รูปแบบกราฟ Triple Top และ Triple Bottom เป็นอีกหนึ่งรูปแบบการกลับตัว (Reversal Pattern) ที่เกิดขึ้นได้บ่อย และมีความแม่นยำ แต่จะมีลักษณะคล้ายกับกราฟไซต์เวย์ โดยการเคลื่อนที่แล้วสร้างกรอบราคา ก่อนที่จะกลับตัวในเวลาต่อมา

สารบัญบทความ click เพื่อเลือกอ่าน !!
Triple Top คืออะไร
รูปแบบกราฟ Triple Top พบได้บ่อยในแนวโน้มขาขึ้น จะคล้ายกับ Double Top แต่จะมียอดหรือ Top ทั้งหมด 3 Top เกิดจากราคาพยายามที่จะสร้าง Swing-High ที่ล้มเหลว โดยความพยายามนี้จึงเป็นการสร้างรูปแบบที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ
และทุกครั้งที่ไม่สามารถทำ Swing-High ได้ บริเวณนั้นนับว่าเป็นแนวต้าน จะย้อนกลับมาทดสอบที่แนวรับเดิม หรือเป็นเส้น Neckline (สร้อยคอ)
สิ่งที่แตกต่างจาก Double Top นั่นก็คือ จะย้อนกลับไปพยายามทำ Swing-High ถึง 3 ครั้ง และจะหลุดเส้น Neckline ในที่สุด เกิดเป็นแพทเทิร์นที่สมบูรณ์ เป็นสัญญาณที่บอกว่ากราฟไม่สามารถไปต่อได้ และกำลังจะกลับตัวในไม่ช้า ในระหว่างเดียวกันแนวรับจะรับไม่อยู่เป็นครั้งที่ 3
กราฟสะท้อนอารมณ์ของผู้คนในตลาด และผู้คนในตลาดมักจะมีอารมณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ เสมอ
การสร้างรูปแบบ Triple Top

ในแนวโน้มขาขึ้น ก่อนที่จะสร้างรูปแบบแพทเทิร์น กราฟจะยังเป็นเสมือนขาขึ้นปกติ จนกว่าจะสร้างแพทเทิร์นเป็นที่เรียบร้อยจึงจะรู้ได้ว่าเป็นรูปแบบแพทเทิร์น
เมื่อกราฟเริ่มพักตัวหรือย่อตัวลงมา เทรดเดอร์อาจจะคิดว่า ไม่นานก็จะกลับตัวแล้วขึ้นต่อ และเมื่อกราฟพยายามขึ้นต่อแต่เบรคแนวต้าน ทำ New-High ไม่สำเร็จ เทรดเดอร์อาจจะคิดได้ว่าเป็นรูปแบบ Double Top
แต่ก็ยังไม่สามารถหลุดเส้นแนวรับหรือ Neckline ได้ พยามยามจะขึ้นไปทำ New-High อีกครั้ง แต่ก็ไม่สำเร็จ และเมื่อกราฟย้อนกลับลงมาหลุดเส้น Neckline จึงเฟิร์มได้ว่าเป็นรูปแบบของ Triple Top นั่นเอง
Trade Setup ด้วย Triple Top

การเข้าเทรดด้วย Triple Top ถึงแม้จะมีความแม่นยำ แต่เทรดเดอร์ไม่ควรที่จะมองข้ามความปลอดภัย โดยการตั้ง Stop Loss เป็นไปตามระบบ ส่วนเป้าหมายทำกำไรสามารถตั้งให้ได้ RR ที่มากกว่า 1 ต่อ 1 ได้
การเทรดด้วย Triple Top ส่วนใหญ่จะเป็นการกลับตัวของแนวโน้ม นั่นหมายความว่าเป็นการเข้าเทรดตั้งแต่ต้นเทรนด์ เทรดเดอร์สามารถทำการรันเทรนด์ได้ตามสมควร
- จุดเข้า Sell คือจุดเบรคเอาท์ โดยรอให้ราคาปิดต่ำกว่าเส้น Neckline
- จุด Stop Loss จะอยู่เหนือยอด Top
- เป้าหมายทำกำไร 1 เท่าของเส้น Neckline ไปถึง Top
เพียงเข้าใจรูปแบบ ก็ไม่จำเป็นต้องท่องจำ
Triple Bottom คืออะไร
รูปแบบกราฟ Triple Bottom คล้ายกับ Triple Top กลับหัว โดยมีบริเวณต่ำสุด 3 Bottom เกิดจากความพยายามสร้าง New-Low ที่ล้มเหลว
และทุกครั้งที่ไม่สามารถผ่านแนวรับไปได้ จะสร้าง Bottom ไว้ถึง 3 ครั้ง แสดงถึงพยายามที่จะทะลุเส้นแนวรับ เมื่อไม่สำเร็จจะทำการย้อนกลับมาทดสอบแนวต้าน แนวต้านนี้จะเรียกว่า Neckline
สร้างเป็นกรอบราคา ก่อนที่จะทำการเบรคเอาท์เส้น Neckline เป็นรูปแบบการกลับตัวจากแนวโน้มขาลงเป็นขาขึ้นอย่างสมบูรณ์ในที่สุด
การสร้างรูปแบบ Triple Bottom

