สำหรับ Indicator ที่ให้สัญญาณ Trend Following คือตัวชี้วัดที่สามารถใช้เพื่อระบุแนวโน้มของราคาและหาจุดเข้าและจุดออกของตำแหน่งซื้อขายตามแนวโน้มได้อย่างต่อเนื่องได้ดี ที่นิยมใช้กันมีหลายตัว เช่น
ซึ่ง Indicator Trend Following ที่ยกมาเป็นตัวอย่างเหล่านี้ ต่างก็มีคุณสมบัติในการให้สัญญาณที่แตกต่างกัน ที่ชัดเจนที่สุดคือแยกเป็นตัวชี้วัดที่ให้สัญญาณเร็วและให้สัญญาณช้า นั่นเอง
สารบัญบทความ click เพื่อเลือกอ่าน !!
ตัวชี้วัดที่ให้สัญญาณ เร็ว-ช้า
สำหรับ Indicator ที่ให้สัญญาณ Trend Following นั้น สามารถแยกออกเป็นสองประเภทตามลักษณะการบ่งชี้ทางสัญญาณว่าพวกไหนแสดงสัญญาณเร็วหรือช้า ดังนี้
- Indicator ที่ให้สัญญาณเร็ว
- Indicator ให้สัญญาณช้า
Indicator ที่ให้สัญญาณเร็ว
Indicator ที่ให้สัญญาณเร็ว คือ “อินดิเคเตอร์ที่คำนวณจากราคาปัจจุบัน” โดยค่าของ Indicator เหล่านี้จะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตามการเคลื่อนไหวของราคา ดังนั้นอินดิเคเตอร์เหล่านี้จึงสามารถให้สัญญาณการซื้อขายได้เร็วกว่าพวกที่คำนวณจากราคาในอดีต ได้แก่
Relative Strength Index (RSI):
RSI เป็น Indicator ที่วัดระดับโมเมนตัมของราคา โดย RSI มักให้สัญญาณการซื้อขายเมื่อ RSI ทะลุผ่านระดับ 70 หรือ 30
Stochastic Oscillator:
Stochastic Oscillator เป็น Indicator ที่วัดระดับโมเมนตัมของราคา โดย Stochastic Oscillator มักให้สัญญาณการซื้อขายเมื่อ Stochastic Oscillator ทะลุผ่านระดับ 80 หรือ 20
Williams %R:
Williams %R เป็น Indicator ที่วัดระดับโมเมนตัมของราคา โดย Williams %R มักให้สัญญาณการซื้อขายเมื่อ Williams %R ทะลุผ่านระดับ -80 หรือ +20
MACD:
MACD เป็น Indicator ที่วัดระดับโมเมนตัมของราคา โดย MACD มักให้สัญญาณการซื้อขายเมื่อ MACD ตัดกัน
Bollinger Bands:
Bollinger Bands เป็น Indicator ที่วัดระดับความผันผวนของราคา โดย Bollinger Bands มักให้สัญญาณการซื้อขายเมื่อราคาทะลุผ่านเส้น Bollinger Bands
อย่างไรก็ตาม Indicator ที่ให้สัญญาณเร็วมักมีสัญญาณหลอกเกิดขึ้นได้บ่อยครั้ง ดังนั้นเทรดเดอร์ควรใช้ Indicator เหล่านี้ร่วมกับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและประสบการณ์ในการซื้อขาย เพื่อให้สามารถตัดสินใจซื้อขายได้อย่างรอบคอบและมีประสิทธิภาพ
ข้อควรระวังในการใช้ Indicator ที่ให้สัญญาณเร็ว
ในการใช้งาน Indicator ที่ให้สัญญาณเร็ว มีข้อที่ควรระวังในการใช้อยู่ ควรใช้ตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้
- ใช้ร่วมกับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน Indicator ที่ให้สัญญาณเร็วมักมีสัญญาณหลอกเกิดขึ้นได้บ่อยครั้ง ดังนั้นเทรดเดอร์ควรใช้ Indicator เหล่านี้ร่วมกับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและประสบการณ์ในการซื้อขาย
- ใช้กับการเทรดระยะสั้น Indicator ที่ให้สัญญาณเร็วมักเหมาะกับการเทรดระยะสั้นมากกว่าการเทรดระยะยาว
