Forexthai.in.th ย่อให้

  • Trend Change หรือการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มของราคาในตลาด Forex คือการที่แนวโน้มราคาหนึ่งได้จบลงและเปลี่ยนไปเป็นอีกแนวโน้มหนึ่งแทน เช่นแนวโน้มขาขึ้นเปลี่ยนเป็นแนวโน้มขาลง
  • สัญญาณในการเกิด Trend Change เราสามรถรู้ได้เบื้องต้น 4 แบบ ดังนี้ การ Breakout เส้น Trendline, Price Pattern กลับตัว, ใช้อินดิเคเตอร์, ดู Volume ประกอบ
  • การ Breakout เส้น Trendline ก็คือราคาทะลุเส้นแนวโน้มเดิม โดยอาศัยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นเป็นสัญญาณยืนยัน ส่วน Price Pattern ก็เช่น Head and Shoulders, Double Top/Bottom เป็นต้น
  • ส่วนการใช้อินดิเคเตอร์ ก็เช่น Moving Average (MA) โดยสังเกตการตัดกันของเส้น MA ราคาเปิดและ MA ราคาปิด
  • ตัวอย่างการเปลี่ยนเทรนด์ ในกราฟ Forex จริง แสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มโดยใช้อินดิเคเตอร์ MA เป็นตัวช่วยวิเคราะห์

Trend Change forex

ในเบื้องต้นเทรดเดอร์ Forex ก็ต้องรู้จัก Trend กันมาบ้างแล้วเพราะมันคือเรื่องพื้นฐานในการวิเคราะห์กราฟราคา ซึ่งเราจะลงลึกบทเรียนไปอีกขึ้นเกี่ยวกับ Trend Change หรือการเปลี่ยนเทรนด์ของราคา มันมีสัญญาณการเกิดที่เทรดเดอร์สามารถรับรู้ได้เพื่อทำกำไรได้ไม่มีหยุด


Trend change คืออะไร?

  • ก่อนอื่นขอเริ่มปูพื้นฐานที่ Trend ก่อนว่าคืออะไร Trend ก็คือแนวโน้มและทิศทางโดยรวมของราคาในตลาด ณ ช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่ง Trend นั้นเกิดขึ้นมาในอดีตเพื่อที่เราจะเอามาวิเคราะห์ในอนาคต แม้ว่าอดีตนั้นจะหมาย 1 ชั่วโมงที่ผ่านมาก็ตาม
  • ซึ่ง Trend ก็สามารถแบ่งออกเป็น 3 แนวโน้ม คือ Trend ขาขึ้น, Trend ขาลงและ Trendแบบ Sideway ซึ่งในประวัติศาสตร์ตลาด Forex จะมีแค่ 3 แนวโน้มนี้เท่านั้น
  • ต่อมาเมื่อ Trend หนึ่งเกิดขึ้นย่อมมีวันหมดไปเป็นธรรมดา และนั่นก็ย่อมทำให้เกิด Trend Change หรือ การเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มนั่นเอง
  • มันคือช่วงเวลาที่ทิศทางของราคาในตลาดเปลี่ยนแปลงไป จากเดิมที่เป็นขาขึ้นก็อาจเปลี่ยนเป็นขาลงหรือจากขาลงก็อาจเปลี่ยนเป็นขาขึ้นหรือออกข้าง (Sideway) ก็ได้
Trend 3 ประเภท
ในตลาด Forex จะมี Trend ราคาเกิดขึ้นเพียง 3 Trend เท่านั้นคือ Trend ขาขึ้น, Trend ขาลง, Trend Sideway ออกข้าง ซึ่งห่ก Trend ใดหมดแรงหรือถึงเวลาจบ Trend ก็จะเข้าสู่โหมดเปลี่ยนแปลงแนวโน้มโดยปริยาย

สัญญาณการเกิด Trend Change

ทีนี้คำถามต่อมาคือ เราจะรู้ได้ยังไงว่าตอน Trend ได้เปลี่ยนไปแล้ว? โดยเราสามารถใช้เครื่องมือเหล่านี้บนแพลตฟอร์มเทรดทำการวัดหรือวิเคราะห์ได้แบบง่ายๆ ครับ

การ Breakout เส้น Trendline

  • เส้น Trendline คือ เส้นที่ลากเชื่อมจุดสูงสุดหรือต่ำสุดของราคา เพื่อแสดงทิศทางของแนวโน้มในตลาดว่ากำลังไปในทิศทางไหน
  • โดยทั่วไปแล้วหากแนวโน้มยังคงแข็งแกร่งราคาก็มักจะวิ่งไม่ผ่านเส้น Trendline แต่หากมีสัญญาณการเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม เราสังเกตได้ทันทีคือราคาจะทะลุเส้น Trendline ออกมา
  • การทะลุ (Breakout) นี้ เป็นเพียงสัญญาณเริ่มต้น เทรดเดอร์จำเป็น! ต้องรอให้ราคายืนยันว่าได้เปลี่ยนแนวโน้มจริงๆ เช่น สัญญาณไม่กลับเข้าไปใน Trendline หรือรอให้เกิด Real Retest ก่อน
ราคา Breakout ทะลุ Trendline
การที่ราคา Breakout ทะลุ Trendline ออกมา เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม แต่เทรดเดอร์ควรให้ราคายืนยันอีกที สังเกตว่าราคาจะพยายามกลับเข้า Trendline อีกครั้ง หากกลับเข้าไปไม่ได้ก็จะนับว่า Trend Change มีโอกาสสูงมาก

