Forexthai.in.th ย่อให้
- Ultimate Oscillator (UO) เป็นอินดิเคเตอร์โมเมนตัมออสซิลเลเตอร์
- พัฒนาโดย Larry Williams เพื่อแก้ปัญหาสัญญาณหลอกของออสซิลเลเตอร์แบบดั้งเดิม
- ใช้การวิเคราะห์ 3 ช่วงเวลา คือ ระยะสั้น (7 วัน) ระยะกลาง (14 วัน) และระยะยาว (28 วัน) ทำให้สัญญาณที่ได้มีความแม่นยำสูง
- แสดงค่าเป็นเปอร์เซ็นต์ 0-100 โดยมีเส้น 70 เป็นโซน Overbought และเส้น 30 เป็นโซน Oversold ช่วยบอกจังหวะการกลับตัวของราคา
- สามารถใช้ Divergence เพื่อหาสัญญาณการเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม โดยดูความไม่สอดคล้องระหว่างราคากับค่า UO
Ultimate Oscillator หรือ UO เป็นอินดิเคเตอร์ประเภทโมเมนตัมออสซิลเลเตอร์ ที่ถูกพัฒนามาเพื่อแก้ปัญหาของออสซิลเลเตอร์แบบเดิม ๆ ที่มักจะให้สัญญาณซื้อขายมากเกินไป หรือบางครั้งก็ช้าเกินกว่าจะนำไปใช้ได้ทัน UO จึงถูกออกแบบมาให้รวมการวิเคราะห์ 3 ช่วงเวลาเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้สัญญาณที่แม่นยำและลดสัญญาณหลอกให้น้อยที่สุด
แนวคิดที่เชื่อถือได้ จะต้องเป็นแนวคิดที่ผ่านการทดสอบ ไม่ใช่มโนเพียงอย่างเดียว
Ultimate Oscillator คืออะไร
UO เป็นอินดิเคเตอร์ประเภทโมเมนตัมออสซิลเลเตอร์ ที่วัดความแข็งแกร่งของราคาโดยเปรียบเทียบระยะห่างระหว่างราคาปิดและราคาต่ำสุด กับระยะห่างของราคาสูงสุดและต่ำสุด ค่าที่ได้จะแสดงออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์ตั้งแต่ 0 ถึง 100 ช่วยให้เทรดเดอร์เห็นจังหวะการกลับตัวของราคาได้ หรือจะใช้บอกถึงปริมาณการซื้อขายที่มากเกินไปก็ได้
UO เป็นอินดิเคเตอร์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในวงการเทรด และหลายคนถึงกับบอกว่าเป็นอินดิเคเตอร์ที่ดีที่สุด ซึ่งก็ไม่เกินจริงนัก เพราะ UO ไม่ได้เกิดขึ้นมาลอย ๆ แต่เกิดจากแนวคิดที่ผ่านการทดสอบมาอย่างยาวนาน จนพิสูจน์แล้วว่าสามารถเอาชนะตลาดได้จริง
ผู้พัฒนาและแนวคิดของ UO

Larry Williams ผู้เชี่ยวชาญด้านการเทรดระดับตำนาน เป็นผู้พัฒนา UO ขึ้นมา ด้วยแนวคิดที่ว่าการรวมการวิเคราะห์จากหลายช่วงเวลาเข้าด้วยกัน จะช่วยให้ได้สัญญาณที่แม่นยำมากขึ้น โดยเขาได้นำค่าจาก 3 ช่วงเวลามาใช้:
- ระยะสั้น: 7 วัน
- ระยะกลาง: 14 วัน
- ระยะยาว: 28 วัน
การใช้ค่าที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลา ทำให้ได้สัญญาณที่มีความเสถียรมากขึ้น และลดโอกาสที่จะเกิดสัญญาณผิดพลาด
วิธีใช้งาน Ultimate Oscillator
UO มีวิธีการใช้งานที่ไม่ซับซ้อน สามารถใช้ได้เหมือนกับออสซิลเลเตอร์อื่น ๆ แต่สิ่งที่ทำให้ UO แตกต่างคือการใช้ค่า 3 ช่วงเวลาในการคำนวณ ทำให้สัญญาณที่ได้มีความแม่นยำสูงและลดสัญญาณหลอกได้มาก วิธีการใช้งานหลัก ๆ มีดังนี้
1. การใช้โซน Overbought และ Oversold
UO จะมีเส้นบ่งชี้ 2 เส้นคือ:
- เส้น 70 แสดงโซน Overbought (ซื้อมากเกินไป)
- เส้น 30 แสดงโซน Oversold (ขายมากเกินไป)
วิธีการอ่านค่า:
- เมื่อค่า UO ขึ้นไปเหนือ 70 แสดงว่าตลาดอยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป ราคามีโอกาสปรับตัวลง
- เมื่อค่า UO ลงมาต่ำกว่า 30 แสดงว่าตลาดอยู่ในภาวะขายมากเกินไป ราคามีโอกาสฟื้นตัวขึ้น
ตัวอย่างการใช้โซน Overbought/Oversold