- ไม่ควรใช้ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง Indicator ที่ให้สัญญาณเร็วมักไม่เหมาะกับการเทรดในภาวะตลาดที่ผันผวนสูง
Indicator ที่ให้สัญญาณช้า
Indicator ที่ให้สัญญาณช้า คือ Indicator ที่ส่งสัญญาณการซื้อขายได้ช้ากว่า Indicator ที่ให้สัญญาณเร็ว “มักใช้ในการเทรดระยะยาว” โดย Indicator ที่ให้สัญญาณช้าที่นิยมใช้กัน ได้แก่
Aroon:
Aroon เป็น Momentum อินดิเคเตอร์ที่วัดระดับการเคลื่อนไหวของราคา โดยค่าของ Aroon จะอยู่ระหว่าง 0 ถึง 100 โดยค่า
- Aroon Up: จะวัดระดับการเคลื่อนไหวของราคาขาขึ้น
- Aroon Down: จะวัดระดับการเคลื่อนไหวของราคาขาลง
Ichimoku Kinko Hyo:
Ichimoku Kinko Hyo เป็น Momentum อินดิเคเตอร์ที่รวมสัญญาณการซื้อขายหลายแบบไว้ในอินดิเคเตอร์เดียว โดยสัญญาณการซื้อขายที่สำคัญจาก Ichimoku Kinko Hyo ได้แก่
- Tenkan-Sen (เส้นแดง): เมื่อ Tenkan-Sen ตัดผ่าน Kijun-Sen (เส้นสีน้ำเงิน) ในทิศทางตรงกันข้าม
- Kijun-Sen (เส้นสีน้ำเงิน): เมื่อ Kijun-Sen ตัดผ่าน Senkou Span A (เส้นสีเขียว) ในทิศทางตรงกันข้าม
- Chinkou Span (เส้นสีขาว): เมื่อ Chinkou Span ตัดผ่านราคาปัจจุบันในทิศทางตรงกันข้าม
Average Directional Movement Index (ADX):
ADX เป็น Momentum อินดิเคเตอร์ที่วัดระดับแนวโน้มของราคา โดยค่าของ ADX จะอยู่ระหว่าง 0 ถึง 100 โดยค่า ADX ที่สูงกว่า 25 แสดงว่าแนวโน้มของราคามีความชัดเจน สัญญาณการกลับตัวจาก ADX ได้แก่
- ค่า ADX ลดลงต่ำกว่า 25: แสดงว่าแนวโน้มของราคาอาจสิ้นสุดลง
- ค่า ADX เพิ่มขึ้นสูงกว่า 25: แสดงว่าแนวโน้มของราคาอาจเริ่มต้นขึ้น
Pivot Points:
Pivot Points คือตัวชี้วัดระดับแนวรับและแนวต้านที่คำนวณจากราคาเปิด สูง ต่ำ และปิดของวันก่อนหน้า โดย Pivot Points สามารถใช้เพื่อระบุแนวโน้มของราคาและหาจุดเข้าและจุดออกของตำแหน่งซื้อขายได้
- หากราคาทะลุผ่าน Support 1 หรือ 2: แสดงว่าราคามีแนวโน้มที่จะกลับตัวลง
- หากราคาทะลุผ่าน Resistance 1 หรือ 2: แสดงว่าราคามีแนวโน้มที่จะกลับตัวขึ้น
ข้อที่ควรใส่ใจในการใช้ Indicator ที่ให้สัญญาณช้า
ข้อที่ควรใส่ใจสำหรับนักเทรด ในการใช้ Indicator ที่ให้สัญญาณช้านั้น ควรคำนึงถึงข้อดีและข้อเสียของ Indicator ที่ให้สัญญาณช้า ดังนี้
- ข้อดี สัญญาณการซื้อขายมักแม่นยำกว่า Indicator ที่ให้สัญญาณเร็ว ช่วยลดความเสี่ยงในการซื้อขาย
- ข้อเสีย สัญญาณการซื้อขายมาช้ากว่า Indicator ที่ให้สัญญาณเร็ว อาจพลาดโอกาสในการซื้อขายได้
อย่างไรก็ตาม การใช้ Indicator ที่ให้สัญญาณช้าก็มีความเสี่ยงต่ำ เนื่องจากสัญญาณการซื้อขายมักแม่นยำกว่า Indicator ที่ให้สัญญาณเร็ว การใช้ร่วมกับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและประสบการณ์ในการซื้อขาย จะยิ่งช่วยให้สามารถตัดสินใจซื้อขายได้อย่างรอบคอบและมีประสิทธิภาพ
ทีมงาน Forexthai.in.th