การเกิดรูปแบบ Price Pattern กลับตัว

  • Price Pattern มันคือรูปแบบการเคลื่อนไหวของราคาที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ในอดีตเทรดเดอร์หลายคนเห็นว่าแพทเทิร์นนี้มันซ้ำกันบ่อยจนมีความหมายบางอย่าง ซึ่งสามารถใช้คาดการณ์ทิศทางราคาในอนาคตได้
  • ซึ่ง Price Pattern ก็จะเป็นเหมือนสัญญาณไปต่อหรือกลับตัว เช่น
    • Head and Shoulders, Double Top/Bottom มักบ่งบอกถึงการสิ้นสุดของ Trend เดิมและการเริ่มต้นของ Trend ใหม่
    • ส่วน Pennant Pattern เป็นลักษณะการพักตัวของราคา ซึ่งมักจะไปต่อในทิศทางเดิม เป็นต้น
Double Bottom
หากวิเคราะห์ลงลึก สังเกตว่าลักษณะของ Double Bottom จะคล้ายกับการที่ราคาไม่สามารถผ่านแนวรับนี้ (ตรงพื้นตัว W) ได้ในจำนวนหลายครั้ง จึงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม

การใช้ Indicator ในการจับ Trend Change

  • ต่อมาเราสามารถรับรู้การเปลี่ยนแปลงแนวโน้มได้จากการใช้อินดิเคเตอร์ ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ออกแบบมาเพื่อช่วยวิเคราะห์แนวโน้มและคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของราคาอยู่แล้ว
  • อินดิเคเตอร์ที่นิยมใช้ในการจับการเปลี่ยน Trend ก็อย่างเช่น Moving Average (MA), RSI, MACD เป็นต้น
  • ในบทความนี้ขอเน้นไปที่เส้น Moving Average หรือเส้นค่าเฉลี่ยนนะครับเพราะดูง่ายที่สุด โดยเราจะใช้เส้นค่าเฉลี่ย 2 เส้น เส้นแรกคำนวณจาก “ราคาเปิด” ส่วนอีกเส้นคำนวณจาก “ราคาปิด” ซึ่งปรับได้ในการตั้งค่า
    • ถ้าเส้น “ราคาปิดอยู่สูงกว่าเส้นราคาเปิด แสดงว่าเป็นแนวโน้มขาขึ้น ราคามีแต่จะขึ้นๆ ทำจุดสูงสุด (Swing High) และจุดต่ำสุด (Swing Low) ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ
    • ถ้าเส้น “ราคาเปิดอยู่สูงกว่าเส้นราคาปิด แสดงว่าเป็นแนวโน้มขาลง ราคามีแต่จะลงๆ ทำจุดสูงสุด (Swing High) และจุดต่ำสุด (Swing Low) ที่ต่ำลงเรื่อยๆ
    • ถ้าหาก 2 เส้นนี้เกิดจุดตัดกันและสลับขั้วกันอย่างมั่นคง ก็เป็นจุดสังเกตได้ว่า แนวโน้มอาจจะเปลี่ยนแปลง
ตัวอย่างการใช้เส้น MA ในการดูเทรนด์
ตัวอย่างการใช้เส้น MA หรือเส้นค่าเฉลี่ย 2 เส้น ทั้งแบบราคาเปิด(สีเหลือง) และราคาปิด(สีน้ำเงิน) ซึ่งหากเส้นทั้ง 2 ตัดกันและสลับฝั่งกันในที่สุด หมายความว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มเกิดขึ้น

Volume การซื้อขายที่เปลี่ยนแปลง

  • หากย้อนกลับข้อแรกเมื่อราคาเกิดการทะลุ Trendline มันคือสัญญาณแรกของการเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม จากนั้นหาก Volume หรือปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นก็นับเป็นอีกสัญญาณหนึ่งของการกลับตัวเช่นกัน
  • Volume เป็นเมือนสัญญาณเสริมที่เป็นตัวช่วยยืนยันว่าตอนนี้เทรดเดอร์จำนวนมากกำลังซื้อขายกัน ณ เวลา ปัจจุบัน ซึ่งหากราคาทะลุ Trendline ได้ ก็วิเคราะห์ได้ว่ามีแนวโน้มที่ Trend จะเปลี่ยน
Volume การเทรดที่เปลี่ยนแปลง
จากรูปภาพจะเห็นว่ากราฟมีแนวโน้มเป็นขาขึ้น จนกระทั่งราคา Breakout ทะลุออกมาจาก Trendline บริเวณกรอบสีน้ำเงิน พบว่ามีปริมาณการเทรดเพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงที่ราคายังไม่ทะลุ นั่นเป็นสัญญาณยืนยันเพิ่มเติมว่าแนวโน้มกำลังจะเปลี่ยนแล้ว