ออสซิลเลเตอร์จะให้เส้นมา 2 เส้นนั่นก็คือ 30 และ 70 เป็นสัญญาณ Overbought และ Oversold เพื่อให้เทรดเดอร์พิจารณาได้ว่า เมื่อเกิดสัญญาณซื้อมากจนเกินไป ไม่นานจะต้องมีการกลับตัวเพราะแรงซื้ออ่อนแรงลง และเมื่อเกิดสัญญาณขายมากจนเกินไป ไม่นานก็จะมีการกลับตัวเพราะแรงขายได้อ่อนแรงลงเช่นกัน
จากภาพตัวอย่าง
- ราคาอยู่ในแนวโน้มขาลง
- ราคาวิ่งขึ้นมาทดสอบแนวต้าน และค่า UO แสดงว่าตลาดมีการซื้อมากเกินไป (ขึ้นมาแตะเส้น 70)
- แรงซื้อเริ่มอ่อนแรงลง มีแรงขายเข้ามาแทนที่ จนเกิดการกลับตัวของราคาในที่สุด
จะเห็นได้ว่า ในตัวอย่างเป็นการใช้อินดิเคเตอร์และเส้นเทรนไลน์เพื่อยืนยันซึ่งกันและกัน เป็นสัญญาณในการเข้าเทรด ไม่ได้ใช้เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง
ความสำเร็จเกิดขึ้นไม่ได้หากไร้เป้าหมาย แม้มีเป้าหมายก็เกิดขึ้นไม่ได้ หากไร้การจดจ่อ
2. การใช้ Divergence
Divergence หรือความไม่สอดคล้องกันระหว่างราคาและค่า UO เป็นสัญญาณสำคัญที่บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม
Bearish Divergence (สัญญาณขาลง)
- ราคาทำจุดสูงสุดใหม่ที่สูงกว่าจุดสูงสุดเดิม แต่ค่า UO ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ต่ำกว่าจุดสูงสุดเดิม
- เป็นสัญญาณเตือนว่าแนวโน้มขาขึ้นอาจจะอ่อนแรงลง
Bullish Divergence (สัญญาณขาขึ้น)
- ราคาทำจุดต่ำสุดใหม่ที่ต่ำกว่าจุดต่ำสุดเดิม แต่ค่า UO ทำจุดต่ำสุดใหม่ที่สูงกว่าจุดต่ำสุดเดิม
- เป็นสัญญาณเตือนว่าแนวโน้มขาลงอาจจะอ่อนแรงลง
ตัวอย่างการใช้ Divergence ในการหาจุดเข้าเทรด

