญ่และไทม์เฟรมเล็ก
  • มี Risk-to-Reward Ratio ที่ดี: โอกาสในการทำกำไรสูง ในขณะที่ความเสี่ยงต่ำ

ข้อเสียและข้อควรระวัง

  • มือใหม่อาจจะเข้าใจได้อยาก เพราะต้องเรียนรู้วิธีใช้ Fibonacci และทำความเข้าใจกับสัดส่วนต่างๆ
  • จดจำได้ยาก เพราะแต่ละแพทเทิร์นมีสัดส่วนที่แตกต่างกัน จำเป็นต้องฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ
  • ต้องระมัดระวังในช่วงที่มีข่าวสำคัญ เพราะอาจส่งผลให้ราคาเคลื่อนไหวผิดไปจากรูปแบบฮาโมนิคที่เราเคยคาดการณ์ไว้

สรุป

Harmonic Pattern จะว่าไปแล้วเป็นทฤษฎีที่จะทำกำไรในทิศทางเดียวกันกับรายใหญ่ คิดแบบรายใหญ่ และเก็บกำไรไปพร้อม ๆ กับรายใหญ่ ที่สำคัญมีจุดเข้าที่แม่นยำ Risk Reward Ratio สูง และในยุคหลังเทรดเดอร์หลายคนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก

แต่ก็น้อยคนที่จะเข้าใจและสามารถนำไปใช้งานได้อย่างจริงจัง หรือมีคอร์สเรียนที่มีราคาค่อนข้างสูง แต่สำหรับเราจะนำความรู้ที่สามารถนำไปใช้ได้จริง มาให้ทุกท่านให้อ่านหรือเรียนรู้กันฟรี ๆ ยังไงอย่างลืมติดตามอ่านบทความและความรู้ของเราด้วยนะครับ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน

 

ความรู้ คือการลงทุนที่คุ้มค่ามากที่สุด

ทีมงาน: forexthai.in.th

แสดงข้อคิดเห็น ให้กำลังใจ

comments

สารบัญบทความ