ตัวอย่าง Trend Change ในกราฟ Forex จริง

วันนี้เราก็มีตัวอย่าง Trend Change จากกราฟ Forex ของจริง โดนกรณีศึกษานี้เราจะใช้อินดิเคเตอร์ MA เป็นตัววิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงแนวโน้มครับ

ตัวอย่างการดูเทรนด์ที่เปลี่ยนจากอินดิเคเตอร์ MA
ตัวอย่างกราฟ Forex จริง โดยใช้อินดิเคเตอร์ MA 2 เส้นแบบ ค่าเฉลี่ยราคาเปิดกับค่าเฉลี่ยราคาปิด มาวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงแนวโน้มของกราฟราคา ซึ่ง 2 เส้นมีความสัมพันธ์กันโดยตรงต่อการเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม
  • จากกราฟนี้จะเห็นได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มเกิดขึ้น โดยใช้ Indicator MA (เส้นสีเหลืองคือ MA ราคาเปิด, เส้นสีน้ำเงินคือ MA ราคาปิด) เป็นตัวชี้วัดได้
  • ในช่วงแรกเส้น MA ราคาเปิด (สีเหลือง) อยู่เหนือ เส้น MA ราคาปิด (สีน้ำเงิน) ซึ่งสอดคล้องกับลักษณะของแนวโน้มขาลง คือ ราคาทำ Lower High และ Lower Low ด้วย
  • ในช่วงต่อมาบริเวณกรอบสี จะเห็นว่าเส้น MA ราคาปิด (สีน้ำเงิน) ตัดขึ้น เส้น MA ราคาเปิด (สีเหลือง) และราคาเริ่มทำ Higher High และ Higher Low บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มเป็นขาขึ้น

วิดีโอเกี่ยวกับ Trend Change

การใช้ Moving Average หาจุดกลับตัวของเทรนด์ เครดิต By The Moving Average Focus นาทีที่ 0:35-4:27

ทีมงาน Forexthai ไปเจอวิดีโอที่สอนวิธีการหาจุดกลับตัวของเทรนด์ (Trend Reversal) ด้วยการใช้ Moving Average แบบง่ายๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับเนื้อหาในบทความของเราและคิดว่ามีประโยชน์ต่อผู้อ่านแน่นอน ที่จะเห็นภาพชัดเจนขึ้นในการใช้เส้นค่าเฉลี่ย Moving Average ในการหาจุดกลับตัวหรือการเปลี่ยนแนวโน้ม

  • Focus นาทีที่ 0:35 ใช้ Moving Average 3 เส้น (21, 50, 200 periods) แบบ Smoothed โดยดูการ “โค้ง” ของเส้น MA เป็นสัญญาณ
  • Focus นาทีที่ 1:30 ตัวอย่างการ Breakout เส้น MA และการโค้งของเส้น MA พร้อมกับการใช้ Engulfing Candle
  • Focus นาทีที่ 3:41 อีกตัวอย่างหนึ่ง โดยเน้นย้ำว่า ต้องรอให้เส้น MA โค้ง ก่อนที่จะเข้าเทรด จากนั้นกราฟก็เฉลยผลลัพธ์ตามที่คาด

สรุป

อ่านจบบทความนี้แล้วคงเข้าใจเรื่องของ Trend Change และได้ความรู้การตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของราคาได้นะครับ เห็นมั้ยครับว่าว่าเรื่อง Trend แบบพื้นฐาน เราสามารถเรียนรู้แบบลงลึกไปอีกขั้นในการหาจังหวะที่ Trend เปลี่ยน และเข้าทำกำไรสวยๆ ได้ ความสำคัญของการเรียนรู้อยู่เสมอนั้นมักจะสร้างผลตอบแทนอย่างที่เราคาดไม่ถึงจริงๆ ใช่มั้ยครับ

Nakrob Seareechon

บรรณาธิการ/Web master

ปริญญาโทเศรษฐศาสตร์การเงิน พัฒนาระบบเทรดอัตโนมัติและพัฒนาเว็บไซต์ควบคู่การเทรดด้วยตนเอง

Krisorn Himmapan

Content Writer

ประสบการณ์เทรด Forex 12+ ปี จากพนักงานบริษัทสู่เทรดเดอร์อาชีพ เน้นกลยุทธ์ Long-term Trading

Nakrob Seareechon
บรรณาธิการ/Web master

ปริญญาโทเศรษฐศาสตร์การเงิน พัฒนาระบบเทรดอัตโนมัติและพัฒนาเว็บไซต์ควบคู่การเทรดด้วยตนเอง

อ่านประวัติเพิ่มเติม

Krisorn Himmapan
Content Writer

ประสบการณ์เทรด Forex 12+ ปี จากพนักงานบริษัทสู่เทรดเดอร์อาชีพ เน้นกลยุทธ์ Long-term Trading

อ่านประวัติเพิ่มเติม

ทีมงาน: forexthai.in.th

แสดงข้อคิดเห็น ให้กำลังใจ

comments

สารบัญบทความ