จากภาพตัวอย่าง เราจะเห็นการเกิด Divergence หรือความขัดแย้งระหว่างราคากับค่า UO ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนว่ากำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงของราคา
สิ่งที่ทำให้ UO พิเศษกว่าออสซิลเลเตอร์อื่นคือ มันจะไม่ให้สัญญาณบ่อยเกินไป เพราะผ่านการกรองมาแล้ว ทำให้เมื่อเกิดสัญญาณขึ้น มักจะมีความน่าเชื่อถือสูง
ในตัวอย่าง เราเห็นการยืนยันสัญญาณจากหลายปัจจัย:
- ราคามีการพักตัวในระยะสั้น
- เกิด Divergence ที่ชัดเจน
- มีการกลับตัวของราคาตามที่สัญญาณบอก
- เป็นจุดที่เหมาะสำหรับการเข้าซื้อ เพราะราคากำลังจะกลับไปตามแนวโน้มเดิม
ความสำเร็จในอดีต ไม่ได้การันตีความสำเร็จในอนาคต ความล้มเหลวในอดีตก็เช่นกัน
ข้อดีของ Ultimate Oscillator
- ลดสัญญาณรบกวน สัญญาณหลอก
- ด้วยการใช้ข้อมูล 3 ช่วงเวลา
- กรองสัญญาณที่ไม่จำเป็นออกไป
- ลดความผิดพลาดในการเทรด
- ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน
- ใช้คล้ายกับออสซิลเลเตอร์อื่น ๆ
- เรียนรู้ได้ไม่ยาก
- เข้าใจง่ายแม้เพิ่งเริ่มต้น
รถบางรุ่นภายนอกเหมือน ๆ กัน แต่แรงม้าแตกต่างกัน
ข้อควรระวังในการใช้งาน
- ไม่ควรใช้เพียงอย่างเดียว
- ควรใช้ร่วมกับเทคนิคหรือทฤษฎีอื่น ๆ
- ยืนยันสัญญาณด้วยเครื่องมือหลาย ๆ ตัว
- มองภาพรวมของตลาด
- อินดิเคเตอร์ไม่ใช่สัญญาณหลัก
- ใช้เป็นเครื่องมือช่วยตัดสินใจ
- ต้องดูปัจจัยอื่นประกอบ
- ไม่ควรเชื่อถือเพียงอย่างเดียว
- ต้องทดสอบก่อนใช้งานจริง
- ศึกษาวิธีใช้ให้เข้าใจ
- ทดลองใช้ในบัญชีทดลอง
- เก็บสถิติผลการใช้งาน
วิธีเปิดขึ้นมาใช้ในโปรแกรมเทรด
1. วิธีเปิดใช้ใน Tradingview
UO เป็นอินดิเคเตอร์ยอดนิยม จึงไม่ได้มีเพียงแค่ช่องทางใดช่องทางหนึ่งเท่านั้นที่สามารถใช้ได้ เทรดเดอร์ที่เทรดใน Tradingview สามารถค้นหาในเมนูอินดิเคเตอร์โดยค้นคำว่า UO สามารถคลิกออกมาใช้ได้เลย

วิธีเปิดอินดิเคเตอร์มาใช้ใน MT5
อีกหนึ่งในโปรแกรมเทรดยอดนิยมนั่นก็คือ MT5 มีวิธีเปิดขึ้นมาใช้ ดังต่อไปนี้

- มองไปทางซ้าย แล้วหาคำว่า Indicator จากนั้นให้กด + เพื่อขยายตัวเลือก
- มองหาคำว่า Examples แล้วกด + เพื่อขยายตัวเลือก
- มองหาคำว่า Ultimate_Oscillator ทำการแดรกเมาส์เข้ามาวางไว้ในกราฟ
- จะมีหน้าต่างให้ปรับตั้งค่า เทรดเดอร์สามารถปรับได้ตามความต้องการ
- อินดิเคเตอร์พร้อมใช้งานทันที
ทำแบบเดิม ได้ผลลัพธ์แบบเดิม ๆ อยากมีผลลัพธ์แบบใหม่ ให้ทำแบบใหม่ ๆ
สรุป
Ultimate Oscillator นับว่าเป็นเครื่องมือที่พัฒนาเพื่อมาแก้ไขปัญหา ข้อผิดพลาดในการเทรด ลดสัญญาณหลอก ด้วยการใช้สัญญาณทั้ง ระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อมาคำนวณให้ได้สัญญาณที่มีความเสถียรที่สุด และที่สำคัญเทรดเดอร์สามารถนำไปใช้ได้ง่ายที่สุด
เพราะเป็นหนึ่งออสซิลเลเตอร์ที่หลาย ๆ คนรู้จักและคุ้นเคยเป็นอย่างดี วิธีใช้จึงไม่ได้แตกต่างกัน เพียงแค่มีสูตรในการคำนวนที่แตกต่างกัน ส่วนผลลัพธ์จะดีกว่าหรือไม่ อยู่ที่เทรดเดอร์จะตัดสินใจและนำไปปรับใช้เอง
อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์ควรจำไว้ว่า UO เป็นเพียงเครื่องมือช่วยในการตัดสินใจ ควรใช้ร่วมกับการวิเคราะห์ด้านอื่น ๆ และที่สำคัญคือต้องมีการทดสอบและฝึกฝนการใช้งานให้เชี่ยวชาญก่อนนำไปใช้จริง
ทีมงาน Forexthai.in.th
Pingback: สุดยอดเครื่องมือ Ultimate Oscillator คือ | ThaiForexBroker