ในแนวโน้มขาลง กราฟอาจจะมีทำการพักตัวก่อนที่จะลงต่อ จึงเกิดเป็น Swing Low และเมื่อกราฟกลับตัวลงต่อแต่ไม่สามารถสร้าง New-Low ได้ จึงเกิดเป็นแนวรับที่ราคาไม่สามารถผ่านไปได้ และจึงกลับขึ้นไปทดสอบกับแนวต้านอีกครั้ง ก่อนที่จะย้อนลงมาเพื่อพยายามที่จะลงต่อ
แต่ก็ไม่สามารถผ่านไปได้ทั้งสามครั้ง โดยสร้างรูปแบบ Bottom ไว้ทั้งหมด 3 ครั้ง แสดงให้เห็นว่าราคาไม่สามารถลงต่อไปได้ กราฟจึงย้อนกลับไปทะลุเส้นแนวต้าน หรือเส้น Neckline เป็นการสร้างรูปแบบ Triple Bottom อย่างสมบูรณ์
Trade Setup ด้วย Triple Bottom

การเทรดด้วย Triple Bottom แม้ว่าจะมีความเหมือนกันกับ Triple Top อยู่มาก แต่ด้วยตลาดขาขึ้นกับขาลง อารมณ์ค่อยข้างที่จะแตกต่างกัน อาจจะทำให้การดูกราฟค่อนข้างยาก แต่เทรดเดอร์สามารถฝึกฝนให้ชำนาญด้วยการฝึกวิเคราะห์บ่อย ๆ
และเป้าหมายทำกำไร เทรดเดอร์สามารถตั้งไว้ให้ได้ RR มากกว่า 1 ต่อ 1 เพราะการเทรดด้วยแพทเทิร์นนี้ ส่วนใหญ่แล้วจะเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแนวโน้ม นั่นหมายความว่าเทรดเดอร์จะได้ออเดอร์ตั้งแต่ต้นเทรนด์ และเมื่อไหร่ที่ตลาดเป็นเทรนด์ ก็จะสามารถรันทำกำไรไปได้ยาว ๆ
- จุดเข้า Buy เมื่อราคาปิดสูงกว่าเส้น Neckline
- จุด Stop Loss ต่ำกว่า Bottom
- เป้าหมายทำกำไรอยู่ที่ 1 เท่าของระยะ Bottom ไปยังเส้น Neckline
เคล็ดลับของการเทรด คือการฝึก ฝึก และฝึก
ข้อดีและประโยชน์ของการเทรดด้วย Triple Top และ Triple Bottom
- เกิดขึ้นบ่อย ใช้ได้ทุกไทม์เฟรม
- จดจำเพียงรูปแบบ ไม่มีสัดส่วนตายตัว
- มีแผนการเทรดชัดเจน มีเป้าทำกำไรให้ชัดเจน
- ใช้ได้กับทุกคู่สกุลเงิน
ข้อควรระวัง
- แม้จะเกิดขึ้นบ่อย และมีเปอร์เซ็นต์ในการกลับตัวสูง แต่ก็ควรระมัดระวังในการใช้งาน เพราะในตลาด Forex ไม่มีอะไร 100%
- กราฟที่แสดงตัวอย่างตามทฤษฎีกับกราฟในตลาดจริง ค่อยข้างที่จะแตกต่างกัน แต่เทรดเดอร์สามารถฝึกฝนได้ด้วยการสังเกตบ่อย ๆ
ฝึกฝนซ้ำ ๆ จนกว่าความสำเร็จมันจะมาฟ้องด้วยตัวมันเอง
สรุป
รูปแบบกราฟ Triple Top และ Triple Bottom เป็นอีกหนึ่งแพทเทิร์นที่เกิดขึ้นได้บ่อย และเมื่อเกิดขึ้นทุกครั้งจะมีการกลับตัวได้อย่างแน่นอน ซึ่งตกต่างจาก Double Top และ Double Bottom ที่จะมีเพียง 2 ยอดเท่านั้น
เมื่อไหร่ก็ตามที่ Double Top และ Double Bottom ล้มเหลว แพทเทิร์นต่อไปที่เทรดเดอร์จะต้องมองหาและรอคอยจังหวะในการเข้าเทรดนั่นก็คือ Triple Top และ Triple Bottom